ปิศาจหมาดำ เรื่องจริงของสัตว์ผีสิง

[etatae333]

สัตว์ผีสิง

4 สิงหาคม ค.ศ. 1577 มันเริ่มขึ้นในโบสถ์ของหมู่บ้านบันเกย์ ห่างออกไปราว11กิโลเมตร ท้องฟ้าที่ตำบลซัฟ



โฟล์กดูกว้างไกลสุดสายตา ไม่มีภูเขามาคั่นขวางขอบฟ้า วันนั้นเมฆสีเทาก่อตัวทะมึนเหนือท้องทุ่ง เสียงคำรามไกลๆเตือนให้รู้วาพายุกำลังจะมา
พวกชาวบ้านเร่งฝีเท้าเข้าหลบฝนในโบสถ์โดยไม่ได้คิดเลยว่าที่นั่นจะไม่มีความปลอดภัย พายุใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว และแล้วมันก็สำแดงอานุภาพ
อยู่เหนือโบสถ์ ลูกหนึ่งที่บันเกย์และอีกหนึ่งที่บลีธเบอร์ก อับราฮัม เฟรมมิ่ง อยู่ในโบสถ์ที่บันเกย์ในวันนั้นด้วย เขาเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมาว่า...



ทันใดนั้นเอง สิ่งประหลาดสยองขวัญร่างคล้ายสุนัขสีดำก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาผู้ที่ชุมนุมอยู่ ทั้งร่างที่เห็นและแสงแปลบปลาบที่เกิดขึ้น
ทำให้คนเป็นอันมากเชื่อว่าวันสิ้นโลกมาถึงแล้ว หมาดำตัวนั้น(หรือปิศาจในร่างสุนัข) วิ่งไปตามทางในโบสถ์ด้วยความปราดเปรียวและว่องไวอย่างเหลือเชื่อ
มันวิ่งแทรกระหว่างคนสองคน ขณะที่พวกเขากำลังคุกเข่า มันก็บิดคอคนทั้งคู่ในชั่วพริบตา พวกเขาตายอย่างแปลกประหลาดในท่าคุกเข่า

ขณะเดียวกันสุนัขตัวเดิมก็เล่นงานชายหนุ่มอีกคนหนึ่งมันงับเข้าที่หลัง และไม่ช้าชายผู้นั้นก็ถูกทึ้งจนเหมือนกับเศษหนังที่ถูกไฟเผาหรือปากกระเป๋าถือ
ที่เย็บให้ติดกันด้วยเชือก ชายผู้นั้นแม้จะถูกทำร้ายอย่างพิสดารแต่กลับรอดชีวิตมาได้ เป็นความมหัศจรรย์ในสายตามนุษย์และเป็นสิ่งที่น่าทึ่งในความทรงจำ
หมาดำตัวนั้นยังไม่หยุด มันเร่งรุดไปยังโบสถ์ที่บลีธเบอร์กที่อยู่ห่างออกไปราว11กิโลเมตร และก่อความโกลาหลเช่นเดียวกัน...

มันหมอบอยู่บนขื่อหลังคาโบสถ์ ทันใดนั้นก็กระโจนพรวดลงมาข้างล่าง เช่นเดียวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ มันฆ่าชายหนุ่มสองคนและเด็กหนุ่มอีกหนึ่ง
มันเผามือคนอีกคนหนึ่งที่อยู่ที่นั่น และมีคนได้รับบาดเจ็บหลายต่อหลายคน

อับราฮัม เฟลมมิ่ง เป็นบาทหลวงประจำที่โบสถ์ลอนดอน ท่านน่าเชื่อถือหรือไม่



ทุกวันนี้ตลาดในหมู่บ้านบันเกย์ มีกังหันลมอันหนึ่ง แทนที่จะติดรูปไก่เหมือนกังหันลมทั่วๆไป กลับมีรูปของหมาดำในท่ากระโจน
แล้วโบสถ์บลีธเบิร์กเล่ามีอะไรจะอวด ลองดูที่ประตูใหญ่ด้านหน้าใกล้ๆสิ คุณจะเห็นรอยดำไหม้ทาบอยู่ เล่ากันว่านั่นเป็นรอยที่หมาดำ
ทิ้งเอาไว้ขณะที่มันวิ่งเข้าไปในโบสถ์



เรื่องจริงของปิศาจหมาดำ



1. เรื่องเล่าของปิศาจหมาดำมีอยู่ทั่วไปในประเทศแถบยุโรป อเมริกาเหนือและใต้ แต่ตนตอดูเหมือนจะอยู่ที่หมู่เกาะอังกฤษ เรื่องเล่า
ในยุคแรกๆราวปี ค.ศ. 1127 ในหนังสือ "แองโกลแซกซอน โครนิเคิล" กล่าวว่าหมาดำฝูงหนึ่งปลุกบาทหลวงแห่งเมืองปีเตอร์เบอร์โรห์
ให้ออกจากการจำศีล จนกระทั่งเทศกาลอีสเตอร์ ขณะที่พวกมันออกล่าเหยื่อตามบึงแถบอีสต์แองเกลียโดยมีชายในชุดดำเป็นผู้นำ

2. เราสามารถแยกปิศาจหมาดำออกจากหมาธรรมดาได้ โดยดูจากขนาดและดวงตา หมาปิศาจมักมีขนาดใหญ่มาก สูงเท่ากับหิ้งเตาผิง
และมีดวงตาใหญ่เท่ากับจานรองถ้วยเรืองแสงได้ เล่ากันว่าปิศาจหมาดำแห่งวินฟอร์ดฮิลล์ในซอมเมอร์เซ็ทสามารถหายตัวได้กระทั่ง
เหลือไว้เพียงดวงตาเรืองแสง ปิศาจคลัดด์แห่งเบลเยียมก็พบเห็นได้ง่าย เพราะมันเป็นหมาสีดำขนาดมหึมา มีปีกอยู่ที่ขาหลังและทำเสียง
เหมือนโซ่กระทบกันได้ด้วย มันใช้โซ่หวดเหยื่อ ไม่มีทางที่จะหนีปิศาจคลัดด์พ้น ยิ่งวิ่งเร็วเท่าใดมันก็จะตามเร็วขึ้นเท่านั้น
มันสามารถเลื้อยไประหว่างต้นไม้ได้เหมือนงูยักษ์

3. ปิศาจหมาดำไม่ส่งเสียงดัง ฝีเท้าเบาและจะไม่เห่า แต่เมื่อใดที่ส่งเสียงก็มักจะเป็นเสียงพิลึกๆ เช่น เสียงฝีเท้าเหมือนม้าควบ เสียงหอน
ที่โหยหวนชวนขนลุก หรือเสียงหัวเราะแบบปิศาจ ควรระวังเป็นพิเศษกับตัวที่พูดได้ ชายผู้หนึ่งเคยพบระหว่างทางที่จะไปหมู่บ้านวูลพิทในซัฟโฟล์ก
มันพูดกับเขาว่า "ข้าต้องการเจ้าภายในอาทิตย์นี้"...เขาเสียชีวิตในคืนถัดมานั้นเอง เล่ากันว่าหมาแบบเดียวกันนี้เคยบุกเข้าไปในสุสาน
ของเมืองชิคาโกในทศวรรษที่1940 แต่เป็นหมาสีขาว ถ้าเห็นปิศาจหมาสีขาวหมายความว่าจะต้องตายภายในปีนั้น

4. ทางตอนเหนือของอังกฤษ หมาดำรู้จักกันในนามแทรช สตีกเกอร์ หรือบาร์เกสต์ ส่วนแถบอีสต์แองเกลีย จะเรียกว่า ชัค สคาร์ฟ
หรือสเคฟฟ์ ฮูตเตอร์คือชื่อที่เรียกกันในแถบภาคกลางของอังกฤษ และแฮรี่แจ็คก็นิยมเรียกกันในลินคอร์นเชียร์ ชาวไอริชเรียกหมาดำว่าพูก้า

5. ถ้าคุณคิดจะลูบหัวปิศาจหมาดำแล้วละก็  คุณอาจพบว่ามือของคุณทะลุผ่านมันไป มีบางคนบอกว่ามันจะหายตัวไป ถ้าคุณคิดจะฟาดมัน
มีชายผู้หนึ่งพยายามฟาดปิศาจหมาดำซึ่งขวางถนนที่แฮทฟิลด์ พีเวอร์เรล เอสเสกซ์ ในปีค.ศ.1850 เขาเชื่อสนิทใจว่ามันคือหมาธรรมดา
ปรากฏว่าเขาถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านไปพร้อมๆกับม้าและเกวียนของเขา



6. ปิศาจหมาดำบางครั้งก็ปรากฏตัวขึ้น โดยมีส่วนหัวเป็นรูปแปลกๆ เช่น รูปบาทหลวง รูปลิง หรือบางครั้งก็ไม่มีหัวเลย

7. หมาดำคงไม่ค่อยเจนจัดในเรื่องเส้นทางมากนัก  รายงานหลายชิ้นระบุว่ามีผู้ขับขี่ยวดยานขับชนหมาดำขณะที่มันวิ่งข้ามถนน อย่างไรก็ตาม
เมื่อคนขับออกจากรถเพื่อดูว่าสัตว์ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ มันกลีบอันตรธานหายไป

8. พบว่าสุนัขเลี้ยงตามบ้านและสุนัขตำรวจ จะมีอาการหวาดกลัวเมื่ออยู่ต่อหน้าสุนัขปิศาจ สุนัขตำรวจ2ตัวต่อสู้กับหมาดำที่ล่องหนได้
ในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ. 1939 การต่อสู้กินเวลา 2 นาที และจบลงด้วยสุนัขตำรวจตายไปหนึ่งตัว

9. มักพบหมาดำในบริเวณใกล้แหล่งน้ำ (เช่นกรณีที่ป่าบลีธเบอร์ก) ใกล้โบสถ์และใกล้ทางแยก

10. ในทศวรรษที่1950 มีหมาดำออกอาละวาด แถบพื้นที่ที่เรียกว่าเค็ทเทิ่ลเนส ใกล้วิทบี้ ซึ่งน่าแปลกมากที่ในเรื่องแดร็กคิวล่า
ของบราม สโตกเกอร์ก็บรรยายเอาไว้ว่ามีผีดิบมาขึ้นฝั่งที่คิทเทิ่ลเนสในรูปแบบของสุนัขล่าเนื้อตัวใหญ่...


เรื่องจริงของสัตว์ผีสิง



1.แมวผีเป็นกรณีที่พบมากเท่าๆกับสุนัข มีรายงานว่าพบอยู่ทั่วโลก เขาหาว่ามันลักขโมยสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม แต่ไม่ใคร่ถูกจับตัวได้
หรือถูกถ่ายรูปไว้ สวนสัตว์ก็ไม่ยอมรับว่ามีสัตว์หายไปในช่วงที่มันปรากฏตัวขึ้น

2. ไม่มีรายงานเรื่องจิงโจ้ผีในประเทศออสเตรเลีย อย่างไรก็ดี ที่นั่นมีตัวบันยิปอาศัยอยู่ตามหนองน้ำหรือบึง มันชอบลากเหยื่อลงไป
กดน้ำจนถึงแก่ความตาย มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับบันยิปมากมายนับไม่ถ้วน บ้างก็ว่ามันเป็นสัตว์ที่รูจักกันดี บ้างก็ว่ามันเป็นสัตว์ในเทพนิยาย
แต่หลายรายบอกว่ามันคือสัตว์ประหลาดที่บรรยายลักษณะไม่ถูก ไม่มีรายงานว่าพบมันในช่วงศตวรรษที่20 ดังนั้น อาจเป็นได้ว่า
มันสูญพันธุ์ไปแล้ว หรือไม่แน่ก็อาจเป็นพวกแมวน้ำ บันยิปเป็นที่รู้จักเฉพาะในแคนาดาและบางส่วนของทวีปเอเชียเท่านั้น ชาวอะบอริจิน
เชื่อว่าบันยิปเป็นวิญญาณผีร้าย แต่ความน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด คือบันยิปเป็นเพียงสัตว์ประหลาดในนิทาน

3. พังพอนที่ดุร้ายตัวหนึ่งเคยอะลาวาดกัดคนที่เกาะไอล์ออฟแมนในปีค.ศ. 1931 มันเป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัวเออร์วิง เด็กหญิง
วัวรี่ เออร์วิง อายุ13ปี สอนให้มันพูด มันพูดว่าตัวเองชื่อเกฟ นักสืบหลายรายได้ยินเสียงมันพูดคุยหลังกำแพงโรงนาของพวกเออร์วิง
แต่ไม่มีใครเห็นกับตา ยกเว้นวัวรี่ เกฟเป็นพังพอนปิศาจหรือเป็นเพียงจินตนาการของเด็กหญิงอายุ13ปีที่มีพรสวรรค์ในทางแปลงเสียงกันแน่



4. สัตว์ลึกลับตัวหนึ่งทิ้งรอยเท้าไว้บนหิมะเป็นทางยาว160กิโลเมตร เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมืองเดวอนในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1855
เป็นรอยเท้าแบบกีบม้าควบผ่านหลังคา ข้ามแม่น้ำ มุดผ่านเข้าไปในท่อระบายน้ำ แล้วกระโดข้ามกำแพงสูง4เมตร และหยุดอยู่ตรงนั้น
จนดูราวกับมันบินหายขึ้นไปบนท้องฟ้า คำอธิบายที่มีในเวลาต่อมา พูดถึงตัวแบดเจอร์ แมว หมาป่า  นาก นกกระเรียน ลา ล่อขาหัก
หนู กระต่าย  กระรอก และแม้กระทั่งคางคก แน่นอนว่ามีการพูดถึงจิงโจ้ที่หนีไปด้วย แต่ที่เป็นที่กล่าวขวัญมากที่สุดในช่วงเวลานั้นคือ
ปิศาจ ซึ่งเดินทางผ่านเมืองเดวอนในคืนนั้น

5. เป็นที่ยอมรับกันโดนทั่วไปว่า ตัวกริฟฟินคือสัตว์ที่จินตนาการขึ้นอย่างแท้จริง มันมีร่างเป็นสิงโต หัวกับปีกเป็นนกอินทรี แต่ในปี
ค.ศ. 1984 มีผู้พบเห็นสัตว์ที่ว่าหลายรายแถบเบรนท์ฟอร์ดในลอนดอน เล่ากันว่ามันมีขนาดราวๆสุนัขตัวใหญ่และบินได้โดยการกระพือปีกช้าๆ
น่าแปลกที่ตราประจำสภาตำบลของเบรนท์ฟอร์ดทำเป็นรูปตัวกริฟฟินสองตัวกำลังประคองโล่(คล้ายๆเรื่องแฮร์รี่น่ะแหละ)และสโมสรฟุตบอล
เบรนท์ฟอร์ดก็เล่นที่สนามกริฟฟิน

6. มีผู้พบลิงผีสิงที่ดุร้ายตัวหนึ่งอยู่เป็นประจำ แถบสะพานข้ามคลองเบอร์มิงแฮมและลิเวอร์พูล ในตอนปลายทศวรรษที่ 1870 มันข่มขวัญม้า
และผู้คนที่ผ่านไปมา ชายผู้หนึ่งหวดแส้เข้าที่ตัวมัน แต่กลับกลายเป็นว่าแส้ทะลุผ่านมันไป เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1897
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อข้อสันนิษฐานโดยกล่าวว่า

"ผมทราบว่ามันคืออะไร มันเป็นคนปลอมเป็นลิง เพราะว่ามันไม่กลับมาอีกเลย ตั้งแต่ชายคนนั้นจมน้ำตายในคลอง"

credit :: ghost_villager @dek-d.com

[meehey]

เคยได้ยินมาเหมือนกัน

[oomaim]

 scary scary หลอนดีแฮะ

[cmclub55]

หมาดำ อย่ามมาแถวสันป่าตองนะ ระวังจะโดน..อ๋อม...อิอิ kjhg