ไม่ต้องขยาดเมื่อพบหมอฟันอีกต่อไป "เจลยาชา" ทาไม่ต้องฉีดโดย คณะเภสัชศาสตร์ มช.

[etatae333]

ไม่ต้องขยาดเมื่อพบหมอฟันอีกต่อไป "เจลยาชา" ทาไม่ต้องฉีด โดย คณะเภสัชศาสตร์ มช.



นักวิจัย มช.ผลิตเจลยาชาจากข้าว ใช้ประโยชน์ในการทำฟัน มั่นใจช่วยลดปัญหาคนไข้กลัวเจ็บไม่ยอมพบแพทย์
ชี้ราคานำเข้าจากต่างประเทศค่อนข้างสูง ทำให้ทันตแพทย์เลี่ยงการใช้ยาชา

ทีมนักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาเจลบรรจุยาชา
สำหรับใช้ทาเฉพาะที่ภายในช่องปาก เพื่อประโยชน์ในทางทันตกรรม หวังช่วยลดปัญหาคนไข้กลัวความเจ็บปวด
ไม่ยอมพบแพทย์

รศ.เภสัชกรหญิง ดร.ศิริพร โอโกโนกิ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หัวหน้าโครงการวิจัย "การดัดแปรข้าวไทยเพื่อใช้ประโยชน์ทางทันตกรรม" กล่าวว่า ที่มาของโครงการวิจัยนี้มาจากการที่
ผู้ป่วยในประเทศไทยมีปัญหาด้านฟันเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ยอมมาพบทันตแพทย์ เพราะกลัวการเจ็บปวดจากการใช้เครื่องมือ
ไม่ว่าจะเป็นการขูดหินปูน การถอนฟัน หรือการผ่าตัดเพราะความเจ็บปวดจากกระบวนการเหล่านี้ ผู้ป่วยจึงต้องการยาชา
ทั้งนี้ยาชาที่ทันตแพทย์ใช้ก็เป็นยาชนิดฉีด ในขั้นตอนการฉีดยาชา ผู้ป่วยก็ต้องเจ็บอีกเช่นกัน จึงเป็นที่มาของการวิจัย
การทำยาชาที่ไม่ต้องฉีด เป็นยาที่ใช้ทาลดความเจ็บปวดเฉพาะที่ มีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการผ่าตัดและการรักษา
โดยทันตแพทย์ ไม่ใช่ยาชาทาแก้ปวดฟันแต่อย่างใด

รศ.ดร.ศิริพรกล่าวอีกว่า การวิจัยใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะต้องเริ่มจากการดัดแปลงโครงสร้างข้าว เตรียมตำรับ
ให้เป็นสูตรเจลที่เหมาะสม และทดสอบให้มั่นใจว่าเจลยาชานี้จะไม่มีผลกระทบไม่มีพิษภัยต่อผู้ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้
มีความมั่นใจที่จะใช้ ทีมวิจัยร่วมมือกับทันตแพทย์ ขณะนี้การพัฒนาผลิตภัณฑ์สำเร็จแล้ว อยู่ในขั้นตอนการทดลองใช้
ซึ่งจะทดลองกับอาสาสมัคร 100 คน

ตัวผลิตภัณฑ์นี้ ส่วนที่พัฒนามาจากข้าวคือเจลนำยาชา ส่วนสารออกฤทธิ์ที่เป็นยาชานั้นนำเข้ามาจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ข้าวในประเทศไทยมีหลากหลายสายพันธุ์ ในการวิจัยเลือกใช้ข้าวเพียง 4 สายพันธุ์ที่มีการปลูกมากและหาซื้อง่ายคือ
ข้าวเจ้าเสาไห้ ข้าวเจ้าหอมมะลิ ข้าวเหนียวสันป่าตอง และข้าวเหนียว กข.6 เนื่องจากการทำวิจัยต้องใช้ข้าวจำนวนมาก
ต้องลองผิดลองถูกมาก เพราะฉะนั้นต้องใช้ข้าวที่หาซื้อง่ายไม่ขาดตลาด

ด้าน ดร.ชยารพ สุพรรณชาติ อาจารย์ประจำภาควิชาศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล คณะทันตแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งร่วมมือกับทีมวิจัยโดยการนำเจลยาชาไปใช้ในการรักษาอาสาสมัคร กล่าวว่า ราคายาชา
ที่นำเข้าจากต่างประเทศมีราคาสูง เป็นข้อจำกัดในการใช้ของทันตแพทย์ เช่น กรณีการรักษาตามโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค
เจลยาชา 1 กระปุก กระปุกละ 300-400 บาท ใช้ได้ประมาณไม่เกิน 20 ครั้ง ทำให้ทันตแพทย์หลีกเลี่ยงการใช้เจลยาชา
แต่ถ้าราคาถูกลงจะทำให้ทันตแพทย์ใช้เจลยาชามากขึ้น และทำให้คนไข้อยากมารักษา

credit :: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

[pheebar]

นักวิจัยของมช.นี่คิดค้นอะไรเจ๋งๆได้บ่อยมากครับ ลองไปหาข่าวเก่าๆดูได้   pongz pongz pongz pongz