Show posts - belive2528
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - belive2528

#1
ข้อคิดเกี่ยวกับขายสินค้าออนไลน์ สมัครใช้บริการ SEO ประโมทเว็บไซต์ ด้วย Quality Content ติดหน้าแรกยาวนาน โดย ซีเอ็มเอสอีโอกรุ๊ป เคลียร์ทุกข้อสังสัย

อบรมการตลาด สมัครใช้บริการ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Quality Content ติดหน้าแรกยาวนาน ปลอดภัย โดย CM SEO Group วันนี้ผมภูมิใจนำเสนอเนื้อหาคุณภาพบริการ SEOท่านสามารถหาคำตอบได้จากที่นี่ กระบวนการการเลือกบริษัทบริการ SEO คุณภาพ

  ปัจจุบันมีบริษัทที่ให้บริการ SEO เยอะแยะ ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ รวมกัน ผู้ที่รับทำ SEO บางเว็บก็ติดอันดับ SEO คีย์เวิร์ดเกี่ยวกับการให้บริการเอสอีโอมานานแสนนานหลายปี ติดอันดับตั้งแต่ยุคที่ลิงค์เป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ หรือยุคที่ลิงค์รุ่งเรืองก็ว่าได้ แม้ยุคปัจจุบัน Google จะให้ความสำคัญกับสกอร์ลิงค์น้อยลงไปมาก แต่เว็บที่ติดอันดับกูเกิล มาอย่างยาวนาน ย่อมได้เปรียบ และได้สกอร์ตัวเลขคนเข้าเว็บไซต์สะสมมาอย่างนานมากนั่นเอง กอรปกับ โดเนมเนม ที่มีอายุมากๆ ยิ่งทำให้กูเกิลเชื่อมั่นว่าเว็บเหล่านั้นมีคุณภาพ เมื่อเป็นเช่นนี้ มันก็เป็นการสร้างความยุ่งยากให้กับผู้ใช้บริการ SEO หน้าใหม่ ที่อาจไม่มีพื้นฐานด้านเอสอีโอ ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานของเอสอีโอสมัยเก่าและสมัยใหม่ ทำให้ไม่มีความรู้ในการเลือกบริษัทบริการ SEO ที่ดี อาศัยแค่ว่าเห็นเว็บผู้ให้บริการเอสอีโอติดอันดับกูเกิล เป็นตัวตัดสินว่าจะใช้บริการจากเจ้าไหน ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เว็บที่ให้บริการดันอันดับ Google หลายเว็บใช้เวลาเป็นปี หรืออาจหลายปี กว่าจะติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการให้บริการทางด้าน Search Marketing แต่อย่างว่า ผู้จ้างทำ SEO ก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละเว็บใช้ระยะเวลาการติดอันดับเท่าไหร่ แต่ผมบอกได้คร่าวๆ ว่าใช้ระยะเวลาอย่างน้อยที่สุด 1 ปี ในการทำให้ติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการรับทำเอสอีโอครับ บางเว็บก็ไม่ใช่จะติดอันดับนิ่ง มีการสวิงของอันดับเป็นระยะๆ ติดหน้าแรกบ้าง ติดหน้าสอง หน้าสามบ้าง สลับกันไปมา สิ่งเหล่านี้มันเป็นความเสี่ยงของผู้ที่จะจ้างนักทำ SEO ว่าจะเลือกเว็บไหนทำอันดับจึงจะสามารถทำเอสอีโอติดหน้าแรกได้จริง และสมัยนี้การทำ SEO ก็ยากกว่าเมื่อก่อนมาก และก็มีนักทำเอสอีโอน้อยรายที่เก่งจริงๆ สิ่งเหล่านี้ผู้จ้างทำเอสอีโอจึงต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีเลือกใช้บริการ SEO ให้สามารถทำอันดับได้จริง เพื่อที่จะใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Internet Marketing ตัวจริง และวันนี้ผมก็มีกฎคร่าวๆ ในการเลือกใช้บริการทำอันดับ Google จากมืออาชีพตัวจริง

1. แกะดูเทคนิคการทำอันดับของผู้ให้บริการ SEO

  การแกะดูวิธีการของผู้ให้บริการ SEO ว่าใช้เทคนิคอะไรในการดันอันดับ จะช่วยทำให้เรามั่นใจยิ่งขึ้นว่า เราเลือกบริษัทรับทำ SEO ที่มีคุณภาพ ซึ่งเราจะต้องตรวจเช็คแนวทางการทำเอสอีโอของผู้ให้บริการแต่ละรายอย่างละเอียด เพื่อสามารถนำมาตรวจสอบ และไตร่ตรองว่าควรเลือกบริษัทไหนในการทำเอสอีโอให้เรา วิธีการแกะดูว่าเว็บไซต์นั้นๆ ใช้วิธีไหนในการทำเอสอีโอ ก็มีตั้งแต่การตรวจเช็คดูว่าเว็บนั้นๆ มีการปรับ SEO On Page ยังไง และมีขั้นตอนการสร้าง SEO Off Page คุณภาพมากน้อยเพียงใด ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ การปรับเอสอีโอออนเพจ คือ การปรับในส่วนของปัจจัยภายในเว็บเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการปรับ Title ของเว็บ การปรับพวก Meta Tags ต่างๆ ของเว็บไซต์ การเน้นคำหรือประโยคภายในเว็บไซต์ รวมไปถึงการกำหนด Keyword หลักของเว็บไซต์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการปรับในส่วนของออนเพจนั่นเองครับ ส่วนการปรับออฟเพจ คือการสร้าง backlinks กลับมายังเว็บหลัก หรือเรียกว่าการสร้างลิงค์ภายนอกชี้มายังเว็บไซต์ที่เราจะดันอันดับ ซึ่งการสร้างลิงค์ก็มีตั้งแต่การสร้าง Anchor Text Link การสร้าง Domain Link การกระจายคีย์เวิร์ดที่ใช้ในการสร้างลิงค์ เป็นต้น

2. ตรวจสอบการปรับ On Page ของผู้ให้บริการ SEO

  วิธีการตรวจเช็คการทำเอสอีโอออนเพจ ของผู้ให้บริการ SEO ก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน วิธีที่ง่ายที่สุด คือการตรวจเช็คการกำหนด Title , Meta Description , Meta Keywords และการเน้นประโยคภายในเว็บไซต์ ว่ามีการเน้นประโยคที่เป็น Keyword หลักเป็นธรรมชาติหรือไม่ โดยดูจากความเป็นธรรมชาติของการเน้นขนาดของข้อความ สีตัวอักษร และการกำหนด Paragraph ของเนื้อหา ว่าทำให้เราอ่านสะดวกหรือไม่ และเนื้อหาที่เราอ่านแล้ว เราได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการอ่านครั้งนี้ หรือไม่ นอกจากนี้แล้วยังต้องตรวจเช็คอีกด้วยว่า เว็บนั้นสนับสนุนการแสดงผลบนมือถือหรือไม่ ตามเกณฑ์ของกูเกิลที่กำหนดให้เว็บไซต์จะต้องรองรับ Responsive Design หรือเรียกอีกอย่างว่า Google Mobile Friendly อีกทั้งตรวจเช็คว่าเว็บสนับสนุนเทคโนโลยี AMP ที่ย่อมาจาก Accelerate Mobile Pages หรือไม่ เป็นต้น นอกจากนั้นแล้วให้เราตรวจเช็คว่าเว็บนั้นๆ มีการ  Index  จำนวนกี่หน้า แต่ละหน้านั้นเป็นเนื้อหาคุณภาพเป็นมิตรกับผู้อ่านหรือไม่ โดยใช้คำสั่ง site: ตามด้วยชื่อเว็บที่อยากได้ตรวจเช็คการ Index  รวมทั้งการตรวจเช็คการเชื่อมโยงลิงค์ภายในของเว็บด้วย

3. ตรวจสอบการปรับ Off Page ของผู้ให้บริการ SEO

  ขั้นตอนการตรวจสอบการปรับเอสอีโอออฟเพจของผู้ให้บริการ SEO เป็นการตรวจเช็คว่าผู้ให้บริการเอสอีโอ หรือ เว็บที่เราต้องการตรวจสอบดูขั้นตอนการสร้าง Backlinks ของผู้ให้บริการนั้นๆ หรือเว็บนั้น ว่าได้สร้างแบ็คลิงค์คุณภาพหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้เชื่อมั่นว่าหากใช้บริการ SEO กับเว็บนั้นๆ แล้ว เราจะได้รับการสร้างแบ็คลิงค์กลับเข้าหาเว็บหลักของเราด้วยลิงค์คุณภาพ ช่วยส่งเสริมให้เว็บของเราติดอันดับกูเกิล อย่างมีประสิทธิผล และลดความเสี่ยงของการโดน Google Penalty เพราะต้องบอกก่อนครับว่า การสร้างลิงค์เพื่อดันอันดับเอสอีโอนั้น ไม่ว่าเราจะสร้างลิงค์คุณภาพหรือไม่ ระยะแรกอันดับเอสอีโอของเว็บเราจะสวิงลงก่อนเสมอ หากกูเกิลตรวสอบว่าเราสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกูเกิล อันดับของเว็บไซต์ก็จะขยับขึ้นและสุดยอดกว่าเดิมครับ ต้องดูด้วยว่าเนื้อหาที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างลิงค์กลับมายังเว็บหลัก หรือ Money Site นั้น มีบทความสัมพันธ์กับหรือไม่ อ่านรู้เรื่องหรือไม่ บทความดังกล่าวเป็นมิตรกับผู้เยี่ยมชมหรือไม่ แล้วเมื่ออ่านบทความดังกล่าวแล้วเราได้รับความรู้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด อีกทั้งต้องดูวิธีการสร้างแบ็คลิงค์ของผู้ให้บริการ SEO ว่ามีการใช้ Anchor Text Link โดยการกระจายคีย์เวิร์ดให้เป็นธรรมชาติหรือไม่ ไม่เน้นคีย์เวิร์ดใดคีย์เวิร์ดหนึ่งมากจนเกินไป ตลอดจนตรวจเช็คด้วยว่า เป็นการสร้างลิงค์บนหน้าเว็บที่น่าเชื่อถือหรือไม่ กล่าวคือ ถ้าเป็นการสร้างลิงค์บนบล็อก หรือเว็บ ที่ไม่มีการโพสต์เนื้อหาซ้ำๆ หรือที่เรียกว่า Duplicate Content ก็โอเคระดับหนึ่ง และต้องไม่เป็นการสร้างลิงค์จากเว็บที่มีลักษณะ Content Farm หรือเว็บที่โพสบทความซ้ำๆ และเป็นบทความที่ไม่เข้าพวกกัน มีเนื้อหาไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง เป็นต้น

4. ตรวจสอบการสร้างแบ็คลิงค์ด้วย Blog Network ของผู้ให้บริการ SEO

  สิ่งจำเป็นอีกประการที่ผู้จ้างทำ SEO จะต้องเข้าใจและสามารถตรวจสอบบริษัทที่ให้บริการ SEO ว่ามีการใช้ Private Blog Network หรือไม่ และหากมีการใช้เน็ตเวิร์คส่วนตัวในการทำเอสอีโอแล้ว PBN ดังกล่าว มีคุณภาพมากน้อยเพียงใด และผู้จ้างทำเอสอีโอจะต้องเข้าใจด้วยว่าเว็บแบบไหนที่เรียกว่าเน็ตเวิร์คส่วนตัวด้วยครับ และ Network ส่วนตัวส่วนใหญ่จะใช้ CMS หรือ Webboard เป็นหลัก ถ้าเป็นซีเอ็มเอสก็จะชื่นชอบใช้ Wordpress สำหรับสร้างเน็ตเวิร์คส่วนตัว เพราะว่าเวิร์ดเพลสรองรับเอสอีโอมากที่สุดในตระกูลของบล็อกฟรีครับ ส่วนถ้าเป็นเว็บบอร์ดก็จะเป็น SMF ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดที่รองรับเอสอีมากที่สุดสำหรับเว็บบอร์ดฟรี แต่ถ้าเสียตังค์ก็จะเป็น Vbulletin ที่สนับสนุนเอสอีโอได้เลิศกว่าเอสเอ็มเอฟครับ สิ่งที่ควรมองดูอีกอย่างคือ ถ้าเป็นเว็บที่ใช้ทำเน็ตเวิร์คส่วนตัว ส่วนใหญ่จะเป็นเว็บปิด ไม่เปิดให้มีสมาชิกมาร่วมโพสเนื้อหาด้วย และคนที่โพสต์เนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นชื่อซ้ำๆ กันแต่จะโพสเนื้อหาแตกต่างกัน และสร้างแบ็คลิงค์ไปยังหลายๆ เว็บ และส่วนมากจะเป็น Admin ที่โพสเนื้อหาเพื่อสร้าง backlinks ครับ อีกประการหนึ่ง คือ ลักษณะการโพสต์ หากเป็นเน็ตเวิร์คส่วนตัว จะมีหลายๆ เว็บที่มีลักษณะคล้ายๆ กัน บทความมีเนื้อหาคล้ายกันกัน หรือบางครั้งอาจละม้ายคล้ายคลึงกันในบางจุด แต่จะชี้ไปยังเว็บจุดหมายปลายทางเหมือนๆ กันในเวลาที่โพสคล้ายกันกัน ถ้าเจอแบบนี้ เป็นการสร้างเน็ตเวิร์คส่วนตัวเพื่อทำอันดับแน่นอน แม้ว่ายุคนี้นักทำ SEO จะชื่นชอบใช้ Network ส่วนตัวทำอันดับลดลง เพราะต้นทุนสูง โอกาสโดนกูเกิลแบนมีมาก และปัจจุบันต้องอาศัย IPs ของ SEO Hosting จำนวนมากๆ จึงจะเห็นผล ทำให้มีต้นทุนที่สูง นักทำเอสอีโอส่วนมากจึงหันไปโพสเว็บบอร์ด หรือบล็อกฟรี เพื่อสร้างลิงค์กลับไปยังเว็บหลัก

5. ตรวจสอบการใช้ Google Search Console ของผู้ให้บริการ SEO

  ในการทำเอสอีโอผู้ให้บริการ SEO จะต้องนำเว็บเข้าสู่ระบบ Search Engine Console ซึ่งสมัยก่อนเรียกว่า Google Webmaster Tools เพื่อที่จะส่งเสริมให้เว็บไซต์สามารถทำอันดับได้ดียิ่งขึ้น เพราะภายในกูเกิลเสิร์ทคอนโซลมีเครื่องมือสำหรับรองรับการทำให้เว็บรองรับ Google Search ไม่ว่าจะเป็นการส่ง Sitemap ของเว็บเราไปยังกูเกิล เพื่อให้ Googlebot เข้ามาเก็บข้อมูลได้รวดเร็วและง่ายขึ้น เนื่องจากหากเว็บของเราสามารถ  Index  บน Search Result เร็วๆ นั่นย่อมมาถึงการเพิ่มโอกาสที่คนจะคลิกเข้าสู่เว็บของเราผ่านทาง Search Engine มากตามไปด้วยนั่นเองครับ อีกทั้งภายในเครื่องมือ Search Engine Console ยังมีฟังก์ชั่นการดึงหน้าเว็บไซต์เหมือนเป็น Google เอาไว้ให้เราเรียก Googlebot มาเก็บข้อมูลภายในเว็บขอเราทันทีที่เราอัพเดทข้อมูลเสร็จแล้ว และไม่อยากรอให้บอทมาเก็บก็สามารถเรียกบอทมาได้ทันที ซึ่งหนึ่งบัญชีสามารถเรียกกูเกิลบอทแบบเรียลไทม์ได้เดือนละ 10 ครั้ง และสามารถเรียกบอทแบบธรรมดาเดือนละ 500 ครั้ง ต่อ 1 Account นั่นเองครับ อย่างไรก็ตามหากไม่ได้อัพเดทข้อมูลภายในเว็บไซต์ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานฟังก์ชั่นส่วนนี้ เพราะอาจไม่ส่งผลดีต่ออันดับครับ

6. สอบถามผู้ให้บริการ SEO ตรงๆ ว่าสร้าง Traffic ได้หรือไม่

  แม้ว่าเราจะสามารถตรวจสอบตัวเลข Traffic ของเว็บไซต์อื่น หรือเว็บผู้ให้บริการ SEO ว่าสามารถสร้างทราฟฟิคได้หรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบจากการเอา URL ของ ชื่อเว็บไซต์ ไปตรวจเช็คกับเว็บตรวจสอบ Backlinks และ Traffic ของต่างประเทศ เราสามารถเลือกดูในส่วนของทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บนั้นๆ ได้ แต่อย่างว่าครับ หากเราไม่ใช่เจ้าของเว็บ แม้เราจะเอาชื่อชื่อเว็บไซต์ไปตรวจสอบตัวเลขทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บ ก็เป็นเพียงตัวเลขคร่าวๆ มีความคลาดเคลื่อนสูงมาก สรุป คือ เราไม่สามารถตรวจสถิติทราฟฟิคของเว็บไซต์อื่นได้ เว้นแต่ว่าเว็บนั้นมีการติดตัวนับคนเข้าเว็บ หรือที่เรียกว่า Counter หรือ Visitor Stats นั่นเองครับ ในประเทศไทยที่นิยมมาที่
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องขายสินค้าออนไลน์ สมัครใช้บริการ SEO ประโมทเว็บไซต์ ด้วย Quality Content ติดหน้าแรกยาวนาน โดย ซีเอ็มเอสอีโอกรุ๊ป
หลักสูตร สมัครใช้บริการ SEO ทำการตลาดออนไลน์ ด้วย คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง ติดหน้าแรกยาวนาน โดย CM SEO Group
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: บริการ SEO
อ้างจาก: บริการ SEOขายสินค้าออนไลน์ สมัครใช้บริการ SEO ประโมทเว็บไซต์ ด้วย Quality Content ติดหน้าแรกยาวนาน โดย ซีเอ็มเอสอีโอกรุ๊ป
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/page/SEO-คืออะไร
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/page/Google-Suggest-คืออะไร
ชื่อ: ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO GROUP)
ที่อยู่: รับทำ SEO เชียงใหม่ 30/7 ถนนบำรุงบุรี ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
เบอร์โทรติดต่อ: 096-237-3905
อีเมล์: thaiseogroup@gmail.com

#2
สอบถามถาม-ตอบ เลือกใช้รับทำ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Promote Web ติดหน้าแรก Google โดย CM SEO Group ช่วยกันบอกต่อครับ

หลักสูตรการขายของออนไลน์ เลือกใช้รับทำ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Promote Website ติดอันดับ Google โดย ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป หาคำตอบเกี่ยวกับรับทำ SEOอ่านเรื่องราวดังกล่าวจากส่วนนี้ วิชาชีพรับทำ SEO ไม่ได้ง่าย

  เมื่อก่อนอาชีพรับทำ SEO ใครๆ ก็สามารถทำได้ ขอแค่ขยัน และสร้าง Backlink เป็น แต่ยุคนี้แตกต่างออกไป มันเป็นเรื่องที่น่านักใจสำหรับผู้ที่คิดจะจ้างทำ SEO อย่างแน่นอน เพราะผู้ที่จะจ้างดันอันดับบน Search Engine มักจะนึกว่าเว็บรับทำ SEO ทั้งหลาย ที่ติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการให้บริการเอสอีโอ SEO Services นั้น น่าจะสามารถทำอันดับบน Search Engine ได้ แต่หารู้หรือไม่ว่า เว็บบริษัทที่รับทำเอสอีโอ กว่าที่เขาจะติดอันดับใช้เวลาเป็นปีๆ แต่กลับบอกลูกค้าหรือผู้ที่จะจ้างทำเอสอีโอว่า สามารถทำอันดับภายในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งมันผิดหลักการทำเอสอีโอในยุคนี้อย่างสิ้นเชิงครับ อีกทั้งหลายเว็บติดหน้าแรกกูเกิล ในคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับการให้บริการทำอันดับ Google ก่อนหน้าที่กูเกิลจะพัฒนาระบบจัดอันดับลักษณะใหม่ ด้วยซ้ำไป แน่นอนว่า หลายเว็บที่ให้บริการเกี่ยวกับ Search Marketing นั้น ติดอันดับก่อนที่จะมีอัลกอริทึมอย่าง Google RankBrain เมื่อติดอันดับก่อนหน้านี้ ก็เท่ากับว่าติดลมบนไปเลย แม้ว่าจะมีการปล่อยระบบจัดอันดับด้วย AI หรือ Artificial Intelligence เรียกอีกอย่างว่าระบบจัดอันดับด้วยปัญญาประดิษฐ์ โดยสามารถวิจัยด้วยตนเองได้ Machine Learning นั่นหมายความว่าเว็บที่ติดอันดับก่อนหน้า ก็ยังติดอันดับได้อยู่ เพราะมีสถิติคนเข้าเว็บสะสมมาอย่างเนิ่นนาน และแน่นอนว่าระบบการจัดอันดับสมัยใหม่ ให้ความสำคัญกับทราฟฟิค ยูสเซอร์ สถิติการเข้าใช้งานของผู้ที่ค้นหาข้อมูลผ่าน Google Search คำถามคือ แล้วถ้าจะดันอันดับเว็บไซต์ใหม่? แน่นอนว่ามันยาก แต่ก็ทำได้อยู่ ถ้าหากนักทำเอสอีโอมีความชำนาญและเข้าใจระบบใหม่ของกูเกิล เป็นหน้าที่ของผู้จ้างทำ SEO แล้วละว่าจะหานักทำเอสอีโอเก่งๆ ได้อย่างไร แต่เราสามารถค้นหานักทำเอสอีโอที่มีฝีมือ ดังนี้

1. เว็บรับทำ SEO ต้องเข้าใจ Google Algorithm

  การที่เว็บรับทำ SEO หรือทีมงานที่ทำเอสอีโอ รู้แค่หน้าที่ของ Google Algorithm ว่ามีหน้าที่อะไรบ้าง ตรวจสอบคุณภาพยังไงนั้น มันไม่เพียงพอสำหรับการทำอันดับบน Search Engine ยุคนี้ครับ เพราะหากเข้าใจแค่ว่ากูเกิลอัลกอริทึมแต่ละตัวทำงานยังไง มีหน้าที่อะไรบ้าง ไม่เพียงพอต่อการดันอันดับด้วยวิธีการต่างๆ ให้สอดคล้องกับอัลกอริทึมทุกตัวของกูเกิล ผู้ที่รับทำ SEO ที่ดีจะต้องทดสอบ ทดลอง และค้นคว้า เกี่ยวกับการทำงาน การให้แต้ม ของอัลกอริทึมแต่ละตัวของกูเกิลครับ กล่าวได้ว่าอาจทำห้อง Lab ขึ้นมาเพื่อค้นคว้า วิจัย ทดลองเทคนิคการทำ SEO ประเภทต่างๆ และการทดสอบกับอัลกอริทึมตัวละตัวของกูเกิล จึงจะเข้าใจ รู้ลึก รู้จริง ไม่ใช่แค่การไปอ่านบทความจากเว็บเมืองนอกมา แล้วมาบรรยาย และพยายามทำเอสอีโอให้เกี่ยวข้องกับที่อ่านมา ถ้าเป็นแบบนี้ก็ยากที่จะติดอันดับง่ายๆ เพราะอย่างว่าการทำ SEO ยุคนี้ มันยาก และต้องมุ่งเน้นคำว่าคุณภาพมากกว่ายุคก่อนๆ นักทำ SEO บางคน หรือ อาจหลายท่าน เอะอะ อะไร ก็จะสร้างแต่ลิงค์อย่างเดียว บอกไว้ก่อนว่าแม้ลิงค์สามารถดันอันดับได้อยู่ แต่มันไม่ใช่ตัวแปรหลักอีกต่อไปสำหรับการทำอันดับบนกูเกิลเสิร์ทครับ ยุคนี้ Google พัฒนาระบบอัลกอริทึมใหม่ๆ มาเยอะแยะ และการที่มีระบบตรวจสอบคุณภาพเยอะๆ ก็เท่ากับว่ามีปัจจัยในการจัดอันดับเยอะ ฉะนั้นการอาศัยแค่การสร้างลิงค์มันจึงไม่พอสำหรับการดันอันดับยุคนี้

2. บริษัทรับทำ SEO ต้องสร้างลิงค์คุณภาพ

  หากท่านไปถามบริษัทรับทำ SEO 10 ที่ แต่ละเจ้าก็จะบอกคุณว่าพวกเขาสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพเป็นมิตรกับผู้อ่าน บ้างก็อาจบอกว่าสร้างลิงค์คุณภาพด้วยวิธีการจากประเทศอเมริกา บ้างก็บอกว่าสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพด้วยระบบของตัวเอง ซึ่งมีตั้งแต่ราคาหลักร้อย ยันหลักหมื่น เมื่อผู้ที่จะจ้างทำ SEO สอบถามรับทำ SEO และได้ผลลัพธ์เหมือนๆ กันทุกราย ผู้จ้างทำเอสอีโอส่วนมากก็จะไปประเมินที่ราคาค่าบริการแทน เพราะนึกว่าหลักการคงเหมือนๆ กัน เอาที่ราคาไม่แพงจะสุดยอดกว่า แต่หารู้ไม่ว่าการทำ SEO คุณภาพ หรือแม้แต่การสร้างลิงค์คุณภาพนั้นใช้ต้นทุนสูง แล้วถ้าคุณคิดจะจ้างทำ SEO ชำระเงินแค่หลักร้อย หรือหลักไม่กี่พัน สิ่งที่คุณจะได้กลับมาคือ อันดับที่ไม่มีทางติดอันดับ Google แถมผู้ให้บริการเอสอีโอบางราย ไม่มีการคืนเงินให้ลูกค้าด้วย อาจบอกว่าเป็นค่าดำเนินงานทำอันดับให้ ทั้งที่ทราฟฟิคก็ไม่ได้ และดันได้แบ็คลิงค์ไม่มีคุณภาพกลับมาซะงั้น อันดับก็ไม่ติดกูเกิลอีก มีบริษัทรับทำ SEO แบบนี้เยอะ แน่นอนทางผมก็ไม่มีกฎระเบียบคืนเงินให้ลูกค้านะ แต่เรามีสิ่งที่ลูกค้าจะได้ นั่นคือ ทราฟฟิค คนเข้าเว็บเฉลี่ย 1,000 คน/วัน แน่นอนว่าคุ้มค่ากับการจ่ายแน่นอน เพราะทราฟฟิคมีแต่ส่งผลดีต่อเว็บ และตัวเลขคนเข้าเว็บที่ผู้ใช้บริการเอสอีโอจะได้จากเรานั้น เป็นตัวเลขที่กูเกิลจะนำไปคำนวณและใช้จัดอันดับตลอดไป และการสร้างทราฟฟิคก็ใช้ต้นทุนสูงกว่าการสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพมาก กลับมาที่เรื่องการสร้างแบ็คลิงค์กันต่อครับ การสร้างลิงค์คุณภาพจะต้องสร้างบทความคุณภาพไม่เหมือนกับเว็บไซต์อื่น แต่ละโพสเพื่อสร้างแต่ละลิงค์จะต้องเป็นบทความ Unique Content และเป็น Quality Content ไปพร้อมๆ กัน ถ้าสร้าง 1,000 ลิงค์ ก็เท่ากับต้องสร้างบทความคุณภาพเป็นประโยชน์ต่อผู้ติดตาม 1,000 เนื้อหานั่นเอง

3. ผู้รับทำ SEO ต้องสร้างทราฟฟิคคุณภาพ

  ข้อนี้สำคัญมากในการทำ SEO ปัจจุบัน ผู้ที่รับทำ SEO จะต้องสามารถสร้างทราฟฟิคเข้าสู่เว็บไซต์ประเภทต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และทราฟฟิคต้องมีคุณภาพด้วย คำว่าทราฟฟิคคุณภาพ คือ ทราฟฟิค หรือ ยูสเซอร์ ที่เข้ามาอ่านบทความของเราแล้วอาศัยอยู่ในหน้าเว็บของเรานานๆ กล่าวคือ ใช้เวลาอ่านเนื้อหาภายในเว็บนานๆ นั่นเอง ซึ่งเรียกว่า Time On Site แน่นอนเมื่อมีคนเข้ามาอ่านบทความในเว็บไซต์ของเรานานๆ ก็ย่อมทำให้ค่าอัตราตีกลับ หรือที่เรียกว่า Bounce Rate มีค่าไม่สูง ทำให้ Google เข้าใจทันทีว่าเว็บของเรามีคุณภาพ และ Traffic ที่เข้าสู่เว็บของเราก็มีคุณภาพ พูดง่ายๆ คือ คนค้นหาข้อมูลแล้วค้นเจอบทความของเราผ่านทาง Google Search แล้วคลิกเข้ามอ่านเนื้อหาที่อยากได้นั่นเองครับ และแน่นอนที่สุด ทราฟฟิคที่มาจากกูเกิลเสิร์ท หรืออาจเรียกว่า Google Search Traffic บ้างก็เรียก Google Traffic แล้วแต่ถนัดครับ ได้หมด ทราฟฟิคที่มาจากกูเกิลมีสกอร์สูงสุด สามารถดันอันดับเว็บได้ดีที่สุด เพราะกูเกิลย่อมที่จะเชื่อมั่นเว็บของตัวเองก่อน เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคนคลิกเข้าเว็บจาก Google Search จึงส่งผลให้อันดับ SEO ขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่ว่าทราฟฟิครูปแบบอื่นๆ ไม่ดีนะครับ ทราฟฟิคไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด ถ้าหากทราฟฟิคนั้นๆ อาศัยอยู่ในหน้าเว็บไซต์ของเรานานๆ มีการโต้ตอบ หรือ มีการทำกิจกรรมภายในเว็บของเราย่อมส่งผลดีต่ออันดับเอสอีโอทั้งนั้นครับ อาทิเช่น มีการคอมเมนต์ภายในเว็บ มีการกรอกแบบฟอร์มของเว็บไซต์ หรือแม้แต่มีการคลิกเปิดหน้าย่อยอื่นๆ ภายในเว็บไซต์ สิ่งเหล่านี้ย่อมรับประกันได้ว่าทราฟฟิคที่เข้ามายังเว็บของเรานั้นมีคุณภาพครับ ทราฟฟิครูปแบบอื่นๆ เช่น Social Traffic , Referral Traffic , Direct Traffic และ Ad Traffic ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญต่ออันดับเอสอีโอ

4. ผู้รับทำ SEO ที่สร้างทราฟฟิคไม่ได้จะดันอันดับได้ยาก

  การทำอันดับบน Google Search ในยุคนี้มันไม่ได้ง่ายเหมือนยุคก่อนๆ ครับ หากนักทำ SEO ไม่ยอมปรับตัว ต่อให้เป็นบริษัทรับทำ SEO ขนาดใหญ่ แต่ถ้าหากยังใช้วิธีทำอันดับบน Search Engine โดยยึดแค่การสร้างแบ็คลิงค์เป็นหลัก ก็ยากที่จะติดอันดับต้นๆ บนผลการค้นหา Search Result ของกูเกิลได้ง่ายๆ เพราะยิ่งคีย์ที่จะทำเอสอีโอเป็นคีย์ตลาด มีสถิติการค้นหารายเดือนสูงๆ อาศัยแค่การสร้างแบ็คลิงค์และการปรับออนเพจภายในเว็บไซต์นิดหน่อยๆ มันไม่พอต่อการทำ SEO ในยุคนี้แล้วครับ บ้างก็อาจบอกว่าการทำเอสอีโอก็เหมือนเก่า ใช้แค่การปรับ On Page และ Off Page แต่หารู้ไม่ว่า การทำอันดับบนกูเกิลเสิร์ทในยุคนี้มันมีอะไรมากกว่าแค่การปรับออนเพจหรือออฟเพจ หรือนักทำ SEO บางคนก็บอกว่า ก็ต้องทำให้เว็บติดหน้าแรก Keyword หลัก หรือ Keyword รอง ก่อน จึงจะมีทราฟฟิค คำถามคือ แล้วจะใช้ช่วงเวลาเท่าไหร่ในการติดอันดับโดยไม่ใช้ทราฟฟิคในการดันอันดับ แน่นอน ถ้าใช้แต่ลิงค์การดันอันดับจะใช้เวลานานมาก ลองคิดดูง่ายๆ หากคุณเป็น Google แล้วเห็นมีเว็บสร้างขึ้นมาใหม่ๆ เนื้อหาก็ยังไม่มาก แต่ดันมีการสร้างลิงค์ปริมาณมากๆ แถมลิงค์ที่สร้างก็ไม่ได้มีคุณภาพ บางทีอาจโพสต์เว็บบอร์ด เว็บประกาศฟรี เสียด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้จะให้คิดได้ไงว่าเป็นเว็บคุณภาพ เพราะเว็บคุณภาพในวิสัยทัศน์ของ Google ในสมัยนี้ คือ เว็บที่มีทราฟฟิคเข้าสู่เว็บไซต์อย่างเป็นธรรมชาติ แน่นอนกฎสร้างทราฟฟิคเข้าสู่เว็บก็ไม่ได้ยากอะไรเลย ยิ่งเป็นทราฟฟิคจาก Search Engine ก็ยิ่งง่าย ด้วยเหตุนี้ต้องมุ่งเน้นคำว่าคุณภาพ จะต้องสร้างบทความคุณภาพเป็นมิตรกับผู้ติดตาม ผู้ที่เข้ามาอ่านเนื้อหาแล้วได้รับความรู้ และยิ่งเว็บของเรามีบทความปริมาณมากๆ ก็ยิ่งทำให้คนเข้าเว็บเยอะ เพราะโอกาสที่คนจะค้นเจอบทความของเราผ่านทาง Google ก็มากขึ้นด้วย แน่นอนว่าถ้าเป็นเว็บไซต์ใหม่ คนก็จะค้นเจอเนื้อหาของเราด้วย Longtail Keyword หรือ Niche Keyword พูดง่ายๆ คือ คีย์เวิร์ดยาวๆ นั่นแหละครับ และถ้ามีคนเข้าเว็บเรามากๆ อย่างสม่ำเสมอย่อทำให้อันดับเอสอีโอคีย์เวิร์ดหลักของเว็บขยับขึ้นตามไปด้วย

5. ผู้รับทำ SEO จะต้องทำให้ข้อมูลของเว็บไซต์ดี

  ผู้ที่รับทำ SEO จะต้องทำให้เว็บไซต์มีสถิติโดยรวมออกมาดี คำว่าข้อมูลดีนี้ไม่ได้หมายความว่ามีปริมาณแบ็คลิงค์เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และมีลิงค์ภายนอกมากๆ นะครับ และการทำ SEO โดยยึดแนวทางสร้าง backlinks เป็นหลักนั้น อันตรายมากๆ หากมีการสร้างแบ็คลิงค์บนเว็บที่ด้อยคุณภาพ หรือใช้บทความซ้ำๆ กัน ก็จะโดนกูเกิลทำโทษทันที และเมื่อโดนทำโทษก็ยากที่จะหลุดออกจากการโดนทำโทษง่ายๆ นอกเสียจากว่าจะทำให้เว็บกลับมามีคุณภาพมากๆ โดยมีคนเข้ามาอ่านบทความของเว็บมากๆ อย่างต่อเนื่องเท่านั้นครับ การแก้ไขปัญหาลิงค์ไม่มีคุณภาพด้วยการส่ง URL List ในเครื่องมือ Google Disavow Tool ก็ไม่ช่วยอะไรหรอกครับ ตราบใดที่ลิงค์ไร้คุณภาพเหล่านั้น ยังคง อินเด็กซ์ อยู่บนผลการค้นหา ดังนั้น เมื่อการสร้างลิงค์ไม่ใช่ถูกสิ่งทุกอย่าง แล้วคำว่าการทำให้ตัวเลขเว็บดีคืออะไร? มันเป็นข้อสงสัยที่หลายท่านสงสัยและต้องการทราบคำตอบอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างการตรวจเช็คสถิติง่ายๆ ว่ามีอะไรบ้างที่กูเกิลนำมาคิดเลขในการจัดอันดับ Google บน Search Result Pages แต่ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้นครับ ส่วนใครอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็ต้องทำการค้นคว้า ทดสอบ ทดสอบ กันเอาเอง เทคนิคบางเทคนิคของผมก็บอกไม่ได้ครับ เดี๋ยวคู่แข่งจะก็อปปี้ไปใช้งาน แต่ที่แน่ๆ เวลาเรา Log In เข้าสู่ Search Engine Console หรือเดิมเรียก
รูปที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องถาม-ตอบ เลือกใช้รับทำ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Promote Web ติดหน้าแรก Google โดย CM SEO Group
ทำการตลาดด้วยตัวเอง สมัครใช้รับทำ SEO ประโมทเว็บไซต์ ด้วย Domain Name Register ติดหน้าแรก Google โดย ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป
อ้างอิงจาก: รับทำ SEO
แท็ก: รับทำ SEO
อ้างจาก: รับทำ SEOถาม-ตอบ เลือกใช้รับทำ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Promote Web ติดหน้าแรก Google โดย CM SEO Group
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/page/การปรับ-On-Page
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/page/การปรับ-Off-Page
ชื่อ: ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO GROUP)
ที่อยู่: รับทำ SEO เชียงใหม่ 30/7 ถนนบำรุงบุรี ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
เบอร์โทรติดต่อ: 096-237-3905
อีเมล์: thaiseogroup@gmail.com

#3
หนังสือเกี่ยวกับไขข้อสงสัยเลือกใช้บริการ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Content Marekting ติดหน้าแรกกูเกิล โดย ซีเอ็มเอสอีโอกรุ๊ป เจาะลึกทุกรายละเอียด

ทำการตลาดด้วยตัวเองเลือกใช้บริการ SEO โปรโมทเว็บ ด้วย คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง ติดอันดับกูเกิล โดย CM SEO Group ผู้เขียนขอนำเสนอเกี่ยวกับบริการ SEOเรียนรู้ได้จากที่นี่ หลักการการเลือกบริษัทบริการ SEO คุณภาพ

  ยุคปัจจุบันมีบริษัทที่ให้บริการ SEO มากมาย ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ รวมกัน ผู้ที่รับทำ SEO บางเว็บก็ติดอันดับ SEO คีย์เวิร์ดเกี่ยวกับการให้บริการเอสอีโอมานานแสนนานหลายปี ติดอันดับตั้งแต่ยุคที่ลิงค์เป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ หรือยุคที่ลิงค์มั่งคั่งก็ว่าได้ แม้ยุคปัจจุบัน Google จะให้ความสำคัญกับคะแนนลิงค์ลดลงไปมาก แต่เว็บที่ติดอันดับกูเกิล มาอย่างเนิ่นนาน ย่อมได้เปรียบ และได้คะแนนตัวเลขคนเข้าเว็บสะสมมาอย่างนานแสนนานนั่นเอง กอรปกับ โดเนมเนม ที่มีอายุมากๆ ยิ่งทำให้กูเกิลเชื่อมั่นว่าเว็บเหล่านั้นมีคุณภาพ เมื่อเป็นเช่นนี้ มันก็เป็นการสร้างความยุ่งยากให้กับผู้ใช้บริการ SEO หน้าใหม่ ที่อาจไม่มีเบสิคด้านเอสอีโอ ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานของเอสอีโอสมัยเก่าและสมัยใหม่ ทำให้ไม่มีความรู้ในการเลือกบริษัทบริการ SEO ที่ดี อาศัยแค่ว่าเห็นเว็บผู้ให้บริการเอสอีโอติดอันดับกูเกิล เป็นตัวตัดสินว่าจะใช้บริการจากเจ้าไหน ซึ่งสิ่งที่เป็นจริงแล้ว เว็บที่ให้บริการดันอันดับ Google หลายเว็บใช้เวลาเป็นปี หรืออาจหลายปี กว่าจะติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการให้บริการทางด้าน Search Marketing แต่อย่างว่า ผู้จ้างทำ SEO ก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละเว็บใช้ช่วงเวลาการติดอันดับเท่าไหร่ แต่ผมบอกได้คร่าวๆ ว่าใช้ระยะเวลาอย่างน้อยที่สุด 1 ปี ในการทำให้ติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการรับทำเอสอีโอครับ บางเว็บก็ไม่ใช่จะติดอันดับนิ่ง มีการสวิงของอันดับเป็นระยะๆ ติดหน้าแรกบ้าง ติดหน้าสอง หน้าสามบ้าง สลับกันไปมา สิ่งเหล่านี้มันเป็นความเสี่ยงของผู้ที่จะจ้างนักทำ SEO ว่าจะเลือกเว็บไหนทำอันดับจึงจะสามารถทำเอสอีโอติดหน้าแรกได้จริง และสมัยนี้การทำ SEO ก็ยากกว่าอดีตที่ผ่านมามาก และก็มีนักทำเอสอีโอน้อยรายที่เก่งจริงๆ สิ่งเหล่านี้ผู้จ้างทำเอสอีโอจึงจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีเลือกใช้บริการ SEO ให้สามารถทำอันดับได้จริง เพื่อที่จะใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Internet Marketing ตัวจริง และวันนี้ผมก็มีกฎคร่าวๆ ในการเลือกใช้บริการทำอันดับ Google จากมืออาชีพตัวจริง

1. แกะดูเทคนิคการทำอันดับของผู้ให้บริการ SEO

  การแกะดูเทคนิคของผู้ให้บริการ SEO ว่าใช้วิธีการอะไรในการดันอันดับ จะช่วยสนับสนุนให้เรามั่นใจยิ่งขึ้นว่า เราเลือกบริษัทรับทำ SEO ที่มีคุณภาพ ซึ่งเราจะต้องตรวจสอบขั้นตอนการทำเอสอีโอของผู้ให้บริการแต่ละรายอย่างละเอียด เพื่อสามารถนำมาวิเคราะห์ และวิเคราะห์ว่าควรเลือกบริษัทไหนในการทำเอสอีโอให้เรา วิธีการแกะดูว่าเว็บไซต์นั้นๆ ใช้วิธีไหนในการทำเอสอีโอ ก็มีตั้งแต่การตรวจสอบดูว่าเว็บนั้นๆ มีการปรับ SEO On Page อย่างไร และมีวิธีการสร้าง SEO Off Page คุณภาพมากน้อยเพียงใด ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ การปรับเอสอีโอออนเพจ คือ การปรับในส่วนของปัจจัยภายในเว็บไซต์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการปรับ Title ของเว็บไซต์ การปรับพวก Meta Tags ต่างๆ ของเว็บ การเน้นคำหรือประโยคภายในเว็บ รวมไปถึงการกำหนด Keyword หลักของเว็บไซต์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการปรับในส่วนของออนเพจนั่นเองครับ ส่วนการปรับออฟเพจ คือการสร้าง backlinks กลับมายังเว็บหลัก หรือเรียกว่าการสร้างแบ็คลิงค์ภายนอกชี้มายังเว็บไซต์ที่เราจะดันอันดับ ซึ่งการสร้างแบ็คลิงค์ก็มีตั้งแต่การสร้าง Anchor Text Link การสร้าง Domain Link การกระจายคีย์เวิร์ดที่ใช้ในการสร้างลิงค์ เป็นต้น

2. ตรวจสอบการปรับ On Page ของผู้ให้บริการ SEO

  แนวทางการตรวจเช็คการทำเอสอีโอออนเพจ ของผู้ให้บริการ SEO ก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก วิธีที่ง่ายที่สุด คือการตรวจเช็คการกำหนด Title , Meta Description , Meta Keywords และการเน้นข้อความภายในเว็บไซต์ ว่ามีการเน้นข้อความที่เป็น Keyword หลักเป็นธรรมชาติหรือไม่ โดยดูจากความเป็นธรรมชาติของการเน้นขนาดของประโยค สีตัวอักษร และการกำหนด Paragraph ของเนื้อหา ว่าทำให้เราอ่านสะดวกหรือไม่ และเนื้อหาที่เราอ่านแล้ว เราได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการอ่านครั้งนี้ หรือไม่ อีกทั้งแล้วยังต้องตรวจเช็คอีกด้วยว่า เว็บนั้นรองรับการแสดงผลบนมือถือหรือไม่ ตามเกณฑ์ของกูเกิลที่กำหนดให้เว็บจะต้องรองรับ Responsive Design หรือเรียกอีกอย่างว่า Google Mobile Friendly อีกทั้งตรวจสอบว่าเว็บรองรับเทคโนโลยี AMP ที่ย่อมาจาก Accelerate Mobile Pages หรือไม่ เป็นต้น นอกจากนี้แล้วให้เราตรวจเช็คว่าเว็บนั้นๆ มีการ อินเด็กซ์ จำนวนกี่หน้า แต่ละหน้านั้นเป็นเนื้อหาคุณภาพเป็นมิตรกับผู้เยี่ยมชมหรือไม่ โดยใช้คำสั่ง site: ตามด้วยชื่อเว็บที่อยากได้ตรวจสอบการ Index  รวมทั้งการตรวจสอบการเชื่อมโยงลิงค์ภายในของเว็บด้วย

3. ตรวจสอบการปรับ Off Page ของผู้ให้บริการ SEO

  ขั้นตอนการตรวจสอบการปรับเอสอีโอออฟเพจของผู้ให้บริการ SEO เป็นการตรวจเช็คว่าผู้ให้บริการเอสอีโอ หรือ เว็บที่เราต้องการตรวจสอบดูวิธีการสร้าง Backlinks ของผู้ให้บริการนั้นๆ หรือเว็บนั้น ว่าได้สร้างแบ็คลิงค์คุณภาพหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้มั่นใจว่าหากใช้บริการ SEO กับเว็บนั้นๆ แล้ว เราจะได้รับการสร้างแบ็คลิงค์กลับเข้าหาเว็บหลักของเราด้วยลิงค์คุณภาพ ช่วยสนับสนุนให้เว็บของเราติดอันดับ Google อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และลดความเสี่ยงของการโดน Google Penalty เพราะต้องบอกก่อนครับว่า การสร้างแบ็คลิงค์เพื่อทำอันดับเอสอีโอนั้น ไม่ว่าเราจะสร้างลิงค์คุณภาพหรือไม่ ระยะแรกอันดับเอสอีโอของเว็บเราจะสวิงลงก่อนเสมอ หากกูเกิลตรวสอบว่าเราสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกูเกิล อันดับของเว็บก็จะขยับขึ้นและเลิศกว่าเดิมครับ ต้องดูด้วยว่าเนื้อหาที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างแบ็คลิงค์กลับเข้าหาเว็บหลัก หรือ Money Site นั้น มีเนื้อหาสอดคล้องกับหรือไม่ อ่านรู้เรื่องหรือไม่ เนื้อหาดังกล่าวเป็นมิตรกับผู้อ่านหรือไม่ แล้วเมื่ออ่านเนื้อหาดังกล่าวแล้วเราได้รับความรู้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด อีกทั้งต้องดูขั้นตอนการสร้างแบ็คลิงค์ของผู้ให้บริการ SEO ว่ามีการใช้ Anchor Text Link โดยการกระจายคีย์เวิร์ดให้เป็นธรรมชาติหรือไม่ ไม่เน้นคีย์เวิร์ดใดคีย์เวิร์ดหนึ่งมากจนเกินความเหมาะสม ตลอดจนตรวจสอบด้วยว่า เป็นการสร้างลิงค์บนหน้าเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือหรือไม่ กล่าวคือ ถ้าเป็นการสร้างแบ็คลิงค์บนบล็อก หรือเว็บ ที่ไม่มีการโพสต์บทความซ้ำๆ หรือที่เรียกว่า Duplicate Content ก็โอเคระดับหนึ่ง และต้องไม่เป็นการสร้างลิงค์จากเว็บที่มีลักษณะ Content Farm หรือเว็บที่โพสเนื้อหาซ้ำๆ และเป็นบทความที่ไม่เข้าพวกกัน มีบทความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เป็นต้น

4. ตรวจเช็คการสร้างแบ็คลิงค์ด้วย Blog Network ของผู้ให้บริการ SEO

  ปัจจัยสำคัญอีกอย่างที่ผู้จ้างทำ SEO จะต้องเข้าใจและสามารถตรวจเช็คบริษัทที่ให้บริการ SEO ว่ามีการใช้ Private Blog Network หรือไม่ และหากมีการใช้เน็ตเวิร์คส่วนตัวในการทำเอสอีโอแล้ว PBN ดังกล่าว มีคุณภาพมากน้อยเพียงใด และผู้จ้างทำเอสอีโอจะต้องเข้าใจด้วยว่าเว็บแบบไหนที่เรียกว่าเน็ตเวิร์คส่วนตัวด้วยครับ และ Network ส่วนตัวส่วนใหญ่จะใช้ CMS หรือ Webboard เป็นหลัก ถ้าเป็นซีเอ็มเอสก็จะชื่นชอบใช้ Wordpress สำหรับสร้างเน็ตเวิร์คส่วนตัว เพราะว่าเวิร์ดเพลสรองรับเอสอีโอมากที่สุดในตระกูลของบล็อกฟรีครับ ส่วนถ้าเป็นเว็บบอร์ดก็จะเป็น SMF ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดที่รองรับเอสอีมากที่สุดสำหรับเว็บบอร์ดฟรี แต่ถ้าเสียตังค์ก็จะเป็น Vbulletin ที่สนับสนุนเอสอีโอได้ดีกว่าเอสเอ็มเอฟครับ สิ่งที่ควรสังเกตอีกอย่างคือ ถ้าเป็นเว็บที่ใช้ทำเน็ตเวิร์คส่วนตัว ส่วนมากจะเป็นเว็บปิด ไม่เปิดให้มีสมาชิกมาร่วมโพสบทความด้วย และคนที่โพสต์บทความส่วนมากจะเป็นชื่อซ้ำๆ กันแต่จะโพสต์บทความไม่เหมือนกัน และสร้างลิงค์ไปยังหลายๆ เว็บ และส่วนมากจะเป็น Admin ที่โพสเนื้อหาเพื่อสร้าง backlinks ครับ อีกประการหนึ่ง คือ ลักษณะการโพส หากเป็นเน็ตเวิร์คส่วนตัว จะมีหลายๆ เว็บที่มีลักษณะเหมือนๆ กัน บทความมีเนื้อหาใกล้เคียงกัน หรือบางทีอาจคล้ายๆ กันในบางจุด แต่จะชี้ไปยังเว็บจุดหมายปลายทางคล้ายๆ กันในเวลาที่โพสต์ใกล้เคียงกัน ถ้าเจอแบบนี้ เป็นการสร้างเน็ตเวิร์คส่วนตัวเพื่อดันอันดับแน่นอน แม้ว่าสมัยนี้นักทำ SEO จะชื่นชอบใช้ Network ส่วนตัวทำอันดับลดลง เพราะต้นทุนสูง โอกาสโดนกูเกิลแบนมีมาก และยุคนี้ต้องอาศัย IPs ของ SEO Hosting ปริมาณมากๆ จึงจะเห็นผล ทำให้มีต้นทุนที่สูง นักทำเอสอีโอส่วนมากจึงหันไปโพสเว็บบอร์ด หรือบล็อกฟรี เพื่อสร้างแบ็คลิงค์กลับเข้าสู่เว็บหลัก

5. ตรวจสอบการใช้ Google Search Console ของผู้ให้บริการ SEO

  ในการทำเอสอีโอผู้ให้บริการ SEO จะต้องนำเว็บเข้าสู่ระบบ Google Search Console ซึ่งสมัยก่อนเรียกว่า Google Webmaster Tools เพื่อที่จะทำให้เว็บสามารถดันอันดับได้ดียิ่งขึ้น เพราะภายในกูเกิลเสิร์ทคอนโซลมีเครื่องมือสำหรับสนับสนุนการทำให้เว็บสนับสนุน Google Search ไม่ว่าจะเป็นการส่ง Sitemap ของเว็บเราไปยังกูเกิล เพื่อให้ Googlebot เข้ามาเก็บข้อมูลได้รวดเร็วและง่ายขึ้น เนื่องด้วยหากเว็บของเราสามารถ  Index  บน Search Result เร็วๆ นั่นย่อมมาถึงการเพิ่มโอกาสที่คนจะคลิกเข้าสู่เว็บของเราผ่านทาง Google Search มากตามไปด้วยนั่นเองครับ อีกทั้งภายในเครื่องมือ Search Engine Console ยังมีฟังก์ชั่นการดึงหน้าเว็บไซต์คล้ายเป็น Google เอาไว้ให้เราเรียก Googlebot มาเก็บข้อมูลภายในเว็บขอเราทันทีที่เราอัพเดทข้อมูลสำเร็จแล้ว และไม่อยากรอให้บอทมาเก็บก็สามารถเรียกบอทมาได้ทันที ซึ่งหนึ่งบัญชีสามารถเรียกกูเกิลบอทแบบเรียลไทม์ได้เดือนละ 10 ครั้ง และสามารถเรียกบอทแบบธรรมดาเดือนละ 500 ครั้ง ต่อ 1 Account นั่นเองครับ ยังไงก็ตามหากไม่ได้อัพเดทข้อมูลภายในเว็บ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานฟังก์ชั่นส่วนนี้ เพราะอาจส่งผลเสียต่ออันดับครับ

6. สอบถามผู้ให้บริการ SEO ตรงๆ ว่าสร้าง Traffic ได้หรือไม่

  แม้ว่าเราจะสามารถตรวจเช็คสถิติ Traffic ของเว็บอื่น หรือเว็บผู้ให้บริการ SEO ว่าสามารถสร้างทราฟฟิคได้หรือไม่ โดยสามารถตรวจเช็คจากการเอา URL ของ ชื่อเว็บไซต์ ไปตรวจสอบกับเว็บตรวจเช็ค Backlinks และ Traffic ของเมืองนอก เราสามารถเลือกดูในส่วนของทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บนั้นๆ ได้ แต่อย่างว่าครับ หากเราไม่ใช่เจ้าของเว็บไซต์ แม้เราจะเอาชื่อชื่อเว็บไซต์ไปตรวจสอบข้อมูลทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บไซต์ ก็เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆ มีความคลาดเคลื่อนสูงมาก สรุป คือ เราไม่สามารถตรวจข้อมูลทราฟฟิคของเว็บไซต์อื่นได้ เว้นแต่ว่าเว็บนั้นมีการติดตัวนับคนเข้าเว็บ หรื
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องไขข้อสงสัยเลือกใช้บริการ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Content Marekting ติดหน้าแรกกูเกิล โดย ซีเอ็มเอสอีโอกรุ๊ป
แนวความคิดสมัครใช้บริการ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Promote Website ติดหน้าแรก Google โดย ซีเอ็มเอสอีโอกรุ๊ป
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: บริการ SEO
อ้างจาก: บริการ SEOไขข้อสงสัยเลือกใช้บริการ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Content Marekting ติดหน้าแรกกูเกิล โดย ซีเอ็มเอสอีโอกรุ๊ป
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/page/SEO-คืออะไร
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/page/Google-Suggest-คืออะไร
ชื่อ: ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO GROUP)
ที่อยู่: รับทำ SEO เชียงใหม่ 30/7 ถนนบำรุงบุรี ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
เบอร์โทรติดต่อ: 096-237-3905
อีเมล์: thaiseogroup@gmail.com
อ้างอิงจาก: http://www.volvomania.com/forum/index.php?board=9.0
#4
คู่มืออ้างอิงเว็บไซต์เลือกใช้รับทำเว็บไซต์ เชียงใหม่ ออกแบบเว็บไซต์ ราคาประหยัด โดย Webdevgeek เป็นเรื่องที่น่าติดตาม
#5
Content วิธีการสมัครใช้บริการ SEO ทำการตลาดออนไลน์ ด้วย Longtail Keyword ติดอันดับกูเกิล โดย ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป เป็นเรื่องที่น่าสนใจ

เรียนการตลาดสมัครใช้บริการ SEO ประโมทเว็บไซต์ ด้วย Niche Keyword ติดหน้าแรก Google โดย ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับบริการ SEOเรียนรู้และทำความเข้าใจจากส่วนนี้ ขั้นตอนการเลือกบริษัทบริการ SEO คุณภาพ

  สมัยนี้มีบริษัทที่ให้บริการ SEO มากมาย ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ รวมกัน ผู้ที่รับทำ SEO บางเว็บก็ติดอันดับ Google คีย์เวิร์ดเกี่ยวกับการให้บริการเอสอีโอมาเนิ่นนานหลายปี ติดอันดับตั้งแต่ยุคที่ลิงค์เป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ หรือยุคที่ลิงค์รุ่งเรืองก็ว่าได้ แม้ยุคนี้ Google จะให้ความสำคัญกับแต้มลิงค์น้อยลงไปมาก แต่เว็บที่ติดอันดับ Google มาอย่างยาวนาน ย่อมได้เปรียบ และได้แต้มสถิติคนเข้าเว็บไซต์สะสมมาอย่างเนิ่นนานนั่นเอง กอรปกับ ชื่อเว็บไซต์ ที่มีอายุมากๆ ยิ่งทำให้กูเกิลเชื่อมั่นว่าเว็บเหล่านั้นมีคุณภาพ เมื่อเป็นเช่นนี้ มันก็เป็นการสร้างความซับซ้อนให้กับผู้ใช้บริการ SEO หน้าใหม่ ที่อาจไม่มีเบสิคด้านเอสอีโอ ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานของเอสอีโอสมัยเก่าและสมัยใหม่ ทำให้ไม่มีความรู้ในการเลือกบริษัทบริการ SEO ที่ดี อาศัยแค่ว่าเห็นเว็บผู้ให้บริการเอสอีโอติดหน้าแรก Google เป็นตัวตัดสินว่าจะใช้บริการจากเจ้าไหน ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เว็บที่ให้บริการดันอันดับ Google หลายเว็บใช้เวลาเป็นปี หรืออาจหลายปี กว่าจะติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการให้บริการทางด้าน Search Marketing แต่อย่างว่า ผู้จ้างทำ SEO ก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละเว็บใช้ระยะเวลาการติดอันดับเท่าไหร่ แต่ผมบอกได้คร่าวๆ ว่าใช้ช่วงเวลาอย่างน้อยที่สุด 1 ปี ในการทำให้ติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการรับทำเอสอีโอครับ บางเว็บก็ไม่ใช่จะติดอันดับนิ่ง มีการสวิงของอันดับเป็นระยะๆ ติดหน้าแรกบ้าง ติดหน้าสอง หน้าสามบ้าง สลับกันไปมา สิ่งเหล่านี้มันเป็นความเสี่ยงของผู้ที่จะจ้างนักทำ SEO ว่าจะเลือกเว็บไหนดันอันดับจึงจะสามารถทำเอสอีโอติดหน้าแรกได้จริง และยุคปัจจุบันการทำ SEO ก็ยากกว่าอดีตที่ผ่านมามาก และก็มีนักทำเอสอีโอน้อยรายที่เก่งจริงๆ สิ่งเหล่านี้ผู้จ้างทำเอสอีโอจึงต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีเลือกใช้บริการ SEO ให้สามารถดันอันดับได้จริง เพื่อที่จะใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Internet Marketing ตัวจริง และวันนี้ผมก็มีแนวทางคร่าวๆ ในการเลือกใช้บริการทำอันดับ Google จากมืออาชีพตัวจริง

1. แกะดูวิธีการการทำอันดับของผู้ให้บริการ SEO

  การแกะดูเทคนิคของผู้ให้บริการ SEO ว่าใช้วิธีการอะไรในการทำอันดับ จะช่วยส่งเสริมให้เราเชื่อมั่นยิ่งขึ้นว่า เราเลือกบริษัทรับทำ SEO ที่มีคุณภาพ ซึ่งเราจะต้องตรวจเช็ควิธีการทำเอสอีโอของผู้ให้บริการแต่ละรายอย่างละเอียด เพื่อสามารถนำมาตรวจสอบ และวิเคราะห์ว่าควรเลือกบริษัทไหนในการทำเอสอีโอให้เรา วิธีการแกะดูว่าเว็บนั้นๆ ใช้วิธีไหนในการทำเอสอีโอ ก็มีตั้งแต่การตรวจเช็คดูว่าเว็บนั้นๆ มีการปรับ SEO On Page ยังไง และมีขั้นตอนการสร้าง SEO Off Page คุณภาพมากน้อยขนาดไหน ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ การปรับเอสอีโอออนเพจ คือ การปรับในส่วนของปัจจัยภายในเว็บเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการปรับ Title ของเว็บ การปรับพวก Meta Tags ต่างๆ ของเว็บ การเน้นคำหรือประโยคภายในเว็บไซต์ รวมไปถึงการกำหนด Keyword หลักของเว็บ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการปรับในส่วนของออนเพจนั่นเองครับ ส่วนการปรับออฟเพจ คือการสร้าง backlinks กลับมายังเว็บหลัก หรือเรียกว่าการสร้างแบ็คลิงค์ภายนอกชี้มายังเว็บไซต์ที่เราจะดันอันดับ ซึ่งการสร้างแบ็คลิงค์ก็มีตั้งแต่การสร้าง Anchor Text Link การสร้าง Domain Link การกระจายคีย์เวิร์ดที่ใช้ในการสร้างแบ็คลิงค์ เป็นต้น

2. ตรวจสอบการปรับ On Page ของผู้ให้บริการ SEO

  แนวทางการตรวจเช็คการทำเอสอีโอออนเพจ ของผู้ให้บริการ SEO ก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก วิธีที่ง่ายที่สุด คือการตรวจสอบการกำหนด Title , Meta Description , Meta Keywords และการเน้นประโยคภายในเว็บ ว่ามีการเน้นข้อความที่เป็น Keyword หลักเป็นธรรมชาติหรือไม่ โดยดูจากความเป็นธรรมชาติของการเน้นขนาดของประโยค สีตัวอักษร และการกำหนด Paragraph ของบทความ ว่าทำให้เราอ่านสะดวกหรือไม่ และเนื้อหาที่เราอ่านแล้ว เราได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการอ่านครั้งนี้ หรือไม่ นอกจากนี้แล้วยังต้องตรวจเช็คอีกด้วยว่า เว็บนั้นสนับสนุนการแสดงผลบนมือถือหรือไม่ ตามเกณฑ์ของกูเกิลที่กำหนดให้เว็บไซต์จะต้องสนับสนุน Responsive Design หรือเรียกอีกอย่างว่า Google Mobile Friendly อีกทั้งตรวจสอบว่าเว็บสนับสนุนเทคโนโลยี AMP ที่ย่อมาจาก Accelerate Mobile Pages หรือไม่ เป็นต้น นอกจากนี้แล้วให้เราตรวจสอบว่าเว็บนั้นๆ มีการ อินเด็กซ์ จำนวนกี่หน้า แต่ละหน้านั้นเป็นบทความคุณภาพเป็นมิตรกับผู้เยี่ยมชมหรือไม่ โดยใช้คำสั่ง site: ตามด้วยชื่อเว็บที่ต้องการตรวจเช็คการอินเด็กซ์ รวมทั้งการตรวจสอบการเชื่อมโยงลิงค์ภายในของเว็บด้วย

3. ตรวจเช็คการปรับ Off Page ของผู้ให้บริการ SEO

  ขั้นตอนการตรวจสอบการปรับเอสอีโอออฟเพจของผู้ให้บริการ SEO เป็นการตรวจเช็คว่าผู้ให้บริการเอสอีโอ หรือ เว็บที่เราต้องการตรวจเช็คดูแนวทางการสร้าง Backlinks ของผู้ให้บริการนั้นๆ หรือเว็บนั้น ว่าได้สร้างลิงค์คุณภาพหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้เชื่อมั่นว่าหากใช้บริการ SEO กับเว็บนั้นๆ แล้ว เราจะได้รับการสร้างแบ็คลิงค์กลับเข้าหาเว็บหลักของเราด้วยลิงค์คุณภาพ ช่วยสนับสนุนให้เว็บของเราติดอันดับกูเกิล อย่างมีประสิทธิผล และลดความเสี่ยงของการโดน Google Penalty เพราะต้องบอกก่อนครับว่า การสร้างลิงค์เพื่อทำอันดับเอสอีโอนั้น ไม่ว่าเราจะสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพหรือไม่ ระยะเริ่มต้นอันดับเอสอีโอของเว็บเราจะสวิงลงก่อนเสมอ หากกูเกิลตรวสอบว่าเราสร้างลิงค์คุณภาพถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกูเกิล อันดับของเว็บไซต์ก็จะขยับขึ้นและเจ๋งกว่าเดิมครับ ต้องดูด้วยว่าเนื้อหาที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างแบ็คลิงค์กลับมายังเว็บหลัก หรือ Money Site นั้น มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับหรือไม่ อ่านรู้เรื่องหรือไม่ บทความดังกล่าวเป็นมิตรกับผู้ติดตามหรือไม่ แล้วเมื่ออ่านบทความดังกล่าวแล้วเราได้รับความรู้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้ต้องตรวจเช็คอย่างละเอียด อีกทั้งต้องดูวิธีการสร้างลิงค์ของผู้ให้บริการ SEO ว่ามีการใช้ Anchor Text Link โดยการกระจายคีย์เวิร์ดให้เป็นธรรมชาติหรือไม่ ไม่เน้นคีย์เวิร์ดใดคีย์เวิร์ดหนึ่งมากจนเกินไป ตลอดจนตรวจเช็คด้วยว่า เป็นการสร้างลิงค์บนหน้าเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือหรือไม่ กล่าวคือ ถ้าเป็นการสร้างลิงค์บนบล็อก หรือเว็บ ที่ไม่มีการโพสบทความซ้ำๆ หรือที่เรียกว่า Duplicate Content ก็โอเคระดับหนึ่ง และต้องไม่เป็นการสร้างแบ็คลิงค์จากเว็บที่มีลักษณะ Content Farm หรือเว็บที่โพสเนื้อหาซ้ำๆ และเป็นเนื้อหาที่ไม่เข้าพวกกัน มีเนื้อหาไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง เป็นต้น

4. ตรวจเช็คการสร้างแบ็คลิงค์ด้วย Blog Network ของผู้ให้บริการ SEO

  สิ่งจำเป็นอีกอย่างที่ผู้จ้างทำ SEO จะต้องเข้าใจและสามารถตรวจสอบบริษัทที่ให้บริการ SEO ว่ามีการใช้ Private Blog Network หรือไม่ และหากมีการใช้เน็ตเวิร์คส่วนตัวในการทำเอสอีโอแล้ว PBN ดังกล่าว มีคุณภาพมากน้อยขนาดไหน และผู้จ้างทำเอสอีโอจะต้องเข้าใจด้วยว่าเว็บแบบไหนที่เรียกว่าเน็ตเวิร์คส่วนตัวด้วยครับ และ Network ส่วนตัวส่วนมากจะใช้ CMS หรือ Webboard เป็นหลัก ถ้าเป็นซีเอ็มเอสก็จะชื่นชอบใช้ Wordpress สำหรับสร้างเน็ตเวิร์คส่วนตัว เพราะว่าเวิร์ดเพลสรองรับเอสอีโอมากที่สุดในตระกูลของบล็อกฟรีครับ ส่วนถ้าเป็นเว็บบอร์ดก็จะเป็น SMF ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดที่สนับสนุนเอสอีมากที่สุดสำหรับเว็บบอร์ดฟรี แต่ถ้าเสียตังค์ก็จะเป็น Vbulletin ที่สนับสนุนเอสอีโอได้เลิศกว่าเอสเอ็มเอฟครับ สิ่งที่ควรมองดูอีกอย่างคือ ถ้าเป็นเว็บที่ใช้ทำเน็ตเวิร์คส่วนตัว ส่วนใหญ่จะเป็นเว็บปิด ไม่เปิดให้มีสมาชิกมาร่วมโพสต์เนื้อหาด้วย และคนที่โพสต์เนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นชื่อซ้ำๆ กันแต่จะโพสบทความไม่เหมือนกัน และสร้างลิงค์ไปยังหลายๆ เว็บ และส่วนมากจะเป็น Admin ที่โพสต์เนื้อหาเพื่อสร้าง backlinks ครับ อีกประการหนึ่ง คือ ลักษณะการโพสต์ หากเป็นเน็ตเวิร์คส่วนตัว จะมีหลายๆ เว็บที่มีลักษณะเหมือนๆ กัน บทความมีเนื้อหาใกล้เคียงกัน หรือบางทีอาจละม้ายคล้ายคลึงกันในบางจุด แต่จะชี้ไปยังเว็บจุดหมายปลายทางคล้ายๆ กันในเวลาที่โพสใกล้เคียงกัน ถ้าเจอแบบนี้ เป็นการสร้างเน็ตเวิร์คส่วนตัวเพื่อดันอันดับแน่นอน แม้ว่าสมัยนี้นักทำ SEO จะชื่นชอบใช้ Network ส่วนตัวทำอันดับน้อยลง เพราะต้นทุนสูง โอกาสโดนกูเกิลแบนมีมาก และยุคปัจจุบันต้องอาศัย IPs ของ SEO Hosting จำนวนมากๆ จึงจะเห็นผล ทำให้มีต้นทุนที่สูง นักทำเอสอีโอส่วนมากจึงหันไปโพสต์เว็บบอร์ด หรือบล็อกฟรี เพื่อสร้างแบ็คลิงค์กลับเข้าสู่เว็บหลัก

5. ตรวจสอบการใช้ Google Search Console ของผู้ให้บริการ SEO

  ในการทำเอสอีโอผู้ให้บริการ SEO จะต้องนำเว็บเข้าสู่ระบบ Google Search Console ซึ่งสมัยก่อนเรียกว่า Google Webmaster Tools เพื่อที่จะทำให้เว็บไซต์สามารถดันอันดับได้ดียิ่งขึ้น เพราะภายในกูเกิลเสิร์ทคอนโซลมีเครื่องมือสำหรับรองรับการทำให้เว็บสนับสนุน Search Engine ไม่ว่าจะเป็นการส่ง Sitemap ของเว็บเราไปยังกูเกิล เพื่อให้ Googlebot เข้ามาเก็บข้อมูลได้รวดเร็วและง่ายขึ้น เพราะว่าหากเว็บของเราสามารถ อินเด็กซ์ บน Search Result เร็วๆ นั่นย่อมมาถึงการเพิ่มโอกาสที่คนจะคลิกเข้าสู่เว็บของเราผ่านทาง Google Search มากตามไปด้วยนั่นเองครับ อีกทั้งภายในเครื่องมือ Google Search Console ยังมีฟังก์ชั่นการดึงหน้าเว็บเหมือนเป็น Google เอาไว้ให้เราเรียก Googlebot มาเก็บข้อมูลภายในเว็บขอเราทันทีที่เราอัพเดทข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว และไม่อยากรอให้บอทมาเก็บก็สามารถเรียกบอทมาได้ทันที ซึ่งหนึ่งบัญชีสามารถเรียกกูเกิลบอทแบบเรียลไทม์ได้เดือนละ 10 ครั้ง และสามารถเรียกบอทแบบธรรมดาเดือนละ 500 ครั้ง ต่อ 1 Account นั่นเองครับ อย่างไรก็ตามหากไม่ได้อัพเดทข้อมูลภายในเว็บไซต์ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานฟังก์ชั่นส่วนนี้ เพราะอาจส่งผลเสียต่ออันดับครับ

6. สอบถามผู้ให้บริการ SEO ตรงๆ ว่าสร้าง Traffic ได้หรือไม่

  แม้ว่าเราจะสามารถตรวจสอบข้อมูล Traffic ของเว็บอื่น หรือเว็บผู้ให้บริการ SEO ว่าสามารถสร้างทราฟฟิคได้หรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบจากการเอา URL ของ ชื่อเว็บ ไปตรวจเช็คกับเว็บตรวจเช็ค Backlinks และ Traffic ของต่างประเทศ เราสามารถเลือกดูในส่วนของทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บนั้นๆ ได้ แต่อย่างว่าครับ หากเราไม่ใช่เจ้าของเว็บไซต์ แม้เราจะเอาชื่อชื่อเว็บไซต์ไปตรวจสอบสถิติทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บไซต์ ก็เป็นเพียงสถิติคร่าวๆ มีความคลาดเคลื่อนสูงมาก สรุป คือ เราไม่สามารถตรวจตัวเลขทราฟฟิคของเว็บไซต์อื่นได้ เว้นแต่ว่าเว็บนั้นมีการต
รูปที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องวิธีการสมัครใช้บริการ SEO ทำการตลาดออนไลน์ ด้วย Longtail Keyword ติดอันดับกูเกิล โดย ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป
กระบวนการเลือกใช้บริการ SEO ทำการตลาดออนไลน์ ด้วย Expert Writer ติดอันดับ Google โดย ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: บริการ SEO
อ้างจาก: บริการ SEOวิธีการสมัครใช้บริการ SEO ทำการตลาดออนไลน์ ด้วย Longtail Keyword ติดอันดับกูเกิล โดย ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/page/SEO-คืออะไร
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/page/Google-Suggest-คืออะไร
ชื่อ: ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO GROUP)
ที่อยู่: รับทำ SEO เชียงใหม่ 30/7 ถนนบำรุงบุรี ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
เบอร์โทรติดต่อ: 096-237-3905
อีเมล์: thaiseogroup@gmail.com
อ้างอิงจาก: http://www.volvomania.com/forum/index.php?board=9.0
#6
ทฤษฎีว่าด้วยเรื่องแนะนำเว็บไซต์สมัครใช้รับทำ SEO ประโมทเว็บไซต์ ด้วย Longtail Keyword ติดอันดับกูเกิล โดย cmseogroup บอกได้คำเดียวว่าเด็ด

วิธีทำการตลาดเลือกใช้รับทำ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Internet Marketing ติดอันดับกูเกิล โดย ซีเอ็มเอสอีโอกรุ๊ป อ่านประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับรับทำ SEOทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งได้จากบทความนี้ครับ วิชาชีพรับทำ SEO ไม่ได้ง่าย

  เมื่อก่อนอาชีพรับทำ SEO ใครๆ ก็สามารถทำได้ ขอแค่ขยัน และสร้าง Backlink เป็น แต่ยุคปัจจุบันแตกต่างออกไป มันเป็นเรื่องที่น่านักใจสำหรับผู้ที่คิดจะจ้างทำ SEO อย่างแน่นอน เพราะผู้ที่จะจ้างดันอันดับบน Google Search มักจะคิดว่าเว็บรับทำ SEO ทั้งหลาย ที่ติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการให้บริการเอสอีโอ SEO Services นั้น น่าจะสามารถทำอันดับบน Google Search ได้ แต่หารู้หรือไม่ว่า เว็บบริษัทที่รับทำเอสอีโอ กว่าที่เขาจะติดอันดับใช้เวลาเป็นปีๆ แต่กลับบอกลูกค้าหรือผู้ที่จะจ้างทำเอสอีโอว่า สามารถทำอันดับภายในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งมันผิดหลักการทำเอสอีโอในยุคนี้อย่างสิ้นเชิงครับ อีกทั้งหลายเว็บติดอันดับ Google ในคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับการให้บริการทำอันดับ Google ก่อนหน้าที่กูเกิลจะพัฒนาระบบจัดอันดับรูปแบบใหม่ ด้วยซ้ำไป แน่นอนว่า หลายเว็บที่ให้บริการเกี่ยวกับ Search Marketing นั้น ติดอันดับก่อนที่จะมีอัลกอริทึมอย่าง Google RankBrain เมื่อติดอันดับก่อนหน้านี้ ก็เท่ากับว่าติดลมบนไปเลย แม้ว่าจะมีการปล่อยระบบจัดอันดับด้วย AI หรือ Artificial Intelligence เรียกอีกอย่างว่าระบบจัดอันดับด้วยปัญญาประดิษฐ์ โดยสามารถวิจัยด้วยตนเองได้ Machine Learning นั่นหมายความว่าเว็บที่ติดอันดับก่อนหน้า ก็ยังติดอันดับได้อยู่ เพราะมีตัวเลขคนเข้าเว็บสะสมมาอย่างนานมาก และแน่นอนว่าระบบการจัดอันดับสมัยใหม่ ให้ความสำคัญกับทราฟฟิค ยูสเซอร์ ตัวเลขการเข้าใช้งานของผู้ที่ค้นหาข้อมูลผ่าน Google Search ข้อสงสัยคือ แล้วถ้าจะทำอันดับเว็บไซต์ใหม่? แน่นอนว่ามันยาก แต่ก็ทำได้อยู่ ถ้าหากนักทำเอสอีโอมีความชำนาญและเข้าใจระบบใหม่ของกูเกิล เป็นหน้าที่ของผู้จ้างทำ SEO แล้วละว่าจะหานักทำเอสอีโอเก่งๆ ได้ยังไง แต่เราสามารถค้นหานักทำเอสอีโอที่มีฝีมือ ดังนี้

1. เว็บรับทำ SEO ต้องเข้าใจ Google Algorithm

  การที่เว็บรับทำ SEO หรือทีมเวิร์คที่ทำเอสอีโอ รู้แค่หน้าที่ของ Google Algorithm ว่ามีหน้าที่อะไรบ้าง ตรวจสอบคุณภาพยังไงนั้น มันไม่เพียงพอสำหรับการทำอันดับบน Google Search ยุคนี้ครับ เพราะหากเข้าใจแค่ว่ากูเกิลอัลกอริทึมแต่ละตัวทำงานยังไง มีหน้าที่อะไรบ้าง ไม่พอต่อการดันอันดับด้วยวิธีการต่างๆ ให้สอดคล้องกับอัลกอริทึมทุกตัวของกูเกิล ผู้ที่รับทำ SEO ที่ดีจะต้องทดสอบ ทดลอง และค้นคว้า เกี่ยวกับการดำเนินงาน การให้คะแนน ของอัลกอริทึมแต่ละตัวของกูเกิลครับ เรียกได้ว่าอาจทำห้อง Lab ขึ้นมาเพื่อค้นคว้า วิจัย ทดสอบเทคนิคการทำ SEO ประเภทต่างๆ และการทดลองกับอัลกอริทึมตัวละตัวของกูเกิล จึงจะเข้าใจ รู้ลึก รู้จริง ไม่ใช่แค่การไปอ่านเนื้อหาจากเว็บต่างประเทศมา แล้วมาชี้แจง และมุ่งมั่นทำเอสอีโอให้สัมพันธ์กับที่อ่านมา ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ยากที่จะติดอันดับง่ายๆ เพราะอย่างว่าการทำ SEO ยุคนี้ มันยาก และต้องมุ่งเน้นคำว่าคุณภาพมากกว่ายุคก่อนๆ นักทำ SEO บางคน หรือ อาจหลายคน เอะอะ อะไร ก็จะสร้างแต่ลิงค์อย่างเดียว บอกไว้ก่อนว่าแม้ลิงค์สามารถดันอันดับได้อยู่ แต่มันไม่ใช่ตัวแปรหลักอีกต่อไปสำหรับการดันอันดับบนกูเกิลเสิร์ทครับ ปัจจุบัน Google พัฒนาระบบอัลกอริทึมใหม่ๆ มาเยอะแยะ และการที่มีระบบตรวจสอบคุณภาพเยอะๆ ก็เท่ากับว่ามีปัจจัยในการจัดอันดับเยอะ ฉะนั้นการอาศัยแค่การสร้างลิงค์มันจึงไม่เพียงพอสำหรับการดันอันดับยุคนี้

2. บริษัทรับทำ SEO ต้องสร้างลิงค์คุณภาพ

  หากคุณไปถามบริษัทรับทำ SEO 10 ที่ แต่ละเจ้าก็จะบอกคุณว่าพวกเขาสร้างลิงค์คุณภาพเป็นมิตรกับผู้เยี่ยมชม บ้างก็อาจบอกว่าสร้างลิงค์คุณภาพด้วยวิธีการจากประเทศอเมริกา บ้างก็บอกว่าสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพด้วยระบบของตัวเอง ซึ่งมีตั้งแต่ราคาหลักร้อย ยันหลักหมื่น เมื่อผู้ที่จะจ้างทำ SEO สอบถามรับทำ SEO และได้ผลลัพธ์เหมือนๆ กันทุกราย ผู้จ้างทำเอสอีโอส่วนใหญ่ก็จะไปประเมินที่ราคาค่าบริการแทน เพราะคิดว่าแนวทางคงเหมือนๆ กัน เอาที่ราคาถูกจะสุดยอดกว่า แต่หารู้ไม่ว่าการทำ SEO คุณภาพ หรือแม้แต่การสร้างลิงค์คุณภาพนั้นใช้ต้นทุนสูง แล้วถ้าคุณคิดจะจ้างทำ SEO จ่ายตังค์แค่หลักร้อย หรือหลักไม่กี่พัน สิ่งที่คุณจะได้กลับมาคือ อันดับที่ไม่มีทางติดอันดับกูเกิล แถมผู้ให้บริการเอสอีโอบางราย ไม่มีการคืนเงินให้ลูกค้าด้วย อาจบอกว่าเป็นค่าดำเนินงานดันอันดับให้ ทั้งที่ทราฟฟิคก็ไม่ได้ และดันได้ลิงค์ด้อยคุณภาพกลับมาซะงั้น อันดับก็ไม่ติดกูเกิลอีก มีบริษัทรับทำ SEO แบบนี้เยอะ แน่นอนทางผมก็ไม่มีนโยบายคืนเงินให้ลูกค้านะ แต่เรามีสิ่งที่ลูกค้าจะได้ นั่นคือ ทราฟฟิค คนเข้าเว็บเฉลี่ย 1,000 คน/วัน แน่นอนว่าคุ้มค่ากับการจ่ายแน่นอน เพราะทราฟฟิคมีแต่ส่งผลดีต่อเว็บ และตัวเลขคนเข้าเว็บที่ผู้ใช้บริการเอสอีโอจะได้จากเรานั้น เป็นตัวเลขที่กูเกิลจะนำไปคิดเลขและใช้จัดอันดับตลอดไป และการสร้างทราฟฟิคก็ใช้ต้นทุนสูงกว่าการสร้างลิงค์คุณภาพมาก กลับมาที่เรื่องการสร้างลิงค์กันต่อครับ การสร้างลิงค์คุณภาพจะต้องสร้างบทความคุณภาพแตกต่างกับเว็บไซต์อื่น แต่ละโพสเพื่อสร้างแต่ละลิงค์จะต้องเป็นบทความ Quality Content และเป็น Quality Content ไปพร้อมๆ กัน ถ้าสร้าง 1,000 ลิงค์ ก็เท่ากับต้องเขียนเนื้อหาคุณภาพมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน 1,000 เนื้อหานั่นเอง

3. ผู้รับทำ SEO ต้องสร้างทราฟฟิคคุณภาพ

  ข้อนี้สำคัญมากในการทำ SEO สมัยนี้ ผู้ที่รับทำ SEO จะต้องสามารถสร้างทราฟฟิคเข้าสู่เว็บไซต์รูปแบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และทราฟฟิคต้องมีคุณภาพด้วย คำว่าทราฟฟิคคุณภาพ คือ ทราฟฟิค หรือ ผู้ใช้งาน ที่เข้ามาอ่านบทความของเราแล้วอาศัยอยู่ในหน้าเว็บไซต์ของเรานานๆ กล่าวคือ ใช้เวลาอ่านบทความภายในเว็บนานๆ นั่นเอง ซึ่งเรียกว่า Time On Site แน่นอนเมื่อมีคนเข้ามาอ่านเนื้อหาในเว็บไซต์ของเรานานๆ ก็ย่อมทำให้ค่าอัตราตีกลับ หรือที่เรียกว่า Bounce Rate มีค่าไม่สูง ทำให้ Google เข้าใจทันทีว่าเว็บของเรามีคุณภาพ และ Traffic ที่เข้าสู่เว็บของเราก็มีคุณภาพ พูดง่ายๆ คือ คนค้นหาข้อมูลแล้วค้นพบบทความของเราผ่านทาง Google Search แล้วคลิกเข้ามอ่านบทความที่ต้องการนั่นเองครับ และแน่นอนที่สุด ทราฟฟิคที่มาจากกูเกิลเสิร์ท หรืออาจเรียกว่า Google Search Traffic บ้างก็เรียก Google Traffic แล้วแต่ถนัดครับ ได้หมด ทราฟฟิคที่มาจากกูเกิลมีสกอร์สูงสุด สามารถทำอันดับเว็บไซต์ได้ดีที่สุด เพราะกูเกิลย่อมที่จะเชื่อมั่นเว็บไซต์ของตัวเองก่อน ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคนคลิกเข้าเว็บจาก Google Search จึงส่งผลให้อันดับ Google ขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่ว่าทราฟฟิครูปแบบอื่นๆ ไม่ดีนะครับ ทราฟฟิคไม่ว่าจะเป็นประเภทใด ถ้าหากทราฟฟิคนั้นๆ อาศัยอยู่ในหน้าเว็บไซต์ของเรานานๆ มีการโต้ตอบ หรือ มีการทำกิจกรรมภายในเว็บของเราย่อมส่งผลดีต่ออันดับเอสอีโอทั้งนั้นครับ อาทิเช่น มีการคอมเมนต์ภายในเว็บ มีการกรอกแบบฟอร์มของเว็บไซต์ หรือแม้แต่มีการคลิกเปิดหน้าย่อยอื่นๆ ภายในเว็บไซต์ สิ่งเหล่านี้ย่อมรับประกันได้ว่าทราฟฟิคที่เข้ามายังเว็บของเรานั้นมีคุณภาพครับ ทราฟฟิคลักษณะอื่นๆ เช่น Social Traffic , Referral Traffic , Direct Traffic และ Ad Traffic ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญต่ออันดับเอสอีโอ

4. ผู้รับทำ SEO ที่สร้างทราฟฟิคไม่ได้จะดันอันดับได้ยาก

  การทำอันดับบน Search Engine ในปัจจุบันมันไม่ได้ง่ายคล้ายยุคก่อนๆ ครับ หากนักทำ SEO ไม่ยอมปรับตัว ต่อให้เป็นบริษัทรับทำ SEO ขนาดใหญ่ แต่ถ้าหากยังใช้วิธีทำอันดับบน Google Search โดยยึดแค่การสร้างแบ็คลิงค์เป็นหลัก ก็ยากที่จะติดอันดับต้นๆ บนผลการค้นหา Search Result ของกูเกิลได้ง่ายๆ เพราะยิ่งคีย์ที่จะทำเอสอีโอเป็นคีย์ตลาด มีข้อมูลการค้นหารายเดือนสูงๆ อาศัยแค่การสร้างลิงค์และการปรับออนเพจภายในเว็บนิดหน่อยๆ มันไม่พอต่อการทำ SEO ในยุคนี้แล้วครับ บ้างก็อาจบอกว่าการทำเอสอีโอก็เหมือนเดิม ใช้แค่การปรับ On Page และ Off Page แต่หารู้ไม่ว่า การดันอันดับบนกูเกิลเสิร์ทในยุคนี้มันมีอะไรมากกว่าแค่การปรับออนเพจหรือออฟเพจ หรือนักทำ SEO บางคนก็บอกว่า ก็ต้องทำให้เว็บติดหน้าแรก Keyword หลัก หรือ Keyword รอง ก่อน จึงจะมีทราฟฟิค ข้อสงสัยคือ แล้วจะใช้ช่วงเวลาเท่าไหร่ในการติดอันดับโดยไม่ใช้ทราฟฟิคในการทำอันดับ แน่นอน ถ้าใช้แต่ลิงค์การทำอันดับจะใช้เวลานานมาก ลองคิดดูง่ายๆ หากท่านเป็น Google แล้วเห็นมีเว็บสร้างขึ้นมาใหม่ๆ เนื้อหาก็ยังไม่มาก แต่ดันมีการสร้างลิงค์จำนวนมากๆ แถมลิงค์ที่สร้างก็ไม่ได้มีคุณภาพ บางทีอาจโพสต์เว็บบอร์ด เว็บประกาศฟรี เสียด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้จะให้คิดได้ไงว่าเป็นเว็บคุณภาพ เพราะเว็บคุณภาพในมุมมองของ Google ในปัจจุบัน คือ เว็บที่มีทราฟฟิคเข้าสู่เว็บไซต์อย่างเป็นธรรมชาติ แน่นอนหลักการสร้างทราฟฟิคเข้าสู่เว็บไซต์ก็ไม่ได้ยากอะไรเลย ยิ่งเป็นทราฟฟิคจาก Google Search ก็ยิ่งง่าย หากแต่ต้องมุ่งเน้นคำว่าคุณภาพ จะต้องเขียนเนื้อหาคุณภาพเป็นมิตรกับผู้อ่าน ผู้ที่เข้ามาอ่านบทความแล้วได้รับความรู้ และยิ่งเว็บของเรามีเนื้อหาจำนวนมากๆ ก็ยิ่งทำให้คนเข้าเว็บเยอะ เพราะโอกาสที่คนจะค้นเจอบทความของเราผ่านทาง Google ก็มากขึ้นด้วย แน่นอนว่าถ้าเป็นเว็บไซต์ใหม่ คนก็จะค้นเจอบทความของเราด้วย Longtail Keyword หรือ Niche Keyword พูดง่ายๆ คือ คีย์เวิร์ดยาวๆ นั่นแหละครับ และถ้ามีคนเข้าเว็บเรามากๆ อย่างต่อเนื่องย่อทำให้อันดับเอสอีโอคีย์เวิร์ดหลักของเว็บขยับขึ้นตามไปด้วย

5. ผู้รับทำ SEO จะต้องทำให้ตัวเลขของเว็บดี

  ผู้ที่รับทำ SEO จะต้องทำให้เว็บมีตัวเลขโดยรวมออกมาดี คำว่าสถิติดีนี้ไม่ได้หมายถึงมีจำนวนแบ็คลิงค์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีลิงค์ภายนอกมากๆ นะครับ และการทำ SEO โดยยึดแนวทางสร้าง backlinks เป็นหลักนั้น อันตรายมากๆ หากมีการสร้างลิงค์บนเว็บที่ไร้คุณภาพ หรือใช้เนื้อหาซ้ำๆ กัน ก็จะโดนกูเกิลทำโทษทันที และเมื่อโดนทำโทษก็ยากที่จะหลุดออกจากการโดนทำโทษง่ายๆ นอกเสียจากว่าจะส่งเสริมให้เว็บกลับมามีคุณภาพมากๆ โดยมีคนเข้ามาอ่านบทความของเว็บมากๆ อย่างต่อเนื่องเท่านั้นครับ การแก้ไขปัญหาลิงค์ด้อยคุณภาพด้วยการส่ง URL List ในเครื่องมือ Google Disavow Tool ก็ไม่ช่วยอะไรหรอกครับ ตราบใดที่ลิงค์ไร้คุณภาพเหล่านั้น ยังคง  Index  อยู่บนผลการค้นหา ฉะนั้น เมื่อการสร้างแบ็คลิงค์ไม่ใช่ถูกสิ่งทุกอย่าง แล้วคำว่าการทำให้สถิติเว็บดีคืออะไร? มันเป็นข้อสงสัยที่หลายคนไม่เข้าใจและต้องการทราบคำตอบอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างการตรวจเช็คตัวเลขง่ายๆ ว่ามีอะไรบ้างที่กูเกิลนำมาคิดเลขในการจัดอันดับ SEO บน Search Result Pages แต่ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้นครับ ส่วนใครอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็ต้องทำการค้นคว้า ทดสอบ ทดลอง กันเอาเอง เทคนิคบางวิธีการของผมก็บอกไม่ได้ครับ เดี๋ยวคู่แข่งจะก็อปปี้ไปใช้งาน แต่ที่แน่ๆ เวลาเรา Log In เข้าสู่ Search Engine Console หรือเดิมเรียกว่า Google Webmas
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องแนะนำเว็บไซต์สมัครใช้รับทำ SEO ประโมทเว็บไซต์ ด้วย Longtail Keyword ติดอันดับกูเกิล โดย cmseogroup
แนะนำบล็อกเลือกใช้รับทำ SEO ทำการตลาดออนไลน์ ด้วย ปรับแต่งเว็บ ติดหน้าแรกกูเกิล โดย ซีเอ็มเอสอีโอกรุ๊ป
อ้างอิงจาก: รับทำ SEO
แท็ก: รับทำ SEO
อ้างจาก: รับทำ SEOแนะนำเว็บไซต์สมัครใช้รับทำ SEO ประโมทเว็บไซต์ ด้วย Longtail Keyword ติดอันดับกูเกิล โดย cmseogroup
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/page/การปรับ-On-Page
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/page/การปรับ-Off-Page
ชื่อ: ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO GROUP)
ที่อยู่: รับทำ SEO เชียงใหม่ 30/7 ถนนบำรุงบุรี ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
เบอร์โทรติดต่อ: 096-237-3905
อีเมล์: thaiseogroup@gmail.com
อ้างอิงจาก: http://www.volvomania.com/forum/index.php?board=9.0
#7
บทความคุณภาพเทคนิคสมัครใช้บริการ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Search Engine Marketing ติดหน้าแรกยาวนาน โดย CM SEO Group อยากเก่งต้องอ่าน

หลักสูตรสมัครใช้บริการ SEO ทำการตลาดออนไลน์ ด้วย Content Marekting ติดหน้าแรกยาวนาน โดย ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป มาเรียนรู้บทความเกี่ยวกับบริการ SEOซึ่งสามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจจากบทความนี้ กระบวนการการเลือกบริษัทบริการ SEO คุณภาพ

  ยุคนี้มีบริษัทที่ให้บริการ SEO เยอะแยะ ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ รวมกัน ผู้ที่รับทำ SEO บางเว็บก็ติดอันดับ Google คีย์เวิร์ดเกี่ยวกับการให้บริการเอสอีโอมายาวนานหลายปี ติดอันดับตั้งแต่ยุคที่ลิงค์เป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ หรือยุคที่ลิงค์มั่งคั่งก็ว่าได้ แม้สมัยนี้ Google จะให้ความสำคัญกับคะแนนลิงค์น้อยลงไปมาก แต่เว็บที่ติดหน้าแรกกูเกิล มาอย่างยาวนาน ย่อมได้เปรียบ และได้แต้มข้อมูลคนเข้าเว็บสะสมมาอย่างยาวนานนั่นเอง กอรปกับ โดเนมเนม ที่มีอายุมากๆ ยิ่งทำให้กูเกิลมั่นใจว่าเว็บเหล่านั้นมีคุณภาพ เมื่อเป็นเช่นนี้ มันก็เป็นการสร้างความซับซ้อนให้กับผู้ใช้บริการ SEO หน้าใหม่ ที่อาจไม่มีเบสิคด้านเอสอีโอ ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานของเอสอีโอสมัยเก่าและสมัยใหม่ ทำให้ไม่มีความรู้ในการเลือกบริษัทบริการ SEO ที่ดี อาศัยแค่ว่าเห็นเว็บผู้ให้บริการเอสอีโอติดหน้าแรก Google เป็นตัวตัดสินว่าจะใช้บริการจากเจ้าไหน ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เว็บที่ให้บริการดันอันดับ Google หลายเว็บใช้เวลาเป็นปี หรืออาจหลายปี กว่าจะติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการให้บริการทางด้าน Search Marketing แต่อย่างว่า ผู้จ้างทำ SEO ก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละเว็บใช้ระยะเวลาการติดอันดับเท่าไหร่ แต่ผมบอกได้คร่าวๆ ว่าใช้ระยะเวลาอย่างน้อยที่สุด 1 ปี ในการทำให้ติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการรับทำเอสอีโอครับ บางเว็บก็ไม่ใช่จะติดอันดับนิ่ง มีการสวิงของอันดับเป็นระยะๆ ติดหน้าแรกบ้าง ติดหน้าสอง หน้าสามบ้าง สลับกันไปมา สิ่งเหล่านี้มันเป็นความเสี่ยงของผู้ที่จะจ้างนักทำ SEO ว่าจะเลือกเว็บไหนดันอันดับจึงจะสามารถทำเอสอีโอติดหน้าแรกได้จริง และยุคนี้การทำ SEO ก็ยากกว่าสมัยก่อนมาก และก็มีนักทำเอสอีโอน้อยรายที่เก่งจริงๆ สิ่งเหล่านี้ผู้จ้างทำเอสอีโอจึงจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีเลือกใช้บริการ SEO ให้สามารถดันอันดับได้จริง เพื่อที่จะใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Internet Marketing ตัวจริง และวันนี้ผมก็มีแนวทางคร่าวๆ ในการเลือกใช้บริการทำอันดับ Google จากมืออาชีพตัวจริง

1. แกะดูวิธีการการดันอันดับของผู้ให้บริการ SEO

  การแกะดูวิธีการของผู้ให้บริการ SEO ว่าใช้เทคนิคอะไรในการดันอันดับ จะช่วยทำให้เราเชื่อมั่นยิ่งขึ้นว่า เราเลือกบริษัทรับทำ SEO ที่มีคุณภาพ ซึ่งเราจะต้องตรวจสอบวิธีการทำเอสอีโอของผู้ให้บริการแต่ละรายอย่างละเอียด เพื่อสามารถนำมาตรวจสอบ และพิจารณาว่าควรเลือกบริษัทไหนในการทำเอสอีโอให้เรา วิธีการแกะดูว่าเว็บไซต์นั้นๆ ใช้วิธีไหนในการทำเอสอีโอ ก็มีตั้งแต่การตรวจสอบดูว่าเว็บนั้นๆ มีการปรับ SEO On Page ยังไง และมีขั้นตอนการสร้าง SEO Off Page คุณภาพมากน้อยขนาดไหน ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ การปรับเอสอีโอออนเพจ คือ การปรับในส่วนของปัจจัยภายในเว็บเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการปรับ Title ของเว็บไซต์ การปรับพวก Meta Tags ต่างๆ ของเว็บ การเน้นคำหรือประโยคภายในเว็บไซต์ รวมไปถึงการกำหนด Keyword หลักของเว็บไซต์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการปรับในส่วนของออนเพจนั่นเองครับ ส่วนการปรับออฟเพจ คือการสร้าง backlinks กลับมายังเว็บไซต์หลัก หรือเรียกว่าการสร้างลิงค์ภายนอกชี้มายังเว็บที่เราจะทำอันดับ ซึ่งการสร้างแบ็คลิงค์ก็มีตั้งแต่การสร้าง Anchor Text Link การสร้าง Domain Link การกระจายคีย์เวิร์ดที่ใช้ในการสร้างลิงค์ เป็นต้น

2. ตรวจเช็คการปรับ On Page ของผู้ให้บริการ SEO

  ขั้นตอนการตรวจเช็คการทำเอสอีโอออนเพจ ของผู้ให้บริการ SEO ก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน วิธีที่ง่ายที่สุด คือการตรวจเช็คการกำหนด Title , Meta Description , Meta Keywords และการเน้นข้อความภายในเว็บ ว่ามีการเน้นข้อความที่เป็น Keyword หลักเป็นธรรมชาติหรือไม่ โดยดูจากความเป็นธรรมชาติของการเน้นขนาดของข้อความ สีตัวอักษร และการกำหนด Paragraph ของเนื้อหา ว่าทำให้เราอ่านสะดวกหรือไม่ และเนื้อหาที่เราอ่านแล้ว เราได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการอ่านครั้งนี้ หรือไม่ นอกจากนี้แล้วยังต้องตรวจสอบอีกด้วยว่า เว็บไซต์นั้นรองรับการแสดงผลบนมือถือหรือไม่ ตามเกณฑ์ของกูเกิลที่กำหนดให้เว็บไซต์จะต้องรองรับ Responsive Design หรือเรียกอีกอย่างว่า Google Mobile Friendly อีกทั้งตรวจเช็คว่าเว็บรองรับเทคโนโลยี AMP ที่ย่อมาจาก Accelerate Mobile Pages หรือไม่ เป็นต้น นอกจากนั้นแล้วให้เราตรวจเช็คว่าเว็บนั้นๆ มีการ  Index  จำนวนกี่หน้า แต่ละหน้านั้นเป็นบทความคุณภาพเป็นมิตรกับผู้ติดตามหรือไม่ โดยใช้คำสั่ง site: ตามด้วยชื่อเว็บที่อยากได้ตรวจเช็คการอินเด็กซ์ รวมทั้งการตรวจเช็คการเชื่อมโยงลิงค์ภายในของเว็บด้วย

3. ตรวจเช็คการปรับ Off Page ของผู้ให้บริการ SEO

  ขั้นตอนการตรวจสอบการปรับเอสอีโอออฟเพจของผู้ให้บริการ SEO เป็นการตรวจสอบว่าผู้ให้บริการเอสอีโอ หรือ เว็บที่เราต้องการตรวจเช็คดูวิธีการสร้าง Backlinks ของผู้ให้บริการนั้นๆ หรือเว็บนั้น ว่าได้สร้างลิงค์คุณภาพหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้เชื่อมั่นว่าหากใช้บริการ SEO กับเว็บนั้นๆ แล้ว เราจะได้รับการสร้างลิงค์กลับมายังเว็บหลักของเราด้วยลิงค์คุณภาพ ช่วยสนับสนุนให้เว็บของเราติดอันดับกูเกิล อย่างมีประสิทธิผล และลดความเสี่ยงของการโดน Google Penalty เพราะต้องบอกก่อนครับว่า การสร้างลิงค์เพื่อดันอันดับเอสอีโอนั้น ไม่ว่าเราจะสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพหรือไม่ ช่วงเริ่มต้นอันดับเอสอีโอของเว็บเราจะสวิงลงก่อนเสมอ หากกูเกิลตรวสอบว่าเราสร้างลิงค์คุณภาพถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกูเกิล อันดับของเว็บไซต์ก็จะขยับขึ้นและเลิศกว่าเดิมครับ ต้องดูด้วยว่าเนื้อหาที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างลิงค์กลับมาหาเว็บหลัก หรือ Money Site นั้น มีบทความสอดคล้องกับหรือไม่ อ่านรู้เรื่องหรือไม่ บทความดังกล่าวเป็นมิตรกับผู้ติดตามหรือไม่ แล้วเมื่ออ่านเนื้อหาดังกล่าวแล้วเราได้รับความรู้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด อีกทั้งต้องดูวิธีการสร้างแบ็คลิงค์ของผู้ให้บริการ SEO ว่ามีการใช้ Anchor Text Link โดยการกระจายคีย์เวิร์ดให้เป็นธรรมชาติหรือไม่ ไม่เน้นคีย์เวิร์ดใดคีย์เวิร์ดหนึ่งมากจนเกินความเหมาะสม ตลอดจนตรวจเช็คด้วยว่า เป็นการสร้างลิงค์บนหน้าเว็บที่น่าเชื่อถือหรือไม่ กล่าวคือ ถ้าเป็นการสร้างลิงค์บนบล็อก หรือเว็บ ที่ไม่มีการโพสบทความซ้ำๆ หรือที่เรียกว่า Duplicate Content ก็โอเคระดับหนึ่ง และต้องไม่เป็นการสร้างลิงค์จากเว็บที่มีลักษณะ Content Farm หรือเว็บที่โพสต์เนื้อหาซ้ำๆ และเป็นเนื้อหาที่ไม่เข้าพวกกัน มีบทความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เป็นต้น

4. ตรวจเช็คการสร้างลิงค์ด้วย Blog Network ของผู้ให้บริการ SEO

  ปัจจัยสำคัญอีกประการที่ผู้จ้างทำ SEO จะต้องเข้าใจและสามารถตรวจสอบบริษัทที่ให้บริการ SEO ว่ามีการใช้ Private Blog Network หรือไม่ และหากมีการใช้เน็ตเวิร์คส่วนตัวในการทำเอสอีโอแล้ว PBN ดังกล่าว มีคุณภาพมากน้อยขนาดไหน และผู้จ้างทำเอสอีโอจะต้องเข้าใจด้วยว่าเว็บแบบไหนที่เรียกว่าเน็ตเวิร์คส่วนตัวด้วยครับ และ Network ส่วนตัวส่วนมากจะใช้ CMS หรือ Webboard เป็นหลัก ถ้าเป็นซีเอ็มเอสก็จะนิยมใช้ Wordpress สำหรับสร้างเน็ตเวิร์คส่วนตัว เพราะว่าเวิร์ดเพลสรองรับเอสอีโอมากที่สุดในตระกูลของบล็อกฟรีครับ ส่วนถ้าเป็นเว็บบอร์ดก็จะเป็น SMF ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดที่สนับสนุนเอสอีมากที่สุดสำหรับเว็บบอร์ดฟรี แต่ถ้าเสียตังค์ก็จะเป็น Vbulletin ที่สนับสนุนเอสอีโอได้เจ๋งกว่าเอสเอ็มเอฟครับ สิ่งที่ควรสังเกตอีกอย่างคือ ถ้าเป็นเว็บที่ใช้ทำเน็ตเวิร์คส่วนตัว ส่วนมากจะเป็นเว็บปิด ไม่เปิดให้มีสมาชิกมาร่วมโพสต์บทความด้วย และคนที่โพสต์บทความส่วนใหญ่จะเป็นชื่อซ้ำๆ กันแต่จะโพสเนื้อหาไม่เหมือนกัน และสร้างลิงค์ไปยังหลายๆ เว็บ และส่วนใหญ่จะเป็น Admin ที่โพสต์บทความเพื่อสร้าง backlinks ครับ อีกอย่างหนึ่ง คือ ลักษณะการโพสต์ หากเป็นเน็ตเวิร์คส่วนตัว จะมีหลายๆ เว็บที่มีลักษณะเหมือนๆ กัน เนื้อหามีเนื้อหาใกล้เคียงกัน หรือบางครั้งอาจคล้ายๆ กันในบางจุด แต่จะชี้ไปยังเว็บจุดหมายปลายทางเหมือนๆ กันในเวลาที่โพสต์คล้ายกันกัน ถ้าพบแบบนี้ เป็นการสร้างเน็ตเวิร์คส่วนตัวเพื่อทำอันดับแน่นอน แม้ว่ายุคปัจจุบันนักทำ SEO จะชื่นชอบใช้ Network ส่วนตัวดันอันดับลดลง เพราะต้นทุนสูง โอกาสโดนกูเกิลแบนมีมาก และยุคปัจจุบันต้องอาศัย IPs ของ SEO Hosting จำนวนมากๆ จึงจะเห็นผล ทำให้มีต้นทุนที่สูง นักทำเอสอีโอส่วนมากจึงหันไปโพสต์เว็บบอร์ด หรือบล็อกฟรี เพื่อสร้างลิงค์กลับไปยังเว็บหลัก

5. ตรวจสอบการใช้ Google Search Console ของผู้ให้บริการ SEO

  ในการทำเอสอีโอผู้ให้บริการ SEO จะต้องนำเว็บเข้าสู่ระบบ Google Search Console ซึ่งเมื่อก่อนเรียกว่า Google Webmaster Tools เพื่อที่จะทำให้เว็บไซต์สามารถดันอันดับได้ดียิ่งขึ้น เพราะภายในกูเกิลเสิร์ทคอนโซลมีเครื่องมือสำหรับสนับสนุนการทำให้เว็บสนับสนุน Search Engine ไม่ว่าจะเป็นการส่ง Sitemap ของเว็บเราไปยังกูเกิล เพื่อทำให้ Googlebot เข้ามาเก็บข้อมูลได้รวดเร็วและง่ายขึ้น เพราะว่าหากเว็บของเราสามารถ  Index  บน Search Result เร็วๆ นั่นย่อมมาถึงการเพิ่มโอกาสที่คนจะคลิกเข้าสู่เว็บของเราผ่านทาง Search Engine มากตามไปด้วยนั่นเองครับ อีกทั้งภายในเครื่องมือ Google Search Console ยังมีฟังก์ชั่นการดึงหน้าเว็บคล้ายเป็น Google เอาไว้ให้เราเรียก Googlebot มาเก็บข้อมูลภายในเว็บขอเราทันทีที่เราอัพเดทข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว และไม่อยากรอให้บอทมาเก็บก็สามารถเรียกบอทมาได้ทันที ซึ่งหนึ่งบัญชีสามารถเรียกกูเกิลบอทแบบเรียลไทม์ได้เดือนละ 10 ครั้ง และสามารถเรียกบอทแบบธรรมดาเดือนละ 500 ครั้ง ต่อ 1 Account นั่นเองครับ อย่างไรก็ตามหากไม่ได้อัพเดทข้อมูลภายในเว็บไซต์ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้งานฟังก์ชั่นส่วนนี้ เพราะอาจส่งผลเสียต่ออันดับครับ

6. สอบถามผู้ให้บริการ SEO ตรงๆ ว่าสร้าง Traffic ได้หรือไม่

  แม้ว่าเราจะสามารถตรวจสอบข้อมูล Traffic ของเว็บไซต์อื่น หรือเว็บผู้ให้บริการ SEO ว่าสามารถสร้างทราฟฟิคได้หรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบจากการเอา URL ของ ชื่อเว็บ ไปตรวจสอบกับเว็บตรวจสอบ Backlinks และ Traffic ของเมืองนอก เราสามารถเลือกดูในส่วนของทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บไซต์นั้นๆ ได้ แต่อย่างว่าครับ หากเราไม่ใช่เจ้าของเว็บไซต์ แม้เราจะเอาชื่อชื่อเว็บไปตรวจสอบตัวเลขทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บไซต์ ก็เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆ มีความคลาดเคลื่อนสูงมาก สรุป คือ เราไม่สามารถตรวจตัวเลขทราฟฟิคของเว็บไซต์อื่นได้ เว้นแต่ว่าเว็บนั้นมีการติดตัวนับคนเข้าเว็บ หรือที่เรียกว่า Counter หรือ Visitor Stats นั่นเองครับ ในประ
รูปที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องเทคนิคสมัครใช้บริการ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Search Engine Marketing ติดหน้าแรกยาวนาน โดย CM SEO Group
ทำการตลาดออนไลน์เลือกใช้บริการ SEO โปรโมทเว็บ ด้วย Promote Web ติดหน้าแรกยาวนาน ปลอดภัย โดย ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: บริการ SEO
อ้างจาก: บริการ SEOเทคนิคสมัครใช้บริการ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Search Engine Marketing ติดหน้าแรกยาวนาน โดย CM SEO Group
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/page/SEO-คืออะไร
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/page/Google-Suggest-คืออะไร
ชื่อ: ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO GROUP)
ที่อยู่: รับทำ SEO เชียงใหม่ 30/7 ถนนบำรุงบุรี ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
เบอร์โทรติดต่อ: 096-237-3905
อีเมล์: thaiseogroup@gmail.com
อ้างอิงจาก: http://www.volvomania.com/forum/index.php?board=9.0
#8
ความรู้ณฐอร ฎาสุรินทร์ ทำเว็บ ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป ให้คำปรึกษาด้านการตลาด ทำอันดับเอสอีโอติดหน้าแรกกูเกิล สุดยอดความรู้

ณฐอร ฎาสุรินทร์ เปิดเว็บไซต์ CM SEO GROUP ให้คำปรึกษาด้านการตลาด รับโปรโมทเว็บติดอันดับกูเกิล ยินดีต้อนรับท่านผู้มีเกียรติทุกท่านวันนี้ผมจะมานำเสนอเกี่ยวกับณฐอร ฎาสุรินทร์อ่านได้จากเนื้อหาต่างๆจากที่นี่ คุณณฐอร ฎาสุรินทร์ คือใคร เกี่ยวอะไรกับเว็บ CM SEO Group ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป

  สวัสดีครับผู้ติดตามทุกท่าน วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องราว แชร์ประสบการณ์ เกี่ยวกับ ความเป็นมา เป็นไป ของบริษัทรับทำ SEO ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO Group) ซึ่งมีคุณณฐอร ฎาสุรินทร์ เป็นเจ้าของกิจการ เรื่องจริงแล้ว คุณณฐอร ฎาสุรินทร์ ไม่ได้มาบริหารเกี่ยวกับการบริการ SEO หากแต่เป็นเจ้าของกิจการ และเป็นผู้จดทะเบียนเท่านั้น ครับ จริงๆ แล้วผมอยู่ในวงการ SEO มายาวนานพอสมควร ได้ศึกษา ค้นคว้า และพัฒนาขั้นตอนการทำ SEO ที่มีคุณภาพ แบบใหม่ อยู่ตลอดเวลา ครับ และต้องบอกว่า CM SEO Group มิได้เป็นบริษัทแรก หรือเว็บแรก ของเรา หรือ ที่ผมทำงาน จริงๆ ผมก็รับงานทำ SEO มามากในดับหนึ่ง มีทั้งเสียงชื่นชม และเสียงตำหนิ ติเตียน จากลูกค้า ผู้ใช้บริการ ด้วยคอนเซ็ปการปฏิบัติงาน ที่พยายามมุ่งหน้า ใช้ขั้นตอนการ วิธีการ ใหม่ๆ อยู่สม่ำเสมอ โดยไม่ได้คำนึงถึงการ Save Cost เกี่ยวกับต้นทุนการทำงาน เพราะผมมุ่งที่ประสบธิภาพของงานมากกว่านั่นเองครับ และแน่นอนว่าพอใช้ต้นทุน งบประมาณสูง เพื่อต้องการทำ SEO ด้วยเทคนิคคุณภาพจริงๆ แต่อย่างว่า งานทุกงาน ย่อมมีปัญหา ทำงานกับคนหมู่มาก คนจ้างงานก็หวังแต่ผลของงาน และลูกค้าหลายคน มักไม่สนใจว่าผู้ให้บริการต้องใช้ทุน และแบกรับภาระอะไรบ้าง แน่นอนว่าการทำ SEO ใช่ว่าผมจะทำติดหน้าแรกกูเกิล ได้ทุก Keyword และยิ่งยุคปัจจุบันการทำ SEO มีความยากขึ้น ละเอียดขึ้น และมุ่งเน้นคำว่าคุณภาพมากกว่าเดิม จริงๆ แล้วถ้าหากเราทำ SEO เพียงแค่การปรับ On-Page และ Off-Page มันก็จะช่วยใช้อย่างพอเพียงต้นทุน ค่าใช้จ่ายไปได้มากครับ หากแต่การทำแค่นี้ มันรับประกันอันดับได้ยาก ผมจึงจะต้องปรับปรุงระบบ ที่เรียกว่า การเพิ่ม Google Traffic เข้าเว็บ วิธีการนี้ จะต้องวาง Server เพื่อทำ Private Blog Network หรือ สร้างเว็บ ขึ้นมาเอง หลายๆ เว็บ แล้วสร้าง Content คุณภาพ เพื่อให้คนเข้าไปอ่าน และจดจำ Brand หรือชื่อเว็บไซต์ เพื่อที่จะค้นหาและคลิกเข้าเว็บหลัก นั่นเองครับ กระบวนการ หรือ วิธีการนี้ ใช้ทุนดูเหมือนจะสูงมากๆ ลำพังเพียงแค่การสร้าง Network ส่วนตัว เพื่อสร้าง Links สำหรับทำอันดับ SEO ก็นับว่ายุ่งยากซับซ้อน และใช้ทุนมากอยู่แล้ว อันนี้ ผมเล่นนำมาประยุกต์ใช้กับแนวทางทำการประชาสัมพันธ์แบบ Content Marketing บางที พูดได้ว่า ไม่ได้อะไรเลย และบาง Keyword ที่ทำให้ลูกค้าไม่ติดก็มี และนั่นแหละครับ อุปสรรคที่ตามมา เพราะเอกสารสัญญาณบางฉบับ เขียนไว้ว่าต้องคืนเงินครึ่งหนึ่ง กรณี อันดับไม่ขยับขึ้นเลย หรือไม่ติดอันดับต้นๆ แต่ทว่าเว็บลูกค้า มีการขยับขึ้น และมีอันดับที่ดีขึ้นอย่างแม่นยำ แต่ก็ยังมีความไม่รู้ของเรื่องสัญญา หรือว่าทางฝ่ายผมและผู้ใช้บริการ สมัยนี้ผมจึงกำหนดไว้ใแจ่มแจ้งเลยว่า ทางผมจะไม่มีการ Refund หรือ ไม่มีการ คืนเงิน ทุกกรณี เนื่องด้วยเพราะวิธีการดันอันดับบน Google Search ของเรา ใช้ต้นทุนสูง เพราะต้องหาคนเข้าเว็บลูกค้าจาก Google Search นั่นเองครับ จริงๆ แล้ว ผมสามารถทำ SEO คล้ายนักทำเอสอีโอรายอื่น หรือบริษัทรับทำเอสอีโออื่นๆ ได้ แต่ปรับแค่ออนเพจให้รองรับคีย์เวิร์ดที่จะทำอันดับบนกูเกิล จากนั้นก็ไปเน้นทำออฟเพจ หรือสร้างแบ็คลิงค์กลับมายังเว็บหลัก โดยไม่ต้องชอบว่าจะมีคนเข้าเว็บจาก Google Search หรือไม่ ถ้าติดอันดับก็คิดว่าคิดค่าบริการลูกค้าในส่วนที่เหลือ ถ้าไม่ติดก็คืนเงินให้ครึ่งหนึ่ง อันนี้เป็นสิ่งที่ทำได้อยู่แล้ว ถ้าทำอย่างนี้ เพราะต้นทุนมันต่ำกว่ากันมากครับ

ประวัติคุณณฐอร ฎาสุรินทร์

  คุณณฐอร ฎาสุรินทร์ เดิมชื่อ วิลาวัลย์ ฎาสุรินทร์ เปลี่ยนชื่อ เพราะเชื่อเรื่องของดวงชะตา ราศี เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2528 มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นคนจังหวัดเชียงใหม่มาโดยกำเนิด อยู่บ้านเลขที่ 30 ซอย 7 ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีพี่น้องร่วมบิดาร มารดา 1 คน คุณณฐอร ฎาสุรินทร์เป็นลูกคนเล็ก จับการศึกษาจากสถาบันการศึกษาแม้โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ภาควิชาสถาปัตยกรรม ภูมิทัศน์ พูดง่ายๆ ว่าเรียนออกแบบมานั่นเองครับ และได้มาเป็นผู้จดทะเบียนพาณิชย์ CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป) โดยมีผมเป็นผู้รับงาน ดันอันดับเอสอีโอ บางครั้งที่แนวทางการทำงานของผมจะมุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงาน และการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ และเทคนิคใหม่ๆ มาบริการลูกค้า โดยที่ใช้ทรัพยากร และต้นทุนที่สูง และบ่อยครั้ง ที่ผมมักจะมองว่าลูกค้า น่าจะเห็นถึงความพยายามทำงาน และการทุ่มเท แต่ไม่ครับ ลูกค้าเขาไม่ได้มองสิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นหลัก เขาดูที่ผลของงานอย่างเดียว แต่ลูกค้าหลายรายก็เข้าใจถึงระเบียบการทำงาน และภาระที่ผู้ให้บริการต้องแบกรับ กิจการ งาน ธุรกิจ ใดๆ มันจะก้าวไปข้างหน้าไม่ได้เลย ถ้าผู้ให้บริการต้องแบกรับความเสี่ยง โดยทีต้องมีการ Refund ลูกค้ากลับคืนไป ค่าจ้าง ค่าเปลืองเวลา ค่าต้นทุน และแนวทางทำงา
รูปที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องณฐอร ฎาสุรินทร์ ทำเว็บ ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป ให้คำปรึกษาด้านการตลาด ทำอันดับเอสอีโอติดหน้าแรกกูเกิล
ณฐอร ฎาสุรินทร์ เปิดเว็บไซต์ CM SEO GROUP ให้คำปรึกษาด้านการตลาด รับโปรโมทเว็บติดอันดับกูเกิล
อ้างอิงจาก: ณฐอร ฎาสุรินทร์
แท็ก: ณฐอร ฎาสุรินทร์
อ้างจาก: ณฐอร ฎาสุรินทร์ณฐอร ฎาสุรินทร์ ทำเว็บ ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป ให้คำปรึกษาด้านการตลาด ทำอันดับเอสอีโอติดหน้าแรกกูเกิล
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/page/วิธีทำ-SEO-ด้วยตัวเอง
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/page/วิธีสร้าง-Backlink-คุณภาพ
ชื่อ: ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO GROUP)
ที่อยู่: Hamony Office หมู่ 1 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 50210
เบอร์โทรติดต่อ: 096-237-3905
อีเมล์: thaiseogroup@gmail.com
อ้างอิงจาก: http://www.cmxseed.com/cmxseedforumn/index.php?board=73.0
#9
สนทนาเกี่ยวกับCM SEO GROUP ดีจริง บริการ SEO ทำการตลาดออนไลน์ โปรโมทเว็บติดอันดับ Google อ่านแล้วจะร้องอ้อ

ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป ดีจริง รับทำ SEO ทำการตลาดออนไลน์ โปรโมทเว็บติดอันดับ Google หากท่านต้องการทราบคำตอบเกี่ยวกับCM SEO GROUPอ่านเนื้อหานี้แล้วจะทำให้ท่านเข้าใจมากยิ่งขึ้น ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป CM SEO Group เรารับทำ SEO คุณภาพ สายขาว

  สวัสดีครับ เราทีมงาน ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป CM SEO Group พร้อมให้บริการ SEO สายคุณภาพ ทำ SEO สายขาว โปรโมทเว็บติดหน้าแรก Google ด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามหลัก Google Algorithm หลังสุด รองรับ Core Algorihtm ล่าสุดของกูเกิล เรามุ่งหน้าวิวัฒนาการบริการทางด้าน Internet Marketing และ Online Marketing มาอย่างสม่ำเสมอ เป็นระยะเวลากว่า 7 ปี ที่เราอยู่ในวงการ SEO ไทย และการตลาดออนไลน์ของไทย และได้พัฒนาฝีมือ ความสามารถ และการทำการตลาดผ่านทาง Search Engine โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำการประชาสัมพันธ์กับเสิร์ซเอ็นจิ้นอันดับหนึ่งของโลก อย่าง Google Search เราได้ปรับปรุงขีดความสามารถในการทำการตลาดออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนปรับปรุงประเภทการทำการตลาดออนไลน์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการ รับดันอันดับบน Google Search หรือ การรับดันอันดับบน Search Box เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิผล และได้รับผลตอบรับมากกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่รับรองว่าเรามุ่งมั่นปรับปรุงทางด้าน Search Marketing อย่างไม่ยิ่งยั้ง เพื่อเป็นผู้นำทางได้านการตลาดออนไลน์อย่างสมบูรณ์แบบ

ทำ SEO กับ ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป CM SEO Group ทำไม ไม่มีการ Refund (คืนเงิน) ?

  ผมเชื่อมั่นว่าหลายคน คงข้องใจ ว่าทำไม ใช้บริการ SEO หรือใช้บริการอื่นๆ กับเรา แล้วไม่มีการคืนเงิน หรือ Refund กรณีที่ครบกำหนดส่งงาน แล้วอันดับบาง Keyword ไม่ติดหน้าแรก Google แต่เรารับรองว่า 99% ของการทำ SEO กับเราติดอันดับอย่างแน่นอน ผมอยากจะชี้แจงรูปแบบการทำ SEO ของเราว่ามีความแตกต่างจากที่อื่น บริษัทรับทำ SEO เจ้าอื่น ทั่วไป ส่วนมากจะใช้ขั้นตอนการทำอันดับเอสอีโอ ด้วยการสร้าง Backlink เป็นหลัก โดยมีการปรับ On-Page และ Off-Page นั่นเอง ซึ่งแน่นอน การดันอันดับบน Search Engine ในสมัยนี้ จะใช่แค่การปรับออนเพจ และออฟเพจ เหมือนการทำเอสอีโอยุคก่อนๆ คล้ายในยุคก่อน
ไม่ได้แล้ว ถ้ายังอาศัยแค่การสร้าง Backlinks เพื่อดันอันดับ โอกาสที่จะติดหน้าแรกกูเกิล นั้นยากมากๆ ทางเราจึงเพิ่มความสามารถให้ สามารถทำอันดับบน Search Engine อีกทั้งสนับสนุนระบบ Algorithm ใหม่ๆ ของกูเกิล ไม่ว่าจะเป็น Google Panda 4.2 , Google Penguin 4.0 และ Google RankBrain ซึ่ง แน่นอนที่สุด ว่าการทำอันดับให้สนับสนุน กูเกิลอัลกอริทึมใหม่ๆ จะต้องทำให้มีคน (User) เข้าสู่เว็บ ไม่ว่าจะเป็นการหาคนเข้าเว็บผ่านทาง Google การหาคนเข้าเว็บผ่านทาง Facebook และทราฟฟิกที่มีความสำคัญมากที่สุด และช่วยสนับสนุนให้เว็บติดอันดับได้เร็ว และมีประสิทธภาพ คือ การโปรโมทให้คนเข้าเว็บจาก Google Search หรือที่เรียกว่า Search Engine Traffic สมัยนี้ เราจะรอให้ติดหน้าแรกกูเกิล ก่อน เพื่อรอทราฟฟิกเข้า แบบนี้ จะติดอันดับยากมากๆ ยิ่งเป็น Keyword ตลาด ยิ่งยากขึ้นไปใหญ่ เพราะยุคนี้ เว็บไหนไม่มีคนเข้าเว็บ ต่อให้มีปริมาณ Backlinks มากๆ มี Content มากๆ มีเว็บหลายๆ หน้า ก็ติดอันดับได้ยาก เพราะว่า เว็บคู่แข่ง หรือเว็บที่ติดอันดับกูเกิล ก่อนหน้า มีปริมาณทราฟฟิกเข้าเว็บสม่ำเสมอ มีค่า CTR (Click Through Rate) สะสมทุกวัน มีค่า Time On Site และค่า Return Visitors ที่มากกว่าเว็บใหม่ๆ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการทำ SEO ต้องใช้ต้นทุนสูง และไม่การคืนเงิน (Refund) ทุกกรณี แค่เพียงการสร้างคอนเทนต์คุณภาพเพื่อโปรโมทให้คนเข้าเว็บ ทำให้คนรู้จักเว็บไซต์ จดจำแบรนด์ ตลอดจนค้นหาผ่านทาง Search Engine ด้วยหลัก Content Marketing ใช้ต้นทุน และทรัพยากรที่สูง แต่การันตีได้ว่า เว็บของลูกค้าจะได้รับ Feedback ที่ดี อีกทั้งสถิติที่เราทำให้คนเข้าเว็บ จะอยู่กับเว็บของลูกค้าเสมอไป และ Google จะยังใช้ค่าเหล่านี้ในการวิเคราะห์คุณภาพของเว็บไซต์ลูกค้า ทุกๆ การอัพเดท ปรับปรุง Algorithm ใหม่ๆ ของ Google ครับ

ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป CM SEO Group จดทะเบียนโดยคุณ ณฐอร ฎาสุรินทร์

  บริษัทรับทำ SEO ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป CM SEO GROUP จดทะเบียนโดยคุณ ณฐอร ฎาสุรินทร์ โดยได้เปิดให้บริการด้าน Online Marketing และบริการด้าน Internet Marketing โปรโมทเว็บไซต์ติดอันดับ Google ด้วยเทคนิคคุณภาพ โดยยึดแนวทางทำการตลาดออนไลน์ด้วยการสร้าง Content Marketing สอดคล้องกับระบบ Search Engine ที่มุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้งานเป็นหลัก การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน การนำเสนอเว็บไซต์ในเชิงสร้างสรรค์ นำเสนอคอนเทนต์คุณภาพ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน หรือ ผู้ค้นหาข้อมูล

ทำไมทำ SEO กับเรา ไม่มีการ Refund ไม่มีการคืนเงิน ทุกกรณี?

  ผมคิดว่ามันเป็นอุปสรรคโลกแตก เลยก็ว่าได้ ที่ผมมีแนวความคิด และผมทำ SEO ที่ไม่เหมือนกว่าชาวบ้าน เพราะผมทำ SEO ได้แตกต่างกว่านั่นแหละครับ ผมรับรองได้เลยว่า เพียงแค่เดือนแรก ผมสามารถหาคนเข้าเว็บจาก Google ให้ลูกค้าได้ เฉลี่ยวันละ 300 คนขึ้นไป และยุคนี้ การทำ SEO เว็บไหนไม่มีคนเข้าติดอันดับยาก และแน่นอน ตัวเลขคนเข้าเว็บจะถูก Google เก็บสะสมใช้เป็นคะแนน และเกณฑ์ที่ชี้วัดด้านคุณภาพ จนกว่าเจ้าของเว็บไซต์จะปิดเว็บทิ้งไป เรามาดูกันว่า ทำไมการทำ SEO ของผมถึงไม่มีการ Refund หรือ คืนเงินให้ลูกค้า (แต่ที่แน่ๆ Web ผมโดนลูกค้าที่ไม่รู้การปฏิบัติงาน Discredit ไปแล้ว แต่ผมมั่นใจว่าผมทำ SEO ได้ดี และการพิสูจน์ให้ติดอันดับกูเกิล TOP 1 จะเป็นเครื่องยืนยันเอง)

1. เราหาคนเข้าเว็บจาก Search Engine ได้ภายในช่วงเวลา 1 เดือน

  การโปรโมทให้คนค้นหาและคลิกเข้าเว็บจาก Google ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด โดยเฉพาะเว็บไซต์ใหม่ๆ หรือเว็บที่ไม่เคยมีคนเข้าเว็บเกินวันละ 100 คน อยู่ๆ จะโปรโมทให้คนเข้าเว็บจาก Search Engine โดยการค้นหาและคลิกใน Keyword ที่เกี่ยวข้องกับ Keywords หลักของเว็บ นั้น ยากยิ่งกว่าอะไรดี ขนาดเว็บของบริษัทรับทำ SEO หรือผู้รับทำ SEO Freelance ยังหาคนเข้าเว็บหลัก 300 คน/วัน ขึ้นไป ยังยาก และทำกันไม่ได้ เพราะการทำให้คนเข้าเว็บจาก Google Search ต้องใช้หลักของ Content Marketing ต้องเขียนเนื้อหาคุณภาพปริมาณมาก ต้องสร้าง Brand ให้คนจดจำ สิ่งเหล่านี้ ใช้ต้นทุนสูงมากๆ แค่ค่าเขียนบทความก็สูงแล้ว เพราะต้องใช้บทความคุณภาพไม่เหมือนกับเว็บอื่น เป็นร้อย เป็นพันเนื้อหา สิ่งเหล่านี้ ลูกค้าบางคน หรือหลายท่าน อาจจะยังไม่เคยรู้ ไม่เคยเข้าใจอะไร และตัวเลข คนค้นหา และคลิก เข้าเว็บผ่านทาง Google มันส่งผลดีต่อเว็บทั้งระยะสั้น หรือระยะยาวอยู่แล้ว พูดได้เต็มปากว่า ระยะยาว ข้อมูลเหล่านี้ ยังไงก็ทำให้เว็บติดหน้าแรก Google ได้อย่างแน่นอน แม้ว่าบาง Keyword เราจะดันใหัติตหน้าแรกไม่ทัน แต่ลูกค้าบางราย มักจะใช้เงื่อนไขของช่วงเวลา เพื่อทำให้มีการ Refund หรือคืนเงิน สิ่งที่เราทำให้ Traffic หรือ User ที่เราสร้างให้ จาก Search Engine ไม่เกิดประโยชน์ในมุมมองลูกค้าบางคน ฉะนั้น เรายืนยันว่า ข้อตกลงการทำงนของเรา ไม่มีการคืนเงิน หรือ Refund ทุกกรณี เรามีเจ๋งกว่าที่อื่น ต้องการเงินคืน (ได้ไม่ได้ไม่รู้) ไปจ้างที่อื่นได้ เพราะเราหาคนเข้าเว็บจาก Google ตั้งแต่เริ่มทำ SEO เดือนแรก ถ้าไปจ้างที่อื่น เขาสร้างแค่ Links ไม่ว่าระยะสั้นหรือระยะยาว ยังไงก็ติดอันดับยาก ขอ Art นิดหนึ่ง พอดีมีของดีครับ สำหรับลูกค้า หัวหมอ บางราย ไม่รับครับ!!! สรุป เราสามารถโปรโมทให้คน ค้นหา และคลิกเข้าเว็บ ผ่านทาง Google Search ได้ตั้งแต่เดือนแรก 300 - 1,000 คน/วัน ขึ้นไป ตั้งแต่เดือนแรก ที่อื่นทำไม่ได้ ยิ่งเป็นเว็บไซต์ใหม่ ไม่มีคนเข้าเว็บเลย ไปจ้างบริษัทรับทำ SEO ที่ทำเป็นแค่ Backlinks ยังไงก็ติดหน้าแรกยากมากๆ

2. เราสร้างเนื้อหาคุณภาพ ทุกโพสต์ที่สร้าง Backlink!!!

  หากอ่านบทความหลายๆ เนื้อหาภายในเว็บของเรา จะเข้าใจวิธีการตรวจเช็คบริษัทรับทำ SEO ว่าใช้วิธีกาสร้าง Backlinks คุณภาพหรือไม่ บทความอ่านรู้เรื่องหรือไม่ อ่านเนื้อหาแล้วได้รับความรู้หรือไม่ ตลอดจนผมได้อธิบายแนวทางการดูว่า Backlinks ไหนที่มีคุณภาพ และลิงค์ที่มีคุณภาพ ก็เกิดจากการสร้าง Content คุณภาพ เพื่อชี้ลิงค์กลับเข้าสู่เว็บหลักนั่นเองครับ และเรายืนยันว่าเราไม่ได้ใช้เทคนิค Spin บทความ อ่านไม่รู้เรื่อง และสิ่งเหล่านี้ เป็นการทำ SEO ที่ผิดกฎของ Google เราจึงเขียนบทความคุณภาพ ไม่ซ้ำกันทุกโพสต์ สามารถตรวจเช็คได้ เนื้อหามีความเป็น Unique Content 100% อ่านรู้เรื่อง อ่านแล้วได้รับความรู้ ตามหลักแล้วการว่าจ้างเขียนบทความ ในตลาดคิดราคา 50 - 100 บาท/เนื้อหา ความยาว 1 หน้า A4 อันนี้ไม่ได้พิมพ์งาน แต่เป็นการสร้างเนื้อหาขึ้นมาใหม่ ไม่ได้พิมพ์ตามหนังสือ และลองคิดดูว่าเราต้องเขียนบทความ หลักพันบทความ เพื่อสร้าง Backlinks ให้กับลูกค้า เพื่อแข่งกับคู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ถ้าการจ้างทำ SEO แล้วต้องคืนเงิน ทั้งที่เราทำคุณภาพมากๆ ไม่ได้ใช้แนวทางการ Spam Link แม้แต่น้อย ไม่มีบริษัทไหน หรือ ใคร สามารถประครองธุรกิจ ไปได้หรอกครับ ที่อื่นเขาใช้วิธี Spin บทความ , ซื้อ-จำหน่าย Text Link , สร้าง Private Blog Network แล้วติด Link ไม่มีคุณภาพ , ใช้แนวทางการแลกลิงค์ , ใช้ขั้นตอนการซื้อขายเว็บที่มีค่า PR(ปัจจุบั้น Google ไม่แสดงค่า PR แล้ว) , PA , DA สูงๆ เพื่อตบตา Google ซึ่ง วิธีการสายดำอะไรแบบนี้ ต้นทุนยังก็ถูกกว่าการทำ SEO ด้วยหลัก Content Marketing แล้วครับ อยู่ที่ลูกค้าแล้วว่าจะเลือกแบบไหน เรายึดหลักทำ SEO สมัยใหม่ ถ้ามีลูกค้าเอาแนวทางการทำงานของเราไปเปรียบเทียบกับบริษัทอื่น ที่ใช้แนวทางการด้อยคุณภาพ ก็สุดแล้วแต่ การบรรยายอะไรให้กับคนที่ไม่ยอมเปิดใจ ยอมรับอะไรง่ายๆ ฝืนไปก็เท่านั้น เราทำงาน SEO เรา Art แต่เรามีคุณภาพมากพอ และเจ๋งกว่า

3. เราสามารถโปรโมทให้ค่า CTR , Time On Site , Return Visitor , User Online เพิ่มขึ้นได้

  เพราะเรื่องแบบนี้ที่กล่าวมาข้าวงต้น แหละครับ ที่ทำให้ผม เคยเลิกจะทำวิชาชีพ SEO นี้ไปแล้ว เพราะจริงๆ ผมก็เป็นนัก Trade Forex และพัฒนา EA สำหรับเทรดตลาดเงินต่างประเทศ แต่ผมทำ SEO เพิ่มค่าเหล่านี้ได้ และผมมาคิดว่า ถ้าเปรียบเทียบแบบ เว็บไซต์ใหม่ๆ พร้อมๆ กัน และ ยังไงเทคนิคผมก็ทำ SEO ได้เลิศกว่าคนอื่น เป็นมวยก็เทียบปอนด์ต่อปอนด์ดีที่สุด ผมจึงต้องทำ SEO ให้คนที่เข้าใจระบบการดันอันดับของเรา เพราะยุคปัจจุบัน Google หันมาให้ความสำคัญกับ Content และ User เป็นหลัก และ Google ให้น้ำหนักกับ User มากกว่า แม้ว่าเว็บจะมีบทความคุณภาพ มีแบ็คลิงค์คุณภาพ แต่ถ้าทำให้คนเข้าเว็บ หรือ คนอ่าน ไม่ได้ Google ก็มองว่าเว็บนนั้นๆ ยังไม่มีคุณภาพอยู่ดี และถ้าไม่มีคนเข้าอ่านเว็บอย่างต่อเนื่อง โอกาสที่จะติดอันดั
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องCM SEO GROUP ดีจริง บริการ SEO ทำการตลาดออนไลน์ โปรโมทเว็บติดอันดับ Google
CM SEO GROUP ดีไหม รับทำ SEO ให้คำปรึกษาด้านการตลาด โปรโมทเว็บไซต์ติดอันดับ Google
อ้างอิงจาก: CM SEO GROUP
แท็ก: CM SEO GROUP
อ้างจาก: CM SEO GROUPCM SEO GROUP ดีจริง บริการ SEO ทำการตลาดออนไลน์ โปรโมทเว็บติดอันดับ Google
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/page/วิธีทำ-SEO-ด้วยตัวเอง
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/page/วิธีสร้าง-Backlink-คุณภาพ
ชื่อ: ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO GROUP)
ที่อยู่: Hamony Office หมู่ 1 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 50210
เบอร์โทรติดต่อ: 096-237-3905
อีเมล์: thaiseogroup@gmail.com
อ้างอิงจาก: http://www.volvomania.com/forum/index.php?board=9.0
#10
ช่วยแนะนำบทความเลือกใช้รับทำ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Promote Website ติดอันดับต้นๆ โดย ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป ที่หลายคนควรรู้

เรียนการตลาดออนไลน์สมัครใช้รับทำ SEO โปรโมทเว็บ ด้วย Promote Website ติดอันดับ Google โดย cmseogroup เริ่มต้นศึกษาเกี่ยวกับรับทำ SEOทำความเข้าใจได้จากบทความนี้ วิชาชีพรับทำ SEO ไม่ได้ง่าย

  เมื่อก่อนอาชีพรับทำ SEO ใครๆ ก็สามารถทำได้ ขอแค่ขยัน และสร้าง Backlink เป็น แต่สมัยนี้ไม่เหมือนออกไป มันเป็นเรื่องที่น่านักใจสำหรับผู้ที่คิดจะจ้างทำ SEO อย่างแน่นอน เพราะผู้ที่จะจ้างทำอันดับบน Search Engine มักจะคิดว่าเว็บรับทำ SEO ทั้งหลาย ที่ติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการให้บริการเอสอีโอ SEO Services นั้น น่าจะสามารถดันอันดับบน Search Engine ได้ แต่หารู้หรือไม่ว่า เว็บบริษัทที่รับทำเอสอีโอ กว่าที่เขาจะติดอันดับใช้เวลาเป็นปีๆ แต่กลับบอกลูกค้าหรือผู้ที่จะจ้างทำเอสอีโอว่า สามารถทำอันดับภายในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งมันผิดกฎทำเอสอีโอในยุคนี้อย่างสิ้นเชิงครับ อีกทั้งหลายเว็บติดอันดับ Google ในคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับการให้บริการทำอันดับ Google ก่อนหน้าที่กูเกิลจะพัฒนาระบบจัดอันดับลักษณะใหม่ ด้วยซ้ำไป แน่นอนว่า หลายเว็บที่ให้บริการเกี่ยวกับ Search Marketing นั้น ติดอันดับก่อนที่จะมีอัลกอริทึมอย่าง Google RankBrain เมื่อติดอันดับก่อนหน้านี้ ก็เท่ากับว่าติดลมบนไปเลย แม้ว่าจะมีการปล่อยระบบจัดอันดับด้วย AI หรือ Artificial Intelligence เรียกอีกอย่างว่าระบบจัดอันดับด้วยปัญญาประดิษฐ์ โดยสามารถวิจัยด้วยตัวเองได้ Machine Learning นั่นหมายความว่าเว็บที่ติดอันดับก่อนหน้า ก็ยังติดอันดับได้อยู่ เพราะมีตัวเลขคนเข้าเว็บสะสมมาอย่างเนิ่นนาน และแน่นอนว่าระบบการจัดอันดับสมัยใหม่ ให้ความสำคัญกับทราฟฟิค ยูสเซอร์ ตัวเลขการเข้าใช้งานของผู้ที่ค้นหาข้อมูลผ่าน Google Search ข้อสงสัยคือ แล้วถ้าจะทำอันดับเว็บใหม่? แน่นอนว่ามันยาก แต่ก็ทำได้อยู่ ถ้าหากนักทำเอสอีโอมีความชำนาญและเข้าใจระบบใหม่ของกูเกิล เป็นหน้าที่ของผู้จ้างทำ SEO แล้วละว่าจะหานักทำเอสอีโอเก่งๆ ได้ยังไง แต่เราสามารถค้นหานักทำเอสอีโอที่มีฝีมือ ดังนี้

1. เว็บรับทำ SEO ต้องเข้าใจ Google Algorithm

  การที่เว็บรับทำ SEO หรือทีมงานที่ทำเอสอีโอ รู้แค่หน้าที่ของ Google Algorithm ว่ามีหน้าที่อะไรบ้าง ตรวจสอบคุณภาพอย่างไรนั้น มันไม่พอสำหรับการดันอันดับบน Google Search ยุคนี้ครับ เพราะหากเข้าใจแค่ว่ากูเกิลอัลกอริทึมแต่ละตัวทำงานยังไง มีหน้าที่อะไรบ้าง ไม่พอต่อการทำอันดับด้วยเทคนิคต่างๆ ให้สัมพันธ์กับอัลกอริทึมทุกตัวของกูเกิล ผู้ที่รับทำ SEO ที่ดีจะต้องทดลอง ประเมินผล และศึกษา เกี่ยวกับการดำเนินงาน การให้คะแนน ของอัลกอริทึมแต่ละตัวของกูเกิลครับ เรียกได้ว่าอาจทำห้อง Lab ขึ้นมาเพื่อค้นคว้า วิจัย ทดลองเทคนิคการทำ SEO รูปแบบต่างๆ และการทดลองกับอัลกอริทึมตัวละตัวของกูเกิล จึงจะเข้าใจ รู้ลึก รู้จริง ไม่ใช่แค่การไปอ่านเนื้อหาจากเว็บเมืองนอกมา แล้วมาอธิบาย และมุ่งมั่นทำเอสอีโอให้สัมพันธ์กับที่อ่านมา ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ยากที่จะติดอันดับง่ายๆ เพราะอย่างว่าการทำ SEO สมัยนี้ มันยาก และต้องมุ่งเน้นคำว่าคุณภาพมากกว่ายุคก่อนๆ นักทำ SEO บางคน หรือ อาจหลายคน เอะอะ อะไร ก็จะสร้างแต่แบ็คลิงค์อย่างเดียว บอกไว้ก่อนว่าแม้ลิงค์สามารถดันอันดับได้อยู่ แต่มันไม่ใช่ปัจจัยหลักอีกต่อไปสำหรับการทำอันดับบนกูเกิลเสิร์ทครับ ปัจจุบัน Google พัฒนาระบบอัลกอริทึมใหม่ๆ มาเยอะแยะ และการที่มีระบบตรวจเช็คคุณภาพมากๆ ก็เท่ากับว่ามีปัจจัยในการจัดอันดับเยอะ ฉะนั้นการอาศัยแค่การสร้างลิงค์มันจึงไม่เพียงพอสำหรับการทำอันดับยุคนี้

2. บริษัทรับทำ SEO ต้องสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพ

  หากท่านไปถามบริษัทรับทำ SEO 10 ที่ แต่ละเจ้าก็จะบอกคุณว่าพวกเขาสร้างลิงค์คุณภาพเป็นมิตรกับผู้เยี่ยมชม บ้างก็อาจบอกว่าสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพด้วยวิธีการจากประเทศอเมริกา บ้างก็บอกว่าสร้างลิงค์คุณภาพด้วยระบบของตัวเอง ซึ่งมีตั้งแต่ราคาหลักร้อย ยันหลักหมื่น เมื่อผู้ที่จะจ้างทำ SEO สอบถามรับทำ SEO และได้ผลลัพธ์คล้ายๆ กันทุกราย ผู้จ้างทำเอสอีโอส่วนใหญ่ก็จะไปประเมินที่ราคาค่าบริการแทน เพราะคิดว่าหลักการคงเหมือนๆ กัน เอาที่ราคาสุดคุ้มจะสุดยอดกว่า แต่หารู้ไม่ว่าการทำ SEO คุณภาพ หรือแม้กระทั่งการสร้างลิงค์คุณภาพนั้นใช้ต้นทุนสูง แล้วถ้าคุณคิดจะจ้างทำ SEO จ่ายเงินแค่หลักร้อย หรือหลักไม่กี่พัน สิ่งที่คุณจะได้กลับมาคือ อันดับที่ไม่มีทางติดหน้าแรก Google แถมผู้ให้บริการเอสอีโอบางราย ไม่มีการคืนเงินให้ลูกค้าด้วย อาจบอกว่าเป็นค่าดำเนินงานทำอันดับให้ ทั้งที่ทราฟฟิคก็ไม่ได้ และดันได้ลิงค์ด้อยคุณภาพกลับมาซะงั้น อันดับก็ไม่ติดกูเกิลอีก มีบริษัทรับทำ SEO แบบนี้เยอะ แน่นอนทางผมก็ไม่มีกฎระเบียบคืนเงินให้ลูกค้านะ แต่เรามีสิ่งที่ลูกค้าจะได้ นั่นคือ ทราฟฟิค คนเข้าเว็บเฉลี่ย 1,000 คน/วัน แน่นอนว่าคุ้มค่ากับการจ่ายแน่นอน เพราะทราฟฟิคมีแต่ส่งผลดีต่อเว็บ และข้อมูลคนเข้าเว็บที่ผู้ใช้บริการเอสอีโอจะได้จากเรานั้น เป็นสถิติที่กูเกิลจะนำไปคิดเลขและใช้จัดอันดับตลอดไป และการสร้างทราฟฟิคก็ใช้ต้นทุนสูงกว่าการสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพมาก กลับมาที่เรื่องการสร้างแบ็คลิงค์กันต่อครับ การสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพจะต้องเขียนบทความคุณภาพไม่เหมือนกับเว็บไซต์อื่น แต่ละโพสเพื่อสร้างแต่ละลิงค์จะต้องเป็นบทความ Unique Content และเป็น Quality Content ไปพร้อมๆ กัน ถ้าสร้าง 1,000 ลิงค์ ก็เท่ากับต้องสร้างเนื้อหาคุณภาพเป็นประโยชน์ต่อผู้ติดตาม 1,000 เนื้อหานั่นเอง

3. ผู้รับทำ SEO ต้องสร้างทราฟฟิคคุณภาพ

  ข้อนี้สำคัญมากในการทำ SEO ยุคนี้ ผู้ที่รับทำ SEO จะต้องสามารถสร้างทราฟฟิคเข้าสู่เว็บไซต์ประเภทต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และทราฟฟิคต้องมีคุณภาพด้วย คำว่าทราฟฟิคคุณภาพ คือ ทราฟฟิค หรือ ยูสเซอร์ ที่เข้ามาอ่านบทความของเราแล้วอาศัยอยู่ในหน้าเว็บไซต์ของเรานานๆ กล่าวคือ ใช้เวลาอ่านบทความภายในเว็บนานๆ นั่นเอง ซึ่งเรียกว่า Time On Site แน่นอนเมื่อมีคนเข้ามาอ่านบทความในเว็บของเรานานๆ ก็ย่อมทำให้ค่าอัตราตีกลับ หรือที่เรียกว่า Bounce Rate มีค่าไม่สูง ทำให้ Google เข้าใจทันทีว่าเว็บของเรามีคุณภาพ และ Traffic ที่เข้าสู่เว็บของเราก็มีคุณภาพ พูดง่ายๆ คือ คนค้นหาข้อมูลแล้วค้นพบเนื้อหาของเราผ่านทาง Google Search แล้วคลิกเข้ามอ่านบทความที่ต้องการนั่นเองครับ และแน่นอนที่สุด ทราฟฟิคที่มาจากกูเกิลเสิร์ท หรืออาจเรียกว่า Search Engine Traffic บ้างก็เรียก Google Traffic แล้วแต่ถนัดครับ ได้หมด ทราฟฟิคที่มาจากกูเกิลมีแต้มสูงสุด สามารถทำอันดับเว็บได้ดีที่สุด เพราะกูเกิลย่อมที่จะมั่นใจเว็บของตัวเองก่อน ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคนคลิกเข้าเว็บจาก Search Engine จึงส่งผลทำให้อันดับกูเกิล ขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่ว่าทราฟฟิคลักษณะอื่นๆ ไม่ดีนะครับ ทราฟฟิคไม่ว่าจะเป็นลักษณะใด ถ้าหากทราฟฟิคนั้นๆ อาศัยอยู่ในหน้าเว็บไซต์ของเรานานๆ มีการโต้ตอบ หรือ มีการทำกิจกรรมภายในเว็บของเราย่อมส่งผลดีต่ออันดับเอสอีโอทั้งนั้นครับ อาทิเช่น มีการคอมเมนต์ภายในเว็บไซต์ มีการกรอกแบบฟอร์มของเว็บ หรือแม้กระทั่งมีการคลิกเปิดหน้าย่อยอื่นๆ ภายในเว็บไซต์ สิ่งเหล่านี้ย่อมการัณตีได้ว่าทราฟฟิคที่เข้ามายังเว็บของเรานั้นมีคุณภาพครับ ทราฟฟิครูปแบบอื่นๆ เช่น Social Traffic , Referral Traffic , Direct Traffic และ Ad Traffic ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญต่ออันดับเอสอีโอ

4. ผู้รับทำ SEO ที่สร้างทราฟฟิคไม่ได้จะดันอันดับได้ยาก

  การดันอันดับบน Google Search ในยุคปัจจุบันมันไม่ได้ง่ายคล้ายยุคก่อนๆ ครับ หากนักทำ SEO ไม่ยอมปรับตัว ต่อให้เป็นบริษัทรับทำ SEO ขนาดใหญ่ แต่ถ้าหากยังใช้วิธีดันอันดับบน Google Search โดยยึดแค่การสร้างแบ็คลิงค์เป็นหลัก ก็ยากที่จะติดอันดับต้นๆ บนผลการค้นหา Search Result ของกูเกิลได้ง่ายๆ เพราะยิ่งคีย์ที่จะทำเอสอีโอเป็นคีย์ตลาด มีสถิติการค้นหารายเดือนสูงๆ อาศัยแค่การสร้างแบ็คลิงค์และการปรับออนเพจภายในเว็บไซต์นิดหน่อยๆ มันไม่เพียงพอต่อการทำ SEO ในยุคนี้แล้วครับ บ้างก็อาจบอกว่าการทำเอสอีโอก็เหมือนเก่า ใช้แค่การปรับ On Page และ Off Page แต่หารู้ไม่ว่า การดันอันดับบนกูเกิลเสิร์ทในยุคนี้มันมีอะไรมากกว่าแค่การปรับออนเพจหรือออฟเพจ หรือนักทำ SEO บางท่านก็บอกว่า ก็ต้องทำให้เว็บติดหน้าแรก Keyword หลัก หรือ Keyword รอง ก่อน จึงจะมีทราฟฟิค ข้อสงสัยคือ แล้วจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ในการติดอันดับโดยไม่ใช้ทราฟฟิคในการดันอันดับ แน่นอน ถ้าใช้แต่ลิงค์การดันอันดับจะใช้เวลานานมาก ลองไตร่ตรองดูง่ายๆ หากคุณเป็น Google แล้วเห็นมีเว็บสร้างขึ้นมาใหม่ๆ บทความก็ยังไม่มาก แต่ดันมีการสร้างลิงค์จำนวนมากๆ แถมลิงค์ที่สร้างก็ไม่ได้มีคุณภาพ บางทีอาจโพสต์เว็บบอร์ด เว็บประกาศฟรี เสียด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้จะให้คิดได้ไงว่าเป็นเว็บคุณภาพ เพราะเว็บคุณภาพในมุมมองของ Google ในยุคปัจจุบัน คือ เว็บที่มีทราฟฟิคเข้าสู่เว็บไซต์อย่างเป็นธรรมชาติ แน่นอนแนวทางสร้างทราฟฟิคเข้าสู่เว็บไซต์ก็ไม่ได้ยากอะไรเลย ยิ่งเป็นทราฟฟิคจาก Google Search ก็ยิ่งง่าย หากแต่ต้องมุ่งเน้นคำว่าคุณภาพ จะต้องเขียนเนื้อหาคุณภาพเป็นมิตรกับผู้เยี่ยมชม ผู้ที่เข้ามาอ่านเนื้อหาแล้วได้รับความรู้ และยิ่งเว็บของเรามีเนื้อหาจำนวนมากๆ ก็ยิ่งทำให้คนเข้าเว็บเยอะ เพราะโอกาสที่คนจะค้นเจอบทความของเราผ่านทาง Google ก็มากขึ้นด้วย แน่นอนว่าถ้าเป็นเว็บใหม่ คนก็จะค้นเจอบทความของเราด้วย Longtail Keyword หรือ Niche Keyword พูดง่ายๆ คือ คีย์เวิร์ดยาวๆ นั่นแหละครับ และถ้ามีคนเข้าเว็บเรามากๆ อย่างสม่ำเสมอย่อทำให้อันดับเอสอีโอคีย์เวิร์ดหลักของเว็บขยับขึ้นตามไปด้วย

5. ผู้รับทำ SEO จะต้องทำให้สถิติของเว็บดี

  ผู้ที่รับทำ SEO จะต้องทำให้เว็บมีข้อมูลโดยรวมออกมาดี คำว่าตัวเลขดีนี้ไม่ได้หมายความว่ามีปริมาณลิงค์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีลิงค์ภายนอกมากๆ นะครับ และการทำ SEO โดยยึดแนวทางสร้าง backlinks เป็นหลักนั้น อันตรายมากๆ หากมีการสร้างแบ็คลิงค์บนเว็บที่ไร้คุณภาพ หรือใช้เนื้อหาซ้ำๆ กัน ก็จะโดนกูเกิลทำโทษทันที และเมื่อโดนทำโทษก็ยากที่จะหลุดออกจากการโดนทำโทษง่ายๆ นอกเสียจากว่าจะทำให้เว็บกลับมามีคุณภาพมากๆ โดยมีคนเข้ามาอ่านบทความของเว็บไซต์มากๆ อย่างสม่ำเสมอเท่านั้นครับ การแก้ไขปัญหาลิงค์ไม่มีคุณภาพด้วยการส่ง URL List ในเครื่องมือ Google Disavow Tool ก็ไม่ช่วยอะไรหรอกครับ ตราบใดที่ลิงค์ไร้คุณภาพเหล่านั้น ยังคง  Index  อยู่บนผลการค้นหา เพราะฉะนั้น เมื่อการสร้างลิงค์ไม่ใช่ถูกสิ่งทุกอย่าง แล้วคำว่าการทำให้สถิติเว็บดีคืออะไร? มันเป็นข้อสงสัยที่หลายคนข้องใจและอยากได้ทราบผลลัพธ์อย่างแน่นอน ยกแบบอย่างการตรวจสอบตัวเลขง่ายๆ ว่ามีอะไรบ้างที่กูเกิลนำมาคำนวณในการจัดอันดับ Google บน Search Result Pages แต่ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้นครับ ส่วนใครใคร่รู้ว่ามีอะไรบ้างก็ต้องทำการค้นคว้า ทดสอบ ประเมินผล กันเอาเอง วิธีการบางวิธีการของผมก็บอกไม่ได้ครับ เดี๋ยวคู่แข่งจะก็อปปี้ไปใช้งาน แต่ที่แน่ๆ เวลาเรา Log In เข้าสู่ Search
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องบทความเลือกใช้รับทำ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Promote Website ติดอันดับต้นๆ โดย ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป
เรียนการตลาดออนไลน์สมัครใช้รับทำ SEO โปรโมทเว็บ ด้วย Promote Website ติดอันดับ Google โดย cmseogroup
อ้างอิงจาก: รับทำ SEO
แท็ก: รับทำ SEO
อ้างจาก: รับทำ SEOบทความเลือกใช้รับทำ SEO ประชาสัมพันธ์ ด้วย Promote Website ติดอันดับต้นๆ โดย ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/page/การปรับ-On-Page
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/page/การปรับ-Off-Page
ชื่อ: ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO GROUP)
ที่อยู่: Hamony Office หมู่ 1 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 50210
เบอร์โทรติดต่อ: 096-237-3905
อีเมล์: thaiseogroup@gmail.com
อ้างอิงจาก: http://www.volvomania.com/forum/index.php?board=9.0
#11
แนะนำความรู้เคล็ดไม่ลับตรวจสอบบริษัทรับทำ SEO Group สามารถโปรโมทเว็บติดอันดับกูเกิล มีคุณภาพ อ่านบทความที่นี่

หลักการตรวจเช็คบริษัทรับทำ SEO Group สามารถทำการตลาดออนไลน์ติดอันดับกูเกิล มีคุณภาพ เชิญอ่านบทความที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับรับทำ SEOศึกษาข้อมูลได้จากเนื้อหาส่วนนี้ อาชีพรับทำ SEO ไม่ได้ง่าย

  สมัยก่อนอาชีพรับทำ SEO ใครๆ ก็สามารถทำได้ ขอแค่ขยัน และสร้าง Backlink เป็น แต่ยุคปัจจุบันไม่เหมือนออกไป มันเป็นเรื่องที่น่านักใจสำหรับผู้ที่คิดจะจ้างทำ SEO อย่างแท้จริง เพราะผู้ที่จะจ้างดันอันดับบน Search Engine มักจะคิดว่าเว็บรับทำ SEO ทั้งหลาย ที่ติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการให้บริการเอสอีโอ SEO Services นั้น น่าจะสามารถดันอันดับบน Search Engine ได้ แต่หารู้หรือไม่ว่า เว็บบริษัทที่รับทำเอสอีโอ กว่าที่เขาจะติดอันดับใช้เวลาเป็นปีๆ แต่กลับบอกลูกค้าหรือผู้ที่จะจ้างทำเอสอีโอว่า สามารถทำอันดับภายในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งมันผิดกฎทำเอสอีโอในยุคนี้อย่างสิ้นเชิงครับ อีกทั้งหลายเว็บติดหน้าแรกกูเกิล ในคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับการให้บริการทำอันดับ Google ก่อนหน้าที่กูเกิลจะพัฒนาระบบจัดอันดับลักษณะใหม่ ด้วยซ้ำไป แน่นอนว่า หลายเว็บที่ให้บริการเกี่ยวกับ Search Marketing นั้น ติดอันดับก่อนที่จะมีอัลกอริทึมอย่าง Google RankBrain เมื่อติดอันดับก่อนหน้านี้ ก็เท่ากับว่าติดลมบนไปเลย แม้ว่าจะมีการปล่อยระบบจัดอันดับด้วย AI หรือ Artificial Intelligence เรียกอีกอย่างว่าระบบจัดอันดับด้วยปัญญาประดิษฐ์ โดยสามารถค้นคว้าด้วยตนเองได้ Machine Learning นั่นหมายความว่าเว็บที่ติดอันดับก่อนหน้า ก็ยังติดอันดับได้อยู่ เพราะมีข้อมูลคนเข้าเว็บสะสมมาอย่างนานมาก และแน่นอนว่าระบบการจัดอันดับสมัยใหม่ ให้ความสำคัญกับทราฟฟิค ผู้ใช้งาน สถิติการเข้าใช้งานของผู้ที่ค้นหาข้อมูลผ่าน Google Search ข้อสงสัยคือ แล้วถ้าจะทำอันดับเว็บใหม่? แน่นอนว่ามันยาก แต่ก็ทำได้อยู่ ถ้าหากนักทำเอสอีโอมีความชำนาญและเข้าใจระบบใหม่ของกูเกิล เป็นหน้าที่ของผู้จ้างทำ SEO แล้วละว่าจะหานักทำเอสอีโอเก่งๆ ได้อย่างไร แต่เราสามารถค้นหานักทำเอสอีโอที่มีฝีมือ ดังนี้

1. เว็บรับทำ SEO ต้องเข้าใจ Google Algorithm

  การที่เว็บรับทำ SEO หรือทีมงานที่ทำเอสอีโอ รู้แค่หน้าที่ของ Google Algorithm ว่ามีหน้าที่อะไรบ้าง ตรวจเช็คคุณภาพอย่างไรนั้น มันไม่เพียงพอสำหรับการทำอันดับบน Google Search ยุคนี้ครับ เพราะหากเข้าใจแค่ว่ากูเกิลอัลกอริทึมแต่ละตัวทำงานยังไง มีหน้าที่อะไรบ้าง ไม่เพียงพอต่อการทำอันดับด้วยวิธีการต่างๆ ให้เกี่ยวข้องกับอัลกอริทึมทุกตัวของกูเกิล ผู้ที่รับทำ SEO ที่ดีจะต้องทดลอง ทดลอง และเรียนรู้ เกี่ยวกับการดำเนินงาน การให้คะแนน ของอัลกอริทึมแต่ละตัวของกูเกิลครับ กล่าวได้ว่าอาจทำห้อง Lab ขึ้นมาเพื่อค้นคว้า วิจัย ทดสอบเทคนิคการทำ SEO ลักษณะต่างๆ และการทดลองกับอัลกอริทึมตัวละตัวของกูเกิล จึงจะเข้าใจ รู้ลึก รู้จริง ไม่ใช่แค่การไปอ่านบทความจากเว็บต่างประเทศมา แล้วมาชี้แจง และพยายามทำเอสอีโอให้สัมพันธ์กับที่อ่านมา ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ยากที่จะติดอันดับง่ายๆ เพราะอย่างว่าการทำ SEO สมัยปัจจุบัน มันยาก และต้องมุ่งเน้นคำว่าคุณภาพมากกว่ายุคก่อนๆ นักทำ SEO บางท่าน หรือ อาจหลายคน เอะอะ อะไร ก็จะสร้างแต่ลิงค์อย่างเดียว บอกไว้ก่อนว่าแม้ลิงค์สามารถทำอันดับได้อยู่ แต่มันไม่ใช่ตัวแปรหลักอีกต่อไปสำหรับการทำอันดับบนกูเกิลเสิร์ทครับ สมัยนี้ Google พัฒนาระบบอัลกอริทึมใหม่ๆ มามากมาย และการที่มีระบบตรวจเช็คคุณภาพมากๆ ก็เท่ากับว่ามีปัจจัยในการจัดอันดับเยอะ ฉะนั้นการอาศัยแค่การสร้างลิงค์มันจึงไม่เพียงพอสำหรับการทำอันดับยุคนี้

2. บริษัทรับทำ SEO ต้องสร้างลิงค์คุณภาพ

  หากท่านไปถามบริษัทรับทำ SEO 10 ที่ แต่ละเจ้าก็จะบอกคุณว่าพวกเขาสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพเป็นมิตรกับผู้เยี่ยมชม บ้างก็อาจบอกว่าสร้างลิงค์คุณภาพด้วยวิธีการจากประเทศอเมริกา บ้างก็บอกว่าสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพด้วยระบบของตัวเอง ซึ่งมีตั้งแต่ราคาหลักร้อย ยันหลักหมื่น เมื่อผู้ที่จะจ้างทำ SEO สอบถามรับทำ SEO และได้คำตอบเหมือนๆ กันทุกราย ผู้จ้างทำเอสอีโอส่วนใหญ่ก็จะไปประเมินที่ราคาค่าบริการแทน เพราะคิดว่าหลักการคงเหมือนๆ กัน เอาที่ราคาประหยัดจะเจ๋งกว่า แต่หารู้ไม่ว่าการทำ SEO คุณภาพ หรือแม้กระทั่งการสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพนั้นใช้ต้นทุนสูง แล้วถ้าคุณคิดจะจ้างทำ SEO จ่ายตังค์แค่หลักร้อย หรือหลักไม่กี่พัน สิ่งที่คุณจะได้กลับมาคือ อันดับที่ไม่มีทางติดหน้าแรกกูเกิล แถมผู้ให้บริการเอสอีโอบางราย ไม่มีการคืนเงินให้ลูกค้าด้วย อาจบอกว่าเป็นค่าดำเนินการดันอันดับให้ ทั้งที่ทราฟฟิคก็ไม่ได้ และดันได้ลิงค์ด้อยคุณภาพกลับมาซะงั้น อันดับก็ไม่ติดกูเกิลอีก มีบริษัทรับทำ SEO แบบนี้เยอะ แน่นอนทางผมก็ไม่มีกฎระเบียบคืนเงินให้ลูกค้านะ แต่เรามีสิ่งที่ลูกค้าจะได้ นั่นคือ ทราฟฟิค คนเข้าเว็บเฉลี่ย 1,000 คน/วัน แน่นอนว่าคุ้มค่ากับการจ่ายแน่นอน เพราะทราฟฟิคมีแต่ส่งผลดีต่อเว็บ และตัวเลขคนเข้าเว็บที่ผู้ใช้บริการเอสอีโอจะได้จากเรานั้น เป็นสถิติที่กูเกิลจะนำไปคิดเลขและใช้จัดอันดับเสมอไป และการสร้างทราฟฟิคก็ใช้ต้นทุนสูงกว่าการสร้างลิงค์คุณภาพมาก กลับมาที่เรื่องการสร้างแบ็คลิงค์กันต่อครับ การสร้างลิงค์คุณภาพจะต้องเขียนบทความคุณภาพแตกต่างกับเว็บอื่น แต่ละโพสต์เพื่อสร้างแต่ละลิงค์จะต้องเป็นเนื้อหา Quality Content และเป็น Quality Content ไปพร้อมๆ กัน ถ้าสร้าง 1,000 ลิงค์ ก็เท่ากับต้องสร้างบทความคุณภาพมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน 1,000 เนื้อหานั่นเอง

3. ผู้รับทำ SEO ต้องสร้างทราฟฟิคคุณภาพ

  ข้อนี้สำคัญมากในการทำ SEO ปัจจุบัน ผู้ที่รับทำ SEO จะต้องสามารถสร้างทราฟฟิคเข้าสู่เว็บไซต์ลักษณะต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิผล และทราฟฟิคต้องมีคุณภาพด้วย คำว่าทราฟฟิคคุณภาพ คือ ทราฟฟิค หรือ ยูสเซอร์ ที่เข้ามาอ่านเนื้อหาของเราแล้วอาศัยอยู่ในหน้าเว็บไซต์ของเรานานๆ กล่าวคือ ใช้เวลาอ่านบทความภายในเว็บนานๆ นั่นเอง ซึ่งเรียกว่า Time On Site แน่นอนเมื่อมีคนเข้ามาอ่านเนื้อหาในเว็บไซต์ของเรานานๆ ก็ย่อมทำให้ค่าอัตราตีกลับ หรือที่เรียกว่า Bounce Rate มีค่าไม่สูง ทำให้ Google เข้าใจทันทีว่าเว็บของเรามีคุณภาพ และ Traffic ที่เข้าสู่เว็บของเราก็มีคุณภาพ พูดง่ายๆ คือ คนค้นหาข้อมูลแล้วค้นเจอเนื้อหาของเราผ่านทาง Search Engine แล้วคลิกเข้ามอ่านเนื้อหาที่อยากได้นั่นเองครับ และแน่นอนที่สุด ทราฟฟิคที่มาจากกูเกิลเสิร์ท หรืออาจเรียกว่า Google Search Traffic บ้างก็เรียก Google Traffic แล้วแต่ถนัดครับ ได้หมด ทราฟฟิคที่มาจากกูเกิลมีคะแนนสูงสุด สามารถทำอันดับเว็บได้ดีที่สุด เพราะกูเกิลย่อมที่จะศรัทธาเว็บของตัวเองก่อน เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคนคลิกเข้าเว็บจาก Google Search จึงส่งผลให้อันดับกูเกิล ขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่ว่าทราฟฟิครูปแบบอื่นๆ ไม่ดีนะครับ ทราฟฟิคไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด ถ้าหากทราฟฟิคนั้นๆ อาศัยอยู่ในหน้าเว็บไซต์ของเรานานๆ มีการโต้ตอบ หรือ มีการทำกิจกรรมภายในเว็บของเราย่อมส่งผลดีต่ออันดับเอสอีโอทั้งนั้นครับ อาทิเช่น มีการคอมเมนต์ภายในเว็บ มีการกรอกแบบฟอร์มของเว็บ หรือแม้กระทั่งมีการคลิกเปิดหน้าย่อยอื่นๆ ภายในเว็บไซต์ สิ่งเหล่านี้ย่อมการัณตีได้ว่าทราฟฟิคที่เข้ามายังเว็บของเรานั้นมีคุณภาพครับ ทราฟฟิคลักษณะอื่นๆ เช่น Social Traffic , Referral Traffic , Direct Traffic และ Ad Traffic ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญต่ออันดับเอสอีโอ

4. ผู้รับทำ SEO ที่สร้างทราฟฟิคไม่ได้จะทำอันดับได้ยาก

  การทำอันดับบน Search Engine ในยุคนี้มันไม่ได้ง่ายคล้ายยุคก่อนๆ ครับ หากนักทำ SEO ไม่ยอมปรับตัว ต่อให้เป็นบริษัทรับทำ SEO ขนาดใหญ่ แต่ถ้าหากยังใช้วิธีทำอันดับบน Search Engine โดยยึดแค่การสร้างลิงค์เป็นหลัก ก็ยากที่จะติดอันดับแรกๆ บนผลการค้นหา Search Result ของกูเกิลได้ง่ายๆ เพราะยิ่งคีย์ที่จะทำเอสอีโอเป็นคีย์ตลาด มีตัวเลขการค้นหารายเดือนสูงๆ อาศัยแค่การสร้างลิงค์และการปรับออนเพจภายในเว็บไซต์นิดหน่อยๆ มันไม่พอต่อการทำ SEO ในยุคนี้แล้วครับ บ้างก็อาจบอกว่าการทำเอสอีโอก็เหมือนเก่า ใช้แค่การปรับ On Page และ Off Page แต่หารู้ไม่ว่า การทำอันดับบนกูเกิลเสิร์ทในยุคนี้มันมีอะไรมากกว่าแค่การปรับออนเพจหรือออฟเพจ หรือนักทำ SEO บางท่านก็บอกว่า ก็ต้องทำให้เว็บติดหน้าแรก Keyword หลัก หรือ Keyword รอง ก่อน จึงจะมีทราฟฟิค คำถามคือ แล้วจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ในการติดอันดับโดยไม่ใช้ทราฟฟิคในการดันอันดับ แน่นอน ถ้าใช้แต่ลิงค์การทำอันดับจะใช้เวลานานมาก ลองจินตนาการดูง่ายๆ หากคุณเป็น Google แล้วเห็นมีเว็บสร้างขึ้นมาใหม่ๆ บทความก็ยังไม่มาก แต่ดันมีการสร้างแบ็คลิงค์ปริมาณมากๆ แถมลิงค์ที่สร้างก็ไม่ได้มีคุณภาพ บางครั้งอาจโพสเว็บบอร์ด เว็บประกาศฟรี เสียด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้จะให้คิดได้ไงว่าเป็นเว็บคุณภาพ เพราะเว็บคุณภาพในวิสัยทัศน์ของ Google ในยุคปัจจุบัน คือ เว็บที่มีทราฟฟิคเข้าสู่เว็บไซต์อย่างเป็นธรรมชาติ แน่นอนแนวทางสร้างทราฟฟิคเข้าสู่เว็บไซต์ก็ไม่ได้ยากอะไรเลย ยิ่งเป็นทราฟฟิคจาก Search Engine ก็ยิ่งง่าย ด้วยเหตุนี้ต้องมุ่งเน้นคำว่าคุณภาพ จะต้องเขียนบทความคุณภาพเป็นมิตรกับผู้เยี่ยมชม ผู้ที่เข้ามาอ่านบทความแล้วได้รับความรู้ และยิ่งเว็บของเรามีเนื้อหาจำนวนมากๆ ก็ยิ่งทำให้คนเข้าเว็บเยอะ เพราะโอกาสที่คนจะค้นพบเนื้อหาของเราผ่านทาง Google ก็มากขึ้นด้วย แน่นอนว่าถ้าเป็นเว็บไซต์ใหม่ คนก็จะค้นพบเนื้อหาของเราด้วย Longtail Keyword หรือ Niche Keyword พูดง่ายๆ คือ คีย์เวิร์ดยาวๆ นั่นแหละครับ และถ้ามีคนเข้าเว็บเรามากๆ อย่างสม่ำเสมอย่อทำให้อันดับเอสอีโอคีย์เวิร์ดหลักของเว็บขยับขึ้นตามไปด้วย

5. ผู้รับทำ SEO จะต้องทำให้ตัวเลขของเว็บดี

  ผู้ที่รับทำ SEO จะต้องทำให้เว็บมีสถิติโดยรวมออกมาดี คำว่าตัวเลขดีนี้ไม่ได้หมายถึงมีจำนวนแบ็คลิงค์เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และมีลิงค์ภายนอกมากๆ นะครับ และการทำ SEO โดยยึดกฎสร้าง backlinks เป็นหลักนั้น อันตรายมากๆ หากมีการสร้างแบ็คลิงค์บนเว็บที่ไร้คุณภาพ หรือใช้บทความซ้ำๆ กัน ก็จะโดนกูเกิลทำโทษทันที และเมื่อโดนทำโทษก็ยากที่จะหลุดออกจากการโดนทำโทษง่ายๆ นอกเสียจากว่าจะส่งเสริมให้เว็บกลับมามีคุณภาพมากๆ โดยมีคนเข้ามาอ่านเนื้อหาของเว็บไซต์มากๆ อย่างสม่ำเสมอเท่านั้นครับ การแก้ไขปัญหาลิงค์ด้อยคุณภาพด้วยการส่ง URL List ในเครื่องมือ Google Disavow Tool ก็ไม่ช่วยอะไรหรอกครับ ตราบใดที่ลิงค์ไร้คุณภาพเหล่านั้น ยังคง  Index  อยู่บนผลการค้นหา ฉะนั้น เมื่อการสร้างแบ็คลิงค์ไม่ใช่ถูกสิ่งทุกอย่าง แล้วคำว่าการทำให้สถิติเว็บดีคืออะไร? มันเป็นคำถามที่หลายคนข้องใจและอยากได้ทราบผลลัพธ์อย่างแน่นอน ยกแบบอย่างการตรวจเช็คสถิติง่ายๆ ว่ามีอะไรบ้างที่กูเกิลนำมาคำนวณในการจัดอันดับเอสอีโอ บน Search Result Pages แต่ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้นครับ ส่วนใครใคร่รู้ว่ามีอะไรบ้างก็ต้องทำการค้นคว้า ทดสอบ ทดสอบ กันเอาเอง วิธีการบางเทคนิคของผมก็บอกไม่ได้ครับ เดี๋ยวคู่แข่งจะก็อปปี้ไปใช้งาน แต่ที่แน่ๆ เวลาเรา Log In เข้าสู่ Google Search Console หร
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องเคล็ดไม่ลับตรวจสอบบริษัทรับทำ SEO Group สามารถโปรโมทเว็บติดอันดับกูเกิล มีคุณภาพ
แนวทางตรวจสอบบริษัทรับทำ SEO Group สามารถประชาสัมพันธ์ติดอันดับต้นๆ มีคุณภาพ
อ้างอิงจาก: รับทำ SEO
แท็ก: รับทำ SEO
อ้างจาก: รับทำ SEOเคล็ดไม่ลับตรวจสอบบริษัทรับทำ SEO Group สามารถโปรโมทเว็บติดอันดับกูเกิล มีคุณภาพ
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/page/การปรับ-On-Page
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/page/การปรับ-Off-Page
ชื่อ: ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO GROUP)
ที่อยู่: Hamony Office หมู่ 1 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 50210
เบอร์โทรติดต่อ: 096-237-3905
อีเมล์: thaiseogroup@gmail.com
อ้างอิงจาก: http://www.volvomania.com/forum/index.php?board=9.0
#12
ข้อมูลจำหน่าย กล้องวงจรปิด เชียงใหม่ ราคาประหยัด บริการมืออาชีพโดยมืออาชีพตัวจริง แนะนำอ่าน

บริการด้าน กล้องวงจรปิด เชียงใหม่ สินค้ามือหนึ่ง บริการเหนือระดับประสบการณ์สูง สวัสดีครับทุกคนที่เข้ามาอ่านวันนี้ผมจะมาบรรยายเรื่องกล้องวงจรปิด เชียงใหม่อ่านได้จากเนื้อหาสาระนี้ ความสำคัญของกล้องวงจรปิด

ในปัจจุบันระบบกล้องวงจรปิด มีความบทบาทสำคัญต่อความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันนี้มาก ทั้งในการช่วยดูแลปกป้องที่พักที่อยู่อาศัย อาคารสถานที่หน่อยงานสำคัญต่าง เช่น ห้างร้าน  Bank  โรงพยาบาล แหล่งศึกษาหาความรู้ โรงแรม และถนนหนทางต่างๆ เพื่อป้องกันการโจรกรรมและอาชญากรรมต่างๆที่จะเกิดขึ้น ตลอดจนถึงช่วยในการสอดส่องติดตามการทำผิดข้อบังคับ การจรจร ช่วยกำหนดรูปพรรณสัณฐานคนร้าย หรือเส้นทางการหลบหนี้ผู้ก่อการร้าย ซึ่งในยุคปัจจุบันหากมีการเกิดเหตุร้ายขึ้้นที่ใหน อันดับแรกที่เจ้าหน้าที่มองหาก็คือ กล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุ หรือสถานที่ใกล้เคียง และหากเราติดตามข่าวสารต่างทางโทรทัศ และสื่อต่างๆ จะเห็นว่ามีการจับและติดตามผู้ก่อเหตุได้จากข้อมูล รูปพรรณสัณฐาน จากกล้องวงจรปิด สมัยนี้ระบบกล้องวงจรปิดได้ปรับปรุงเทคโนโลยี่ใหม่ ทั้งความคมชัด การบีบอัดและจัดเก็บข้อมูล เพื่อทำให้ตอบรับกับความปรารถนาของการใช้งานในบัจจุบัน เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยี่ออกมาใหม่ ระบบการเชื่องต่อสายสัญญาณก็มีการปรับปรุงตามไปด้วย เพื่อทำให้สามารถติดตั้งกล้องวงจรปิดระยะไกลๆได้ จะเห็นได้ว่าการเดินสายระบบกล้องวงจรปิดในยุคนี้จึงหมีหลายชนิด เช่น สาย RG6 ,RG6 Power Line ส่วนสายชนิดนี้จะใช้ภายในอาคาร หรือระยะจุดติดตั้งที่ไม่ไกลมาก สาย UTP Lan เป็นการพัฒาเอาสาย  Lan Cat5e หรือ Cat6 มางานระบบกล้องวงจรปิดโดยใช้อุปกรณ์ Balun Video มาช่วยสองฝั่ง ส่วนสายระบบ Fiber Opticหรือสายสัญญาณระบบใยแก้วนำแสง สามารส่งสัญญาณได้หลายสิบกิโลเมตร ต้องมีอุปกรณ์ Media Converter เป็นตัวแปลงแสงออกมาเป็นสัญญาณดิจิตอล

ศูนย์ขายกล้องวงจรปิด Hikvision เชียงราย - เชี่ยงใหม่

กล้องวงจรปิดเชียงราย ศูนย์ขายและรับติดตั้งกล้องวงจรปิด Hikvision กล้องวงจรปิดคุณภาพสูง Hikvision เป็นผู้ผลิตกล้องวงจรปิดอันดับ 1 ของโลก โดยการจัดอันดับ World Ranking ของ IHS Research ประเทศอังกฤษ ถึง 4 ปีซ้อน มียอดจำหน่ายเมื่อปี 2014 ถึง $2.78 Billion US Dollar หรือราวๆ 88,000 ล้านบาท Hikvision มีพนักงาน 12,000 คน มีวิศวกร วิจัยพัฒนาสินค้ากว่า 4,200 คน โดยเน้นการดีไซน์ผลิตภัณฑ์กว่า ที่มีเทคโนโลยี ที่ล้ำยุค กล้องวงจรปิด ของ Hikvision มีจำหน่ายทั่วโลก ด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยมทำให้ ได้รับมาตรฐาน UL ของประเทศสหรัฐอเมริกา กล้องวงจรปิด เชียงใหม่ของ HIKVISION มีรุ่น และแบบที่หลาก หลาย เหมาะกับการนำไปใช้งานในองค์กร และพื้นที่ต่างๆ

ขาย Rack Server เชียงราย - เชียงใหม่

ศุนย์ผู้แทนจำหน่ายอุปกรณ์ Network ตู้ Rack Server ,ตู้ Rack กันน้ำ (ตู้งานระบบ CCTV ภายนอก),ตู้งานระบบ Fiber Optic ,Wall Mount FDU,Fiber Optic Patch Panal พร้อมอุปกรณ์ทุกชนิด จำหน่ายสาย Fiber Optic ,สาย Lan Cat5e ,Cat6, สาย Lan Outdoor,สายแลน Droup Wire Outdoor (แบบมีสลิง)

ขายโซล่าเซลล์ เชียงราย - เชียงใหม่

โซล่าเซลล์เชียงราย ขายอุปกรณ์โซล่าเซลล์ทุกชนิด รับดีไซน์และติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ทุกระบบ

เราคือผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์
อุปกรณ์ทุกชิ้นได้ถูกคัดสรรคุณภาพอย่างละเอียด การันตีด้วยมาตรฐานสากล อาทิ...
- แผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Panel)
- เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า(Inverter)
- เครื่องงควบคุมประจุ (Charge Controller)
- แบตเตอรี่ (Battery)
- อุปกรณ์สำหรับจับยึด (Mounting)
- ปั้มน้ำบาดาล (Water Borehole Pump)

EON กล้องวงจรปิดคุณภาพจาก USA

ศูนย์จำหน่ายและรับติดตั้งกล้องวงจรปิด EON  กล้องวงจรปิดคุณภาพจาก USA  โดยบริษัท อิออน เทค จำกัด บริษัทในเครืออิออนกรุ๊ป (EON-GROUP) เป็นผู้นำเข้า จัดจำหน่าย ติดตั้งและให้บริการเกี่ยวกับระบบอุปกรณ์ดูแลเอาใจใส่ความ ปลอดภัยแบบครบวงจร และเป็นผู้นำในการนำ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เราพร้อมให้บริการและ ให้คำปรึกษา จากทีมวิศวกรที่มีความเชียวชาญ เราพร้อมที่จะเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการดูแลรักษา ความปลอดภัยของคุุณ

Fire Alarm System เชียงราย - เชียงใหม่

fire alarm เชียงราย ศูนย์ขายและรับติดตั้งระบบ (fire alarm System )  หรือ ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ที่มีไว้สำหรับแจ้งเตือนเมื่อมีเหตุเพลิงไหม้ ไฟไหม้ โดยจะใช้อุปกรณ์ตรวจจับชนิดต่างๆ กันออกไปตามความพอเหมาะพอดี เช่น Smoke Detector, Heat Detector, Manual Pull Station ( Manual Call Point ) เป็นต้น ซึ่งจะทำให้เราสามารถรับรู้และปรับปรุง ไม่ให้ไฟไหม้นั้นลุกลามจนไม่สามารถควบคุมได้ทัน ระบบ fire alarm System เหมาะสำหรับอาคารสำนักงาน บ้าน โรงแรม โรงพยาบาล สถานศึกษา คอนโดมิเนี่ยม หอพัก ห้องเช่าต่างๆ เป็นต้น  Fire alarm เชียงราย เรามีช่างผู้ชำนาญพร้อมให้คำนำเสนอ และดีไซน์ สำหรวจประเมินราคา สามารถปฎิบัติงานได้ทั่วทุกจังหวัดภาคเหนือ

เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เชียงราย - เชียงใหม่

เครื่องสแกนลายนิ้วมือ SSR X1 ข้อมูลแสดงเป็นรายงาน จัดเก็บลายนิ้วมือ1,500 นิ้วมือ, สามารถจัดเก็บรายการได้ 50,000 รายการ, ข้อมูลแสดงเป็นรายงาน (Self-Service Recorder) และสมารถแก้ไขปรับปรุงข้อมูลของมนุษย์เงินเดือนในลักษณะ Excel ได้ง่าย, การเชื่อมต่อผ่าน USB host หลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อแบบ IP ที่ยุ่งยากซับซ้อน และยุ่งยาก และการรออกแบบตัวเครื่อง design บางเฉียบ ตามลักษณะที่ทันสมัยมากกว่าเดิม

ศูนย์จำหน่ายและติดตั้งกล้องวงจรปิด Belko

AHD – ECO Series และ AHD – Pro Series กล้องวงจรปิดระบบ ANALOG HD ความคมชัดระดับ 1MP และ 1.4 MP อีกระดับหนึ่งของการแสดงภาพที่เหนือชั้นอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการแสดงความละเอียดสูงสุด  ซึ่งจะช่วยเพิ่มมิติ ความคมชัดลึกให้กับภาพบนมอนิเตอร์และรายละเอียดที่เล็กที่สุดของภาพได้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญสินค้ายังรับประกันคุณภาพ 3 ปี

Belko AHD กล้องวงจรปิดราคาใช้อย่างพอเพียง

AHD (Analog High Definition) คือระบบกล้องวงจรปิดรูปแบบใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงมาใหม่ท้ายสุดของปี2014 เป็นระบบใหม่ที่ได้รับการเปิดกว้างในทุกบริษัทสามารถนำระบบนี้ไปใช้ให้เข้ากับเครื่องของตนเองได้ถือว่าเป็นประเภทใหม่ที่ทุกคนที่อยากไ
รูปที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องจำหน่าย กล้องวงจรปิด เชียงใหม่ ราคาประหยัด บริการมืออาชีพโดยมืออาชีพตัวจริง
บริการด้าน กล้องวงจรปิด เชียงใหม่ สินค้ามือหนึ่ง บริการเหนือระดับประสบการณ์สูง
อ้างอิงจาก: กล้องวงจรปิด เชียงใหม่
แท็ก: กล้องวงจรปิด เชียงใหม่
อ้างจาก: กล้องวงจรปิด เชียงใหม่จำหน่าย กล้องวงจรปิด เชียงใหม่ ราคาประหยัด บริการมืออาชีพโดยมืออาชีพตัวจริง
หมวดหมู่: กล้องวงจรปิด
หน้าหลัก: https://chiangmaicctvcamera.wordpress.com
รายละเอียดสินค้า: https://cctvchiangrai.wordpress.com
ติดต่อเรา: https://www.facebook.com/cctvchiangrai
ชื่อ: ร้านกล้องวงจรปิดเชียงใหม่ จำหน่ายและรับออกแบบติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกยี่ห้อ
ที่อยู่: กล้องวงจรปิดเชียงใหม่ 223 หมู่ 6 ถนนต ฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50000
เบอร์โทรติดต่อ: 089-9569012,089-7591989,052-021388
อีเมล์: computerchiangmaiservice@gmail.com
อ้างอิงจาก: http://www.cmxseed.com/cmxseedforumn/index.php?board=73.0
#13
สนทนาเกี่ยวกับแนะนำสินค้า กล้องวงจรปิด เชียงใหม่ ครบวงจร บริการเหนือระดับโดยช่างที่ชำนาญ อ่านแล้วจะร้องอ้อ

รับติดตั้ง กล้องวงจรปิด เชียงใหม่ ราคาไม่แพง บริการเหนือระดับประสบการณ์สูง หากท่านต้องการทราบคำตอบเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด เชียงใหม่อ่านเนื้อหานี้แล้วจะทำให้ท่านเข้าใจมากยิ่งขึ้น ความสำคัญของกล้องวงจรปิด

ในสมัยนี้ระบบกล้องวงจรปิด มีความบทบาทสำคัญต่อความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันนี้มาก ทั้งในการช่วยดูแลปกป้องที่พักที่อยู่อาศัย อาคารสถานที่หน่อยงานสำคัญต่าง เช่น ห้างร้าน  Bank  โรงพยาบาล แหล่งศึกษาหาความรู้ โรงแรม และถนนหนทางต่างๆ เพื่อป้องกันการโจรกรรมและอาชญากรรมต่างๆที่จะเกิดขึ้น ตลอดจนถึงช่วยในการสอดส่องติดตามการทำผิดข้อบังคับ การจรจร ช่วยกำหนดรูปพรรณสัณฐานคนร้าย หรือเส้นทางการหลบหนี้ผู้ก่อการร้าย ซึ่งในยุคนี้หากมีการเกิดเหตุร้ายขึ้้นที่ใหน อันดับแรกที่เจ้าหน้าที่มองหาก็คือ กล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุ หรือสถานที่ใกล้เคียง และหากเราติดตามข่าวสารต่างทางโทรทัศ และสื่อต่างๆ จะสังเกตว่ามีการจับและติดตามผู้ก่อเหตุได้จากข้อมูล รูปพรรณสัณฐาน จากกล้องวงจรปิด ยุคปัจจุบันระบบกล้องวงจรปิดได้ปรับปรุงเทคโนโลยี่ใหม่ ทั้งความคมชัด การบีบอัดและจัดเก็บข้อมูล เพื่อให้ตอบรับกับความต้องการของการใช้งานในบัจจุบัน เมื่อมีการปรับปรุงเทคโนโลยี่ออกมาใหม่ ระบบการเชื่องต่อสายสัญญาณก็มีการพัฒนาตามไปด้วย เพื่อทำให้สามารถติดตั้งกล้องวงจรปิดระยะไกลๆได้ จะเห็นได้ว่าการเดินสายระบบกล้องวงจรปิดในสมัยนี้จึงหมีหลายชนิด เช่น สาย RG6 ,RG6 Power Line ส่วนสายชนิดนี้จะใช้ภายในอาคาร หรือระยะจุดติดตั้งที่ไม่ไกลมาก สาย UTP Lan เป็นการพัฒาเอาสาย  Lan Cat5e หรือ Cat6 มางานระบบกล้องวงจรปิดโดยใช้อุปกรณ์ Balun Video มาช่วยสองฝั่ง ส่วนสายระบบ Fiber Opticหรือสายสัญญาณระบบใยแก้วนำแสง สามารส่งสัญญาณได้หลายสิบกิโลเมตร ต้องมีอุปกรณ์ Media Converter เป็นตัวแปลงแสงออกมาเป็นสัญญาณดิจิตอล

ศูนย์จำหน่ายกล้องวงจรปิด Hikvision เชียงราย - เชี่ยงใหม่

กล้องวงจรปิดเชียงราย ศูนย์ขายและรับติดตั้งกล้องวงจรปิด Hikvision กล้องวงจรปิดคุณภาพสูง Hikvision เป็นผู้ผลิตกล้องวงจรปิดอันดับ 1 ของโลก โดยการจัดอันดับ World Ranking ของ IHS Research ประเทศอังกฤษ ถึง 4 ปีซ้อน มียอดจำหน่ายเมื่อปี 2014 ถึง $2.78 Billion US Dollar หรือประมาณ 88,000 ล้านบาท Hikvision มีมนุษย์เงินเดือน 12,000 คน มีวิศวกร วิจัยพัฒนาสินค้ากว่า 4,200 คน โดยเน้นการออกแบบสินค้ากว่า ที่มีเทคโนโลยี ที่ทันสมัย กล้องวงจรปิด ของ Hikvision มีจำหน่ายทั่วโลก ด้วยคุณภาพที่เยี่ยมยอดทำให้ ได้รับมาตรฐาน UL ของประเทศสหรัฐอเมริกา กล้องวงจรปิด เชียงใหม่ของ HIKVISION มีรุ่น และแบบที่หลาก หลาย เหมาะสมกับการนำไปใช้งานในองค์กร และพื้นที่ต่างๆ

ขาย Rack Server เชียงราย - เชียงใหม่

ศุนย์ตัวแทนขายอุปกรณ์ Network ตู้ Rack Server ,ตู้ Rack กันน้ำ (ตู้งานระบบ CCTV ภายนอก),ตู้งานระบบ Fiber Optic ,Wall Mount FDU,Fiber Optic Patch Panal พร้อมอุปกรณ์ทุกประเภท จำหน่ายสาย Fiber Optic ,สาย Lan Cat5e ,Cat6, สาย Lan Outdoor,สายแลน Droup Wire Outdoor (แบบมีสลิง)

ขายโซล่าเซลล์ เชียงราย - เชียงใหม่

โซล่าเซลล์เชียงราย ขายอุปกรณ์โซล่าเซลล์ทุกชนิด รับดีไซน์และติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ทุกระบบ

เราคือผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์
อุปกรณ์ทุกชิ้นได้ถูกคัดสรรคุณภาพอย่างละเอียด รับประกันด้วยมาตรฐานสากล อาทิ...
- แผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Panel)
- เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า(Inverter)
- เครื่องงควบคุมประจุ (Charge Controller)
- แบตเตอรี่ (Battery)
- อุปกรณ์สำหรับจับยึด (Mounting)
- ปั้มน้ำบาดาล (Water Borehole Pump)

EON กล้องวงจรปิดคุณภาพจาก USA

ศูนย์ขายและรับติดตั้งกล้องวงจรปิด EON  กล้องวงจรปิดคุณภาพจาก USA  โดยบริษัท อิออน เทค จำกัด บริษัทในเครืออิออนกรุ๊ป (EON-GROUP) เป็นผู้นำเข้า จัดขาย ติดตั้งและให้บริการเกี่ยวกับระบบอุปกรณ์รักษาความ ปลอดภัยแบบครบวงจร และเป็นผู้นำในการนำ เทคโนโลยีที่ล้ำยุค เราพร้อมให้บริการและ ให้คำปรึกษา จากทีมวิศวกรที่มีความเชียวชาญ เราพร้อมที่จะเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการดูแลดูแลเอาใจใส่ ความปลอดภัยของคุุณ

Fire Alarm System เชียงราย - เชียงใหม่

fire alarm เชียงราย ศูนย์ขายและรับติดตั้งระบบ (fire alarm System )  หรือ ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ที่มีไว้สำหรับแจ้งเตือนเมื่อมีเหตุเพลิงไหม้ ไฟไหม้ โดยจะใช้อุปกรณ์ตรวจจับชนิดต่างๆ กันออกไปตามความเหมาะสม เช่น Smoke Detector, Heat Detector, Manual Pull Station ( Manual Call Point ) เป็นต้น ซึ่งจะทำให้เราสามารถรับรู้และแก้ไขปรับปรุง ไม่ให้ไฟไหม้นั้นลุกลามจนไม่สามารถควบคุมได้ทัน ระบบ fire alarm System เหมาะสำหรับอาคารออฟฟิค บ้าน โรงแรม โรงพยาบาล โรงเรียน คอนโดมิเนี่ยม หอพัก ห้องเช่าต่างๆ เป็นต้น  Fire alarm เชียงราย เรามีช่างผู้ชำนาญพร้อมให้คำแนะนำ และออกแบบ สำหรวจประเมินราคา สามารถปฎิบัติงานได้ทั่วทุกจังหวัดภาคเหนือ

เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เชียงราย - เชียงใหม่

เครื่องสแกนลายนิ้วมือ SSR X1 ข้อมูลแสดงเป็นรายงาน บันทึกลายนิ้วมือ1,500 นิ้วมือ, สามารถจัดเก็บรายการได้ 50,000 รายการ, ข้อมูลแสดงเป็นรายงาน (Self-Service Recorder) และสมารถแก้ไขปรับปรุงข้อมูลของมนุษย์เงินเดือนในรูปแบบ Excel ได้ง่าย, การเชื่อมต่อผ่าน USB host หลบหลีกการเชื่อมต่อแบบ IP ที่ยุ่งยาก และละเอียด และการรออกแบบตัวเครื่อง design บางเฉียบ ตามรูปแบบที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น

ศูนย์ขายและติดตั้งกล้องวงจรปิด Belko

AHD – ECO Series และ AHD – Pro Series กล้องวงจรปิดระบบ ANALOG HD ความคมชัดระดับ 1MP และ 1.4 MP อีกระดับหนึ่งของการแสดงภาพที่เหนือชั้นอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการแสดงความละเอียดสูงสุด  ซึ่งจะช่วยเพิ่มมิติ ความคมชัดลึกให้กับภาพบนมอนิเตอร์และรายละเอียดที่เล็กที่สุดของภาพได้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญผลิตภัณฑ์ยังรับประกันคุณภาพ 3 ปี

Belko AHD กล้องวงจรปิดราคาประหยัด

AHD (Analog High Definition) คือระบบกล้องวงจรปิดรูปแบบใหม่ที่ได้รับการพัฒนามาใหม่ทันสมัยที่สุดของปี2014 เป็นระบบใหม่ที่ได้รับการเปิดกว้างในทุกบริษัทสามารถนำระบบนี้ไปใช้ให้เข้ากับเครื่องของตนเองได้ถือว่าเป็นลักษณะใหม่ที่ทุกคนที่อยากได้ใช้งานกล้องวงจรปิดและ DVR คุณสมบัติของมันสามาร
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องแนะนำสินค้า กล้องวงจรปิด เชียงใหม่ ครบวงจร บริการเหนือระดับโดยช่างที่ชำนาญ
รับติดตั้ง กล้องวงจรปิด เชียงใหม่ ราคาไม่แพง บริการเหนือระดับประสบการณ์สูง
อ้างอิงจาก: กล้องวงจรปิด เชียงใหม่
แท็ก: กล้องวงจรปิด เชียงใหม่
อ้างจาก: กล้องวงจรปิด เชียงใหม่แนะนำสินค้า กล้องวงจรปิด เชียงใหม่ ครบวงจร บริการเหนือระดับโดยช่างที่ชำนาญ
หมวดหมู่: กล้องวงจรปิด
หน้าหลัก: https://chiangmaicctvcamera.wordpress.com
รายละเอียดสินค้า: https://cctvchiangrai.wordpress.com
ติดต่อเรา: https://www.facebook.com/cctvchiangrai
ชื่อ: ร้านกล้องวงจรปิดเชียงใหม่ จำหน่ายและรับออกแบบติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกยี่ห้อ
ที่อยู่: กล้องวงจรปิดเชียงใหม่ 223 หมู่ 6 ถนนต ฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50000
เบอร์โทรติดต่อ: 089-9569012,089-7591989,052-021388
อีเมล์: computerchiangmaiservice@gmail.com
อ้างอิงจาก: http://www.volvomania.com/forum/index.php?topic=101743.0
#14
ข่าวใหม่เทคนิคเลือกใช้บริการ SEO GROUP ทำการตลาดออนไลน์ Online Marketing ติดหน้าแรกกูเกิล มาแรงมากๆ

โปรโมชั่นพิเศษความรู้เบื้องต้นหลักการเลือกใช้บริการ SEO GROUP ประโมทเว็บไซต์ Search Marketing ติดหน้าแรกกูเกิล นักการตลาดออนไลน์ควรรู้ ยินดีต้อนรับผู้อ่านทุกท่านวันนี้ผมจะมาพูดเรื่องบริการ SEOอ่านรายละเอียดจากเนื้อหานี้ กระบวนการการเลือกบริษัทบริการ SEO คุณภาพ

  สมัยนี้มีบริษัทที่ให้บริการ SEO มากมาย ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ รวมกัน ผู้ที่รับทำ SEO บางเว็บก็ติดอันดับ SEO คีย์เวิร์ดเกี่ยวกับการให้บริการเอสอีโอมายาวนานหลายปี ติดอันดับตั้งแต่ยุคที่ลิงค์เป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ หรือยุคที่ลิงค์รุ่งเรืองก็ว่าได้ แม้สมัยนี้ Google จะให้ความสำคัญกับสกอร์ลิงค์ลดลงไปมาก แต่เว็บที่ติดหน้าแรกกูเกิล มาอย่างเนิ่นนาน ย่อมได้เปรียบ และได้สกอร์ตัวเลขคนเข้าเว็บสะสมมาอย่างยาวนานนั่นเอง กอรปกับ ชื่อเว็บ ที่มีอายุมากๆ ยิ่งทำให้กูเกิลศรัทธาว่าเว็บเหล่านั้นมีคุณภาพ เมื่อเป็นเช่นนี้ มันก็เป็นการสร้างความซับซ้อนให้กับผู้ใช้บริการ SEO หน้าใหม่ ที่อาจไม่มีพื้นฐานด้านเอสอีโอ ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานของเอสอีโอสมัยเก่าและสมัยใหม่ ทำให้ไม่มีความรู้ในการเลือกบริษัทบริการ SEO ที่ดี อาศัยแค่ว่าเห็นเว็บผู้ให้บริการเอสอีโอติดหน้าแรกกูเกิล เป็นตัวตัดสินว่าจะใช้บริการจากเจ้าไหน ซึ่งสิ่งที่เป็นจริงแล้ว เว็บที่ให้บริการทำอันดับ Google หลายเว็บใช้เวลาเป็นปี หรืออาจหลายปี กว่าจะติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการให้บริการทางด้าน Search Marketing แต่อย่างว่า ผู้จ้างทำ SEO ก็ไม่รู้หรอกว่าแต่ละเว็บใช้ระยะเวลาการติดอันดับเท่าไหร่ แต่ผมบอกได้คร่าวๆ ว่าใช้ระยะเวลาอย่างน้อยที่สุด 1 ปี ในการทำให้ติดหน้าแรกคีย์เกี่ยวกับการรับทำเอสอีโอครับ บางเว็บก็ไม่ใช่จะติดอันดับนิ่ง มีการสวิงของอันดับเป็นระยะๆ ติดหน้าแรกบ้าง ติดหน้าสอง หน้าสามบ้าง สลับกันไปมา สิ่งเหล่านี้มันเป็นความเสี่ยงของผู้ที่จะจ้างนักทำ SEO ว่าจะเลือกเว็บไหนดันอันดับจึงจะสามารถทำเอสอีโอติดหน้าแรกได้จริง และปัจจุบันการทำ SEO ก็ยากกว่าอดีตที่ผ่านมามาก และก็มีนักทำเอสอีโอน้อยรายที่เก่งจริงๆ สิ่งเหล่านี้ผู้จ้างทำเอสอีโอจึงต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีเลือกใช้บริการ SEO ให้สามารถดันอันดับได้จริง เพื่อที่จะใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Internet Marketing ตัวจริง และวันนี้ผมก็มีหลักการคร่าวๆ ในการเลือกใช้บริการดันอันดับ Google จากมืออาชีพตัวจริง

1. แกะดูวิธีการการดันอันดับของผู้ให้บริการ SEO

  การแกะดูเทคนิคของผู้ให้บริการ SEO ว่าใช้เทคนิคอะไรในการดันอันดับ จะช่วยทำให้เราเชื่อมั่นยิ่งขึ้นว่า เราเลือกบริษัทรับทำ SEO ที่มีคุณภาพ ซึ่งเราจะต้องตรวจสอบขั้นตอนการทำเอสอีโอของผู้ให้บริการแต่ละรายอย่างละเอียด เพื่อสามารถนำมาตรวจสอบ และวิเคราะห์ว่าควรเลือกบริษัทไหนในการทำเอสอีโอให้เรา แนวทางการแกะดูว่าเว็บนั้นๆ ใช้วิธีไหนในการทำเอสอีโอ ก็มีตั้งแต่การตรวจสอบดูว่าเว็บนั้นๆ มีการปรับ SEO On Page ยังไง และมีวิธีการสร้าง SEO Off Page คุณภาพมากน้อยเพียงใด ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ การปรับเอสอีโอออนเพจ คือ การปรับในส่วนของปัจจัยภายในเว็บเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการปรับ Title ของเว็บ การปรับพวก Meta Tags ต่างๆ ของเว็บ การเน้นคำหรือประโยคภายในเว็บไซต์ รวมไปถึงการกำหนด Keyword หลักของเว็บ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการปรับในส่วนของออนเพจนั่นเองครับ ส่วนการปรับออฟเพจ คือการสร้าง backlinks กลับเข้าหาเว็บไซต์หลัก หรือเรียกว่าการสร้างแบ็คลิงค์ภายนอกชี้มายังเว็บไซต์ที่เราจะทำอันดับ ซึ่งการสร้างแบ็คลิงค์ก็มีตั้งแต่การสร้าง Anchor Text Link การสร้าง Domain Link การกระจายคีย์เวิร์ดที่ใช้ในการสร้างลิงค์ เป็นต้น

2. ตรวจเช็คการปรับ On Page ของผู้ให้บริการ SEO

  ขั้นตอนการตรวจสอบการทำเอสอีโอออนเพจ ของผู้ให้บริการ SEO ก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก วิธีที่ง่ายที่สุด คือการตรวจเช็คการกำหนด Title , Meta Description , Meta Keywords และการเน้นข้อความภายในเว็บ ว่ามีการเน้นประโยคที่เป็น Keyword หลักเป็นธรรมชาติหรือไม่ โดยดูจากความเป็นธรรมชาติของการเน้นขนาดของข้อความ สีตัวอักษร และการกำหนด Paragraph ของบทความ ว่าทำให้เราอ่านสะดวกหรือไม่ และบทความที่เราอ่านแล้ว เราได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการอ่านครั้งนี้ หรือไม่ นอกจากนั้นแล้วยังต้องตรวจสอบอีกด้วยว่า เว็บไซต์นั้นรองรับการแสดงผลบนมือถือหรือไม่ ตามเกณฑ์ของกูเกิลที่กำหนดให้เว็บจะต้องรองรับ Responsive Design หรือเรียกอีกอย่างว่า Google Mobile Friendly อีกทั้งตรวจเช็คว่าเว็บสนับสนุนเทคโนโลยี AMP ที่ย่อมาจาก Accelerate Mobile Pages หรือไม่ เป็นต้น นอกจากนี้แล้วให้เราตรวจสอบว่าเว็บนั้นๆ มีการ  Index  ปริมาณกี่หน้า แต่ละหน้านั้นเป็นบทความคุณภาพเป็นมิตรกับผู้เยี่ยมชมหรือไม่ โดยใช้คำสั่ง site: ตามด้วยชื่อเว็บที่ต้องการตรวจเช็คการอินเด็กซ์ รวมทั้งการตรวจเช็คการเชื่อมโยงลิงค์ภายในของเว็บด้วย

3. ตรวจสอบการปรับ Off Page ของผู้ให้บริการ SEO

  แนวทางการตรวจเช็คการปรับเอสอีโอออฟเพจของผู้ให้บริการ SEO เป็นการตรวจสอบว่าผู้ให้บริการเอสอีโอ หรือ เว็บที่เราต้องการตรวจเช็คดูวิธีการสร้าง Backlinks ของผู้ให้บริการนั้นๆ หรือเว็บนั้น ว่าได้สร้างแบ็คลิงค์คุณภาพหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้เชื่อมั่นว่าหากใช้บริการ SEO กับเว็บนั้นๆ แล้ว เราจะได้รับการสร้างลิงค์กลับมาหาเว็บหลักของเราด้วยลิงค์คุณภาพ ช่วยส่งเสริมให้เว็บของเราติดอันดับ Google อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และลดความเสี่ยงของการโดน Google Penalty เพราะต้องบอกก่อนครับว่า การสร้างลิงค์เพื่อทำอันดับเอสอีโอนั้น ไม่ว่าเราจะสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพหรือไม่ ระยะแรกอันดับเอสอีโอของเว็บเราจะสวิงลงก่อนเสมอ หากกูเกิลตรวสอบว่าเราสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกูเกิล อันดับของเว็บไซต์ก็จะขยับขึ้นและเจ๋งกว่าเดิมครับ ต้องดูด้วยว่าบทความที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างลิงค์กลับมาหาเว็บหลัก หรือ Money Site นั้น มีบทความสอดคล้องกับหรือไม่ อ่านรู้เรื่องหรือไม่ เนื้อหาดังกล่าวเป็นมิตรกับผู้เยี่ยมชมหรือไม่ แล้วเมื่ออ่านบทความดังกล่าวแล้วเราได้รับความรู้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้ต้องตรวจเช็คอย่างละเอียด อีกทั้งต้องดูขั้นตอนการสร้างลิงค์ของผู้ให้บริการ SEO ว่ามีการใช้ Anchor Text Link โดยการกระจายคีย์เวิร์ดให้เป็นธรรมชาติหรือไม่ ไม่เน้นคีย์เวิร์ดใดคีย์เวิร์ดหนึ่งมากจนเกินความเหมาะสม ตลอดจนตรวจสอบด้วยว่า เป็นการสร้างแบ็คลิงค์บนหน้าเว็บที่น่าเชื่อถือหรือไม่ กล่าวคือ ถ้าเป็นการสร้างลิงค์บนบล็อก หรือเว็บ ที่ไม่มีการโพสบทความซ้ำๆ หรือที่เรียกว่า Duplicate Content ก็โอเคระดับหนึ่ง และต้องไม่เป็นการสร้างแบ็คลิงค์จากเว็บที่มีลักษณะ Content Farm หรือเว็บที่โพสเนื้อหาซ้ำๆ และเป็นเนื้อหาที่ไม่เข้าพวกกัน มีเนื้อหาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เป็นต้น

4. ตรวจสอบการสร้างแบ็คลิงค์ด้วย Blog Network ของผู้ให้บริการ SEO

  สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ผู้จ้างทำ SEO จะต้องเข้าใจและสามารถตรวจเช็คบริษัทที่ให้บริการ SEO ว่ามีการใช้ Private Blog Network หรือไม่ และหากมีการใช้เน็ตเวิร์คส่วนตัวในการทำเอสอีโอแล้ว PBN ดังกล่าว มีคุณภาพมากน้อยเพียงใด และผู้จ้างทำเอสอีโอจะต้องเข้าใจด้วยว่าเว็บแบบไหนที่เรียกว่าเน็ตเวิร์คส่วนตัวด้วยครับ และ Network ส่วนตัวส่วนมากจะใช้ CMS หรือ Webboard เป็นหลัก ถ้าเป็นซีเอ็มเอสก็จะนิยมใช้ Wordpress สำหรับสร้างเน็ตเวิร์คส่วนตัว เพราะเวิร์ดเพลสสนับสนุนเอสอีโอมากที่สุดในตระกูลของบล็อกฟรีครับ ส่วนถ้าเป็นเว็บบอร์ดก็จะเป็น SMF ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดที่รองรับเอสอีมากที่สุดสำหรับเว็บบอร์ดฟรี แต่ถ้าเสียตังค์ก็จะเป็น Vbulletin ที่รองรับเอสอีโอได้สุดยอดกว่าเอสเอ็มเอฟครับ สิ่งที่ควรสังเกตอีกอย่างคือ ถ้าเป็นเว็บที่ใช้ทำเน็ตเวิร์คส่วนตัว ส่วนมากจะเป็นเว็บปิด ไม่เปิดให้มีสมาชิกมาร่วมโพสเนื้อหาด้วย และคนที่โพสเนื้อหาส่วนมากจะเป็นชื่อซ้ำๆ กันแต่จะโพสบทความแตกต่างกัน และสร้างลิงค์ไปยังหลายๆ เว็บ และส่วนใหญ่จะเป็น Admin ที่โพสต์เนื้อหาเพื่อสร้าง backlinks ครับ อีกประการหนึ่ง คือ ลักษณะการโพส หากเป็นเน็ตเวิร์คส่วนตัว จะมีหลายๆ เว็บที่มีลักษณะเหมือนๆ กัน บทความมีบทความคล้ายกันกัน หรือบางทีอาจเหมือนกันในบางจุด แต่จะชี้ไปยังเว็บปลายทางเหมือนๆ กันในเวลาที่โพสต์คล้ายกันกัน ถ้าพบแบบนี้ เป็นการสร้างเน็ตเวิร์คส่วนตัวเพื่อทำอันดับแน่นอน แม้ว่ายุคนี้นักทำ SEO จะชื่นชอบใช้ Network ส่วนตัวทำอันดับน้อยลง เพราะต้นทุนสูง โอกาสโดนกูเกิลแบนมีมาก และยุคนี้ต้องอาศัย IPs ของ SEO Hosting ปริมาณมากๆ จึงจะเห็นผล ทำให้มีต้นทุนที่สูง นักทำเอสอีโอส่วนใหญ่จึงหันไปโพสเว็บบอร์ด หรือบล็อกฟรี เพื่อสร้างแบ็คลิงค์กลับไปหาเว็บหลัก

5. ตวรจสอบการใช้ Google Search Console ของผู้ให้บริการ SEO

  ในการทำเอสอีโอผู้ให้บริการ SEO จะต้องนำเว็บเข้าสู่ระบบ Search Engine Console ซึ่งเมื่อก่อนเรียกว่า Google Webmaster Tools เพื่อที่จะทำให้เว็บไซต์สามารถดันอันดับได้ดียิ่งขึ้น เพราะภายในกูเกิลเสิร์ทคอนโซลมีเครื่องมือสำหรับรองรับการทำให้เว็บรองรับ Search Engine ไม่ว่าจะเป็นการส่ง Sitemap ของเว็บเราไปยังกูเกิล เพื่อให้ Googlebot เข้ามาเก็บข้อมูลได้รวดเร็วและง่ายขึ้น เนื่องจากหากเว็บของเราสามารถ อินเด็กซ์ บน Search Result เร็วๆ นั่นย่อมมาถึงการเพิ่มโอกาสที่คนจะคลิกเข้าสู่เว็บของเราผ่านทาง Google Search มากตามไปด้วยนั่นเองครับ อีกทั้งภายในเครื่องมือ Search Engine Console ยังมีฟังก์ชั่นการดึงหน้าเว็บเหมือนเป็น Google เอาไว้ให้เราเรียก Googlebot มาเก็บข้อมูลภายในเว็บขอเราทันทีที่เราอัพเดทข้อมูลเรียบร้อยแล้ว และไม่อยากรอให้บอทมาเก็บก็สามารถเรียกบอทมาได้ทันที ซึ่งหนึ่งบัญชีสามารถเรียกกูเกิลบอทแบบเรียลไทม์ได้เดือนละ 10 ครั้ง และสามารถเรียกบอทแบบธรรมดาเดือนละ 500 ครั้ง ต่อ 1 Account นั่นเองครับ อย่างไรก็ตามหากไม่ได้อัพเดทข้อมูลภายในเว็บไซต์ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานฟังก์ชั่นส่วนนี้ เพราะอาจส่งผลเสียต่ออันดับครับ

6. สอบถามผู้ให้บริการ SEO ตรงๆ ว่าสร้าง Traffic ได้หรือไม่

  แม้ว่าเราจะสามารถตรวจสอบตัวเลข Traffic ของเว็บไซต์อื่น หรือเว็บผู้ให้บริการ SEO ว่าสามารถสร้างทราฟฟิคได้หรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบจากการเอา URL ของ ชื่อเว็บ ไปตรวจสอบกับเว็บตรวจเช็ค Backlinks และ Traffic ของเมืองนอก เราสามารถเลือกดูในส่วนของทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บนั้นๆ ได้ แต่อย่างว่าครับ หากเราไม่ใช่เจ้าของเว็บ แม้เราจะเอาชื่อชื่อเว็บไซต์ไปตรวจสอบตัวเลขทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บไซต์ ก็เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆ มีความคลาดเคลื่อนสูงมาก สรุป คือ เราไม่สามารถตรวจสถิติทราฟฟิคของเว็บไซต์อื่นได้ เว้นแต่ว่าเว็บนั้นมีการติดตัวนับคนเข้าเว็บ หรือที่เรียกว่า Counter หรือ Visitor Stats
รูปที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องเทคนิคเลือกใช้บริการ SEO GROUP ทำการตลาดออนไลน์ Online Marketing ติดหน้าแรกกูเกิล
แนวทางสมัครใช้บริการ SEO GROUP โปรโมทเว็บ Search Marketing ติดอันดับ Google
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: บริการ SEO
อ้างจาก: บริการ SEOเทคนิคเลือกใช้บริการ SEO GROUP ทำการตลาดออนไลน์ Online Marketing ติดหน้าแรกกูเกิล
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/page/SEO-คืออะไร
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/page/Google-Suggest-คืออะไร
ชื่อ: ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO GROUP)
ที่อยู่: Hamony Office หมู่ 1 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 50210
เบอร์โทรติดต่อ: 096-237-3905
อีเมล์: thaiseogroup@gmail.com

#15
แนวทางเทคนิคการเลือกบริษัทรับทำ SEO ให้มีคุณภาพ แชร์ข้อมูลน่าสนใจ

ทฤษฎีเทคนิคเทคนิคการเลือกบริษัทรับทำ SEO ให้มีคุณภาพ ลองอ่านบทความ เริ่มต้นศึกษาเกี่ยวกับรับทำ SEOทำความเข้าใจได้จากเนื้อหานี้   อย่างที่รู้กันว่าปัจจุบันกูเกิลมุ่งเน้นคุณภาพมากกว่าเดิม การสร้างเนื้อหาคุณภาพให้พอใจทั้ง Google และ User ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเช่นกันครับ หากผู้ติดตามจะจ้างบริษัทรับทำ SEO เพื่อโปรโมทเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรกกูเกิล จะต้องตรวจเช็คคุณภาพของ Article ที่ผู้ให้บริการรับทำ SEO แต่ละราย ว่า บทความที่สร้างขึ้นมีคุณภาพหรือไม่ อ่านรู้เรื่องหรือไม่ และอ่านแล้วได้ความรู้หรือประโยชน์มากน้อยขนาดไหน สิ่งเหล่านี้สำคัญต่อการทำอันดับเว็บไซต์ในยุคนี้มากๆ ครับ เพราะบริษัทรับทำ SEO ส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยมุ่งเน้นที่คุณภาพกันมากนัก เพราะการจะเขียน Content ที่มีคุณภาพ ต้องใช้เวลาศึกษาเรื่องนั้นๆ มากกว่า ต้องใช้เวลา อีกทั้ง การเขียนเนื้อหา
คุณภาพเพื่อสร้าง Links กลับไปหาเว็บหลักจะต้องสร้างบทความที่ไม่ซ้ำกันด้วยครับ ในแง่ของผู้ให้รับทำ SEO ก็ควรเข้าใจและรับทราบว่าการทำเอสอีโอในยุคนี้จะทำแบบง่ายๆ ไม่ได้ ต้องทำให้ถูกหลักเกณฑ์ที่ทางกูเกิลกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ประการที่สำคัญให้นึกถึงถึงผลในระยะยาวด้วย ไม่ใช่แค่เพียงมุ่งแต่จะส่งเสริมให้ติดอันดับเร็วๆ โดยไม่สนใจว่าหากระบบอัลกอริทึมมีการอัพเดทจะมีผลยังไง และผู้ที่ให้บริการเอสอีโอควรเข้าใจว่าปัจจุบันการดันอันดับ Google จะอาศัยแค่การสร้าง Content และสร้าง Link ไม่ได้แล้ว จะต้องหาทราฟฟิคเข้าเว็บไซต์ด้วย พากเพียรโปรโมทให้คนเข้าสู่เว็บจำนวนมากๆ จึงจะทำให้เว็บติดอันดับได้เร็วและยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโปรโมทเว็บให้คนเข้าผ่านทาง Search Engine มีความสำคัญอย่างมากต่อการดันอันดับ สรุป การทำเอสอีโอสมัยปัจจุบันไม่ได้จะติดอันดับได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ เว็บใครก็ตามที่มีเนื้อหาไม่มากและไม่มีคุณภาพ ทำแบบไม่ใส่ใจด้านคุณภาพ หวังแต่จะให้นักทำเอสอีโอดันอันดับให้อย่างเดียว แบบนี้ติดอันดับยากครับ เพราะสมัยนี้ถ้าบทความไม่พอใจกูเกิลหรือผู้ใช้งาน จำไปจ้างนักทำเอสอีโอคนไหนก็ทำขึ้นยากมากๆ ครับ สำคัญคือ เว็บต้องมีเนื้อหาดีไว้ก่อนจึงจะทำเอสอีโอได้ง่าย

การเลือกใช้บริการ SEO กับบริษัทรับทำเอสอีโอ

  ผู้ใช้บริการที่ใช้บริการ SEO กับบริษัทรับทำเอสอีโอไหนก็ตาม จะต้องเรียนรู้หาความรู้เกี่ยวกับเอสอีโอเบื้องต้นก่อนที่จะไปจ้างใครทำ SEO ให้ครับ เพราะอะไร? ก็เพราะว่าหากท่านไม่มีความรู้เบื้องต้นของเอสอีโอ ตลอดจนไม่รู้วิธีการตรวจสอบคุณภาพของการทำเอสอีโอแล้วละก็ การันตีได้เลยว่าท่านจะต้องเสียใจภายหลัง แม้ว่าบริษัท SEO ที่เราไปจ้างนั้น จะติดหน้าแรกคีย์ที่เกี่ยวกับการรับงานเอสอีโอก็ตาม แม้จนกระทั่งเว็บที่ติดหน้าแรกคีย์ รับทำ seo ก็ไม่ได้การรัณตีว่าเว็บนั้นจะส่งเสริมให้เว็บของเราติดอันดับกูเกิล ได้นะครับ เพราะกว่าที่เขาจะโปรโมทเว็บให้ดันเว็บตัวเองให้ติดหน้าแรกคีย์เหล่านี้ เขาใช้เวลาอย่างต่ำๆ 8 - 12 เดือนก็ว่าได้ แล้วถ้าท่านไปจ้างทำ seo และมีข้อความชักชวนให้ใช้บริการไม่จำกัด ทั้งโปรโมชั่นพิเศษ ทั้งบรรยายศัพท์เกี่ยวกับ SEO ที่ท่านไม่เข้าใจเลย อาจจะต้องเปลืองเวลา และเสียตังค์ไปเปล่าประโยชน์ จงจดจำไว้ว่าการทำเอสอีโอสมัยปัจจุบัน การที่นักทำเอสอีโอคนหนึ่งสามารถดันอันดับเว็บให้ติด Keyword ใดคีย์หนึ่ง ไม่ได้เป็นการยืนยันว่าจะสามารถทำคีย์อื่นๆ ติดอันดับด้วย และนี่คือความแตกต่างของการทำเอสอีโอสมัยปัจจุบันครับ Google ต้องการให้เจ้าของเว็บที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหา
เกี่ยวกับเรื่อง นั้นๆ สามารถทำอันดับได้ กล่าวคือ หากเราวิจัยหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไรอย่างลึกซึ้ง แล้วนำมาเขียนเนื้อหา สืบทอด เล่าประสบการณ์ผ่านทางการสร้างเว็บไซต์ ก็จะมีความเป็นไปได้ติดอันดับสูงกว่าคนที่ไม่ได้เป็น Guru ได้นั้นๆ ครับ เพราะฉะนั้น อยากทำให้เว็บติดอันดับได้เร็ว ต้องเป็น Guru ด้านนั้นๆ แล้วจะรุ่งครับ สิ่งที่อยากจะแนะนำอีกประการหนึ่ง คือ อยากให้เข้าใจว่าวิธีการของบริษัทรับทำ SEO ที่ใช้โปรโมทเว็บไซต์ตัวเอง กับเว็บที่ทำอันดับให้ลูกค้า มักจะใช้คนละวิธีการกัน หรือแม้แต่ถ้าใช้เทคนิคเดียวกันก็จะทำของผู้ใช้บริการน้อยกว่าเว็บของตัวเอง เหตุผลหลักคือ บริษัทเอสอีโอทั้งหลาย จะต้องแข่งกันดันอันดับเพื่อรับงานผู้ใช้บริการในแต่ละเดือน หรือแต่ละสัปดาห์ รวมทั้งแต่ละวันด้วย เขาจึงงัดเอาทุกยุทธวิธีที่จะส่งเสริมให้เว็บรับงานตัวเองอันดับดีมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Links คุณภาพมากกว่าเว็บผู้ใช้บริการ เว็บตัวเองอาจใช้วิธีการเขียนมือสำหรับเขียนเนื้อหาจากเว็บอื่น เพื่อสร้างลิงค์กลับไปหาเว็บหลักของตัวเอง แต่อาจใช้ขั้นตอนการ Spin เนื้อหาที่อ่านรู้เรื่องบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง หรือใช้สปินแบบศัพท์แปลกๆ อ่านแล้วไม่สอดคล้องกันเพื่อสร้าง Backlinks สิ่งเหล่านี้ผู้ใช้บริการ SEO ควรเข้าใจ และมุ่งมั่นเรียนรู้หาความรู้เพื่อตรวจเช็คคุณภาพ แม้ว่าจะสามารถดันอันดับได้ แต่ก็เสี่ยงที่จะโดน Google Penalty ได้ครับ อีกทั้งการเขียนบทความ
ไม่คุณภาพอาจทำให้อันดับเอสอีโอมีความผันผวนสูงครับ หรือบางครั้งที่ใช้วิธีการเดียวกันทั้งหมด แต่ปริมาณการสร้างแบ็คลิงค์ให้เว็บตัวเองมากกว่าสร้างให้ผู้ซื้อสินค้า แม้คีย์เวิร์ดจะมีความยุ่งยากในระดับเดียวกัน แม้กระทั่งการสร้าง Social Links หรือ Youtube Links ก็อาจทำให้เว็บตัวเองเป็นหลัก และทำจำนวนมากด้วยเพื่อหวังผลให้การรับงานให้มากๆ แต่ลูกค้าอาจใช้วิธีการที่เน้นความเร็วของการสร้างแบ็คลิงค์เป็นหลัก โดยอาจไม่คำนึงถึงคุณภาพ สิ่งเหล่านี้ท่านสามารถตรวจเช็คได้ถ้ามีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำ SEO ระดับหนึ่ง ซึ่งแน่นอนใช้เวลาไม่นานครับ ขอให้แค่มีความตั้งมั่น อะไรก็ไม่ยาก ลำดับต่อมาคือเรื่องของช่วงเวลาการทำอันดับเอสอีโอ อยากให้เข้าใจว่า Keywords แต่ละคีย์มีความยาก ง่าย ไม่เท่ากัน แน่นอนว่าย่อมใช้ช่วงเวลาการทำอันดับได้เนิ่นนานไม่เท่ากันแน่ๆ แต่อย่างไรก็ตามการทำเอสอีโอในยุคนี้ ต้องใช้เวลานานอยู่แล้วครับ ด้วยเหตุนี้อย่างได้เอาอันดับ SEO ของผู้ให้บริการเอสอีโอมาเป็นดัชนีชี้วัดว่าควรใช้บริการที่ไหนดี เพราะอาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะบางครั้งเขาใช้เวลาทำกันเป็นปีๆ กว่าจะติด แถมใช้คนทำเป็นทีมเวิร์คช่วยกันปั่นอันดับเพื่อรับงาน อยากดูว่าใครเก่งจริง ให้ไปไล่ดู Content + Link ที่บริษัทรับทำ SEO แต่ละรายเขาใช้กัน ว่าเขาใช้เทคนิคและวิธีการอย่างไร และให้ไปตรวจเช็ค ชื่อเว็บ ของผู้ให้บริการว่าจดมากี่ปีแล้ว รวมทั้งไปไล่ดูว่าปริมาณลิงค์ที่ทำให้ติดอันดับเริ่มสร้างมากๆ ตั้งแต่ช่วงวันเวลาไหน สิ่งเหล่านี้เป็นตัวคัดกรองคุณภาพของผู้ให้บริการได้ครับ

ก่อนจ้างทำ SEO สอบถามก่อนว่าสร้าง Traffic เข้าเว็บหรือไม่

  ก่อนการจ้างทำ SEO ควรทำการสอบถามไปยังผู้ให้บริการเอสอีโอก่อนว่า มีบริการเพิ่ม Traffic หรือ โปรโมทให้คนเข้าเว็บด้วยหรือไม่ และถ้ามีจะมีคนเข้าเว็บเฉลี่ยวันละ 1,000 คนขึ้นไป ถึงจะเห็นผลเร็ว โดยจำนวนค่าเฉลี่ยของทราฟฟิคที่ส่งผลดีต่อการดันอันดับ SEO อย่างยิ่ง ทำให้ติดอันดับเร็วอีกด้วย หรือ ถ้าหากไม่มี ก็สามารถยืนยันได้ว่าเว็บจะติดอันดับช้า เพราะการทำเอสอีโอสมัยปัจจุบันไม่เหมือนสมัยก่อนที่อาศัยแค่การสร้าง Content ปรับแต่ On Page แล้วปรับ Off Page สร้างลิงค์จำนวนมากๆ ก็ทำให้ติดอันดับได้ ยุคปัจจุบันยากแบบนั้น ตัวที่สร้างเว็บของเราเป็น Trust Site หรือทำให้เว็บของเราน่าเชื่อถือในมุมมองของกูเกิล จะต้องมี Traffic เข้าสู่เว็บครับ

  ทราฟฟิค ที่เข้าสู่เว็บไซต์ของเรานั้นมีหลาก หลายลักษณะ และทราฟฟิคแต่ละแบบก็ให้คำตอบทางด้าน SEO ไม่เหมือนกัน ที่สำคัญหากเราเป็นนักทำ SEO ที่หาทราฟฟิคเก่งๆ ไม่จำเป็นต้องง้อ Backlink ให้เสียเวลาก็สามารถขับเคลื่อนอันดับ SEO ติดอันดับกูเกิล ได้อย่างไม่ยากเย็น และการทำ SEO ที่เน้นการสร้างทราฟฟิคมีความยั่งยืนมากกว่าการทำ SEO ด้วยลิงค์ เพราะทุกครั้งที่กูเกิล Update Algorithm ใหม่ แบ็คลิงค์ของเราจะถูกนำไปตรวจสอบใหม่ ลิงค์เดิมที่กูเกิลเข้าใจว่ามีคุณภาพใน Algorithm ชุดเก่า พอมีการอัพเดทอัลกอริทึมใหม่ ลิงค์เดิมที่มีคุณภาพ อาจไม่ถูกต้องตามกฎใหม่ หรือระบบอัลกอริทึมใหม่ของกูเกิล อันนี้คือความซับซ้อนของการสร้างลิงค์ แต่สำหรับทราฟฟิคและสถิติของเว็บไซต์ ไม่ว่าระบบบอัลกอริทึมจะอัพเดทใหม่ยังไง ข้อมูลเว็บที่ดีจะส่งผลดีตลอด เพราะข้อมูลมาจากผู้ใช้งานจริงๆ แต่ต้องเป็น Web Statistics ที่ดีด้วย เพราะถ้าเว็บมีข้อมูลที่ไม่สนับสนุนยูสเซอร์ก็อาจส่งผลเสียต่ออันดับของเว็บ ได้เช่นกัน สรุปง่ายๆ ก็คือ เว็บไหนทำให้คนเข้าเว็บมากๆ และมาจากทราฟฟิคหลายประเภท และอ่านเนื้อหาภายในเว็บนานๆ อันดับเอสอีโอ ขึ้นกับขึ้น เลิกสนใจแบ็คลิงค์ไปได้เลย Google เข้าใจดีว่า Website ที่ดีต้องเป็นเว็บที่มีคนเข้าอ่านเนื้อหาปริมาณมากๆ และต้องมีข้อมูลของเว็บที่ดีอีกด้วย

หมวดของ Traffic ที่ส่งผลดีต่ออันดับ SEO

1. ทราฟฟิคแบบที่หนึ่ง Ads Traffic ทราฟฟิคกลุ่มนี้เช่น ทราฟฟิคที่มีการเข้าสู่เว็บจากการลงโฆาณาแบบ PPC หรือที่เรียกว่า Pay Per Click เช่น โฆษณา Google Adwords ซึ่งโปรดปรานมากที่สุด และมีผลต่ออันดับมากกว่าการลงโฆษณากับเจ้าอื่นๆ เหตุผลหลักๆ เลย เพราะว่าคนที่เข้าไปอ่านข้อมูลในเว็บ มาจากคนที่ต้องกางอ่านเนื้อหาที่สอดคล้องกับเว็บของผู้ลงโฆษณาจริงๆ สิ่งที่อยากให้เข้าใจกันสักนิดหนึ่งก็คือ การที่คลิกป้ายโฆษณาของ Adwords แล้วเข้าสู่เว็บไซต์ เราจะไม่ได้สถิติของ Analytics for Search ใน Search Engine Console นะครับ เพราะไม่ได้คลิกที่ที่ตั้งของ SEO หรือ Search Result แต่เป็นสถานะของป้ายโฆษณา สิ่งที่เราจะได้คำจำนวนทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บ และปริมาณคนออนไลน์ แน่นอนว่าลงโฆษณา Adwords ย่อมต้องมีคนหยุดอ่านเนื้อหาภายในเว็บนานกว่าการลงโฆษณากับเจ้าอื่นๆ ในกลุ่ม PPC ด้วยกันอยู่แล้ว เพราะว่าคนมาจากการค้นหาผ่านการ Search Query ข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกัน ยิ่งคนอ่านบทความมากๆ และอยู่ในหน้าเว็บนานๆ ยิ่งส่งผลดีต่ออันดับครับ และถ้ามีคนออนไลน์มากๆ ยิ่งส่งผลดีอย่างเห็นชัดครับ อย่างไรก็ตาม Traffic ที่มาจากโฆษณาแบบ PPC มีความแรงน้อยกว่าทราฟฟิคประเภทอื่นๆ ทั้งหมดครับ

2. ทราฟฟิคแบบที่สอง Direct Traffic ทราฟฟิคคนเข้าสู่เว็บตรงๆ เรียกได้ว่าเป็นทราฟฟิคมาตรฐานก็ว่าได้ ถ้าเราทำเว็บที่มีคุณภาพจริงๆ ผู้ติดตามจะติดตามและเข้ามาอ่านบทความภายในเว็บของเราอย่างสม่ำเสมอ และหากเว็บเราดีในสายตาผู้ติดตามจริงๆ ยูสเซอร์จะ Bookmark เว็บของเราเก็บสะสม เพื่อเข้าสู่เว็บอีกใหม่อีกครั้ง แน่นอนว่าสถิติของ Return Visitor ใน Google Webmaster Tool ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย หรือถ้าหากเราทำเว็บน่าสนใจจริงๆ ผู้ใช้งานก็จะจดจำชื่อเว็บของเรา ชื่อเว็บ และมีการเข้าสู่เว็บของเราโดยการป้อน URL กำหนดชื่อเว็บของเราโดยตรง ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นทราฟฟิคแบบ Direct Traffic ถ้าเปรียบเทียบกับทราฟฟิครูปแบบต่างๆ แล้ว ไดเรคทราฟฟิคส่งผลต่ออันดับเอสอีโอ น้อยกว่าทราฟฟิคแบบอื่นๆ แต่ยังไงก็แรงกว่า Backlink อยู่แล้วละ ยังไงก็ตามถ้าเราทำให้ Direct Traffic อาศัยอยู่ในหน้าเว็บขอเรานานๆ อ่านเนื้อหาภายในเว็บของเราหลายๆ หน้า การันตีว่าจะยิ่งเพิ่มความแรงในการทำ SEO มากยิ่งขึ้น

3. ทราฟฟิคแบบที่สาม Referral Traffic ทราฟฟิคจากการอ้างอิง ทราฟฟิคที่มาจากการคลิกลิงค์บนหน้าเว็บอื่นเพื่อเชื่อมโยงมายังหน้าเว็บของ เรา ล้วนเรียกว่า Referral Traffic และทราฟฟิคแบบนี้จะยิ่งส่งผลดี ถ้าหากว่าเว็บต้นทางมี Keyword หลักของเว็บไซต์ รวมทั้งบทความโดยรวมของเว็บเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลักของเว็บเรา รวมทั้งมีบทความที่สัมพันธ์กัน ยิ่งมีจำนวนทราฟฟิคแบบนี้เข้ามาจำนวนมากๆ ยิ่งจะทำให้อันดับเอสอีโอ ของเว็บเราขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือบางทีไม่จำเป็นต้องมีการคลิก Link เข้าสู่เว็บของเราก็ได้ ถ้าผู้เยี่ยมชมป้อน URL ของเราในขณะที่ยังอยู่ในหน้าเว็บนั้นๆ Google ก็เข้าใจว่ามีการอ้างอิงมาจากเว็บไหน จากการตรวจเช็ค Session และ Cookie ของ Webbrowser นั่นเอง ซึ่งระบบ Google Search สามารถตรวจเช็คพฤิตกรรมของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำอยู่แล้ว

4. ทราฟฟิคแบบที่สี่ Social Network Traffic ทราฟฟิคจาก Social Network  การสร้างทราฟฟิคจากโซเชียลเน็ตเวิร์คไม่ว่าจะเป็น Facebook ซึ่งเป็นสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุด Google Plus  Social Network จากกูเกิล แม้ว่ายูสเซอร์ในประเทศไทยจะไม่มาก แต่เราสามารถหาทราฟฟิคคุณภาพได้ Twitter ระบบโซเชียลเน็ตเวิร์คอีกเว็บที่มียูสเซอร์ปริมาณมาก โดยการทวิตประโยคหากัน และ Youtube ระบบสังคมออนไลน์โดยเชื่อมต่อกับ Social Network ตัวอื่นๆ และมีคนเข้าใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยการติดต่อสื่อสารผ่าน Video Youtube ที่สามารถแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งหากเราสร้างวีดีโอที่น่าสนใจแล้ว Upload ไว้บนยูทูป เราจะได้รับทราฟฟิคอีกทางจากการแนะแนวเว็บผ่านหนทางนี้ จุดเด่นของ Social Network Traffic คือ หากเรานำเสนอ Content ที่น่าสนใจ จะมีคนเข้าสู่เว็บของเราจำนวนมาก แต่ข้อเสีย คือ ทราฟฟิคจากโซเชียลเน็ตเวิร์คมากมาไวไปไว เราต้องแชร์เนื้อหาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปริมาณทราฟฟิคไม่น้อยลงอย่างกระทันหัน ซึ่งจะไม่ส่งผลดีต่ออันดับเอสอีโอ อย่างไรก็ตามทราฟฟิคที่เข้ามาจำนวนมากๆ พร้อมๆ กัน สามารถทำให้เว็บติดหน้าแรก Google รวดเร็วยิ่งขึ้น

5. ทราฟฟิคแบบที่ห้า ซึ่งสำคัญที่สุด Search Engine Traffic ทราฟฟิคที่มาจากกูเกิล หากเราสามารถสร้างทราฟฟิคที่มาจากกูเกิลเสิร์ทปริมาณมากๆ และมีข้อมูลการเข้าสู่เว็บที่ดี จะส่งผลต่ออันดับ Google ค่อนข้างมาก อาจเรียกได้ว่าเป็นทราฟฟิคที่มีผลต่อการทำ SEO สูงสุด หากเทียบกับทราฟฟิคแบบอื่นๆ ถ้าหากเราสามารถเพิ่มทราฟฟิคที่มาจาก Google Search อย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลดีต่อเว็บหลายเรื่อง อีกทั้งกูเกิลจะเข้าใจว่าเว็บของเรามีคุณภาพ ถ้าหากเราสามารถสร้างทราฟฟิคจาก Google ปริมาณมากๆ อย่างต่อเนื่อง จะส่งเสริมให้เว็บของเราติดอันดับต้นๆ ของผลการค้นหา Search Result Pages ในเวลาอันรวดเร็ว และติดอันดับอย่างยั่งยืน ซึ่งทราฟฟิคจากกูเกิล มาจากการที่ผู้ค้นหาข้อมูล ค้นหาชื่อเว็บ หรือ แบรนด์ ของเรา แล้วคลิกเข้าสู่เว็บของเราจากผลการค้นหาของกูเกิล หากเว็บของเรามีคนเข้าสู่เว็บผ่านทาง Organic Search ปริมาณมากๆ จะส่งเสริมให้เว็บของเราเป็น Trust Site ในสายตากูเกิล จะส่งเสริมให้เราดันอันดับได้ง่าย เพราะเว็บคุณภาพไต่อันดับได้ไม่ยาก Google ชอบเว็บที่มีคนเข้าเยอะๆ หรือเว็บที่กล่าวถึงมากๆ นักทำ SEO เมืองนอกได้แยก Traffic จาก Google Search ออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ Paid Search Traffic กับ Unpaid Search Traffic ทราฟฟิคที่เสียเงิน เช่น การลงโฆษณากับ Google Adwords ส่วนทราฟฟิคที่ไม่เสียตังค์ คือ ทราฟฟิคที่มาจากการค้นหาผ่านทาง Search Box แต่ในทางทฤษฎีของผู้เขียนแล้ว รูปแบบของ Traffic ที่มาจาก Google Search มีเพียงช่องทางเดียวเท่านั้น คือ การค้นหาผ่านทาง Search Engine นั่นเอง ส่วนทราฟฟิคที่มาจากโฆษณา Google Adwords นั้น จะมีลักษณะเหมือนกับ Direct Traffic มากกว่า เนื่องด้วยการที่มีการคลิกโฆษณา Adwords เพื่อเข้าสู่เว็บของเรา สถิติในส่วนของ Google Referral หรือ Organic Search จะไม่เพิ่มขึ้นเลย จะเพิ่มขึ้นเฉพาะสถิติคนเข้าสู่เว็บ และปริมาณคนออนไลน์ในเวลานั้นๆ แน่นอนว่าทราฟฟิคจากการลงโฆษณา Adwords มันช่วยเรื่องอันดับกูเกิล แต่เราไม่สามารถนำมาเทียบกับข้อมูลผ่านทาง Organic Search ได้เลย เพราะความแรงต่ออันดับของ SEO ห่างกันอย่างมาก

ปัจจัยชี้วัดคุณภาพของทราฟฟิคคืออะไร

1. ปัจจัยแรก Click Through Rate (CTR) อัตราส่วนการแสดงรายการเว็บของเราผ่านทาง Search Result ที่นำมาหารกับปริมาณคลิกที่เข้าสู่เว็บของเราผ่านทาง Google Search เช่น ถ้าหากมีคนคลิกเข้าสู่เว็บของเรา 5 คน ในการแสดงผล 1,000 ครั้ง จะส่งเสริมให้เราได้ค่า CTR เท่ากับ 0.5% ยิ่งค่า CTR ของเราสูงเท่าไหร่ จะส่งผลดีต่ออันดับเว็บมากเท่านั้น ค่านี้เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำอันดับบนกูเกิลยุคนี้ก็ว่าได้ ยิ่งปรับค่า CTR สูงๆ ด้วยคีย์เวิร์ดที่สอดคล้องกับเว็บไซต์ของเรา ยิ่งจะทำให้ติดอันดับรวดเร็วครับ ทั้งนี้ ก็ต้องโปรโมทให้คนเข้าเว็บปริมาณมากๆ ด้วยครับ จะส่งเสริมให้เห็นผลการไต่ของอันดับอย่างชัดเจน รวดเร็ว และถ้าติดอันดับแล้วจะติดเนิ่นนานครับ

2. ปัจจัยที่สอง Time on Site (Session duration) ระยะเวลาที่ยูสเซอร์อาศัยอยู่บนเว็บมีความสำคัญต่อแต้มในการจัดอันดับ ของ Google Search ยิ่งคนใช้เวลาอ่านบทความภายในเว็บของเรามากเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลดีต่ออันดับเอสอีโอ ของเว็บ ไม่เพียงแค่ช่วงเวลาเท่านั้น User Behavior ก็มีความสำคัญด้วยเช่นกัน ถ้าหากยูสเซอร์คลิกอ่านเนื้อหาภายในเว็บหลายๆ หน้า และมีการโต้ตอบ หรือแสดงความเห็นห็น ในแต่ละหน้า จะยิ่งส่งผลดีต่ออันดับของเว็บ ในเรื่องของช่วงเวลาการอ่านบทความของเว็บไซต์ ถ้าค่าเฉลี่ยเกิน 5 นาทีขึ้นไป ถึงว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากๆ แล้วครับ และช่วยสนับสนุนก
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องเทคนิคการเลือกบริษัทรับทำ SEO ให้มีคุณภาพ
เทคนิคการเลือกบริษัทรับทำ SEO ให้มีคุณภาพ
อ้างอิงจาก: รับทำ SEO
แท็ก: SEO
อ้างจาก: รับทำ SEOเทคนิคการเลือกบริษัทรับทำ SEO ให้มีคุณภาพ
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/tag/บริการ-SEO/
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/tag/รับทำ-SEO/
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 062-363-9429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
อ้างอิงจาก: http://thailandtrailblazerclub.com/index.php?action=post;board=20.0
#16
รับทำ SEO โปรโมทเว็บด้วยเทคนิคขั้นเทพ

แหล่งพัฒนาความรู้รับทำ SEO โปรโมทเว็บด้วยเทคนิคขั้นเทพ เรียนรู้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับรับทำ SEOเติมเต็มความเข้าใจได้จากที่นี่   การทำ SEO สายขาวคือการทำสร้างบทความเป็นมิตรกับผู้ติดตาม และการสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพจากเว็บที่มีคุณภาพ ยุคปัจจุบันการทำ SEO มีความละเอียดและเน้นคุณภาพมากกว่าเดิม โดยทาง google ได้พัฒนาระบบ algorithm ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาให้ระบบ search engine สามารถแสดงเว็บให้สอดคล้องกับความประสงค์ของผู้ค้นหาข้อมูลสูงสุด ยุคปัจจุบันเว็บที่จะติดอันดับ googel ได้นั้นไม่ใช่แค่การไปจ้างบริษัทรับทำ SEOโปรโมทด้วยการสร้าง backlinks ให้เท่านั้น แต่เว็บหลักที่อยากโปรโมทให้ติดหน้าแรก google จะต้องมีบทความคุณภาพด้วย โดยจะต้องมีรายละเอียดที่เป็นผลดีต่อยูสเซอร์หรือผู้ใช้งานที่เข้ามา อ่านบทความภายในเว็บด้วย ซึ่งการทำอันดับบนกูเกิลในยุคนี้ จะต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปรับ on-page และ off-page ที่แตกต่างจากยุคก่อนๆ เช่น การปรับ on page ไม่ใช่แค่การปรับ meta tag หรือ การเน้นประโยคเท่านั้น แต่การปรับออนเพจยุคใหม่ คือการ ปรับให้เว็บมีเนื้อที่มีคุณภาพ มีรายละเอียดรอบด้านเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังนำเสนอ โดยมีการเชื่อมโยงเนื้อหาภายในเว็บให้รองรับผู้ติดตามมากที่สุด ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ตรงกับสิ่งที่อยากจากการค้นหา บนกูเกิลเสิร์ท และในขณะเดียวกันการปรับ off page ก็ไม่ใช่แค่การสร้าง backlinks เท่านั้น แต่ควรมุ่งเน้นการสร้างแบ็คลิงค์เพื่อให้ได้ทราฟฟิคคนเข้าไปอ่านบทความที่เว็บ หลัก การทำอันดับบนกูเกิลยังคงต้องอาศัยการสร้างลิงค์เพื่อดันให้เว็บติด อันดับที่อยาก แต่ยุคนี้กูเกิลไม่ได้ให้ความสำคัญกับลิงค์เป็นอันดับหนึ่ง สิ่งที่กูเกิลให้ความสำคัญมากที่สุดคือ คุณภาพของเนื้อหา ว่ามีความลึกซึ้ง และเป็นประโยชน์มากน้อยเพียงใด และยูสเซอร์ สองสิ่งนี้คือ ส่วนสำคัญในการทำอันดับบน google เพราะถ้าหากเราสร้างลิงค์แต่ไม่มีคนเข้าเว็บเลย กูเกิลก็จะคิดว่าเว็บเราไม่มีคุณภาพ หรือแม้แต่มีคนเข้าเว็บเรามากๆ แล้ว แต่มีการใช้เวลาอยู่บนหน้าเว็บไม่นาน แล้วก็รีบปิดหน้าเว็บของเราทิ้งไป แบบนี้จะสนับสนุนให้ค่า bounce rate หรือ ค่าอัตราตีกลับ ที่สูง ทำให้กูเกิลเข้าใจว่าเว็บของเราไร้คุณภาพ การทำให้เว็บมีคุณภาพ นอกจากจะสร้าง content ที่ดีแล้ว จะต้องพยายามนำเสนอให้คนที่เข้ามาอ่านยังเว็บของเรา อาศัยอยู่ในหน้าเว็บนานๆ หรือที่เรียกว่า time on site ยิ่งเว็บเรามีค่านี้มากเท่าไหร่ยิ่งส่งผลดีต่ออันดับ seo ดังนั้นการทำให้เว็บมีคุณภาพในมุมมองของ google คือ การทำให้เว็บของเรามีคนเข้ามาอ่านเนื้อหาเยอะ และใช้เวลาอยู่ในหน้าเว็บของเรานานๆ ยิ่งเป็นทราฟฟิคที่มาจาก search engine และ social network ยิ่งส่งผลดีต่ออันดับอย่างรวดเร็ว บางทีอันดับของบริษัทรับทำ SEO ที่คุณเห็นว่าติดอันดับต้นๆ บน Google Search อาจไม่ได้สะท้อนถึงว่าบริษัทหรือผู้รับทำ SEO เหล่านั้นมีคุณภาพหรือไม่ และบางทีหากคุณรู้ว่าแต่ละเว็บใช้วิธีการอะไร ก็อาจดันอันดับด้วยตนเองได้ ยังไงก็ตามเทคนิคหนึ่งที่ผู้ให้บริการ SEO โปรดปรานใช้กันมากที่สุด คือการสร้างเว็บขึ้นมา โดยเว็บที่สร้างขึ้นมีจำนวนหน้าเว็บมากๆ แล้วทำการติด Text Link ในหน้าเว็บเหล่านั้น หรือมีการเข้าไปซื้อที่ตั้งติด Anchor Text Link ในเว็บใหญ่ๆ ที่มีจำนวนหน้ามากๆ เพื่อให้ได้ backlink กลับมามากๆ ซึ่งส่งผลต่ออันดับอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่ากูเกิลจะพากเพียรออกมาแจ้งเตือนบรรดาเว็บมาสเตอร์ หรือ นักทำการตลาดออนไลน์ว่าห้ามทำการซื้อ-ขายลิงค์ แต่มีนักทำเอสอีโอน้อยรายที่เชื่อในการเตือนของกูเกิล เพราะต่างก็พากเพียรใช้วิธีการต่างๆ ไม่ให้ google penalty หรือ โดน manual action ในหลายๆ ครั้ง บริษัทรับทำ seo มีการลงทุนซื้อเว็บ ซื้อลิงค์ เพื่อติดลิงค์ให้เว็บของตัวเอง ให้มีอันดับดีๆ เพื่อที่จะได้ผู้ใช้บริการจากการติดอันดับเหล่านั้น แน่นอนว่าผู้ซื้อสินค้าไม่มีความรู้เพียงพอต่อการตรวจเช็คแนวทางการที่บริษัทเอสอีโอแต่ ละรายใช้ แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ ช่วงระยะเวลาไม่นาน กูเกิลได้อัพเดทระบบ google algorithm ที่มีความฉลาดมากกว่าเดิม และได้ลดความสำคัญของลิงค์ลง แล้วไปให้ความสำคัญกับ UX และ Traffic แทน แม้ว่าบริษัทเอสอีโอที่ใช้เทคนิค ใช้ต้นทุนมากๆ ไปกว้านซื้อเว็บใหญ่ๆ เพื่อติดลิงค์ จะยังสามารถดันอันดับได้ แต่เริ่มจะมีผลลดลงไปเรื่อยๆ ทำให้เห็นว่ากูเกิลจริงจังกับคุณภาพ อาจกล่าวได้ว่ายุคนี้ เราควรสร้าง backlinks จากจำนวนเว็บมากๆ มากกว่าการมีลิงค์มาจากกลุ่มเว็บใดกลุ่มเว็บหนึ่งเท่านั้น อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ การที่บริษัทเอสอีโอไปไล่ซื้อลิงค์จากเว็บใหญ่ๆ ใช้ต้นทุนสูงมาก หลายครั้งที่ผู้ซื้อสินค้าอาจไม่ได้รับการดันอันดับด้วยขั้นตอนการที่บริษัทเอสอีโอเหล่า นั้นใช้ แน่นอนผู้ซื้อสินค้าตรวจสอบไม่ได้ว่าใช้หรือไม่ใช่ เพราะผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ไม่รู้ ถ้าผู้ซื้อผลิตภัณฑ์รู้ ผู้ซื้อสินค้าก็ไม่มาจ้าง ซึ่งผมสะท้อนให้เห็นสิ่งที่เป็นจริงของธุรกิจรับทำ SEO นอกจากนั้นอันดับเว็บที่คุณเห็นจากการค้นหาคีย์เกี่ยวกับบริการ SEO หลายเว็บอาจใช้เวลาเป็นปี กว่าที่จะติดอันดับได้ เพราะฉะนั้น การที่คุณเห็นว่าเว็บนั้นสามารถติดอันดับได้ ไม่ได้หมายความว่าเขาทำอันดับได้เร็ว ตามที่กล่าวอ้างไว้ในส่วนที่ให้บริการ สิ่งเหล่านั้น ล้วนเป็นรายละเอียดทางเทคนิค ที่ผู้ใช้บริการควรมีความรู้ขั้นต้น เพื่อคอยตรวจเช็คและประเมินผลการปฏิบัติงานว่ามีคุณภาพหรือไม่ สรุป ผู้ให้บริการ seo ที่มีคุณภาพจะต้องให้เว็บคุณมี backlinks จากเว็บที่มีบทความสอดคล้องกัน จะต้องทำให้มีคนเข้าเว็บของคุณอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยๆ 1,000 คน/วัน จะต้องทำให้เว็บของคุณมีตัวเลขที่ดีทั้งใน google webmaster tools และ google analytics การทำอันดับเอสอีโอยุคนี้จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้   การทำ seo ในยุคนี้ ต้องมุ่งเน้นกับคำว่าคุณภาพมากกว่าเดิม การดันอันดับบน google search ในปัจจุบันนั้น จะอาศัยแค่การสร้าง backlinks เพียงอย่างเดียวนั้น ไม่ได้แล้ว จะต้องโปรโมทเว็บแบบบูรณาการรอบด้าน เพื่อสามารถดันอันดับอย่างมีประสิทธิผล โดยกูเกิลให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับยูสเซอร์ หรือที่เรียกว่า UX (User Experince) ซึ่งกูเกิลตรวจเช็คว่าเว็บของเรามีคุณภาพและรองรับ User หรือไม่ จากการตรวจสอบค่า CTR (Click Through Rate) และตัวเลขต่างๆ ที่แสดงใน google webmaster tools และ google analytics รวมทั้งคุณภาพของ content ที่เราสร้างขึ้น จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่ากูกิลไม่ได้ใส่ใจกับลิงค์มาเป็นอันดับ หนึ่งเหมือนช่วงยุคก่อนๆ เพราะการที่กูเกิลมุ่งเน้นตรวจเช็คคุณภาพจากปริมาณลิงค์ ทำให้ไม่สามารถคัดเลือกเว็บที่มีคุณภาพจริงๆ ได้นั่นเอง และนักทำเอสอีโอสายดำก็สามารถความโมโหอันดับบน search engine result pages ได้ สรุปได้ว่า สมัยปัจจุบันการทำ seo ต้องอาศัยหลายปัจจัยเพื่อทำให้เว็บติดอันดับบน search engine และทราฟฟิคคนเข้าเว็บเป็นตัวชี้วัดคุณภาพ การทำเอสจะต้องสร้างทราฟฟิคคนเข้าสู่เว็บได้อย่างต่อเนื่อง และวิธีการการสร้าง traffic ที่ง่ายที่สุด คือการสร้างเนื้อหาคุณภาพ โดยที่บทความคุณภาพจะสามารถติดอันดับต้นๆ ของ keywords ที่มีการแข่งขันกันต่ำ ทำให้เราได้ทราฟฟิคจาก google จากคีย์เวิร์ดที่มากมาย และทราฟฟิคจากคีย์เวิร์ดเหล่านี้จะทำให้เว็บของเราติดอันดับคีย์เวิร์ดหลัก ในระยะยาวอีกด้วย   ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ SEO พื้นฐาน ยุคนี้การทำ SEO มีความยุ่งยากและยุ่งยากกว่าครั้งหนึ่งมาก แต่ก็ไม่ได้มีความหมายว่าเราจะดันอันดับบน Google Search ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้การโปรโมทเว็บไซต์ในยุคนี้จะต้องมุ่งเน้นที่การสร้างบทความ
คุณภาพเป็น มิตรกับผู้เยี่ยมชมเป็นหลัก เนื่องด้วยยุคนี้กูเกิลได้ปรับปรุงระบบอัลกอริทึมสำหรับตรวจเช็คคุณภาพของ เว็บไซต์มาหลายชุด ทั้งนี้เพื่อคัดเลือกเว็บคุณภาพให้แสดงอยู่อันดับต้นๆ ของผลการค้นหาของกูเกิลนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา google penguin เพื่อมาตรวจสอบความถูกต้องของการสร้างลิงค์ว่ามีคุณภาพมากน้อยสักแค่ไหน รวมไปถึงวิธีการการสร้างลิงค์ที่เชื่อมโยงไปยังเว็บหลักว่าถูกต้องตามกฎของกูเกิล หรือไม่ google panda อัลกอริทึมสำหรับตรวจเช็คคุณภาพของบทความ อัลกอริทึมตัวนี้จะตรวจเช็คว่าเราสร้างเนื้อหาคุณภาพแตกต่างกับเว็บไซต์อื่นหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบความลึกซึ้งของบทความที่เราเขียนว่าอยู่ในระดับใด เนื้อหาที่เราสร้างขึ้นนั้นมีลักษณะเป็น expert writer หรือไม่ยังไง โดยเน้นตรวจเช็คคุณภาพและความเป็น unique ที่ไม่เหมือนใคร google hummingbird ระบบอัลกอริทึมสำหรับตรวจสอบการเชื่อมโยงของลิงค์ภายในเว็บว่าได้นำทางผู้ ใช้งานให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์หรือไม่ page layout algorithm ระบบตรวจสอบการจัดโครงสร้างและหน้าเว็บว่ารองรับยูสเซอร์มากน้อยเพียงใด มีโฆษณามากจนเกินพอดีหรือไม่ rankbrain algorithm
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องรับทำ SEO โปรโมทเว็บด้วยเทคนิคขั้นเทพ
รับทำ SEO โปรโมทเว็บด้วยเทคนิคขั้นเทพ
อ้างอิงจาก: รับทำ SEO
แท็ก: SEO
อ้างจาก: รับทำ SEOรับทำ SEO โปรโมทเว็บด้วยเทคนิคขั้นเทพ
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/tag/บริการ-SEO/
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/tag/รับทำ-SEO/
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 062-363-9429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com

อ้างอิง http://thailandtrailblazerclub.com/index.php/topic,95887.0.html
#17
วิธีเลือกรับทำ seo cm group ติดอันดับ google อย่างปลอดภัย สนับสนุน google algorithm ล่าสุด

ประกาศขายวิธีเลือกรับทำ seo cm group ติดหน้าแรกกูเกิล อย่างปลอดภัย สนับสนุน google algorithm ล่าสุด ผมมีเรื่องที่น่าใจอย่างมากมานำเสนอซึ่งเกี่ยวกับบริการ SEO CM Groupศึกษาเรียนรู้ได้จากเนื้อหานี้ครับ
ทำความเข้าใจดับ Private Blog Network (PBN)

ไม่ว่าการทำ SEO จะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ตัวแปรหลักสำหรับสร้าง Links คุณภาพ สามารถควบคุมคุณภาพของเว็บทุกจุด ต้องยกให้ระบบ Network ส่วนตัว ที่ยังคงสร้างลิงค์สำหรับทำอันดับ SEO อย่างมีประสิทธิภาพ

  ถ้าคุณเข้าใจว่า Network ส่วนตัว คือ สายดำ แสดงว่าคุณไม่เข้าใจคำว่าคุณภาพในมุมมองของ Google ถ้าคุณเหมารวมว่าการสร้าง Network ส่วนตัวไม่ถูก Google เว็บทั่วไปที่มีลักษณะการเชื่อมโยง Data ที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายก็จะผิดตามไปด้วย จริงๆ แล้ว ให้เราโฟกัสในสิ่งที่ Google ดำเนินการกับเว็บด้อยคุณภาพทั้งหลาย ซึ่งแน่นอนว่ากูเกิลไม่ได้ลำเอียง หรือเลือกปฏิบัติกับเว็บใดเว็บหนึ่ง แต่ใช้มาตรฐานเดียวกันหมด ต้นเหตุที่ Network ส่วนตัวโดน Google แบนซ้ำซาก เหตุผลหลักไม่มีอะไร นอกไปจากคำว่าเว็บขยะ ที่มีการสร้าง Spam Content และ Spam Link เพื่อหวังผลทางอันดับ Google ในทางกลับกันคุณลองนึกภาพเว็บคุณภาพที่มีความอดทน Present ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชม และในขณะเดียวกันเว็บเหล่านั้นก็ต้องการอันดับ SEO ที่ดีด้วย โดยมีการปรับ On Page , Off Page รวมไปถึงการปรับให้ตอบสนองต่อยูสเซอร์ เพื่อให้เว็บมีคุณภาพในสายตากูเกิล โดยมุ่งเน้นไปที่ User Experience เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าคุณตั้งใจสร้าง PBN คุณภาพสำหรับผู้ติดตามจริงๆ คุณไม่ต้องใช้ศาสตร์การบริการ SEO CM Group ชั้นสูงอะไรเลย แค่ทำให้คนอ่านชอบ แค่นั้นพอ และถ้ามองให้ดีแล้วการสร้าง Blog Network มันไม่ต้องใช้ Knowledge ทางวิธีการอะไร แค่ตั้งใจเขียนบทความคุณภาพแล้วสร้างแบ็คลิงค์กลับไปเว็บหลักก็เท่านั้น
การสร้าง Network ส่วนตัว สายดำ หรือ สายขาว คุณเป็นผู้กำหนด

  คุณคิดว่า Network ส่วนตัวในความเข้าใจของคุณคืออะไร อะไรเป็นตัวชี้วัดว่าสายดำ หรือสายขาว ง่ายๆ เลย หากคุณสร้าง Network ส่วนตัวขึ้นมาสักชุดหนึ่ง อาจจะ 30 - 50 IPs หรือ 100 IPs แล้วแต่กำลังทรัพย์ของคุณว่ามีเท่าไหร่ คือ ถ้าคุณสร้าง Blog Network ขึ้นมา และมีการเพิ่มเนื้อหาใหม่ แต่ละเว็บในเน็ตเวิร์คมีการ  Index  เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง Network ของคุณไม่โดนเตือนจาก Google ส่วนของ Manual Action ใน Google Webmaster Tools แสดงว่า Network ที่คุณสร้างกำลังไปได้สวย ปกติแล้วถ้าคุณเพิ่มเนื้อหาราวๆ 100 หน้าขึ้นไป หลังจากนั้นถ้าหากผ่านไป 15 - 30 วัน ไม่มีการแจ้งเตือนจากระบบออโต้ของกูเกิล รวมทั้งระบบการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่แสดงว่าคุณเริ่ม Optimize Netwrok ไปในทางที่ถูกต้องแล้ว แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่สามารถการันตีว่า Network ส่วนตัวของคุณจะแรงอย่างที่คุณอยาก สิ่งที่จะทำให้ Links ที่คุณสร้างจาก Network ส่วนตัวแรงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของบทความที่คุณเขียน Google สามารถเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาที่คุณเขียนว่ามีความลึกซึ้งมากสักแค่ไหน โดยการนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลที่กูเกิลมีอยู่ และสิ่งที่อยากจะแนะนำผู้ติดตาม คือ การเขียนเนื้อหา
ให้อ่านรู้เรื่อง อ่านออก ไม่ได้หมายความว่าเนื้อหามีคุณภาพ กล่าวคือ ถ้าคนเข้ามาอ่านแล้วไม่ได้รับ Knowledge หรือ Data เชิงลึก ข้อมูลที่คุณสร้างจะมีพลังในการทำให้ Links ที่สร้างขึ้นน้อยมาก การเขียนเนื้อหา
แบบเจาะลึก จึงทำให้ลิงค์มีคุณค่าเพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อเว็บหลักอย่างเห็นได้ชัด

  Network ส่วนตัวคุณภาพ ไม่ใช่อะไรที่ง่ายๆ วิธีการการทำเน็ตเวิร์คส่วนตัว อาจคล้ายๆ กัน คือ มีการเช่า SEO Hosting ตามจำนวน IPs ที่อยาก มีการจดชื่อเว็บไซต์ ชื่อเว็บไซต์ Register ในชื่อเว็บที่ไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน มีการติดตั้ง CMS เช่น Wordrpess หรือแม้กระทั่งเว็บที่คุณเป็นคนปรับปรุงขึ้นเอง ซึ่งมันก็มีอะไรที่คล้ายๆ กัน ในด้านการดำเนินงาน แต่ความไม่เหมือนจะไปวัดกันที่เนื้อหา ใช่ครับ Content นี่แหละ แสดงถึง Class ของการทำ PBN ที่ไม่เหมือนกันอย่างแม่นยำ อันที่จริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องมี Knowledge เกี่ยวกับ Search Engine Optimization ไม่จำกัดดุจดั่งเทพเลย แค่มีความอดทนที่จะนำเสนอ Content คุณภาพที่แตกต่างและไม่เหมือนกับเว็บอื่นๆ ส่วนความรู้ทางวิธีการที่คุณไปอ่านเจอเว็บในไทยบ้าง ต่างประเทศบ้าง โดยส่วนใหญ่แล้วแล้วสร้างศัพท์วิธีการขึ้นมาลอยๆ อ้างอิงให้ไอเดียหรือ Theory ของตัวเองถูกต้อง น่าเชื่อถือ ซึ่งกูเกิลไม่เคยไปร่วมแสดงความเห็นกับศัพท์พิศดาลอะไรทีนักทำ SEO ตั้งกันขึ้นมา ต่อให้คุณมีศัพท์หลักสูตรการ คำพูดหรูดูมีคลาส ไม่จำกัด ถ้าไม่ปฏิบัติตามกฎของ Google ผลสุดท้าย Game Over และ Network ส่วนตัวคุณจะโดนแบน คุณไม่ต้องไปแสวงหาความรู้เกี่ยวกับ SEO ให้เยอะแยะ เพราะแก่นแท้ของการทำ SEO คือการสร้าง Quality Content ให้กับผู้เยี่ยมชม และยึดผู้ติดตามเป็นสำคัญ เข้าใจแค่นี้ คุณสามารถทำ SEO เหนือเทพ SEO ที่ทำมาเป็นสิบๆ ปี ได้อย่างไม่ยากเย็น ความยากมันอยู่ที่ความขยันในการสร้างเนื้อหาคุณภาพซะมากกว่า ส่วนอย่างอื่นเป็นเรื่องรองหมด ดังนั้น Network ส่วนตัวของคุณจะเป็นสายดำ สายขาว คุณเป็นผู้กำหนดเอง คำตอบของการทำ Network สายขาว คือ เว็บไม่โดน Google Penalty และไม่โดน Google Ban อีกทั้ง Backlinks ที่สร้างสามารถทำอันดับเว็บหลักได้ ตรงกันข้ามกับสายดำ เว็บภายในเน็ตเวิร์คโดนกูเกิลทำโทษและแบน รวมทั้งเว็บหลักถูกกูเกิลเข้าใจว่าใช้วิธีการเป็นสิ่งที่ผิด ถูกลดอันดับไปแสดงในหน้าท้ายๆ หรือโดนกูเกิลแช่แข็งเป็นปีๆ
สร้าง Network ส่วนตัวด้วย Wordpress ดีไหม

  ตอบเลยว่าดี ถ้าคุณเขียนเนื้อหาคุณภาพเป็นมิตรกับผู้ติดตามและบทความไม่เหมือนกับเว็บอื่น ไม่ดี ถ้าคุณไม่เข้าใจหลักการปรับเว็บให้รองรับกฎ Google เพราะภายใน Wordpress มีหลายฟังก์ชั่นที่มีลักษณะเป็น Black Hat อยู่ด้วย เช่น Cateogry , Tags หรือแม้แต่ Blogroll Link เอาง่ายๆ ว่า Wordpress จะดึง Database ชุดเดียวกัน แถวเดียวกัน Database Row แล้วนำไปแสดงในหน้าที่มี URL แตกต่างกัน แต่เนื้อหายังคงใช้ตัวเดียวกัน นั่นหมายความว่าภายใน Wordpress จะมีการ Duplicate Content เกิดขึ้นแน่นอน แม้ว่ามันไม่ร้ายแรงเท่าการไป Copy Cotent จากเว็บไซต์อื่นมาโพส แต่มันก็ยังเป็นบทความซ้ำอยู่ดี แน่นอนทาง Google ออกมารับประกันว่ากูเกิลจะไม่ทำโทษเว็บที่มี Dupliate Content แต่จะแค่ลดความสำคัญของเว็บไซต์นั้นลง แน่นอนว่าย่อมส่งผลเสียต่อการทำ SEO อย่างแท้จริง ยิ่งเป็น Network ส่วนตัวด้วยแล้ว ความแรงของ Links จะลดลงอย่างมาก ถ้าคุณเก่ง PHP และ Optimize แก้อุปสรรคเหล่านี้ ก็ OK อยู่ แต่ User ส่วนมาก หรือนักทำ SEO ส่วนมากแล้ว จะไม่ปรับเพราะเข้าใจว่า Wordpress มันรองรับ SEO ได้ดีอยู่แล้ว และมักจะเน้นไปปรับในส่วนของ Title และ Description ของเว็บไซต์ รวมทั้ง WP Themes ซะมากกว่า และยิ่งยุคนี้ Google ปรับปรุงระบบ Algorithm โดยลดความสำคัญของลิงค์ลงไป บวกกับ Wordpress ที่กูเกิลเข้าใจว่ายังมีหลายจุดที่ด้อยคุณภาพตามหลักของกูเกิล Links ที่สร้างจากเวิร์ดเพลสจึงมีพลังน้อยลงจากแต่ก่อนอย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจอะไร ยังไงก็ตามเราสามารถปรับให้ Wordpress กลับมาแรงได้อีกครั้ง แต่คุณอาจต้องมีทักษะการปรับแต่งในส่วนของ Source Code นิดหน่อย แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน อย่างแรกเลย ถ้าหากคุณจำเป็นต้องใช้ Wordpress Category หรือ Wordpress Tags ให้คนสร้าง Table ใน MySQL เพิ่มขึ้นมา จากนั้นเขียนโค๊ดให้ดู Data เข้าไปแสดงเพิ่มเติมต่อจาก Data ที่ Wordpress ดึงมาแสดงซ้ำๆ กัน อาจจะเพิ่มเนื้อหาต่อท้าย หรือแทรก Head Line ของบทความ พูดง่ายๆ ทำอะไรก็ได้ไม่ให้ข้อมูลซ้ำกัน ยิ่งถ้าคุณสามารถเขียนให้ Category และ Tags ของเวิร์ดเพลส ไม่ไปดึงข้อมูลของ Content เดียวกันมาแสดงซ้ำๆ ยิ่งเดีเลย และในส่วนของ Blogroll Link คุณก็ควรสร้าง Column เพิ่มใน Table ให้มี Title และ Description ก่อนจะแสดง Links เพื่อไม่ให้เป็นการตั้งใจติดลิงค์เพื่อหวังผล SEO มากจนเกินไป อย่างไรก็ตามถ้าคุณใช้ Wordpress ทำเป็นเว็บหลัก คุณไม่ต้องปรับอะไรเพิ่มมากขึ้น ไม่โดนกูเกิลจับตาดูหรือโดนแบนอย่างแน่นอน เพราะจุดเด่นของเว็บหลักจะแตกต่างจาก Network ตรงที่ มี Links ออกน้อย เนื้อหาจะจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ไม่สะเปะสะปะเหมือนอย่างเว็บที่ทำเป็นเน็ตเวิร์คที่ยำรวม Content ที่มีบทความไม่เหมือนกัน
เพราะเหตุใดต้องใช้ Network ส่วนตัว

1. สามารถควบคุมคุณภาพของเนื้อหาได้ และจัดการเว็บได้อย่างเบ็ดเสร็จ จะแก้ตรงไหน ปรับตรงไหน ให้พอใจ Google ทำได้หมด

2. ปลอดภัยจากการสร้าง Dupliate Content ถ้าหากคุณใช้ Network ส่วนตัวทำ SEO มั่นใจได้ว่า Backlinks ของคุณจะไม่มีเนื้อหาขยะแสดงอยู่ภายในเว็บ ซึ่งถ้าเป็น เว็บบอร์ด เว็บประกาศ เว็บไดเรคทอรี มีคนใช้งานร่วมกันปริมาณมาก แต่ละคนก็จะโพสเนื้อหาคุณภาพในแบบของตัวเอง หลายๆ คน จะโพสบทความ Duplicate Content โพสเนื้อหาซ้ำๆ ยิ่งกว่านั้น บางรายอาจสร้าง Content ที่ด้อยคุณภาพเลย อาศัยแต่จะสร้าง Backlink ถ้าคุณสร้างลิงค์ร่วมกับคนอื่น หนทางสูงมากที่คุณจะโดน Google ทำโทษ แม้ว่าจะดันเว็บให้ขยับขึ้นได้ แต่ไม่ยั่งยืน และช้าเร็ว คุณจะได้รับข้อความจากทีมเวิร์ค Google ว่าสิ่งที่คุณทำเป็น Spam Link และไม่ถูกต้อง

3. ง่ายต่อการจัดการ Links บางทีที่ลิงค์บางลิงค์ของคุณไร้คุณภาพในมุมมองของ Google แน่นอนว่าข้อเท็จจริงเราจะต้องทำเว็บไม่ให้โดนเตือนผ่าน Manual Action แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ เราสามารถดำเนินงานลบลิงค์ที่ไม่ได้คุณภาพในมุมมอง Google ได้อย่างรวดเร็ว แล้วส่งลิงค์ที่ได้ปรับปรุงแล้วผ่านทาง Dissavow Tool จริงๆ แล้วเครื่องมือตัวนี้ไม่ค่อยเป็นประโยชน์ ตราบใดที่หน้าเว็บที่ต้องการลบ ยังไม่หายไปจากการ  Index  บน Search Engine ง่ายและได้ผลเร็วที่สุด คือ การลบหน้าที่ไม่ได้คุณภาพแล้วทำการ Update Sitemap เข้า Google Webmaster Tools จะสุดยอดกว่า

4. Links จาก Network ส่วนตัว มีพลังมากกว่า แน่นอนว่าความไม่เหมือนระหว่างเว็บทั่วไป กับ Network ส่วนตัว คือ ลิงค์ที่ได้จาก Blog Network ย่อมให้สกอร์ของลิงค์ได้เลิศกว่า เพราะสามารถ Optimize Content ได้เลิศกว่า รองรับ SEO มากกว่า อีกทั้ง SEO Friendly มากกว่าเว็บทั่วไป ถ้าหากทำ Network ส่วนตัว คุณภาพจริงๆ ลิงค์ที่สร้างแทบไม่มีแต้มด้านลบที่จะไปหัดล้างกับลิงค์คุณภาพอื่นๆ ของคุณเลย อีกทั้งคุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการสร้าง Network ส่วนตัว ด้วย IP คลาสอะไร เพื่อเพิ่มความแรงให้กับลิงค์ขึ้นไปอีก

5. ไม่ได้รับผลกระทบ Time  Google Update Algorithm หากคุณโพสบทความและสร้างลิงค์จากเว็บของคนอื่นที่ไม่ใช่เว็บคุณ อาทิเช่น เว็บบอร์ด เว็บประกาศ เว็บไดเรคทอรี คุณอาจยังไม่โดน Google ทำโทษ และยังสามารถดันอันดับได้ แต่ทุกทีที่มีการอัพเดทระบบอัลกอริทึม การสร้างลิงค์จากหน้าเว็บที่มีคนใช้กันมากๆ มีการโพสเนื้อหาซ้ำๆ หรือโพส Spam Content และ Spam Link แม้ว่าเนื้อหาคุณจะมีคุณภาพเท่าใด ก็จะโดนทำโทษ เพราะสร้างแบ็คลิงค์จากหน้าเว็บไม่มีคุณภาพ เว็บหลักของคุณจะถูก Google Penalty ทันที แต่ถ้าคุณสร้างลิงค์จาก Network ส่วนตัวคุณภาพ เว็บหลักของคุณจะไมได้ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
เริ่มต้นการสร้าง Network ส่วนตัวทำยังไง

1. สำรวจความสามารถของตัวเองก่อน ว่าคุณมีความสามารถในการปรับปรับปรุง Code ขั้นไหน ถ้าคุณไม่มีความรู้ด้านการเขียนเว็บด้วยภาษา PHP เลย อธิบายให้ใช้ Wordpress ในการทำเป็น Network ส่วนตัว เพราะสามารถใช้งานง่าย โดยไม่ต้องเขียนเว็บเป็น อีกทั้ง Wordpress ยังรองรับการใช้งานเป็นภาษาไทยอีกด้วย การใช้งานก็ไม่ละเอียด แบ่งฟังก์ชั่นการปฏิบัติงานแจ่มแจ้ง เข้าใจง่าย แต่ถ้าคุณมีความสามารถในการเขียนเว็บได้เป็นอย่างดี กล่าวให้พัฒนาระบบขึ้นมา และปรับแต่งให้เจ๋งกว่าเวิร์ดเพลส รับประกันว่าความแรงของลิงค์แรงกว่าเวิร์ดเพลสแน่นอน แต่จะต้องอาศัย Knowledge   Experience  ในการพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

2. มี Knowledge ขั้นต้นเกี่ยวกับการบริหาร Hosting และ ชื่อเว็บไซต์ ในการทำ SEO Network ผู้ใช้งานต้องมีพื้นฐานเกี่ยวกับการตั้งค่าโฮสติ้ง ที่เราเรียกว่า SEO Hosting ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละรายก็จะใช้ Host Control Panel ที่แตกต่างกัน แต่ที่ชื่นชอบมากที่สุด ถ้าเป็นโฮสในประเทศไทย ต้องยกให้ DirectAdmin ใช้งานง่าย และมีประสิทธิผล แต่ถ้าเราเช่าโฮสเมืองนอก โดยมากแล้วจะเป็น CPanel และ WHM เป็นหลัก เพราะ CPanel กับ WHM เป็นระบบจัดการโฮสที่ดีที่สุดก็ว่าได้ สาเหตุที่ในไทยไม่โปรดปรานใช้เพราะค่า License สำหรับติดตั้ง แพง ผู้ให้บริการจึงไม่ชื่นชอบ อีกทั้งการใช้งานค่อนข้างจะมีฟังก์ชั่นการดำเนินงานมาก เหมาะกับมืออาชีพมากกว่า

3. สามารถติดตั้ง Wordpress หรือ CMS ที่จะนำมาสร้าง Network ส่วนตัว การติดตั้งเวิร์ดเพลสทำได้ง่ายๆ การติดตั้งไม่ละเอียด โดยการสร้าง MySQL Database ในส่วนของการบริหารโฮส และนำ Database Name , User Name , Database Password ไปกรอกในไฟล์ Config.php ของ Wordpress จากนั้นอัพโหลดไฟล์เวิร์ดเพลสทั้งหมดขึ้นโฮส แล้วทำการติดตั้งตามแนวทางจนเสร็จ
การเลือกใช้บริการ SEO Hosting

  ในการทำ SEO ด้วย Network ส่วนตัว คุณจะต้องบริหารจัดการเกี่ยวกับต้นทุนในการเช่า SEO Hosting และค่าจดชื่อเว็บให้ดีๆ ต้องคิดเลขค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ให้เกินต้นทุนที่วางไว้ การสร้าง Network ส่วนตัวใช้ต้นทุนสูงกว่าการสร้าง Backlink จากเว็บบอร์ด เว็บประกาศฟรี บล็อกฟรี แต่ในแง่ของความแพงก็ยังมีข้อดีไม่จำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความแรงของลิงค์ที่จะได้รับ และหากปรับเน็ตเวิร์คให้มีคุณภาพ จะสามารถใช้ทำอันดับ SEO ได้ยาวเลย แต่ถ้าสร้าง Network ส่วนตัว ไม่มีคุณภาพและโดน Google แบน โดนทีเสียหายหลายแสนเลย เพราะ Network ที่มีประสิทธิภาพ อย่างน้อยๆ ก็ต้องใช้ปริมาณ 100 IPs ขึ้นไป ค่าเช่า SEO Hosting รายเดือนแต่ละเจ้าแตกต่างกันไป ถ้าดีๆ หน่อย เดือนๆ หนึ่งก็ต้องจ่าย 1 - 2 หมื่นบาทเฉพาะค่าเช่าโฮสคุณภาพสูง ยังไม่รวมค่าจดโดเนมเนม ลองจินตนาการเล่นๆ ว่าถ้าคุณต้องการใช้ 300 IPs และแน่นอนว่าต้องจดโดเนมเนม 300 Domains ราคาโดเมนละ 300 บาทขึ้นไป จะสังเกตว่าการสร้างเน็ตเวิร์คส่วนตัวต้องใช้ต้นทุนสูง คุณจึงต้องบริหารจัดการต้นทุนให้ดี และพากเพียรใช้ Network ส่วนตัวให้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ถ้าหากคุณยังไม่คล่องหรือยังมีประสบการณ์น้อย ให้ลองสร้างเน็ตเวิร์คขนาดเล็กๆ สัก 20 - 30 IPs ก่อน เพื่อประเมินผลคุณภาพระบบของคุณ ว่าจะสนับสนุน Google Algorithm ได้มากน้อยเพียงใด

  SEO Hosting ในไทยมีไอพีไม่มาก เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่จะสร้าง Network ส่วนตัว ต้องบอกกับผู้อ่านก่อนว่า หากท่านอยากได้ Network ส่วนตัวที่มีไอพีไทย สัก 100 IPs เป็นเรื่องยาก C Class เป็นเรื่องที่ยาก เพราะผู้ให้บริการส่วนมากมีจำนวนไอพีไม่มากพอ เว้นแต่คุณจะไล่เช่า VPS ของผู้ให้บริการแต่ละเจ้า แล้วนำมาทำเน็ตเวิร์ค แต่ก็ต้องใช้ต้นทุนที่สูง การบริหารบริหารยุ่งยาก เพราะต้องเข้าสู่ระบบ Control Panel สำหรับบริหาร Hosting หลายๆ เว็บ และผู้ให้บริการโฮสแต่ละรายก็มีเงื่อนไขแตกต่างกัน นักทำ SEO โดยมากแล้วจึงหันไปเช่า SEO Hosting จากต่างประเทศ และเว็บที่ได้รับความโปรดปรานในการใช้งานอันดับต้นๆ คือ seohosting.com และ seohost.com ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Search Engine Optimize โฮสติ้งชั้นนำของโลกก็ว่าได้ มีการ Support ที่รวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบ Server ที่สนับสนุนการดำเนินงานทางด้าน SEO Network เป็นอย่างดี
ชำระค่าบริการ SEO Hosting ด้วยบัญชี Paypal

  คุณสามารถจ่ายค่าบริการ SEO Hosting และค่าจดโดเนมเนม ชื่อเว็บไซต์ Register ด้วยบัญชี Paypal ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว อันที่จริงเราสามารถชำระผ่านบัตรเครดิตได้ แต่ผมบอกให้จ่ายหนี้ผ่านระบบ Paypal จะเจ๋งกว่า การเชื่อมบัญชีของคุณให้สามารถจ่ายตังค์ผ่านระบบ Paypal ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่สมัครทำบัตร ATM ที่เป็นเดบิตการ์ด หรือ วีซ่าการ์ด พร้อมทั้งลงทะเบียนใช้งานแบบ Online Shopping เราก็สามารถเอาบัตร ATM ของเราไปสมัครกับ Paypal เพื่อให้บัญชีของธนาคารที่คุณใช้บริการอยู่เชื่อมต่อกับระบบ Paypal โดยคุณสามารถกำหนด Email และ Password สำหรับเข้าบริหารบัญชี Paypal ของคุณได้ ยุคนี้การจ่ายหนี้ผ่านระบบ Paypal เป็นระบบที่มีความปลอดภัยสูง ง่ายต่อการใช้งาน และผู้ให้บริการ SEO Hosting ดังๆ มีระบบจ่ายหนี้ผ่าน Paypal อยู่แล้ว อีกทั้งเมื่อคุณชำระค่าบริการเสร็จเรียบร้อย เพียงไม่กี่นาที คุณก็สามารถ Log In เข้าใช้งานระบบ SEO  Hosting ได้ทันที เนื่องจากโฮสต่างประเทศส่วนมากมีระบบส่งข้อมูลบริการแบบ Automatic  คุณไม่ต้องรอนาน จ่ายปุ๊บใช้งานได้ปั๊บ สะดวก รวดเร็ว ถ้าไม่เข้าใจส่วนไหนก็ติดต่อผ่านทาง Chat Support ได้ทุก Time
สร้าง Network ส่วนตัว ต้องใช้ IP Class C

  อันที่จริงแล้ว IP Class C ไม่ได้เป็นคลาสของไอพีที่ดีที่สุดในการนำมาทำ Network ส่วนตัว แต่เพราะว่าว่า C Class หาซื้อได้ง่าย ผู้ให้บริการโฮสติ้งสำหรับทำ SEO มีไอพีคลาสซีเป็นตัวเริ่มต้นอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณสามารถเลือก IP Class B หรือ A ได้ยิ่งดี แต่ราคาจะแพงกว่า Class C มากกว่า และไม่กล่าวให้ใช้ไอพีคลาส D ในการทำ SEO Network แน่นอนว่าแม้ไอพีจะซ้ำคลาสกัน แต่ก็ยังสามารถดันอันดับเว็บหลักได้ แต่มันไม่แรงเมื่อเทียบกับการใช้คลาสของไอพีที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง ตัวอย่างเช่น 192.168.254.100  Number  192 คือคลาส A , 168 คือคลาส B , 254 คือคลาส C และ 100 คือคลาส D เราจะต้องทำให้ตัวเลขของ IP Address ที่ตั้งของ C Class ไม่เหมือนกัน จึงจะส่งผลดีต่อการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สาเหตุที่เราต้องใช้ไอพีที่มีคลาสแตกต่างกัน เพื่ออยากให้ Google คิดว่าแต่ละเว็บไม่ได้มาจากเจ้าของคนเดียวกัน เพื่อทำให้การสร้างลิงค์ดูเป็นธรรมชาติ และสมัยนี้การใช้ความต่างของคลาสยังมีความแรงมากกว่าเว็บที่ใช้คลาสของไอพีซ้ำกัน และยิ่งคุณมีเว็บที่มีจำนวน IP Class C มากๆ และคุณสร้างลิงค์คุณภาพไปยังเว็บหลัก อันดับเว็บของคุณจะกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทำความเข้าใจกับ Anchor Text Link , Domain Link และ Image Link

  ในการทำ SEO การเข้าใจรูปแบบของลิงค์ จะช่วยสนับสนุนให้เราสร้างลิงค์คุณภาพที่เป็น Nature  โดยไม่เน้นสร้างลิงค์ด้วย Keyword ใด Keywords หนึ่งมากจนเกินพอดี ซึ่งจะส่งเสริมให้ Links ของเว็บไม่เป็นธรรมชาติ และดูเหมือนเป็นการจงใจทำ SEO มากจนเกินพอดี Anchor Text Link หรืออาจเรียกว่า Keyword Link ก็ได้ เป็นการสร้างแบ็คลิงค์กลับไปหาเว็บหลักด้วย Keywords หลักหรือ Keywords รองของเว็บก็ได้ โดยมุ่งมั่นสลับการใช้ Keywords ที่แตกต่างกัน ควรกระจายการสร้างลิงค์ด้วย Keywords ให้เป็น Nature มากที่สุด ต่อมา Domain Link คือ ลิงค์ที่เป็นชื่อชื่อเว็บของเรา การสร้างแบ็คลิงค์แบบโดเมนลิงค์มีความสำคัญ เพราะเป็นการกระจายให้เว็บของเรามีรูปแบบของลิงค์ที่ไม่เหมือนกัน และสุดท้ายคือ Image Link หรือลิงค์รูปภาพ ในการสร้างลิงค์กลับเข้าสู่เว็บหลักนั้น ลิงค์รูปภาพมีความสำคัญและสามารถทำอันดับบน Google Search ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ไม่ได้ด้อยกว่าลิงค์รูปแบบอื่นๆ เพียงแต่ให้แทรกคำบรรยายรูปภาพ หรือแทรกไตเติลให้กับลิงค์ว่าสัมพันธ์กับอะไร การสร้างแบ็คลิงค์จะต้องใช้ทั้ง 3 รูปแบบ เพื่อให้เว็บหลักมี Backlinks ที่มากมาย
ทำความเข้า
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องวิธีเลือกรับทำ seo cm group ติดอันดับ google อย่างปลอดภัย สนับสนุน google algorithm ล่าสุด
วิธีเลือกรับทำ seo cm group ติดอันดับ google อย่างปลอดภัย รองรับ google penguin 4.0 ล่าสุด
อ้างอิงจาก: บริการ SEO CM Group
แท็ก: บริการ SEO CM Group
อ้างจาก: บริการ SEO CM Groupวิธีเลือกรับทำ seo cm group ติดอันดับ google อย่างปลอดภัย สนับสนุน google algorithm ล่าสุด
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 0623639429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#18
ไม่ต้องจ้างบริษัทบริการ SEO คุณก็ทำอันดับบน Google ด้วยตัวเองได้

จำหน่ายสินค้าไม่ต้องจ้างบริษัทบริการ SEO คุณก็ดันอันดับ Google ด้วยตัวเองได้ เชิญติดตามเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์เกี่ยวกับบริการ SEOอ่านเนื้อหาคุณภาพจากบทความนี้
Search Query ปัจจัยสำคัญในการดันอันดับ Google

ในการทำ SEO ยุคปัจจุบัน ปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้เว็บมีอันดับขยับขึ้นเร็วๆ Boost Ranking คือ Search Query ของผู้ค้นหาข้อมูล ที่ค้นหาเกี่ยวกับเว็บไซต์ของเราจำนวนมากๆ และมีการค้นหาอย่างต่อเนื่อง Google จะทำการให้สกอร์ด้านคุณภาพและจัดให้เว็บมีอันดับที่ดีอย่างรวดเร็ว
ทำไม Google ให้ความสำคัญกับ Search Query

  การทำ SEO สมัยนี้ Google ได้ให้ความสำคัญกับ Backlink ลดลงจากเดิม และหันไปให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของยูสเซอร์แทน และสถิติการ Query Data มีผลต่อการจัดอันดับ Google อย่างมาก เพราะกูเกิลเข้าใจว่า Data ที่ผู้ใช้งานเรียกจาก Search Query เป็น Data ที่มีคุณภาพและเป็นผลดีต่อผู้ติดตาม กูเกิลจึงให้คะแนนเว็บที่ยูสเซอร์เรียกบ่อยๆ การที่ผู้ค้นหาข้อมูลเรียก Website แบบเจาะจง ยังเป็นการเพิ่มทราฟฟิคให้กับเว็บไซต์อีกด้วย ยิ่งทราฟฟิคดังกล่าวมีค่า CTR (Click Through Rate) , Time On Site และ Bounce Rate ที่ดี ย่อมจะส่งผลทำให้อันดับเว็บขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังทำให้เว็บมีอันดับ SEO ที่เสถียรอีกด้วย และการจะให้ Searcher ทำการ Search ข้อมูลของเราบ่อยๆ อย่างต่อเนื่องไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป เพราะหากเราทำ Website ให้ถูกใจผู้อ่าน พร้อมทั้งนำเสนอ Content คุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน อย่างแรกเลยเว็บของเราจะมีปริมาณคนเข้าสู่เว็บมากขึ้น เพราะบทความที่มีคุณภาพจะถูกกูเกิลจัดให้อยู่อันดับต้นๆ ทั้ง Keyword หลักและคีย์เวิร์ดรอง รวมทั้ง Keywords เฉพาะเจาะจงถึงเนื้อหาที่เรานำเสนอ เมื่อผู้ใช้งานมองว่าเว็บของเรามีคุณภาพ ก็จะมีการค้นหาข้อมูลบน Search Engine ด้วยการอ้างอิง Keyword ที่เกี่ยวกับ Website ของเรา หากคุณเก่งในเรื่องการสร้าง Content คุณภาพ และการหา Traffic เข้าสู่เว็บจำนวนมากๆ คุณไม่มีความจำเป็นต้องสนใจเกี่ยวกับการสร้าง Backlink เพื่อดันอันดับบน Search Engine เนื่องจากเทคนิคเหล่านี้จะมีคุณภาพมากกว่า อีกทั้งความเป็นไปได้โดน Google Penalty เป็นไปได้น้อยมาก เพราะตัวเลขของเว็บและทราฟฟิคไม่ได้เป็นการ Spam ดังนั้น Google จึงไม่ปรับปรุง Algorithm ให้ทำโทษจาก Factor เหล่านี้ อีกทั้งทราฟฟิคและ Statistics ของเว็บไซต์มาจากคนจริงๆ ไม่ใช่การจงใจสร้างขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงอันดับบน Search Result Pages เหมือนอย่างแบ็คลงค์ อย่างไรก็ตาม Company บริการ SEO ควรให้ความสำคัญทั้งการสร้างทราฟฟิคและการสร้างแบ็คลิงค์ควบคู่กัน

พฤติกรรมผู้ใช้งานสะท้อนถึงคุณภาพของเว็บ

  ยุคก่อน Google ใช้จำนวน Links เป็นตัวชี้วัดคุณภาพของ Website  เว็บไหนมีจำนวน Backlinks มากแสดงว่าเว็บนั้นมีคุณภาพ เพราะผู้คนต่างแนะนำเว็บดังกล่าวผ่านการสร้างแบ็คลิงค์ชี้ไปยังเว็บนั้นๆ จึงเปิดวิถีทางให้นักทำ SEO สายดำ สายเทา ทั้งหลาย สามารถแปรผันผลการค้นหาของ Google ได้ง่ายๆ เพียงแค่สร้าง Links ปริมาณมากๆ เพื่อบอกให้กูเกิลทราบว่าเว็บของตนมีคุณภาพ เป็นที่ชอบของผู้คน และ Google ได้ต่อสู้กับบรรดา Spammer มาอย่างยาวนาน โดยได้พัฒนาระบบ Algortihm มาอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่ปลายปี 2009 ที่มีการปรับปรุงระบบอัลกอริทึมอย่างจริงจัง เพื่อลดปริมาณ Spam Content และ Spam Link บน Search Result Pages และยิ่งนานวัน ดูเหมือนว่ากูเกิลจะสามารถบริหารกับอุปสรรคดังกล่าวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ และช่วงปลายปี 2015 Google ออกมาประกาศว่าระบบ Algorithm จะทำงานแบบ Real Time อีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อระบบอัลกอริทึมทำงานแบบเรียลไทม์ การจัดอันดับจะรวดเร็วยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันการลงโทษเว็บไม่มีคุณภาพก็จะรวดเร็วตามไปด้วย อย่างไรก็ตามยุคนี้ทาง Google ได้ปรับปรุงระบบการจัดอันดับโดยการลดความสำคัญของลิงค์ แล้วมาให้ความสำคัญของพฤติกรรม User เป็นหลัก เว็บที่มีคนเข้าเยอะๆ จึงได้เปรียบเว็บที่มีคนเข้าน้อยๆ เพราะ Statistics ของเว็บไซต์ มีผลต่ออันดับกูเกิล ค่อนข้างมาก ก่อนหน้านี้เราจะสังเกตว่าสถิติบน Google Webmaster Tools และ Google Analytics แถบไม่มีผลต่อการจัดอันดับมากนัก และเรามักจะดูข้อมูลบน Tool ของ Google เพื่อปรับให้เว็บมีคุณภาพ และโฟกัสกลุ่มจุดหมายปลายทางให้มีประสิทธิผลมากกว่าเดิมเป็นหลัก เมื่อ Google นำเอาสถิติดังกล่าวมาใช้เป็นเกณฑ์ชี้วัดคุณภาพของเว็บ รวมทั้งเป็นตัวแปรหลักในการจัดอันดับบน Google Search ในยุคนี้

ทราฟฟิคจากการค้นหา Main Keyword กับ Niche Keyword

  อย่างที่ผมเคยกล่าวไว้เนื้อหาก่อนๆ ว่า ทราฟฟิคที่ช่วยให้เว็บติดหน้าแรกกูเกิล ได้รวดเร็วที่สุด คือ Google Search Traffic เพราะเป็นทราฟฟิคที่มาจากการค้นหาผ่านกูเกิลเสิร์ท หลายท่านเวลาทำ SEO มัวแต่ไปโฟกัสที่ Keyword หลักของ Website  กว่าที่จะได้ทราฟฟิคจาก Keywords หลักต้องรอ Time นาน เพราะการที่ Keywords ที่มีการค้นหาเยอะๆ มักมี Competition กันสูงอยู่แล้ว แนะแนวเว็บว่าใหม่ควรโฟกัสไปที่ Keyword รอง หรือ Niche Keyword เป็นหลัก เพราะเราสามารถดันให้บทความของเราติดอันดับ Keyword เฉพาะได้ง่าย บาง Keywords เราอาจไม่ต้องปรับอะไรมาก ก็สามารถติดอันดับคีย์เหล่านั้นได้ ยังไงก็ตามเราต้องทำการ Research Keyword จากเครื่องมือของ Google Adwords เพื่อตรวจเช็คว่าแต่ละคีย์มีการค้นหารายเดือนเฉลี่ยที่เท่าไหร่ เพื่อที่จะส่งเสริมให้เรามั่นใจได้ว่า เราจะได้รับ Feedback จากเนื้อหาที่เราเขียนขึ้น

  ทราฟฟิคคนเข้าสู่เว็บผ่านการค้นหาบน Google Search ทั้งการค้นหาด้วย Main Keyword และ Niche Keyword ให้ผลต่ออันดับไม่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญที่สุด คือ CTR (Click Through Rate) ที่เข้าสู่เว็บของเราสูงแค่ไหน Time On Site หรือ ช่วงเวลาที่อยู่ในหน้าเว็บของเรานานแสนนานเท่าใด และค่า Bounce Rate ของ Website  นั่นมีความหมายว่าทราฟฟิคที่มาจากการค้นหาบนกูเกิลส่งผลดีต่ออันดับกูเกิล ไม่ว่าจะเป็นคีย์เวิร์ดหลักหรือคีย์เวิร์ดรองก็ตาม ยังไงก็ตาม Search Query ที่มีส่งผลดีต่ออันดับ SEO มากๆ คือ Keyword ที่ใช้ค้นหาเว็บ หรือ เนื้อหาของเรานั้น จะต้องมี Keyword หลักของเว็บไซต์รวมอยู่ด้วยจะดีมากๆ มันจะช่วยสนับสนุนให้อันดับของเว็บขยับขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ และติดอันดับยั่งยืน

  เป็นเรื่องปกติที่ Website เกิดใหม่ จะต้องเน้นหาทราฟฟิคจาก Keyword ที่มี Competition น้อยๆ แต่ก็ต้อง Research Keyword ด้วยว่าคีย์ที่เราจะมาหาทราฟฟิคจากการสร้างบทความ
นั้น มีคนค้นหาต่อเดือนไม่น้อยจนเกินไป หลีกการก็ง่ายๆ เขียนเนื้อหาคุณภาพมากๆ และโฟกัสไปที่หลายๆ คีย์เวิร์ดที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน อีกทั้งมีความสัมพันธ์กับเนื้อหาที่เราเขียนขึ้น ถ้าใครที่จะหาทราฟฟิคจาก Search Engine ด้วยบทความแค่ 10 -  20 บทความเลิกคิดไปได้เลย เนื้อหาน้อยๆ อาจหาทราฟฟิคจาก Social Network ได้ แต่ก็ไม่ยั่งยืนอยู่ดี สรุปคือ เราต้องสร้าง Content คุณภาพให้กับผู้ติดตามจำนวนมากๆ พูดได้ว่าสร้างบทความเกี่ยวกับเรื่องที่เรา Present อย่างละเอียดยิบ มีการ Research  หาข้อมูล เรียนรู้ แล้วนำมาถ่ายทอดให้กับผู้ติดตาม แน่นอนเนื้อหาที่คุณจะต้องเขียน 100 - 300 เนื้อหา และต้องเป็นบทความทางหลักสูตรการ คือ สามารถนำไปอ้างอิงหรือประกอบเป็นคู่มือการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ผมจึงแนะแนวว่าให้ทำการเรียนรู้ ค้นคว้าวิจัย เกี่ยวกับเรื่องที่เราจะ Present อย่างละเอียดก่อน แล้วเขียนหรือเรียบเรียงออกมาในความเข้าใจของเราเอง แน่นอนว่าเนื้อหาที่เราเขียนจะไม่ซ้ำกับเว็บอื่น เมื่อเว็บไซต์มีข้อมูลคุณภาพปริมาณมากๆ และมีคนเข้าอ่านอย่างต่อเนื่อง อันดับกูเกิล ก็จะตามมาเอง แทบไม่ต้องไปชอบเรื่องการสร้างแบ็คลิงค์เลย ถ้าทำ SEO สายคุณภาพ แต่อาจต้องใช้ความอดทน และใช้เวลาสักหน่อย แต่ก็คุ้มค่าอย่างแน่นอนครับ

จำนวนทราฟฟิคมีผลต่ออันดับ SEO

  จากเนื้อหาก่อนๆ ผมได้บรรยายเกี่ยวกับทราฟฟิครูปแบบต่างๆ ที่ส่งผลดีต่อการดันอันดับ Google ในหัวข้อนี้ผมจะชี้แจงเกี่ยวกับความสำคัญของปริมาณทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บของเรา หากเว็บของเรามีจำนวนคนเข้าเว็บมากๆ จากมากมายวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสู่เว็บของเราผ่านทาง Google Search หรือ เข้าสู่เว็บผ่านทาง Social Network รวมไปถึงการเข้าสู่เว็บผ่านการอ้างอิงจากเว็บไซต์อื่นๆ หรือแม้กระทั่งการที่มีคนเข้าสู่เว็บของเราตรงๆ ผ่านการป้อน URL ที่  Address Bar บนเว็บเบราวเซอร์ ล้วนแต่มีความสำคัญเหมือนๆ กัน แม้ว่าความแรงจากทราฟฟิคที่มาจาก Google Search ผ่านการ Query ข้อมูลในการค้นหาจะมากกว่าพวกพ้อง แต่เราก็ต้องให้ความสำคัญกับทราฟฟิคทุกประเภท ขอให้คิดเสมอว่าทราฟฟิคมากอันดับยิ่งดีตามจำนวนทราฟฟิค แต่ย้ำก่อนว่าต้องเป็นทราฟฟิคคุณภาพเท่านั้น ไม่เอาทราฟฟิคที่เข้าเว็บเราแล้วรีบปิดหน้าทิ้ง ถ้าเป็นเช่นนี้แสดงว่าเว็บเราไม่มีคุณภาพในมุมมองของ Google อีกทั้งกูเกิลเองอาจเข้าใจว่าเราใช้วิธีการที่ผิดกฎ โดยอาจมีการเปลี่ยนเส้นทางของผู้ใช้งานในการเข้าสู่ Website  กูเกิลอาจมองว่าเว็บของเราเป็นหน้า Doorway Page และโดน Google Penalty ได้ง่ายๆ ด้วยเหตุนี้เราต้องคัดกรองทราฟฟิคที่ชอบเนื้อหาของเราจริงๆ พากเพียรอย่างใช้แนวทางการหาทราฟฟิคจากกลุ่ม User ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเว็บของเรา เพราะอาจส่งเสียผลมากกว่าดี หลักการคิดว่าทราฟฟิคแบบไหนดี ง่ายๆ ถ้าคนเข้าสู่เว็บของเราและไม่รีบปิดหน้าหนี แสดงว่าคนที่เข้ามายังเว็บของเราเริ่มสนใจบทความของเราไม่มากก็น้อย ยิ่งมีการคลิกไปอ่านหน้าอื่นๆ และอาศัยอยู่ในหน้าเว็บของเรานานๆ แบบนี้ เรากำลังได้ทราฟฟิคที่ดีมากๆ เพราะกูเกิลเข้าใจพฤติกรรม User อยู่แล้ว และ Google จะตัดสินคุณภาพของเว็บเราจากพฤติกรรมผู้ใช้งานนั่นเอง การทำเว็บสมัยนี้จึงโพกัสไปที่การสร้างเว็บเพื่อผู้เยี่ยมชมเป็นหลัก

  เมื่อเว็บของเราได้ทราฟฟิคอย่างต่อเนื่อง ทั้งจาก Search Engine ที่ผู้ใช้งานค้นหา Keyword ที่เกี่ยวข้องกับเว็บของเรา หรือแม้กระทั่งการเข้าสู่เว็บของเราจากหน้าเว็บไซต์อื่นที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเว็บของเรา ทราฟฟิคเหล่านี้จะเป็น Trust Rank ที่มีพลังมากๆ แม้ว่าเราไม่สามารถจับต้องทราฟฟิคเหล่านี้ได้ เหมือนกับการสร้าง Backlink ที่สามารถเพิ่มหรือลดด้วยมือของเรา แต่ทุกทราฟฟิคจะถูกจัดเก็บไว้ในระบบสถิติของ Google Webmaster Tools และ Google Analytics เสมอ และขอให้ผู้ติดตามสำนึกว่าคะแนนที่ได้จากการสร้างทราฟฟิคนั้น ส่งผลดีต่อเว็บวันนี้และยุคหน้า การสะสมทราฟฟิคและ Statistics ของเว็บไซต์ จะช่วยสนับสนุนให้เว็บติดอันดับอย่างยั่งยืน คนโดยปกติจะไม่ค้นหา Keyword ตรงๆ นอกจากคุณจะดัง

  ถ้าหากท่านทำ Website ใหม่ๆ อาจเป็นเรื่องที่ยากสักนิด ที่จะทำให้ User ค้นหาเว็บของคุณภาพผ่านทาง Google Search โดยการป้อน  Domain Name  หรือ Brand ของคุณ เพราะถ้าเว็บของคุณไม่ดังจริง หรือไม่เจ๋งจริงๆ น้อยคนที่จะจดจำชื่อเว็บหรือแบรนด์ของคุณ เมื่อมันเป็นเรื่องที่ยากสักนิดแต่ก็ไม่ยากจนเกินความสามารถของคุณ คุณจะต้องทำให้คนซาบซึ้งเว็บของคุณตั้งแต่แรก ทันทีที่คนเข้าสู่เว็บของคุ
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องไม่ต้องจ้างบริษัทบริการ SEO คุณก็ทำอันดับบน Google ด้วยตัวเองได้
ไม่ต้องจ้างบริษัทบริการ SEO คุณก็ดันอันดับ Google ด้วยตัวเองได้
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: บริการ SEO
อ้างจาก: บริการ SEOไม่ต้องจ้างบริษัทบริการ SEO คุณก็ทำอันดับบน Google ด้วยตัวเองได้
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 0623639429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#19
วิธีเขียนบทความคุณภาพทางด้าน SEO สนับสนุน Google Panda 4.2

ประเภทของวิธีเขียนบทความคุณภาพทางด้าน SEO สนับสนุน Google Panda 4.2 สวัสดีผู้อ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับรับทำ SEOอ่านบทความดังกล่าวจากเนื้อหานี้
ขั้นตอนการสร้างบทความ
คุณภาพ


การทำ SEO สิ่งสำคัญมากที่สุด คือ การสร้าง Content คุณภาพ ที่เป็นผลดีต่อผู้เยี่ยมชม หากคุณมัวแต่สร้างแบ็คลิงค์โดยไม่สนเรื่องของการเขียนบทความ
คุณภาพ อันดับเอสอีโอ ของคุณอาจไม่คงทน การกรอก Quality Content เป็นจุดเริ่มต้นของการทำ SEO อย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะทำอันดับกูเกิลด้วยทราฟฟิค หรือดันอันดับกูเกิลด้วย Links  ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการสร้างบทความคุณภาพ

  ในวงการ SEO รวมไปถึงวงการ Internet Marketing ด้วย มีคำกล่าวยอดนิยมที่ว่า Content is King ซึ่งหมายถึง ให้สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ (Quality Content) ถึงจะช่วยให้ประสบผลสัมฤทธิ์ในการทำ SEO ในการสร้าง Quality Content ที่ดีนั้น ควรจะนึกถึงถึง 2 สิ่งควบคู่กันไป คือ User (ผู้เยี่ยมชม) และ Google Search จากการอัพเดททันสมัยที่สุดของ Google ที่เรียกว่า Google Quality Update (Google Phantom Update) ที่เน้นความมีคุณภาพของ Content เป็นสำคัญ ในการจัดอันดับ Website  ทำให้ ในการรับทำ SEO สมัยนี้นั้น เราจำเป็นต้องมาทำความเข้าใจในเรื่อง Quality หรือ คุณภาพ ในมุมมองของกูเกิลมากกว่าเดิม
Quality Content ในสายตา Google

  หากตั้งคำถามว่าเราจะรู้ได้ยังไงว่า Content ที่มีคุณภาพเป็นยังไง แล้วเราจะส่งเสริมให้เนื้อหาของเรามี Quality ในสายตา Google ได้ยังไง ผมต้องบอกกับผู้เยี่ยมชมก่อนว่าเรื่องของคุณภาพเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากกว่า อีกทั้งกูเกิลก็มีเกณฑ์วัดคุณภาพโดยปรับปรุง Algorithm ใหม่ๆ ออกมาเพื่อ Check คุณภาพของเนื้อหานั่นเอง

  ในวิสัยทัศน์ผู้อ่าน (User) ย่อมเข้าใจว่าเนื้อหาที่พวกเขาอ่านอยู่นั้น เป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์หรือไม่ ผู้ติดตามสามารถตัดสินด้วยตนเองได้ว่าบทความที่กำลังอ่านสัมพันธ์กับเรื่องที่เขากำลังค้นหาหรือไม่ และสามารถติดสินได้ว่า ชอบหรือไม่ชอบ เนื้อหานั้นๆ แต่ในสายตาของ Google นักทำ SEO จะทราบได้ยังไงว่า Quality Content ในมุมมองของ Google เป็นยังไง ซึ่งแน่นอนว่าหากเราเข้าใจคำว่าคุณภาพในมุมมองของกูเกิลได้ ก็จะส่งเสริมให้เราสามารถทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิผล

  ซึ่งผมจะยิบยกเอาเรื่องของ Quality Rater หรือการประเมินคุณภาพตามแบบฉบับของ Google ซึ่งเว็บ SEO เมืองนอกจะติดตามและให้ความสำคัญเกี่ยวกับประเด็นนี้ค่อนข้างมาก เพราะเป็นพื้นฐานในการปรับปรุงระบบ Algorithm ของกูเกิลก็ว่าได้ การศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Google Quality Raters และ Quality Rater Guidelines จะช่วยสนับสนุนให้เราสามารถทำ SEO ให้สอดคล้องกับระบบ Algorithm ใหม่ๆ ของ Google ได้อย่างมีประสิทธิผล และสามารถทำอันดับอย่างยั่งยืน
มาทำความเข้าใจกับ Google Quality Raters

  หากเราแปลตรงๆ ก็พอจะเข้าใจได้ว่าเรื่องของ Google Quality Raters คือ การประเมินคุณภาพของกูเกิล แน่นอนว่าถ้าเราทำความเข้าใจกับมันให้มากๆ ย่อมจะส่งผลดีต่อการทำ SEO ของเราอย่างแท้จริงครับ ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ QR (Quality Raters) ของ Google ก็เหมือนกับ QC (Quality Control) ของบริษัททั่วไป จะทำหน้านี่ตรวจตสอบคุณภาพ ซึ่งในมุมมองของกูเกิล คือ การ Check คุณภาพของ Website นั่นเอง และแน่นอนว่าจะมุ่งเน้นไปที่การ Check ที่คุณภาพของบทความเป็นหลัก อาจมีการตรวจสอบปัจจัยอื่นสนับสนุน เช่น การตรวจสอบ Structure เว็บไซต์ว่าสนับสนุน Google Mobile Friendly การตรวจสอบมาตรฐานการปรับปรุง Website ตามหลักของ W3C การออกแบบเว็บ Web Layout ที่รองรับผู้อ่านเป็นหลัก เป็นต้น ซึ่งสถานะของเจ้าหน้าที่ Google สำหรับ Check คุณภาพดังกล่าว เรียกว่า Search Quality Analyze หรืออาจเรียกว่า Search Quality Research and Development ก็ได้ ซึ่งความหมายเหมือนๆ กัน คือการตรวจสอบ ตรวจเช็ค และพัฒนาคุณภาพบน Google Search  Team Work ด้านนี้มีความสำคัญกับการพัฒนาระบบ Algorithm ต่างๆ ของกูเกิลอย่างมาก ก่อนที่จะพัฒนาหรืออัพเดทระบบอัลกอริทึมใหม่ๆ จะต้องมีการกำหนด Quality Guidelines ให้กับ Team Work  Engineer ที่มีหน้าที่ปรับปรุง Google Algorithm และเมื่อระบบอัลกอริทึมปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการประเมินผลกันภายใน หรือเรียกว่า Offline Testing เพื่อให้ QR แยกแยะว่า Algorithm ก่อนและหลังการปรับปรุงมีคุณภาพในการแสดงผลการค้นหา Search Result Pages ดีขึ้นหรือไม่ การที่เราทำความเข้าใจกับคำว่า คุณภาพ ในสายตากูเกิล ย่อมทำให้เราสามารถทำอันดับบน Google ได้ทุกอัลกอริทึมที่ออกมา และนักทำ SEO ควรเข้าใจและรับทราบว่ายิ่งกูเกิลมีการปล่อยอัลกอริทึมออกมาบ่อยเท่าใด นั่นมีความหมายว่าจะยิ่งเน้นคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ นักทำ SEO ควรพัฒนาความรู้ ความสามารถ และตามการเปลี่ยนแปลงให้ทัน
เริ่มต้นวิจัยเกี่ยวกับ Google Quality Rater Guidelines
Content ในมุมมองของ Google ประกอบด้วยอะไรบ้าง

1. Main Content (MC) หมายถึง ส่วนหลักของเว็บเพจที่ตอบคำถามของเป้าหมายในการสร้างหน้านั้นขึ้นมา ซึ่งอาจจะเป็น Text ( Message ) , รูปภาพ , วีดีโอ เป็นต้น ซึ่งบางทีอาจจะนับรวมไปถึง คอมเม้นท์จากผู้เยี่ยมชมด้วย MC จะมีคุณภาพมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับ Detail ของบทความภายในบทความนั้นๆ ว่าตอบโจทย์ความประสงค์ของผู้เยี่ยมชมได้มากน้อยเพียงใด

2. Supplementary Content (SC) หมายถึง บทความส่วนเสริม ในที่นี้มีขึ้นเพื่อสร้างใช้งานที่ดี (Good User Experience) ในหน้าเพจนั้นๆ แต่ไม่ได้มีส่วนโดยตรงสำหรับให้บรรลุจุดมุ่งหมาย เช่น Navigation (เมนู) , Relate Posts , Sidebar , Footer เป็นต้น

3. Advertisments/Monetization (Ads) หมายถึง Banner โฆษณา Sponsored ต่างๆ ที่วางไว้เพื่อสร้างรายได้ให้กับเว็บ ซึ่งคำว่า Advertise  อาจเป็น Image Ads , Text Ads หรือ Multimedia Ads แม้กระทั่งโฆษณา Youtube ก็เรียกว่า Ads แบบหนึ่งบนเว็บไซต์ของเรา
Quality Content ในสายตา Google มองในแบบ Google Quality Rater Guidelines

  หลักการที่ Google บอกให้ Human Raters ใช้เพื่อประเมินและให้สกอร์ Webpage/Content จะใช้ 2 ปัจจัยหลัก คือ คุณภาพของเพจ (Page Quality Rating) และ คุณประโยชน์ (Utility Rating)

  หากพูดถึงเรื่องของการประเมินทางด้านคุณภาพของ Google จะแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อใหญ่ๆ ได้แก่

1. Page Quality Rating

  Page Quality Rating (PQ) คือ Score ที่ให้โดยทีมเวิร์ค Quality Raters ซึ่งวัตถุประสงค์หลักๆของ PQ เพื่อบอกว่า หน้าเพจนั้นๆมีคุณภาพมากน้อยเท่าใด โดยส่วนสำคัญของการประเมินคุณภาพอยู่ที่ หน้าเพจนั้นตอบข้อสงสัยของวัตถุประสงค์ในการสร้างมันขึ้นมามากน้อยเท่าใด

  ซึ่งการให้แต้มจะแบ่งออกเป็น 5 ระดับ  คือ Lowest – Low – Medium – High – Highest  (สามารถแยกย่อยได้อีก 9 ระดับ โดยจะเพิ่ม Low- , Low+ , Medium+ และ Heigh+) ให้ดูภาพประกอบจาก Manual  ซึ่งสามารถค้นหาบน Google Search ด้วยคีย์เวิร์ด google quality rater guidelines pdf แล้วทำการดาวน์โหลดเพื่ออ่านเป็นคู่มือควบคู่กับการอ่านบทความนี้
ลักษณะหน้าเว็บที่จะได้ Score  Page Quality สูง

  Page หรือ Website ที่มีคุณภาพสูงในมุมมองของ Google กล่าวได้ว่ามีเนื้อหาคุณภาพสูงเป็นผลดีต่อผู้อ่าน (High Quality Content) จะมีแต้ม PQ ถูกจัดอยู่ในระดับ High มีลักษณะดังต่อไปนี้

1. Heigh Quality Main Content

  คุณภาพของ MC ถือว่าเป็นหนึ่งใน Factor สำคัญในการชี้วัดคุณภาพของ Page Quality ก็ว่าได้ สำหรับเว็บไซต์ทุก Platform แล้ว การสร้างบทความคุณภาพจำเป็นต้องมีทักษะดังต่อไปนี้ คือ  Time  (time) , ความพยายาม (effort) , ความเชี่ยวชาญ (expertise) และ ความสามารถ/ทักษะ (talent/skill)

  Main Content หรือเนื้อหาหลักมีคุณภาพสูงและจำนวนเหมาะสม วัตถุประสงค์ของหน้าเพจจะเป็นตัวช่วยในการประเมินคุณภาพของ Main Content ยกตัวอย่างเช่น

1.1 Main Content สำหรับ สารานุกรม (encyclopedia) ควรที่จะให้ข้อเท็จจริง ถูกต้อง กระจ่างแจ้งและครอบคลุม

1.2 Main Content สำหรับ Shopping ควรที่จะง่ายต่อการค้นหาผลิตภัณฑ์ หรือ สั่งซื้อ

1.3 Main Content สำหรับ การอ้างอิง (Referral) ควรที่จะมีหัวข้อและเนื้อหาคลอบคลุมเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ทั้งหมด

2. A High Level of Expertise/Authoritativeness/Trustworthiness (E-A-T)

E-A-T ย่อมากจาก Expertise/Authoritativeness/Trustworthiness ตามลำดับ

Expertise หมายถึง ความเชี่ยวชาญ (การแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว เป็นความเชี่ยวชาญในรูปแบบหนึ่ง)
Authoritativeness หมายถึง ความมีพาวเวอร์ (เป็นศูนย์กลางของเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็นที่พอใจ เป็นที่รู้จัก)
Trustworthiness หมายถึง ความน่าเชื่อถือ (ผู้ที่อ่านได้รับความรู้  Data ที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือ)

  เพจหรือ Website ที่มีคุณภาพสูงจำเป็นต้องดูมีความเชี่ยวชาญ/ความน่าเชื่อถือ ในหัวข้อที่นำเสนอ แต่ไม่มีความจำเป็นว่าทุกเพจต้องมี E-A-T ขั้นสูงโดยทั้งหมด ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ Topic (หัวเรื่อง) ของหน้าเพจนั้น ว่ามีความจำเป็นต้องอาศัยความน่าเชื่อถือสูงมากเท่าใดเพื่อให้ตอบคำถามของจุดมุ่งหมายในการสร้าง

  Page หรือ หน้าเว็บที่มีคุณภาพสูง มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเขียนโดยผู้ชำนาญการที่ทำให้บทความมีความน่าเชื่อถือ ให้จำไว้ว่า Website หมวดควรมีผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องที่ Present  ผู้ง่ายๆ คือ ต้องมีคนที่มี Knowledge เกี่ยวกับบทความที่นำเสนอต่อผู้อ่านนั่นเอง ไม่ว่าคุณจะสร้างเว็บซุบซิบ ข่าวบันเทิง , เว็บเสื้อผ้าแฟชั่น , เว็บไซต์ความรู้สึกขัน ตลก เฮฮา , เว็บบอร์ดหรือหน้าเว็บถาม-ตอบ ,  Data บางอย่างที่เป็นเรื่องเฉพาะเจาะจง หรือหัวข้ออภิปราย มีความจำเป็นต้องมีผู้ชำนาญการให้คำแนะนำหรืออธิบายเรื่องเฉพาะเจาะจงได้ พูดง่ายๆ คือ มีผู้ชำนาญการที่สามารถตอบ Question ในหัวข้อภายในเว็บแบบละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ได้นั่นเอง

2.1 E-A-T เกี่ยวกับคำบอกที่มีคุณภาพในทางการแพทย์ ก็ควรมาจากหน่วยงานหรือหน่วยงานที่มีความรู้ทางด้านการแพทย์ที่สมควรและได้รับการรับประกันอย่างถูกต้อง คำแนะนำทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสูง ควรเขียนหรือสร้างในรูปแบบมืออาชีพ และควรได้รับการตรวจสอบ ปรับปรุง ปรับปรุงเป็นประจำ

2.2 E-A-T เกี่ยวกับคำแนะแนวทางด้านการเงิน , ที่ปรึกษาทางด้านข้อบังคับ , คำบอกทางด้านภาษีและอื่นๆ ควรมาจากแหล่งข้อมูลที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับการ Check และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

2.3 E-A-T คำกล่าวที่มีคุณภาพในหัวข้อต่างๆ เช่น การปรับปรุงบ้าน (ซึ่งอาจต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงหลายแสนบาท)  หรือคำอธิบายเกี่ยวกับปัญหาการเลี้ยงดู (ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อความสุขในอนาคตของคนใน Family ) ก็ควรมาจากคำบอกของผู้ชำนาญการหรือผู้ที่สามารถไว้วางใจได้

2.4 E-A-T หน้าคุณภาพที่เกี่ยวกับงานอดิเรก เช่น การถ่ายภาพ หรือ การศึกษาการเล่นกีตาร์ ยังต้องมีความเชี่ยวชาญ

  จากแบบอย่างที่นำเสนอสะท้อนให้เห็นว่า Google สามารถเข้าใจคุณภาพของเนื้อหาที่เราสร้างขึ้น นั่นหมายความว่าคุณไม่สามารถเขียนเนื้อหาธรรมดาๆ แม้ว่าจะอ่านรู้เรื่อง เพื่อหวังผลทางอันดับ SEO ที่ดี เว้นแต่คุณจะเขียนบทความอย่างละเอียดและลึกซึ้ง เขียนแบบผู้เชี่ยวชาญ และให้เข้าใจว่ากูเกิลเข้าใจสิ่งที่คุณเขียนว่ามีคุณค่าขนาดเท่าใด แน่นอนว่าคุณอาจเห็นบางเว็บมีเนื้อหาไม่มาก แต่สามารถติดอันดับต้นๆ บนผลการค้นหาของกูเกิล Search Result Pages อย่างที่ผมเคยอธิบายไปในเนื้อหาก่อนๆ ว่า Traffic สามารถทำอันดับเว็บได้อย่างรวดเร็ว ถ้าคุณสร้างเนื้อหาได้ถูกใจผู้ติดตามจำนวนมากๆ เว็บของคุณอาจไม่ต้องมีข้อมูลคุณภาพปริมาณมากก็สามารถทำอันดับได้ แต่ถ้าเว็บคุณยังไม่ดัง สิ่งที่ดีที่สุดคือการกรอก Content ที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ

  ในบางครั้งคุณไม่ต้องสร้างเนื้อหาโดยใช้ศัพท์ทางวิชการมากๆ ก็ได้ คุณสามารถเขียนรีวิวการ Trip  การใช้ชวิตประจำวัน ก็สามารถเป็นผู้ชำนาญการในวิสัยทัศน์ของ Google ได้ จากการชี้แจงการท่องเที่ยวและการใช้ชวิตในแบบของคุณ เพราะ Google เข้าใจว่าประสบการณ์ที่คุณพบเจอในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่ทริปการออกทริปต่างๆ ล้วนเป็นประสบการณ์และปรากฏการณ์ที่ทำให้คุณมีความเชี่ยวชาญได้นั่นเอง ส่วนถ้าหากคุณไม่เข้าใจว่า Google จะรู้ได้ยังไงว่าคุณกำลังสร้างบทความที่มีคุณภาพสูง ปัจจบุันกูเกิลมีข้อมูลมหาศาลและมีข้อมูลเกือบทุกเรื่อง ข้อมูลของคุณจะถูกนำไปเปรียบเทียบ Data ในกลุ่มเดียวกันกับบทความที่คุณเขียน และตรวจเช็คความสันพันธ์ของข้อมูล ถ้าคุณเขียนด้วยความเข้าใจ จากประสบการณ์ หรือการค้นคว้า เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ กูเกิลก็จะเข้าใจสิ่งที่คุณตั้งใจถ่ายทอดให้กับผู้อ่าน

3. Positive Reputation

  หน้าที่มีคุณภาพจะต้องเป็น Page ที่เป็นที่รู้จัก และต้องมีเชื่อเสียงในแง่บวก ชื่อเสียงของเว็บไซต์ มีพื้นฐานจาก Experience ของยูสเซอร์จริง รวมถึงความเห็นเห็นของผู้คน เช่น รีวิว คอมเม้นท์ การพูดถึงเพจของคุณจากผู้ใช้งานคนอื่นๆ บนหน้าเว็บไซต์อื่น หรือแม้กระทั่งจำนวนการค้นหาเกี่ยวกับเพจของคุณบน Google Search สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงความมีเชื่อเสียงของคุณ ในการทำ SEO ยุคนี้ ยิ่งมีคนกล่าวถึงคุณมากเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลดีต่ออันดับกูเกิล มากเท่านั้น งั้นคุณก็เริ่มสร้างให้เว็บของคุณมีเชื่อเสียงได้แล้ว

4. Helpful Supplementary Content

  Google กล่าวว่า SC (Supplementary Content) อาจเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำให้เพจมีคุณภาพสูงที่น่าพอใจตามจุดมุ่งหมายของมัน กล่าวคือ Website มีการจัดวาง SC ที่ดี สะดวกต่อการใช้งานของ Audience  (เช่น พวก เมนู Sidebar Footer ต่างๆ) และพากเพียรอย่างสร้าง Spam Link หรือ Spam Content ใน Position ดังกล่าว ให้มุ่งเน้นการนำเสนอที่น่าสนใจ ตลอดจนสามารถนำทางผู้ใช้งานออย่างมีประสิทธิผล

5. Functional Page Design

  กูเกิลได้ให้ความหมายโดยรวมของ Function Page Design ไว้ว่า หน้าที่มีคุณภาพสูงนั้นได้รับการดีไซน์มาเพื่อบรรลุเป้าหมายของผู้เขา (เจ้าของ Website ) เพจจะต้องมีการบริหารที่ดี สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีรูปแบบการดำเนินงานโดยรวม ในขณะที่ทุกหน้ามีความแตกต่างกัน หน้าที่มีคุณภาพควรมีลักษณะดังต่อไปนี้

5.1 MC (Main Content) หรือ บทความหลัก ควรแสดงอย่างเด่นชัดในบริเวรณด้านหน้าและตรงกลางเพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน ส่วน SC และ Ads ควรวางในสถานะที่สมควร

5.2 บทความหลัก MC ควรมองเห็นได้ทันทีที่เปิดหน้าเว็บไซต์

  การออกแบบเพจที่เอื้อต่อการใช้งาน (User Experience) ในการ Design ให้เว็บสนับสนุนผู้ใช้งานให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิผล เข้าถึง Data ที่ถูกต้อง จะช่วยทำให้หน้าเว็บของเรามีคุณภาพในมุมมองของกูเกิลด้วย

6. A Satisfying Amount of Website Information

  เพจที่มีคุณภาพสูงควนมีข้อมูล Website ครบถ้วนถูกต้องชัดเจน เช่น หน้า Support , About Us , Contact Us , Service Information , Product Information เป็นต้น ยังไงก็ตามเพจของคุณอาจมีข้อมูลที่มากกว่านี้ หรืออาจแสดง Data ที่สัมพันธ์ให้ผู้อ่านสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดยิ่งดี รวมไปถึงบทความที่เขียนลงในเว็บไซต์ด้วย หากมีการ Present  Content คุณภาพ ที่อธิบายเกี่ยวกับเรื่องที่นำเสนอได้ทั้งหมด จะส่งเสริมให้ Google ชอบเพจของคุณขึ้นมาทันที และจะนำเพจของคุณไปแสดงร่วมกับคำค้นที่มี Competition ระดับไม่มากก่อน เมื่อผู้ใช้งานเข้าอ่านบทความของคุณเป็นระยะเวลานานๆ อีกทั้งเว็บของคุณมีทราฟฟิคคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพจของคุณจะสามารถติดอันดับใน Keywords ที่มีการแข่งขันระดับสูงได้ไม่ยาก เพราะ Page Quality และ User จะ Drive อันดับ Google ของคุณให้ขยับไปอยู่อันดับต้นๆ โดยไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องของแบ็คลิงค์ด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ ในการทำ SEO ยุคนี้

7. A Well Cared for Maintenance and Updates

  อีกปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนให้ Page ของเรามีคุณภาพในมุมมองของ Google คือ การดูแล ตรวจเช็คสภาพเว็บ และการอัพเดทเว็บอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเพิ่มคุณภาพของ Website มากยิ่งขึ้น เพียงแต่เว็บหลักที่คุณต้องหมั่นตรวจสอบคุณภาพของเว็บและพากเพียรอัพเดทบทความอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น คุณยังต้องทำสิ่งเหล่านี้กับเว็บรอง หรือแม้กระทั่งเว็บที่ทำหน้าที่เป็นแบ็คลิงค์ใหักับเว็บหลักด้วย ซึ่งมันจะส่งเสริมให้อันดับ SEO ของคุณขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างที่ผมเคยกล่าวไว้ในบทความก่อนๆ ว่า ปัจจุบันเราสามารถทำ SEO โดยอาศัยทราฟฟิคและการทำเว็บเพื่อยูสเซอร์อย่างเดียวก็ได้ โดยไม่มีความจำเป็นต้องหา Links เข้าเว็บ ก็สามารถดันอันดับบนกูเกิลได้ ในขณะเดียวกันเราก็ยังสามารถสร้างลิงค์คุณภาพดันอันดับบน Search Engine ได้เหมือนกัน แต่ Time Line และความยั่งยืนของการทำ SEO โดยไม่เน้นการสร้าง Links จะดีกว่า ไม่ว่าเรื่องของช่วงเวลาในการดันอันดับ รวมไปถึงความยั่งยืนของอันดับที่ได้
3 อันดับของ Factor ที่ใช้ไตร่ตรองและประเมินการให้คะแนน Page Quality ในฐานะ Human Rater มีดังนี้
Page Quality Factor อันดับที่ 1 คือ Quality and Quantity of Main Content

  แน่นอนว่า Quality and Quantity of Main Content มีผลต่อการจัดอันดับคุณภาพของเพจหรือเว็บไซต์ เป็นอันดับต้นๆ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของการสร้างเว็บไซต์ คือ Content คุณภาพที่มีประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชมนั่นเอง ยิ่งเว็บมีปริมาณบทความคุณภาพปริมาณมากๆ ยิ่งส่งผลดีต่ออันดับเอสอีโอ อย่างรวดเร็ว
Page Quality Factor อันดับที่ 2 คือ Level of E-A-T of the page and the website

   Factor ที่ส่งผลต่อคุณภาพของ Page รองลงมา คือ เรื่องของระดับคุณภาพของ E-A-T หรือการวัดคุณภาพของเพจ ด้วยการวิเคราะห์ Content ที่สร้างขึ้น ว่ามีความน่าไว้วางใจมากน้อยเพียงใด รวมทั้งบทความเหล่านั้นเขียนโดยผู้เชี่ยวชาญหรือไม่ แน่นอนว่า Google สนใจเว็บที่เขียนโดยผู้ชำนาญการ ที่มี Knowledge และ Experience เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ติดตามได้รับประโยชน์จากการเข้าอ่านบทความเหล่านั้นนั่นเอง
Page Quality Factor อันดับที่ 3 คือ Reputation of the website

  อันดับสุดท้ายที่จะชี้วัดว่า Page มีคุณภาพ นั่นก็คือ Reputation of the website หรือ ชื่อเสียงของเว็บไซต์ และต้องเป็นชื่อเสียงในด้านบวกอีกด้วย ซึ่ง Google จะ Check ชื่อเสียงของเว็บไซต์ ส่วงหนึ่งมาจากการอ้างอิง Referral จากเว็บที่มีคุณภาพที่มีความสัมพันธ์กัน และไม่จำเป็นต้องอ้างอิงด้วย Links เสมอไป อาจเป็น ชื่อเว็บไซต์ แบรนด์ผลิตภัณฑ์ หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเราก็ได้
2. Utility Rating

วัตถุประสงค์หลักของหน้าที่ Google Raters ก็เพื่อช่วยปรับปรุงให้ Google Search Engine มีคุณภาพมากกว่าเดิม Google พยายามจะแสดงผลการค้นหาที่ดีที่สุด และเป็นผลดีมากที่สุดต่อผู้ค้นหา (ตามภาษาและตำแหน่งที่อยู่) ดังนั้น นอกเหนือจาก Page Quality Rating แล้ว อีก Factor ที่สำคัญก็คือ Utility Rating (แต้มคุณประโยชน์)

โดยค่าของคุณประโยชน์จะถูกประเมินออกมาในลักษณะที่ อ้างอิงกับ

1. คำที่ใช้ในการค้นหา (Search Query)
2. ความพยายามของ Searcher  (User Intent)

และโฟกัสไปที่หน้าของ Serps (หรือที่ทาง Google เรียกว่า
รูปที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องวิธีเขียนบทความคุณภาพทางด้าน SEO สนับสนุน Google Panda 4.2
วิธีเขียนบทความคุณภาพทางด้าน SEO สนับสนุน Google Panda 4.2
อ้างอิงจาก: รับทำ SEO
แท็ก: รับทำ SEO
อ้างจาก: รับทำ SEOวิธีเขียนบทความคุณภาพทางด้าน SEO สนับสนุน Google Panda 4.2
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 062-3639429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#20
วิธีโปรโมทเว็บทำ SEO ติดหน้าแรก Google ที่ถูกต้องตามหลัก Google Algorithm

ข้อสอบของวิธีโปรโมทเว็บทำ SEO ติดหน้าแรก Google ที่ถูกต้องตามหลักกูเกิล อ่านบทความที่มีคุณภาพในส่วนของSEOศึกษาเรียนรู้รายละเอียดที่เกี่ยวข้องจากเนื้อหานี้
การ Drive อันดับ SEO ด้วย Web Traffic เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ผ่าน Google Search

การทำการตลาดออนไลน์ด้วย Search Marketing มีความยุ่งยากและมุ่งเน้นที่คุณภาพมากกว่าเดิม วิธีการที่นักทำ SEO โดยส่วนใหญ่แล้วใช้กันมักไม่ได้ผล หรือการัณตีอันดับคีย์เวิร์ดนั้นๆ ได้ การเปลี่ยงแปลงระบบ Ranking ของ Google ทำให้ธุรกิจ  Company  ที่ไม่สามารถปรับตัว อยู่ไม่ได้ เพราะยุคนี้อันดับเอสอีโอ ขับเคลื่อนด้วย Web Traffic และพฤติกรรม User
Driving Visitors to Your Website

  หากท่านมีเว็บไซต์ การเริ่มลงมือทำในแนวทางที่ถูกต้องจะทำให้ใช้อย่างพอเพียงเวลามากขึ้น การทำ SEO ในยุคนี้ ไม่ได้วัดกันที่ปริมาณแบ็คลิงค์ หรือ จำนวนของบทความที่โพส มันมี Factor เรื่องการเชื่อมโยงของ Content คุณภาพในมุมมอง Google และแน่นอนคำว่าบทความคุณภาพ ไม่ใช่แค่อ่านรู้เรื่อง แต่ต้องมีความลึกซึ้ง มี Detail รอบด้าน มีการเชื่อมโยงของ Data ที่มีเนื้อหาที่เป็นผลดีต่อผู้ติดตาม เพื่อให้ได้ Web Traffic คุณภาพเข้าสู่ Website  เพราะทราฟฟิคที่มีคุณภาพจะสามารถขับเคลื่อนอันดับ Google อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพนั่นเอง

  การสร้าง Quality Content ที่มีความเป็น Unique Content ควบคู่กับการเพิ่ม Quantity อย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีสร้างทราฟฟิคแบบง่ายแต่มีประสิทธิผล การเขียนบทความคุณภาพที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยช่วงเวลาที่ยาวนาน แต่ก็คุ้มค่ากับการทุ่มเทอย่างแน่นอน ยุคปัจจุบันระบบ กูเกิลอัลกอริทึม ไม่ได้ให้ความสำคัญกับ Links ที่ชี้เข้าหาเว็บ แต่ให้ความสำคัญกับ Content คุณภาพที่พูดถึงเว็บไซต์ของเรา แน่นอนว่าอาจจะเป็นการอ้างอิงด้วย Message หรือลิงค์ก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือการสร้างเนื้อหาที่เป็นผลดีต่อผู้เยี่ยมชม และต้องทำให้กูเกิลเข้าใจว่าบทความเหล่านั้น สร้างจากนักเขียนมืออาชีพ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ บทความจะต้องมีความน่าไว้วางใจ ตลอดจนสามารถนำไปอ้างอิงเกี่ยวกับบทความที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกันได้

  การจะสร้างเนื้อหาคุณภาพ คุณต้องทำการพัฒนาความรู้  Research  เรียนรู้ เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ จนสามารถเข้าใจอย่างถ่องแท้ ก่อนที่จะเขียนเนื้อหา Present ต่อผู้เยี่ยมชม และแน่นอนว่าการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้ลึกซึ้ง จนสามารถทำให้ Google เข้าใจว่าคุณเป็นผู้ชำนาญการนั้น จะต้องใช้เวลามากกว่า อาจจะใช้เวลาเป็นปีๆ หรืออาจมากกว่านั้น หากเรื่องที่จะ Present มีความละเอียดและรายละเอียดเยอะ และทักษะเหล่านี้ มีความสำคัญกับการทำ Marketing กับ Search Marketing เป็นอย่างมาก เมื่อกูเกิลฉลาดมากขึ้น สามารถจำแนกว่า Data อันไหนเป็นประโยชน์ ข้อมูลอันไหนเป็นข้อมูลในระดับดีมาก โดยการนำเอา Data ของเราไปเปรียบเทียบกับ Data ที่กูเกิลมีอยู่ บางครั้งกูเกิลอาจมีข้อมูลมากกว่าเราอยู่แล้ว หรือมากกว่านักเขียนของ Website นั้นๆ อย่างแน่นอน

  การลงทุนทางด้านการทำSEO ไม่ใช่การลงทุนเพื่อสร้างแบ็คลิงค์จำนวนมากๆ หากแต่เป็นการลงทุนด้าน Content Marketing เพื่อทำให้คนรู้จัก Brand ของเรา ผ่านบทความคุณภาพที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และได้รับ Feedback ที่มีประสิทธิภาพ ในการทำ SEO ยุคนี้ แม้ว่าการสร้างลิงค์จะสามารถดันอันดับบน SERPs (Search Result Pages) ได้ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้แสดงถึงความยั่งยืนของอันดับเอสอีโอ เมื่อท่านสร้างแบ็คลิงค์ปริมาณมากๆ โดยไม่เน้นคุณภาพ ทุกทีที่กูเกิลทำการ Update Algorithm อันดับเอสอีโอ มักมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพราะลิงค์ที่เกิดจากการสร้างแบบ Auto  หรือใช้ Program ช่วยโพสเพื่อสร้างแบ็คลิงค์หลอกกูเกิลนั้น อาจจะใช้ได้ผลในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น Quality Content ของเว็บไซต์ต่างหากที่จะทำให้เว็บมีอันดับที่ยั่งยืน และมีทราฟฟิคอย่างสม่ำเสมอ และทราฟฟิคคือตัวขับเคลื่อนอันดับ Google ที่มีประสิทธิผล และถูกต้องในมุมมองของ Google และ User นี่จึงเป็น Answer ในการทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน

Create Content That Matters
  การสร้างบทความที่สำคัญ ไม่ใช่แค่การสร้างเนื้อหาให้คนอ่านออก แล้วมีการกล่าวถึงแต่ Keyword หลักที่จะทำอันดับ บทความที่สำคัญในที่นี้ คือ บทความที่มีความคัญต่อผู้เยี่ยมชม ผู้เยี่ยมชมต้องการเนื้อหาที่มีคุณภาพ และน่าเชื่อถือ พวกเขาต้องการอ่านเนื้อหาที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญตัวจริง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะสามารถสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ด้วยการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นเพียงผิวเผิน การที่จะมีความรู้ความเข้าใจเพื่อถ่ายทอดเนื้อหาที่มีประโยชน์ต่อผู้ติดตาม คุณต้องทำการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นอย่างถ่องแท้ จนเป็นผู้ชำนาญการก่อนที่จะเริ่มเขียนเนื้อหา หากคุณอยากประสบการบรรลุเป้าหมายบนโลกออนไลน์ ด้วยการตลาดออนไลน์ คุณต้องวางแผนเรื่อง Content Marketing ให้ดี แน่นอนว่าถ้าคุณมีงบประมาณ สามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญเขียนบทความก็ได้ หรือจ้างผู้เชี่ยวชาญมาเป็นนักเขียนของ Website  ไม่ว่าคุณจะใช้เทคนิคอะไรก็แล้วแต่ จงจดจำไว้ว่าคุณต้องทำให้เว็บของคุณเป็นหนึ่งเดียว ในด้านการสร้าง Content คุณภาพขนาดใหญ่ ชนิดที่ว่าถ้าใครชอบเรื่องนี้ต้องเข้ามาที่ Website ของคุณเป็นลำดับแรก

หลักในการสร้าง Content คุณภาพ Basic

1. Keep content user-centric
  การให้ยูสเซอร์เป็นศูนย์กลางของบทความ (Keep content user-centric) เวลาเราจะนำเสนออะไรก็แล้วแต่ เราต้องทำการพัฒนาความรู้ก่อนว่า User ต้องการอะไร จากบทความของเราบ้าง ในการสร้าง Content คุณภาพ ต้องคิดถึงถึง User เป็นลำดับแรก และให้ยูสเซอร์เป็นศูนย์กลางของข้อมูล เหมือนสมัยเรียน คุณครูก็จะให้ Student เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ซึ่งการสร้างเนื้อหาคุณภาพก็ไม่ต่างกัน

2. Differentiate your content
  ความแตกต่างของเนื้อหาของคุณ (Differentiate your content) การสร้างบทความที่ไม่เหมือนในที่นี้ จะต้องเป็น Quality Content ที่มีความเป็น Unique Content ควบคู่กัน ถ้าคุณสร้างเนื้อหาที่ไม่เหมือนแต่ไม่มีประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชม ความแตกต่างก็ช่วยอะไรไม่ได้ในการทำ SEO หรือการทำ Search Marketing เพราะฉะนั้นแตกต่างในที่นี้ คือ การแตกต่างอย่าง Creative  เพื่อ Objectvie เดียว คือ การทำให้ผู้เยี่ยมชมได้รับ Knowledge  ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องที่เรานำเสนอสูงสุด

3. Produce frequent content
  การผลิตเนื้อหาบ่อยๆ (Produce frequent content) แน่นอนว่าต่อให้เว็บคุณมีคุณภาพแค่ไหน ถ้าสร้างเนื้อหาไม่สม่ำเสมอ ไม่ต่อเนื่อง ผู้เยี่ยมชมก็จะไม่เข้าสู่เว็บคุณอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ยิ่งเว็บไซต์ของคุณมีการอัพเดทเนื้อหาบ่อยๆ เท่าใด ยิ่งส่งผลดีต่ออันดับกูเกิล ของ Website  รวมทั้งเป็นการเพิ่มทราฟฟิคให้คนเข้าเว็บอย่างต่อเนื่อง และมันเป็นปัจจัยสำคัญในการทำอันดับบน Googel Search ในสมัยนี้ก็ว่าได้ นอกจากนี้แล้ว หากเราอัพเดทเนื้อหาภายในเว็บบ่อยๆ Googlebot ก็จะเข้ามาเก็บข้อมูลของเรารวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้เว็บมีการ  Index  บน SERPs เร็ว และส่งผลให้ผู้ค้นหาข้อมูลบน Google Search สามารถค้นเจอ Data ของเว็บเรามากขึ้นด้วย ทำให้เว็บมีคนเข้าชมผ่านทาง Google Search Traffic มากตามไปด้วย และแน่นอนว่ามันเป็นปัจจัยสำคัญในการทำอันดับกูเกิล

Convert Visitors into Leads and Clients
  การแปลงคนที่เข้ามาเป็นผู้นำและ Customer  (Convert Visitors into Leads and Clients) การสร้างทราฟฟิคเข้าสู่เว็บที่ดีที่สุด คือการแปลงให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นผู้นำทางด้านข้อมูลข่าวสาร
เพื่อกระจายข่าวให้คนรู้จักเว็บของเรามากยิ่งขึ้น อีกทั้งการเปลี่ยนทราฟฟิคให้เป็นลูกค้า ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าหากเราสามารถดึงทราฟฟิคได้ตรงกลุ่มเป้าประสงค์ ทราฟฟิคจะสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นกลุ่มผู้ใช้บริการโดยปริยาย หากเรานำเสนอ Content ที่มีคุณภาพ พร้อมกับมีการ Present สินค้า บริการ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้เยี่ยมชม ผู้เยี่ยมชมหรือทราฟฟิคจะเข้าใจและเชื่อถือเราตามคุณภาพของ Content ที่เรานำเสนอ หากเราสร้าง Quality Content จำนวนมากๆ และมีกลุ่มผู้เข้าถึง Data ของเราจำนวนมากๆ แม้ว่าเรายังไม่ติดอันดับ Keywords หลักก็ตาม เราก็สามารถสร้างฐาน Customer จากทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บ และจากการค้นหาผ่าน Niche Keywords เมื่อการทำ SEO ด้วย Keywords หลักมี Time Line ที่ยาวนานมากขึ้น การเปลี่ยนผู้เข้าชมเป็นผู้นำและกลุ่มผู้ใช้บริการจึงเป็นทางออกที่น่าชอบและมีประสิทธิภาพสำหรับการทำ Search Marketing ในสมัยนี้

Understand What Conversion Means to You
  การเข้าใจว่าอะไรคือการเปลี่ยนแปลงของคุณ (Understand What Conversion Means to You) ก่อนที่คุณจะสามารถคิดเกี่ยวกับการแปลง Visitor  คุณต้องเข้าใจเป็นลำดับแรกว่าคุณอยากให้พวกเขาทำอะไร การสร้างความแตกต่างขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของคุณ ยกแบบอย่างเช่น หากคุณอยากนำเสนอ Content คุณภาพ โดยมีการหารายได้จากการติด Google Adsense วัตถุประสงค์การกรอกบทความของคุณ คือ การนำเสนอบทความที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ผสมผสานกับการสร้างรายได้จากการติดป้าย Advertise  เป็น  Objectvie ของการสร้างทราฟฟิค และการแปลงทราฟฟิคให้รองรับจุดมุ่งหมายของคุณ มีความแตกต่างแล้วแต่ว่าคุณสร้างเว็บอะไร แต่จุดที่สำคัญและควรนึกถึงมาเป็นลำดับแรก คือ การสร้างบทความที่ตรงกับอุปสงค์ของยูสเซอร์

Traffic Great Than Links
  การสร้างทราฟฟิคเลิศกว่าการใช้ลิงค์ (Traffic Great Than Links) คุณอาจไม่เคยสร้างทราฟฟิคที่มากมาย หรือแม้กระทั่งคุณอาจเคยหาทราฟฟิคจาก Social Network ให้คนเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณปริมาณมากๆ แต่อันดับกลับไม่ขยับขึ้น นั่นเป็นเพราะความสม่ำเสมอของทราฟฟิคไม่เป็นไปตามเกณฑ์ของกูเกิล แน่นอนว่าเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์คสามารถเพิ่มทราฟฟิคให้กับเว็บของคุณปริมาณมากในช่วงเวลาอันสั้น หากท่านเขียนเนื้อหาได้โดนใจพวกเขาเหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ว่าทุกบทความที่คุณ Share ผ่าน Social Network จะประสบการบรรลุเป้าหมาย หรือทุกคนชื่นชอบและเข้าสู่เว็บของคุณทุกทีไป มันทำให้เกิดความไม่สม่ำเสมอของทราฟฟิค อีกทั้งแล้ว Google ยังมองไปถึงพฤติกรรมของยูสเซอร์ หากคุณเขียนเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับบทความหลักของเว็บ แต่เขียนเพื่อให้มีคนกด Like และเข้าสู่เว็บไซต์ สุดท้ายแล้วพวกเขาที่เข้ามาอ่านบทความนั้นของคุณ จะไม่อ่านเนื้อหาอื่นๆ ต่อ และสะท้อนให้เห็นว่าผู้คนไม่มีการคลิกเข้าอ่านบทความอื่น อาจทำให้กูเกิลคิดว่าเว็บสร้างบทความได้ไม่สอดคล้องกัน เพราะฉะนั้นการแชร์บทความไปยังเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์คควรแชร์บทความที่สอดคล้องกับเว็บหลัก เมื่อผู้คนชมอ่านบทความที่แชร์เสร็จก็สามารถอ่านบทความอื่นๆ ต่อ และใช้ Time อยู่ในหน้าเว็บของเรานานๆ เพื่อให้ค่า Bounce Rate ไม่สูงเกินไป โดยมุ่งมั่นให้การคลิกออกจากเว็บของคน ไม่คลิกออกรวดเร็วเกินไป ซึ่งพอเรากล่าวถึงลิงค์มันก็เกี่ยวกับทราฟฟิค พอเราพูดถึงทราฟฟิค ทราฟฟิคก็ใช้คนมาเป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพของ Website  อาจสรุปได้ว่าคนคือผู้ชี้ชะตาเว็บไซต์ของเราว่ามีคุณภาพเท่าใดในสายตาของกูเกิล

Traffic Investment and Links Investment
  การลงทุนทางด้านทราฟฟิคและการลงทุนทางด้านลิงค์ (Traffic Investment and Links Investment) แน่นอนว่าหากท่านลงทุนด้านทราฟฟิคจะเป็นการทำการตลาดในรูปแบบ Content Marketing การ Present เนื้อหาคุณภาพให้ผู้ติดตามเข้าถึงข้อมูลคุณภาพของคุณ โดยที่ Content จะเป็นตัวดึงทราฟฟิคคนเข้าสู่เว็บไซต์ และหากสร้างบทความที่มีคุณค่าจำนวนมากๆ เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จนเป็นเว็บ Data เชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ได้ เว็บไซต์ของคุณก็จะมีทราฟฟิคคนเข้าเว็บจำนวนมากและมากมาย ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลและยั่งยืน แต่ในขณะเดียวกันหากคุณลงทุนทางด้านลิงค์ แน่นอนการว่าจ้างบริษัทรับทำ SEO สร้างลิงค์ให้ หรือการสร้างแบ็คลิงค์ด้วยตนเองก็ตาม การลงทุนสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพต้องใช้ต้นทุน แต่การโพสเว็บบอร์ด เว็บประกาศ เพื่อสร้างลิงค์อาจไม่ต้องลงทุนด้าน Finance  แต่ลงทุนด้านเวลา และความเสี่ยงที่จะโดน Google มองว่าเป็น Spam Link นั้นสูงมาก เพราะเว็บที่เปิดให้คนสมัครเข้ามาโพสเนื้อหาฟรี ส่วนใหญ่จะมีการสร้าง Spam Content จำนวนมาก อาจเกิดจากความไม่รู้เกี่ยวกับเอสอีโอ หรืออาจรู้แต่จงใจทำผิดกฎของกูเกิล แน่นอนว่ามีความเสี่ยงที่จะโดน Google Penalty ได้ง่ายๆ การสร้างลิงค์คุณภาพควรมาจากการเขียนบทความ
คุณภาพโดยที่เราเป็นคนควบคุมคุณภาพของเว็บไซต์ได้ทุกจุด โดยไม่มีสมาชิกหรือยูสเซอร์ร่วมคนอื่นทำการสร้าง Duplicate Content หรือกร
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องวิธีโปรโมทเว็บทำ SEO ติดหน้าแรก Google ที่ถูกต้องตามหลัก Google Algorithm
วิธีโปรโมทเว็บทำ SEO ติดหน้าแรก Google ที่ถูกต้องตามกฎกูเกิล
อ้างอิงจาก: SEO
แท็ก: SEO
อ้างจาก: SEOวิธีโปรโมทเว็บทำ SEO ติดหน้าแรก Google ที่ถูกต้องตามหลัก Google Algorithm
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 0623639429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#21
หลักการตลาดออนไลน์ยุคใหม่ Web Traffic และ User ต้องมาก่อน

เอกสารประกอบการเรียนหลักการตลาดออนไลน์ยุคใหม่ Web Traffic และ User ต้องมาก่อน สวัสดีท่านผู้มีเกียรติทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บทำ SEO ราคาถูกอ่านบทความดังกล่าวจากเนื้อหานี้
การ Drive อันดับกูเกิล ด้วย Web Traffic เพื่อทำ Marketing ผ่าน Google Search

การทำการตลาดออนไลน์ด้วย Search Marketing มีความยุ่งยากและมุ่งเน้นที่คุณภาพมากกว่าเดิม วิธีการที่นักทำ SEO ส่วนมากใช้กันมักไม่ได้ผล หรือการัณตีอันดับ Keyword นั้นๆ ได้ การเปลี่ยงแปลงระบบ Ranking ของ Google ทำให้ธุรกิจ  Company  ที่ไม่สามารถปรับตัว อยู่ไม่ได้ เพราะยุคนี้อันดับ SEO ขับเคลื่อนด้วย Web Traffic และพฤติกรรมยูสเซอร์
Driving Visitors to Your Website

  หากคุณมีเว็บไซต์ การเริ่มลงมือทำในกระบวนการที่ถูกต้องจะทำให้มัธยัสถ์เวลามากขึ้น การทำ SEO ในยุคนี้ ไม่ได้วัดกันที่จำนวนแบ็คลิงค์ หรือ ปริมาณของเนื้อหาที่โพส มันมีปัจจัยเรื่องการเชื่อมโยงของ Content คุณภาพในสายตา Google และแน่นอนคำว่าบทความคุณภาพ ไม่ใช่แค่อ่านรู้เรื่อง แต่ต้องมีความลึกซึ้ง มี Detail รอบด้าน มีการเชื่อมโยงของ Data ที่มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน เพื่อให้ได้ Web Traffic คุณภาพเข้าสู่เว็บไซต์ เพราะทราฟฟิคที่มีคุณภาพจะสามารถขับเคลื่อนอันดับกูเกิล อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพนั่นเอง

  การสร้าง Quality Content ที่มีความเป็น Quality Content ควบคู่กับการเพิ่ม Quantity อย่างต่อเนื่อง เป็นวิธีสร้างทราฟฟิคแบบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ การเขียนบทความคุณภาพที่มีประสิทธิผลต้องอาศัยช่วงเวลาที่นานแสนนาน แต่ก็คุ้มค่ากับการทุ่มเทอย่างแท้จริง ปัจจุบันระบบ กูเกิลอัลกอริทึม ไม่ได้ให้ความสำคัญกับ Links ที่ชี้เข้าหาเว็บ แต่ให้ความสำคัญกับ Content คุณภาพที่พูดถึง Website ของเรา แน่นอนว่าอาจจะเป็นการอ้างอิงด้วยข้อความหรือลิงค์ก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือการสร้างบทความที่เป็นผลดีต่อผู้เยี่ยมชม และต้องทำให้กูเกิลเข้าใจว่าเนื้อหาเหล่านั้น สร้างจากนักเขียนมืออาชีพ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ เนื้อหาจะต้องมีความน่าเชื่อถือ ตลอดจนสามารถนำไปอ้างอิงเกี่ยวกับบทความที่จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันได้

  การจะสร้างเนื้อหาคุณภาพ คุณต้องทำการเรียนรู้  Research  ค้นคว้า เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ จนสามารถเข้าใจอย่างถ่องแท้ ก่อนที่จะสร้างเนื้อหา Present ต่อผู้เยี่ยมชม และแน่นอนว่าการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้ลึกซึ้ง จนสามารถทำให้ Google เข้าใจว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญนั้น จะต้องใช้ Time พอสมควร อาจจะใช้ Time เป็นปีๆ หรืออาจมากกว่านั้น หากเรื่องที่จะ Present มีความยุ่งยากและรายละเอียดเยอะ และทักษะเหล่านี้ มีความสำคัญกับการทำการประชาสัมพันธ์กับ Search Marketing เป็นอย่างมาก เมื่อกูเกิลฉลาดมากขึ้น สามารถแจกแจงว่า Data อันไหนเป็นประโยชน์  Data อันไหนเป็นข้อมูลในระดับดีมาก โดยการนำเอา Data ของเราไปเปรียบเทียบกับ Data ที่กูเกิลมีอยู่ บางครั้งกูเกิลอาจมีข้อมูลมากกว่าเราอยู่แล้ว หรือมากกว่านักเขียนของเว็บไซต์นั้นๆ อย่างแน่นอน

  การลงทุนทางด้านการทำ SEO ราคาถูก ไม่ใช่การลงทุนเพื่อสร้างลิงค์จำนวนมากๆ หากแต่เป็นการลงทุนด้าน Content Marketing เพื่อทำให้คนรู้จัก Brand ของเรา ผ่านบทความคุณภาพที่เข้าถึงกลุ่มจุดหมายปลายทาง และได้รับ Feedback ที่มีประสิทธิผล ในการทำ SEO ยุคปัจจุบัน แม้ว่าการสร้างแบ็คลิงค์จะสามารถดันอันดับบน SERPs (Search Engine Result Pages) ได้ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้แสดงถึงความยั่งยืนของอันดับเอสอีโอ เมื่อคุณสร้างลิงค์ปริมาณมากๆ โดยไม่เน้นคุณภาพ ทุกทีที่กูเกิลทำการ Update Algorithm อันดับเอสอีโอ มักมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพราะลิงค์ที่เกิดจากการสร้างแบบ Automatic  หรือใช้ Program ช่วยโพสเพื่อสร้างแบ็คลิงค์หลอกกูเกิลนั้น อาจจะใช้ได้ผลในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น Quality Content ของ Website ต่างหากที่จะส่งเสริมให้เว็บมีอันดับที่ยั่งยืน และมีทราฟฟิคอย่างต่อเนื่อง และทราฟฟิคคือตัวขับเคลื่อนอันดับ SEO ที่มีประสิทธิผล และถูกต้องในมุมมองของ Google และ User นี่จึงเป็นคำตอบในการทำการตลาดออนไลน์ในสมัยนี้

Create Content That Matters
  การสร้างเนื้อหาที่สำคัญ ไม่ใช่แค่การเขียนบทความ
ให้คนอ่านออก แล้วมีการกล่าวถึงแต่คีย์เวิร์ดหลักที่จะทำอันดับ เนื้อหาที่สำคัญในที่นี้ คือ เนื้อหาที่มีความคัญต่อผู้อ่าน ผู้อ่านอยากเนื้อหาที่มีคุณภาพ และน่าเชื่อถือ พวกเขาอยากอ่านเนื้อหาที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญตัวจริง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะสามารถสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ด้วยการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นเพียงผิวเผิน การที่จะมีความรู้เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ติดตาม คุณต้องทำการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นอย่างถ่องแท้ จนเป็นผู้ชำนาญการก่อนที่จะเริ่มสร้างบทความ หากคุณต้องการประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ ด้วยการตลาดออนไลน์ คุณต้องวางแผนเรื่อง Content Marketing ให้ดี แน่นอนว่าถ้าคุณมีงบประมาณ สามารถจ้างผู้ชำนาญการสร้างบทความก็ได้ หรือจ้างผู้เชี่ยวชาญมาเป็นนักเขียนของเว็บไซต์ ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีการอะไรก็แล้วแต่ จงจดจำไว้ว่าคุณต้องทำให้เว็บของคุณเป็นหนึ่งเดียว ในด้านการสร้าง Content คุณภาพขนาดใหญ่ ชนิดที่ว่าถ้าใครสนใจเรื่องนี้ต้องเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณเป็นอันดับแรก

หลักในการสร้าง Content คุณภาพพื้นฐาน

1. Keep content user-centric
  การให้ User เป็นศูนย์กลางของเนื้อหา (Keep content user-centric) เวลาเราจะ Present อะไรก็แล้วแต่ เราต้องทำการศึกษาก่อนว่า User อยากอะไร จากบทความของเราบ้าง ในการสร้าง Content คุณภาพ ต้องนึกถึงถึงยูสเซอร์เป็นลำดับแรก และให้ User เป็นศูนย์กลางของข้อมูล เหมือนสมัยเรียน คุณครูก็จะให้นิสิตนักศึกษาเป็นศูนย์กลางการศึกษา ซึ่งการเขียนเนื้อหาคุณภาพก็ไม่ต่างกัน

2. Differentiate your content
  ความไม่เหมือนของเนื้อหาของคุณ (Differentiate your content) การสร้างเนื้อหาที่แตกต่างในที่นี้ จะต้องเป็น Quality Content ที่มีความเป็น Quality Content ควบคู่กัน ถ้าคุณสร้างบทความที่ไม่เหมือนแต่ไม่มีประโยชน์ต่อผู้ติดตาม ความแตกต่างก็ช่วยอะไรไม่ได้ในการทำ SEO หรือการทำ Search Marketing เพราะฉะนั้นแตกต่างในที่นี้ คือ การแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ เพื่อวัตถุประสงค์เดียว คือ การทำให้ผู้เยี่ยมชมได้รับความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องที่เรานำเสนอให้มากที่สุด

3. Produce frequent content
  การผลิตบทความบ่อยๆ (Produce frequent content) แน่นอนว่าต่อให้เว็บคุณมีคุณภาพเท่าใด ถ้าสร้างเนื้อหาไม่สม่ำเสมอ ไม่เป็นประจำ ผู้เยี่ยมชมก็จะไม่เข้าสู่เว็บคุณอย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน ยิ่งเว็บไซต์ของคุณมีการอัพเดทเนื้อหาบ่อยๆ เท่าใด ยิ่งส่งผลดีต่ออันดับเอสอีโอ ของเว็บไซต์ รวมทั้งเป็นการเพิ่มทราฟฟิคให้คนเข้าเว็บอย่างสม่ำเสมอ และมันเป็นปัจจัยสำคัญในการทำอันดับบน Googel Search ในยุคปัจจุบันก็ว่าได้ อีกทั้งแล้ว หากเราอัพเดทบทความภายในเว็บบ่อยๆ Googlebot ก็จะเข้ามาเก็บ Data ของเรารวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้เว็บมีการ  Index  บน SERPs เร็ว และส่งผลให้ผู้ค้นหาข้อมูลบน Search Engine สามารถค้นเจอ Data ของเว็บเรามากขึ้นด้วย ทำให้เว็บมีคนเข้าชมผ่านทาง Google Search Traffic มากตามไปด้วย และแน่นอนว่ามันเป็นปัจจัยสำคัญในการทำอันดับกูเกิล

Convert Visitors into Leads and Clients
  การแปลงคนที่เข้ามาเป็นผู้นำและลูกค้า (Convert Visitors into Leads and Clients) การสร้างทราฟฟิคเข้าสู่เว็บที่ดีที่สุด คือการแปลงให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์เป็นผู้นำทางด้าน Data ข่าวสาร
เพื่อกระจายข่าวให้คนรู้จักเว็บของเรามากกว่าเดิม อีกทั้งการเปลี่ยนทราฟฟิคให้เป็นลูกค้า ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าหากเราสามารถดึงทราฟฟิคได้ตรงกลุ่มจุดหมายปลายทาง ทราฟฟิคจะสามารถปรับปรุงเป็นกลุ่มผู้ใช้บริการโดยปริยาย หากเรา Present  Content ที่มีคุณภาพ พร้อมกับมีการนำเสนอสินค้า บริการ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้อ่าน ผู้อ่านหรือทราฟฟิคจะเข้าใจและเชื่อถือเราตามคุณภาพของ Content ที่เรา Present  หากเราสร้าง Quality Content ปริมาณมากๆ และมีกลุ่มผู้เข้าถึง Data ของเราจำนวนมากๆ แม้ว่าเรายังไม่ติดอันดับ Keywords หลักก็ตาม เราก็สามารถสร้างฐานผู้ซื้อสินค้าจากทราฟฟิคที่เข้าสู่เว็บ และจากการค้นหาผ่าน Niche Keywords เมื่อการทำ SEO ด้วยคีย์เวิร์ดหลักมี Time Line ที่นานแสนนานมากขึ้น การเปลี่ยนผู้เข้าชมเป็นผู้นำและกลุ่มผู้ซื้อสินค้าจึงเป็นทางออกที่น่าชอบและมีประสิทธิผลสำหรับการทำ Search Marketing ในปัจจุบัน

Understand What Conversion Means to You
  การเข้าใจว่าอะไรคือการเปลี่ยนแปลงของคุณ (Understand What Conversion Means to You) ก่อนที่คุณจะสามารถคิดเกี่ยวกับการแปลง Visitor  คุณต้องเข้าใจเป็นลำดับแรกว่าคุณต้องการให้พวกเขาทำอะไร การสร้างความแตกต่างขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการ Present  Content คุณภาพ โดยมีการหารายรับจากการติด Google Adsense จุดหมายปลายทางการกรอกเนื้อหาของคุณ คือ การ Present บทความที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชม ผสมผสานกับการสร้างรายรับจากการติดป้ายโฆษณา เป็น วัตถุประสงค์ของการสร้างทราฟฟิค และการแปลงทราฟฟิคให้รองรับเป้าหมายของคุณ มีความไม่เหมือนแล้วแต่ว่าคุณสร้างเว็บอะไร แต่จุดที่สำคัญและควรคิดถึงมาเป็นอันดับแรก คือ การเขียนเนื้อหาที่ตรงกับความประสงค์ของ User

Traffic Great Than Links
  การสร้างทราฟฟิคดีกว่าการใช้ลิงค์ (Traffic Great Than Links) คุณอาจไม่เคยสร้างทราฟฟิคที่มากมาย หรือแม้กระทั่งคุณอาจเคยหาทราฟฟิคจาก Social Network ให้คนเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณปริมาณมากๆ แต่อันดับกลับไม่ขยับขึ้น นั่นเป็นเพราะความสม่ำเสมอของทราฟฟิคไม่เป็นไปตามเกณฑ์ของกูเกิล แน่นอนว่าเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์คสามารถเพิ่มทราฟฟิคให้กับเว็บของคุณจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น หากท่านสร้างบทความได้โดนใจพวกเขาเหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ว่าทุกบทความที่คุณ Share ผ่าน Social Network จะประสบความสำเร็จ หรือทุกคนชื่นชอบและเข้าสู่เว็บของคุณทุกทีไป มันทำให้เกิดความไม่สม่ำเสมอของทราฟฟิค อีกทั้งแล้ว Google ยังมองไปถึงพฤติกรรมของ User  หากท่านสร้างเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับบทความหลักของเว็บ แต่เขียนเพื่อให้มีคนกด Like และเข้าสู่เว็บไซต์ สุดท้ายแล้วพวกเขาที่เข้ามาอ่านบทความนั้นของคุณ จะไม่อ่านเนื้อหาอื่นๆ ต่อ และสะท้อนให้เห็นว่าผู้คนไม่มีการคลิกเข้าอ่านบทความอื่น อาจทำให้กูเกิลมองว่าเว็บสร้างบทความได้ไม่สอดคล้องกัน เพราะฉะนั้นการแชร์เนื้อหาไปยังเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์คควรแชร์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บหลัก เมื่อผู้คนชมอ่านบทความที่แชร์เสร็จก็สามารถอ่านเนื้อหาอื่นๆ ต่อ และใช้เวลาอยู่ในหน้าเว็บของเรานานๆ เพื่อให้ค่า Bounce Rate ไม่สูงเกินไป โดยพยายามให้การคลิกออกจากเว็บของคน ไม่คลิกออกรวดเร็วเกินไป ซึ่งพอเราพูดถึงลิงค์มันก็เกี่ยวกับทราฟฟิค พอเราพูดถึงทราฟฟิค ทราฟฟิคก็ใช้คนมาเป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพของ Website  อาจสรุปได้ว่าคนคือผู้ชี้ชะตาเว็บไซต์ของเราว่ามีคุณภาพแค่ไหนในวิสัยทัศน์ของกูเกิล

Traffic Investment and Links Investment
  การลงทุนทางด้านทราฟฟิคและการลงทุนทางด้านลิงค์ (Traffic Investment and Links Investment) แน่นอนว่าหากท่านลงทุนด้านทราฟฟิคจะเป็นการทำการตลาดในรูปแบบ Content Marketing การนำเสนอเนื้อหาคุณภาพให้ผู้ติดตามเข้าถึง Data คุณภาพของคุณ โดยที่ Content จะเป็นตัวดึงทราฟฟิคคนเข้าสู่ Website  และหากสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าปริมาณมากๆ เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จนเป็นเว็บ Data เชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ได้ เว็บไซต์ของคุณก็จะมีทราฟฟิคคนเข้าเว็บปริมาณมากและหลากหลาย ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน แต่ในขณะเดียวกันหากท่านลงทุนทางด้านลิงค์ แน่นอนการว่าจ้างบริษัทรับทำ SEO สร้างลิงค์ให้ หรือการสร้างแบ็คลิงค์ด้วยตัวเองก็ตาม การลงทุนสร้างลิงค์คุณภาพต้องใช้ต้นทุน แต่การโพสเว็บบอร์ด เว็บประกาศ เพื่อสร้างลิงค์อาจไม่ต้องลงทุนด้าน Finance  แต่ลงทุนด้าน Time  และความเสี่ยงที่จะโดน Google มองว่าเป็น Spam Link นั้นสูงมาก เพราะเว็บที่เปิดให้คนสมัครเข้ามาโพสบทความฟรี โดยส่วนมากจะมีการสร้าง Spam Content จำนวนมาก อาจเกิดจากความไม่รู้เกี่ยวกับเอสอีโอ หรืออาจรู้แต่จงใจทำผิดกฎของกูเกิล แน่นอนว่ามีความเสี่ยงที่จะโดน Google Penalty ได้ง่ายๆ การสร้างลิงค์คุณภาพควรมาจากการสร้างเนื้อหา
คุณภาพโดยที่เราเป็นคนควบคุมคุณภาพของเว็บไซต์ได้ทุกจุด โดยไม่มีสมาชิกหรือ User ร่วมคนอื่นทำการสร้าง Dup
รูปที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องหลักการตลาดออนไลน์ยุคใหม่ Web Traffic และ User ต้องมาก่อน
หลักการตลาดออนไลน์ยุคใหม่ Web Traffic และ User ต้องมาก่อน
อ้างอิงจาก: ทำ SEO ราคาถูก
แท็ก: SEO
อ้างจาก: ทำ SEO ราคาถูกหลักการตลาดออนไลน์ยุคใหม่ Web Traffic และ User ต้องมาก่อน
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 0623639429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#22
ความรู้เบื้องต้นสำหรับทำ SEO ให้ถูกใจ Google ที่นักการตลาดออนไลน์ควรรู้

เว็บเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นสำหรับทำ SEO ให้ถูกใจ Google ที่นักการตลาดออนไลน์ควรรู้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการพัฒนาความรู้รับทำ SEO ราคาถูกทำความเข้าใจอย่างกระจ่างจากบทความดังต่อไปนี้
ทำความเข้าใจกับการทำ SEO สายขาว

การทำ SEO สายขาวไม่ได้ทำง่ายๆ แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ถ้าคุณสร้างได้ลิงค์มาแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ไม่ละเอียด ไม่คิดมาก แสดงว่าคุณไม่ได้ทำ SEO สายขาวแล้วหละ การทำ SEO สายขาว ต้องใช้ Time  ความตั้งใจ ความมุ่งมั่น เพื่อนำเสนอ Quality Content และ Quality Content ให้กับผู้ติดตาม แล้วจึงหวังผลทางด้าน SEO เป็นเรื่องรองลงมา และหากคุณจะดันอันดับ Google ด้วย Keyword อะไร คุณก็ต้องเป็น Guru เรื่องนั้นๆ ด้วย
นักทำ SEO โดยปกติมักคิดว่าตนเองทำ SEO สายขาว

  เป็นข้อเท็จจริงไม่อิงนิยายใดๆ สำหรับนักทำ SEO โดยส่วนใหญ่ หรือแม้กระทั่ง Marketer มือใหม่ มักจะคิดว่าวิธีการการทำ SEO ของตัวเอง มันเป็นสายขาว หรือที่เรียกว่า White Hat และแน่นอนพวกเขาคิดว่าเนื้อหาที่เขียนไม่ได้ Spin ก็ต้องเป็นสายขาวอยู่แล้ว และก็แน่นอนอีกเช่นกันว่าพวกเขาคิดไปเอง Google ไม่ได้คิดแบบนั้นด้วย แม้ว่าคุณจะเขียนเนื้อหาอ่านรู้เรื่อง ก็ไม่ได้หมายความว่าบทความนั้นจะมีคุณภาพในมุมมองของ Google ถ้าบทความนั้นไม่มีคุณค่าหรือมีประโยชน์ต่อผู้ติดตาม เนื้อหานั้นก็ไม่มีคุณภาพในมุมมอง Google ด้วย การสร้างเนื้อหา
ด้วยการพิมพ์นำเสนอแต่ Keyword หลักที่จะทำอันดับบน Search Engine ไม่ใช่ Quality Content อย่างที่กูเกิลอยาก การสร้างเนื้อหาคุณภาพเป็นมิตรกับผู้ติดตาม เนื้อหานั้นจะต้องชี้แจงรายละเอียดรอบด้าน มีการอธิบายขั้นตอนการ วิธีการการดำเนินงาน เคล็ดลับ และความรู้ทางวิชาการ เข้ามาสัมพันธ์ด้วย และข้อมูลต้องมีเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ ซึ่งกูเกิลสามารถตรวจเช็คได้อยู่แล้วว่าบทความอันไหนถูกต้องและน่าเชื่อถือ โดยการนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลที่กูเกิลเก็บไว้ไม่จำกัด และกูเกิลก็มีระบบตรวจเช็คคุณภาพที่ได้ผลเป็นอย่างดี ดังนั้นการสร้างบทความ
อ่านรู้เรื่อง ก็ไม่ได้หมายความจะมีคุณภาพเสมอไป

  อีกแนวความเห็นหนึ่งของนักทำ SEO โดยปกติ ที่มักจะเข้าใจว่าตราบใดที่ตัวเองไม่ได้ Submit Backlinks กับเว็บเมืองนอก หรือเว็บที่ด้อยคุณภาพ นอกนั้นคือเป็นการทำ SEO สายขาวหมด แน่นอนว่าแนวความนึกคิดนี้มาจากนักทำ SEO ที่เข้าใจว่าเมื่อ Google มีการพัฒนาระบบ Algorithm ใหม่ ที่จะทำโทษเว็บที่ใช้วิธีการการ Submit Backlinks จากเว็บต่างประเทศ การเลิกใช้เทคนิคเหล่านี้ ก็เท่ากับการทำ SEO สายขาว ซึ่งข้อเท็จจริงแล้ว เราสามารถแยกแยะว่าเทคนิคนั้นเป็นสายขาว หรือสายดำ ไม่ใช่ดูที่แนวทางการ แต่ดูที่เนื้อหาที่เขียนนั้นเป็นประโยชน์ต่อผู้ติดตามหรือไม่ต่างหาก
การทำ SEO สายขาวหรือสายดำ ไม่เหมือนกันตรงไหน

  หากท่านต้องการจำแนกว่าการรับทำ SEO ราคาถูก แบบไหนสายขาวหรือสายดำ หลักการง่ายๆ เลยก็คือ หากท่านสร้างลิงค์ด้วยเนื้อหาคุณภาพเป็นประโยชน์ต่อผู้ติดตาม และเขียนบทความเหล่านั้นบนเว็บที่มีเนื้อหาหลักสอดคล้องกับเว็บของเรา เนื้อหาไม่เหมือนเว็บอื่น แสดงว่าเป็นการทำ SEO สายขาว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไม่ชอบในการคัดกรองเว็บที่มีเนื้อหลักหาเกี่ยวข้องกับเว็บของเรา ขอให้เป็นเว็บที่โพสบทความสร้างแบ็คลิงค์ได้ เป็นใช้ได้ บางครั้งคุณมีการใช้เนื้อหาซ้ำๆ หรืออาจเปลี่ยน Message นิดๆ หน่อยๆ โดยเน้นการเพิ่มจำนวนลิงค์เป็นหลัก แสดงว่าคุณกำลังทำ SEO สายดำ สรุป คือ เราสามารถคัดกรอง SEO White Hat กับ SEO Black Hat ด้วยการดูที่ Content เป็นหลัก รวมทั้งเจตนาของนักทำ SEO ว่าต้องการสร้างเนื้อหา
เพื่อผู้อ่าน หรือสร้างบทความเพื่อหวังแต่จะสร้างแบ็คลิงค์ด้วย อย่างไรก็ตามการแยกแยะการทำ SEO สายดำหรือสายขาว ด้วยการดูที่คุณภาพของเนื้อหาเป็นเพียงเทคนิคการตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น มันมี Factor ต่างๆ ให้ตรวจสอบและวิเคราะห์ไม่จำกัด และระบบ กูเกิลอัลกอริทึม ก็สามารถคัดกรองทางด้านคุณภาพได้
การจ้างทำ SEO ถือว่าเป็นการทำ Search Engine Optimize สายดำ

  อันที่จริงก็ไม่เชิงเสมอไป ถ้าเลือกบริษัทรับทำ SEO ที่มีคุณภาพจริงๆ หรือนักทำ SEO มีประสบการณ์และมุ่งเน้นการดันอันดับกูเกิลตามกฎของ Google Webmaster Guidelines ก็ถือว่าเป็นการทำ SEO สายขาว แต่ว่าส่วนมากแล้วนักทำ SEO จะใช้วิธีการสายดำมากกว่าในการทำอันดับกูเกิล เพราะคิดว่าเห็นผลเร็วกว่า โดยไม่สนใจความยั่งยืน หรือความปลอดภัย ไม่ชอบผลที่จะตามมาในระยะยาว ขอให้อันดับขึ้นไว้ก่อน ติดสั้นหรือยาวเป็นอีกเรื่อง ซึ่งนักทำ SEO โดยมากจะคิดเช่นนี้ และก็ทำแบบนี้ จึงไม่น่าแปลกใจอะไร ถ้าคุณจ้างทำ SEO ก็เท่ากับว่ากำลังทำเอสอีโอสายดำอยู่นั่นเอง เอาง่ายๆ ให้เห็นภาพเลย เช่น การโพสบทความเพื่อสร้างลิงค์บนหน้าเว็บที่เราไม่ใช่เจ้าของและไม่สามารถควบคุมคุณภาพโดยรวมของ Website ได้ แค่นี้ก็คือว่าเป็นการทำ SEO สายดำแล้ว แต่ถ้าเว็บที่เราสามารถควบคุมคุณภาพได้บ้าง เช่น เว็บโซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือ บล็อกฟรี ที่มีการแยกส่วนการแสดง Content ของผู้ใช้งานแต่ละคน อันนี้ก็พอจะพูดได้ว่ามีคุณภาพอยู่บ้าง และถ้าหากคุณเห็นนักทำ SEO คนไหนทำอันดับบนกูเกิลได้ แต่ใช้แนวทางการโพสสร้าง Backlinks มั่วไปหมด เช่น โพสเนื้อหาสร้างลิงค์จาก Social Network , Blog , Webboard , Directory Web , Social Bookmark , Private Blog Network , Classified Web เอาหลายๆ อย่างมารวมกันเพื่อจุดประสงค์เดียวคืออันดับ Google แบบนี้ถือว่าสายดำ เพราะหลายๆ เว็บไม่เนื้อหาหลักไม่สัมพันธ์กับเว็บไซต์หลัก แม้อันดับจะขึ้น แต่รับประกันได้ว่าช้าหรือเร็วก็จะโดนกูเกิลทำโทษหรือแบนอย่างแน่นอน
หลักการการทำ SEO สายขาว

  แนวทางทำ SEO สายขาวก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่อาศัยความพยายาม ความอดทน ความมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องที่กำลัง Present ต่อผู้ติดตามมากกว่า และลืมไปได้เลยว่านักทำ SEO โดยมากแล้วจะมาใช้แนวทางทำ SEO สายขาว เพราะแค่ทำอันดับ Keywords กลุ่มเดียว ก็จะใช้เวลานานและยุ่งยาก ยิ่งนักทำ SEO ทั่วไปจะมุ่งเน้นความรวดเร็วในการไต่อันดับ จึงไม่ต้องหวังให้นักทำ SEO ทั่วไปหันมาใส่ใจในเรื่องของการทำอันดับกูเกิลแบบ White Hat หรือถ้ามีก็น้อยราย เอาเป็นว่าขั้นตอนพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนให้ผู้เยี่ยมชมหันมาทำ SEO สายขาว ดังนี้

1. Create Quality Content and Quality Content
  การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและไม่เหมือนกับเว็บอื่น

2. Create Links from Content Relation Money Site
  สร้างแบ็คลิงค์จากหน้าเว็บที่มีบทความหลักสัมพันธ์กับ Website หลัก โดย Keywords หลักของเว็บหลักและเว็บรองจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน

3. Can Control Quality Content and Managment Site
  สามารถควบคุมด้านคุณภาพของบทความทั้งหมดของ Website  รวมทั้งบริหารส่วนต่างๆ ของ Website ได้ทั้งหมด เพื่อมุ่งเน้นการปรับให้เว็บมีคุณภาพสูงสุด

4. Use Webmaster Tools and Sitemap
  บทความทั้งหมดสามารถนำเข้า Google Webmaster Tools ได้ โดยการสร้าง XML Sitemap เพื่อสร้างรายการของหน้าเว็บไซต์ ส่งให้กูเกิลตรวจเช็คและทำการจัดดัชนีของ Website

5. Use Analytics for Analyize your Website
  ใช้เครื่องมือ Google Analytics สำหรับตรวจสอบและตรวจสอบ Website  เพื่อพัฒนาทางด้านคุณภาพของเว็บ โดยมุ่งเน้นการสร้างเว็บสนับสนุนผู้อ่านเป็นหลัก
สรุปเกี่ยวกับการทำ SEO สายขาว

  จริงๆ แล้วการทำ SEO สายขาวไม่มีอะไรมาก กฎง่ายๆ คือ ไม่สร้างลิงค์บนหน้าเว็บที่เราควบคุมด้านคุณภาพไม่ได้ ไม่สร้างลิงค์รวมกับเว็บที่มีคนใช้งานร่วมกันมากๆ เพราะเราจะควบคุมให้สมาชิกภายในเว็บมุ่งเน้นคุณภาพได้ไม่ทั่วถึงนั่นเอง และต้องมุ่งเน้นการสร้างบท
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องความรู้เบื้องต้นสำหรับทำ SEO ให้ถูกใจ Google ที่นักการตลาดออนไลน์ควรรู้
ความรู้เบื้องต้นสำหรับทำ SEO ให้ถูกใจ Google ที่นักการตลาดออนไลน์ควรรู้
อ้างอิงจาก: รับทำ SEO ราคาถูก
แท็ก: SEO
อ้างจาก: รับทำ SEO ราคาถูกความรู้เบื้องต้นสำหรับทำ SEO ให้ถูกใจ Google ที่นักการตลาดออนไลน์ควรรู้
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 0623639429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#23
CMSEOGroup แนะนำวิธีโปรโมทเว็บด้วยการทำ SEO ให้ติดอันดับ Google อย่างถูกต้อง

ซื้อของคุณภาพราคาถูกCMSEOGroup แนะนำวิธีโปรโมทเว็บด้วยการทำ SEO ให้ติดอันดับ Google อย่างถูกต้อง ติดตามบทความดีๆเกี่ยวกับรับทำ SEOอ่านเนื้อหาที่มีสาระประโยชน์ได้จากที่นี่ Google แจ้งว่าจะอัพเดท Penguin Algorithm เร็วๆนี้
นักทำ SEO หลายท่านคงรอคอยระบบ Google Penguin Algorithm อัพเดทรุ่นใหม่ เพราะนับจากมีการอัพเดท Penguin 3.0 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางกูเกิลได้หยุดปรับปรุงระบบอัลกอริทึมขนาดใหญ่ เป้าประสงค์เพื่อกำจัดเว็บสแปม และ SEO Black Hat ให้หมดไป การอัพเดทระบบ Penguin 4.0 ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นการปฏิบัติงานแบบเรียลไทม์เต็มรูปแบบ รวมทั้ง Panda 4.2 ก็จะทำงานแบบเรียลไทม์ด้วยเหมือนกัน
เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยงแปลง

  แน่นอนว่าเมื่อ Google ยังไม่ได้อัพเดท Penguin 4.0 เราก็จะไม่ทราบแนวทางทำงานของระบบอัลกอริทึมเพนกวิ้นรุ่นใหม่ ว่าจะมีการปฏิบัติงานเป็นอย่างไร และมีประสิทธิมากน้อยสักแค่ไหน กับการจัดการกับ Spam Links ทั้งหลาย ที่เราเห็นกันเกลื่อนตามเว็บที่เปิดให้สมัครใช้งานฟรี ไม่ว่าจะเป็นเว็บบอร์ดฟรี เว็บประกาศฟรี บล็อกฟรี ล้วนแต่มีนักทำ SEO ทั้งมือใหม่ มือเก๋า ไปใช้บริการเพื่อสร้างสแปมลิงค์กันเป็นว่าเล่น แถมยังมีอันดับที่ดีอีกด้วย ต้องรอดูว่าการอัพเดทระบบอัลกอริทึม Version ใหม่นี้จะเป็นยังไง หลังจากที่นักทำ SEO ทั่วโลก รอคอยการปรับปรุงมากว่า 14 เดือน เมื่อรวมช่วงเวลาการอัพเดทครั้งสุดท้าย จนถึงการอัพเดทอีกครั้งรับทำ SEO

  อัลกอริทึมรุ่นใหม่ต้องดีกว่ารุ่นเก่า Google Penguin 4.0 น่าจะมีการเพิ่มความสามารถในการจัดการกับ Links ไร้คุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับ Network ส่วนตัวที่ไม่มีคุณภาพ และการลงโทษเว็บที่มีลักษณะเป็น Content Farm เพื่อลดปริมาณลิงค์ขยะที่มีอยู่ปริมาณมาก จากการตั้งใจสร้างสแปมลิงค์โดยนักทำ SEO สายดำ สายเทา ทั้งหลาย ที่มักจะทดลองวิธีการ Spam Contents และ Spam Links รูปแบบใหม่ๆ เพื่อหลบหลีกการตรวจสอบจากกูเกิล ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน กูเกิลได้ปล่อยอัลกอริทึมตัวใหม่ภายใต้ชื่อ Hack Sites Algorithm เป็นอัลกอริทึมสำหรับจัดการกับ Website ที่โดน Hacker ทำการแฮกเพื่อสร้างลิงค์กลับไปยังเว็บเป้าประสงค์ ซึ่งก็คือ SAPE Network อันโด่งดัง ที่ชาวรัสเซียเป็นคนต้นคิดนั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อก่อนกูเกิลจัดการกับ Network ส่วนตัวเหล่านี้ ด้วยการลบออกจากผลการค้นหาแบบ Manual ซึ่งยุ่งยากและใช้เวลานาน อีกทั้งนักทำ SEO ก็สร้างแบ็คลิงค์จากเว็บใหม่อย่างสม่ำเสมอ เพื่ออัลกอริทึมตัวนี้ออกมา เรียกได้ว่าจบเกมส์สำหรับนักทำ SEO ที่ใช้วิธีการนี้ก็ว่าได้ แน่นอนว่าอัลกอริทึมดังกล่าวจะทำงานร่วมกับ Googel Penguin 4.0 ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการกำจัด Spam Network ได้ดียิ่งขึ้น

  การทำงานแบบ Real Time จะสามารถกำจัดลิงค์ขยะรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นักทำ SEO หลายคนอาจคิดว่าการ Update Penguin จะสามารถทำอันดับได้เร็วยิ่งขึ้น เพราะการนับคะแนนเป็นแบบเรียลไทม์ ซึ่งผมคิดว่ากูเกิลเขาคงอ่านเกมมาตั้งแต่แรกแล้วว่าการทำให้อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ อาจเป็นวิถีทางให้บรรดานักทำ SEO สายดำ สามารถยุ่งเกี่ยวการจัดอันดับของกูเกิล จนทำให้การจัดอันดับไม่มีความน่าไว้วางใจต่อผู้ใช้งาน และระยะเวลาที่กูเกิลได้พัฒนาอัลกอริทึค่อนข้างยาวนานนั้น น่าจะสามารถรับมือกับเทคนิคที่ไม่ถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน เพราะจงจดจำไว้ว่าเมื่ออัลกอริทึมทำงานแบบเรียลไมท์ นับสกอร์ลิงค์อย่างรวดเร็ว การทำโทษหรือที่เรียกว่า Google Penalty ก็จะทำงานอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ดังนั้นการทำตามกฎของกูเกิลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
เพราะอะไรกูเกิลให้ความสำคัญกับ Google Penguin

  หลายๆ คนอาจข้องใจว่าเพราะเหตุใด Google จึงให้ความสำคัญกับ Penguin Algorithm และใช้ Time พัฒนา พัฒนา ค่อนข้างนาน แน่นอนว่ากูเกิลได้ลดความสำคัญของลิงค์ลง แต่ไม่ได้มีความหมายว่าจะยกเลิกการใช้ลิงค์ในการให้ Score เว็บที่มีลิงค์คุณภาพ ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่าระบบการจัดอันดับกูเกิลในปัจจุบัน มีการใช้เทคโนโลยี RankBrain ที่เป็นระบบ AI (Artificail Intelligence) ประมาณ 15% ของการ Query  Data แสดงต่อยูสเซอร์ และอัลกอริทึมดังกล่าวมีลักษณะการปฏิบัติงานเหมือนกับ Google Hummingbird Algorithm และทำงานเป็น Factor ที่สาม ซึ่งกูเกิลอาจจะนำมาคัดเลือกคุณภาพอีกรอบ หลังจากที่มีการ Query ข้อมูลจาก Core Algorithm แล้ว นอกจาก Factor ที่กล่าวมาก็ยังไม่สำคัญเท่ากับพฤติกรรมของยูสเซอร์ และสถิติของเว็บไซต์ที่เกิดจาก User  ค่าเหล่านี้มีผลต่อการจัดอันดับค่อนข้างสูง เพราะเป็นค่าที่มาจากคนจริงๆ ไม่สามารถสร้างหรือดัดแปลงเพื่อหลอกกูเกิลได้นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นแม้การดันอันดับ Google ด้วยการสร้าง Links มันจะถูกลดความสำคัญลง แต่มันก็สามารถทำอันดับได้ หากแต่อาจต้องใช้ลิงค์คุณภาพจำนวนมากพอที่กูเกิลจะเข้าใจว่ามีคุณภาพ ข้อสังเกตุอีกอย่างหนึ่งคือ การสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพจะทำให้เกิด Referral Traffic คุณภาพด้วยเช่นกัน และทราฟฟิคก็เป็นตัว Drive อันดับกูเกิล ที่มีประสิทธิผล พูดง่ายๆ คือ หากเราสร้างเนื้อหาคุณภาพแล้วชี้ลิงค์ไปยังเว็บหลัก เมื่อมีคนคลิกเพื่อเข้าสู่ Website หลัก Google ก็จะเข้าใจว่าทราฟฟิคดังกล่าวมาจากเว็บไหน หน้าไหน บทความมีความสัมพันธ์กันหรือไม่ ถ้ามีคุณภาพทราฟฟิคนั้นก็จะมีคุณภาพในมุมมองกูเกิลด้วย ยังไงก็ตามการจะตรวจเช็คดูว่าทราฟฟิคไหนมีคุณภาพ Google ก็จะตรวจเช็คจากพฤติกรรมของยูสเซอร์นั่นเอง
การสร้างลิงค์แบบไหนจะพึงพอใจ Penguin ตัวใหม่

  ระบบ Google Penguin 4.0 มีความสามารถในการบริหารและลงโทษ Bad Links ได้อย่างมีประสิทธิผล เป็นเวลาเนิ่นนานหลายปีที่กูเกิลพัฒนาระบบ Algorithm ใหม่ๆ เพื่อต่อสู้กับ Content Farms และ Spam Links ทั้งหลาย ทุกทีที่กูเกิลทำการอัพเดทระบเพนกวิ้น เราจะเห็นว่าเว็บด้อยคุณภาพทั้งหลายจะลดลงอย่างมาก และทำให้มีเว็บคุณภาพแสดงบนผลการค้นหามากกว่าเดิม โดย Google อยากจะลงโทษกับการทำ SEO Black Hat ทุกรูปแบบ และพยายามไม่ให้นักทำ SEO สายดำเข้ามาแทรกแซงการจัดอันดับที่มีคุณภาพของกูเกิล อันที่จริงอาจกล่าวได้ว่า ถ้าไม่มีนักทำ SEO สายดำ สายเทา หรือนักการตลาดที่มุ่งแต่จะสร้างลิงค์ขยะ ผลการค้นหา SERPs ของกูเกิลจะยิ่งน่าเชื่อถือมากๆ โดยที่ไม่ต้องพัฒนา Penguin Algorithm ด้วยซ้ำ แต่อย่างว่าเมื่อมีคนที่จะหาประโยชน์จากกูเกิลในเชิงไม่มีคุณภาพ Google ก็ต้องพยายามไม่ให้พวกเขาเหล่านั้น สามารถมีตัวตนบน Search Engine โดยกูเกิลก็มีกฎระเบียบ ข้อปฏิบัติให้ Webmasters ปฏิบัติตามอยู่แล้ว ถ้าหากทำตามกฎของกูเกิล การทำอันดับไม่ยากอย่างแท้จริง เพราะถ้าทำเว็บคุณภาพมีประโยชน์ต่อผู้ติดตาม ทุกอย่างจะตามมาเอง
เรายังสามารถใช้ Network ส่วนตัวดันอันดับได้หรือไม่

  ตั้งแต่กูเกิลทำการ Update Algorithm อย่าง Penguin 3.0 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นักทำ SEO ส่วนมากแล้วที่ใช้ Wordpress ในการสร้างเน็ตเวิร์คเพื่อดันอันดับกูเกิล โดน Google Penalty และโดนแบนกันเป็นว่าเล่น นักทำ SEO โดยมากแล้วจึงหันไปสร้างแบ็คลิงค์จากเว็บบอร์ด เว็บประกาศ บล็อกฟรี และโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยหลีกเลี่ยงการสร้างลิงค์ด้วย PBN (Private Blog Network) เพราะกลัวโดนกูเกิลเก็บ เพราะต้นทุนในการซื้อ โดเนมเนม และ SEO Hosting ไม่ใช่ราคาสุดคุ้ม ถ้าหากโดนแบนที เงินทุนก็อาจหายไปกับตาได้ง่ายๆ เลย ยังไงก็ตามหากเรามุ่งมั่นที่จะสร้าง Network ส่วนตัวให้มีคุณภาพ ไม่ว่า Algorithm ไหนก็สามารถดันอันดับได้ และไม่โดนทำโทษอย่างแน่นอน ยิ่งทำให้เน็ตเวิร์คมีคุณภาพมากเท่าไหร่ ความยั่งยืนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งที่จะแสดงว่าเว็บไหนมีคุณภาพหรือไม่ ก็คือ การสร้าง Content นั่นเอง หากอยากทำให้ Network ส่วนตัว มีคุณภาพก็ต้องพยายามเขียนบทความที่มีคุณภาพ เป็นผลดีต่อผู้อ่าน และบทความจะต้องแตกต่างกับเว็บอื่น ซึ่งนักทำ SEO มือใหม่อาจไม่เข้าใจว่า คำว่าไม่ซ้ำกับเว็บไซต์อื่น นั้น รวมไปถึงเว็บของตัวเองที่มี ชื่อเว็บ แตกต่างกันด้วยนั่นเอง และนักทำ SEO โดยมากแล้วจะใช้ Wordpress ในการขับเคลื่อนอันดับ Search Engine Optimize  ซึ่งสมัยนี้เราก็สามารถใช้เวิร์ดเพลสมาทำเว็บ Blog Network ได้ ขอแค่เน้นไปที่การสร้างบทความที่มีคุณภาพ ยืนยันว่าไม่โดนกูเกิลแบนอย่างแน่นอน
Google Penguin ทำงานเรียลไทม์ไม่ได้หมายความว่าทำอันดับง่าย

  การที่กูเกิลอัพเดทอัลกอริทึม Google Penguin แบบเรียลไทม์ไม่ได้มีความหมายว่าการดันอันดับ SEO จะง่ายนะครับ การที่อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ก็อาจมีการให้คะแนนลิงค์ได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็จะตัดคะแนนลิงค์ไร้คุณภาพรวดเร็วขึ้นเช่นกัน การทำ SEO ที่ไม่มีคุณภาพ ยังไงก็โดน Google Penalty และโดนทำโทษ แบนเว็บเร็วขึ้นด้วย แบบว่ามาเร็ว เคลมเร็ว ยังไงยังงั้น แม้ว่า Penguin Algorithm จะเป็น Core Algorithm ในการจัดอันดับบน SERPs แต่จงจดจำไว้ว่ากูเกิลปรับปรุงอัลกอริทึมหลักหลายตัวช่วยในการจัดอันดับให้มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น Google Panda , Google Hummingbird , Doorway Page Algorithm , Google Pigeon , Hack Sites Algorithm และอื่นๆ อีกที่มีหน้าที่การทำงานไม่เหมือนกัน ทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งแม้ว่าเพนกวิ้นอัลกอริทึมจะทำงานแบบเรียลไทม์ก็ไม่สามารถการัณตีได้ว่าเราจะดันอันดับได้ง่าย เพราะกูเกิลไม่ได้พัฒนาอัลกอริทึมให้นักทำ SEO ทำอันดับได้ง่ายอยู่แล้วนั่นเอง นอกจากนั้นกูเกิลยังให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของ User มาเป็นลำดับแรก ต่อให้คุณมีลิงค์คุณภาพเข้าสู่เว็บหลักมาเท่าใด ถ้าสถิติออกมาว่าคนไม่ชอบเว็บคุณ กูเกิลก็จะไม่ขอบตามไปด้วย เพราะกูเกิลเชื่อ Ranking Signal ที่มาจาก Humans นั่นเอง นั่นยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า ถ้าคุณอยากให้เว็บมีคุณภาพในสายตาของกูเกิล คุณก็ต้องสร้างลิงค์คุณภาพควบคู่กับการหาทราฟฟิคคุณภาพเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณด้วย แน่นอนว่านักทำ SEO ส่วนมากแล้วสามารถสร้างแบ็คลิงค์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ และเข้าใจลิงค์แต่ละกลุ่มเป็นอย่างดี ขึ้นอยู่กับจะสร้าง Content ที่มีคุณภาพต่อผู้ติดตามมากน้อยเท่าใด และต่อให้มีการสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพจำนวนมากๆ ก็ยังไม่สามารถรับประกันอันดับที่แน่นอนได้เหมือนในยุคก่อน
เพราะ Factor การคำนวณการจัดอันดับของ Google ในยุคนี้ มีมากมายและโดยส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่การให้คนมาเป็นคนตัดสินคุณภาพของเว็บไซต์ ไม่ใช่จำนวนลิงค์เหมือนในยุคก่อน
แน่นอนว่าหากท่านเห็นเว็บติดอันดับต้นๆ ด้วยลิงค์จำนวนมาก ยังทำอันดับได้ ซึ่งผมได้เรียนให้กับผู้ติดตามทราบหลายครั้งแล้วว่า แบ็คลิงค์สามารถดันอันดับได้ แต่กูเกิลมองเป็น Factor รอง และให้เชื่อเถอะว่าหากเว็บเหล่านั้นดันอันดับด้วยลิงค์เพียวๆ เว็บของเขาต้องมี Time Line ในการทำอันดับค่อนข้างนานแสนนาน และใช้จำนวนลิงค์จากเว็บที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโพสเว็บบอร์ด โพสเว็บประกาศ โพสเนื้อหาบนบล็อกฟรี หรือแม้แต่โพสเนื้อหาบนเว็บโซเชียล และอาจจะใช้เครื่องมือ หรือมีทีมเวิร์คหลายท่านช่วยกันเพิ่มลิงค์และใช้วิธีการสารพัด แล้วเมื่อติดอันดับจะสรุปว่าใช้เทคนิคอะไรดีละ ผมสรุปให้ละกัน เทคนิคสร้างลิงค์แบบมั่วๆ ยำลิงค์ให้มากที่สุด แน่นอนมันดันอันดับได้ แต่ความเสี่ยงสูงมากที่จะโดน Google ลงโทษ เพราะการสร้างลิงค์โดยไม่สนใจคุณภาพและไม่มีการคัดเลือกเว็บที่มีคุณภาพมาสร้างลิงค์นั้น อาจส่งผลเสียในระยะยาวอย่างแน่นอน ไม่นานเท่านั้นเอง ที่กูเกิลจะแจ้งผ่าน Webmaster Tools ว่ามีลิงค์ขาเข้าผิดปกติและไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับเว็บโดนทำโทษแบบ Manual Action แล้วนั่นเอง ซึ่งผมอยากให้ผู้ติดตามสร้างแบ็คลิงค์จากหน้าเว็บที่คัดเลือกมาแล้วว่ามีคุณภาพ และเว็บเหล่านั้นมีบทความหลัก และ Keyword หลักสอดคล้องกับเว็บไซต์ของเราด้วย และมุ่งมั่นไม่ควรสร้างลิงค์กับเว็บที่มีลักษณะโพสบทความซ้ำๆ Duplicate Content หรือเว็บที่มีการโพสเนื้อหาน้อยๆ โดยเน้นการแทรกลิงค์เป็นหลัก เพราะกูเกิลจะมองว่าเป็นการ Spam Contents เพื่อสร้าง Spam Links ซึ่งอาจส่งผลเสียมากกว่าดีต่อเว็บของเราอย่างแท้จริง
ลิงค์แบบไหนจะทำอันดับอย่างมีประสิทธิภาพ

  แม้ว่าการเขียนเนื้อหา
คุณภาพเป็นมิตรกับผู้อ่านจะสามารถทำอันดับบน SERPs ได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันว่ากูเกิลลดความสำคัญของ Links Signal ในการจัดอันดับ การเขียนบทความ
คุณภาพอาจไม่เพียงพอต่อการทำให้เว็บมีอันดับขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องทำการ Optimize Page แต่ละหน้าให้รองรับ Keyword วัตถุประสงค์ แน่นอนถ้าคุณเป็นเว็บไซต์เกิดใหม่ ก็ต้องมองไปที่การติดอันดับ Niche Keywords แต่อย่างได้ประมาณ Keywords เฉพาะท
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องCMSEOGroup แนะนำวิธีโปรโมทเว็บด้วยการทำ SEO ให้ติดอันดับ Google อย่างถูกต้อง
CMSEOGroup แนะนำวิธีโปรโมทเว็บด้วยการทำ SEO ให้ติดอันดับ Google อย่างถูกต้อง
อ้างอิงจาก: รับทำ SEO
แท็ก: SEO
อ้างจาก: รับทำ SEOCMSEOGroup แนะนำวิธีโปรโมทเว็บด้วยการทำ SEO ให้ติดอันดับ Google อย่างถูกต้อง
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 062-363-9429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#24
รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google

รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google วันนี้ผมมีบทความที่น่าสนใจอย่างมากมานำเสนอบริการ SEOเชิญอ่านจากที่นี่ Google แจ้งว่าจะอัพเดท Penguin Algorithm เร็วๆนี้
นักทำ SEO หลายคนคงรอคอยระบบ Google Penguin Algorithm อัพเดท Version ใหม่ เพราะนับจากมีการอัพเดท Penguin 3.0 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางกูเกิลได้หยุดพัฒนาระบบอัลกอริทึมขนาดใหญ่ จุดมุ่งหมายเพื่อกำจัดเว็บสแปม และ SEO Black Hat ให้หมดไป การอัพเดทระบบ Penguin 4.0 ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นการดำเนินงานแบบเรียลไทม์เต็มรูปแบบ รวมทั้ง Panda 4.2 ก็จะทำงานแบบเรียลไทม์ด้วยเช่นเดียวกัน
เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยงแปลง

  แน่นอนว่าเมื่อ Google ยังไม่ได้อัพเดท Penguin 4.0 เราก็จะไม่ทราบแนวทางทำงานของระบบอัลกอริทึมเพนกวิ้นรุ่นใหม่ ว่าจะมีการทำงานเป็นอย่างไร และมีประสิทธิมากน้อยสักแค่ไหน กับการบริหารกับ Spam Links ทั้งหลาย ที่เราเห็นกันเกลื่อนตามเว็บที่เปิดให้สมัครใช้งานฟรี ไม่ว่าจะเป็นเว็บบอร์ดฟรี เว็บประกาศฟรี บล็อกฟรี ล้วนแต่มีนักทำ SEO ทั้งมือใหม่ มือเก๋า ไปใช้บริการเพื่อสร้างสแปมลิงค์กันเป็นว่าเล่น แถมยังมีอันดับที่ดีอีกด้วย ต้องรอดูว่าการอัพเดทระบบอัลกอริทึมรุ่นใหม่นี้จะเป็นยังไง หลังจากที่นักทำ SEO ทั่วโลก รอคอยการพัฒนามากว่า 14 เดือน เมื่อรวมช่วงเวลาการอัพเดทครั้งสุดท้าย จนถึงการอัพเดทอีกครั้งบริการ SEO

  อัลกอริทึมรุ่นใหม่ต้องสุดยอดกว่ารุ่นเก่า Google Penguin 4.0 น่าจะมีการเพิ่มความสามารถในการจัดการกับ Links ไร้คุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับ Network ส่วนตัวที่ไร้คุณภาพ และการลงโทษเว็บที่มีลักษณะเป็น Content Farm เพื่อลดจำนวนลิงค์ขยะที่มีอยู่จำนวนมาก จากการจงใจสร้างสแปมลิงค์โดยนักทำ SEO สายดำ สายเทา ทั้งหลาย ที่มักจะทดลองแนวทางการ Spam Contents และ Spam Links รูปแบบใหม่ๆ เพื่อหลบหลีกการตรวจสอบจากกูเกิล ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน กูเกิลได้ปล่อยอัลกอริทึมตัวใหม่ภายใต้ชื่อ Hack Sites Algorithm เป็นอัลกอริทึมสำหรับจัดการกับเว็บไซต์ที่โดน Hacker ทำการแฮกเพื่อสร้างแบ็คลิงค์กลับไปยังเว็บวัตถุประสงค์ ซึ่งก็คือ SAPE Network อันโด่งดัง ที่ชาวรัสเซียเป็นคนต้นคิดนั่นเอง แน่นอนว่าสมัยก่อนกูเกิลบริหารกับ Network ส่วนตัวเหล่านี้ ด้วยการลบออกจากผลการค้นหาแบบ Manual ซึ่งยุ่งยากและใช้เวลานาน อีกทั้งนักทำ SEO ก็สร้างลิงค์จากเว็บไซต์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่ออัลกอริทึมตัวนี้ออกมา เรียกได้ว่าจบเกมส์สำหรับนักทำ SEO ที่ใช้วิธีการนี้ก็ว่าได้ แน่นอนว่าอัลกอริทึมดังกล่าวจะทำงานร่วมกับ Googel Penguin 4.0 ซึ่งทำให้มีประสิทธิผลในการกำจัด Spam Network ได้ดียิ่งขึ้น

  การดำเนินงานแบบ Real Time จะสามารถกำจัดลิงค์ขยะรวดเร็วและมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล นักทำ SEO หลายท่านอาจคิดว่าการ Update Penguin จะสามารถดันอันดับได้เร็วยิ่งขึ้น เพราะการนับคะแนนเป็นแบบเรียลไทม์ ซึ่งผมคิดว่ากูเกิลเขาคงอ่านเกมส์มาตั้งแต่แรกแล้วว่าการทำให้อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ อาจเป็นหนทางให้บรรดานักทำ SEO สายดำ สามารถแทรกแซงการจัดอันดับของกูเกิล จนทำให้การจัดอันดับไม่มีความน่าเชื่อถือต่อผู้ใช้งาน และระยะเวลาที่กูเกิลได้ปรับปรุงอัลกอริทึค่อนข้างยาวนานนั้น น่าจะสามารถรับมือกับเทคนิคที่ไม่ถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลแน่นอน เพราะอย่าได้ลืมว่าเมื่ออัลกอริทึมทำงานแบบเรียลไมท์ นับสกอร์ลิงค์อย่างรวดเร็ว การทำโทษหรือที่เรียกว่า Google Penalty ก็จะทำงานอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการทำตามกฎของกูเกิลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เพราะเหตุใดกูเกิลให้ความสำคัญกับ Google Penguin

  หลายๆ คนอาจข้องใจว่าเพราะเหตุใด Google จึงให้ความสำคัญกับ Penguin Algorithm และใช้ Time พัฒนา ปรับปรุง ค่อนข้างนาน แน่นอนว่ากูเกิลได้ลดความสำคัญของลิงค์ลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกการใช้ลิงค์ในการให้สกอร์เว็บที่มีลิงค์คุณภาพ ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่าระบบการจัดอันดับกูเกิลในยุคปัจจุบัน มีการใช้ Technology  RankBrain ที่เป็นระบบ AI (Artificail Intelligence) ราวๆ 15% ของการ Query  Data แสดงต่อผู้ใช้งาน และอัลกอริทึมดังกล่าวมีลักษณะการทำงานเหมือนกับ Google Hummingbird Algorithm และทำงานเป็นปัจจัยที่สาม ซึ่งกูเกิลอาจจะนำมาคัดเลือกคุณภาพอีกรอบ หลังจากที่มีการ Query  Data จาก Core Algorithm แล้ว นอกจาก Factor ที่กล่าวมาก็ยังไม่สำคัญเท่ากับพฤติกรรมของ User  และตัวเลขของ Website ที่เกิดจากยูสเซอร์ ค่าเหล่านี้มีผลต่อการจัดอันดับค่อนข้างสูง เพราะเป็นค่าที่มาจากคนจริงๆ ไม่สามารถสร้างหรือดัดแปลงเพื่อหลอกกูเกิลได้นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นแม้การทำอันดับ Google ด้วยการสร้าง Links มันจะถูกลดความสำคัญลง แต่มันก็สามารถทำอันดับได้ ด้วยเหตุนี้อาจต้องใช้ลิงค์คุณภาพปริมาณมากพอที่กูเกิลจะมองว่ามีคุณภาพ ข้อสังเกตุอีกอย่างหนึ่งคือ การสร้างลิงค์คุณภาพจะส่งเสริมให้เกิด Referral Traffic คุณภาพด้วยเช่นกัน และทราฟฟิคก็เป็นตัว Drive อันดับกูเกิล ที่มีประสิทธิผล พูดง่ายๆ คือ หากเราสร้างเนื้อหาคุณภาพแล้วชี้ลิงค์ไปยังเว็บหลัก เมื่อมีคนคลิกเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์หลัก Google ก็จะเข้าใจว่าทราฟฟิคดังกล่าวมาจากเว็บไหน หน้าไหน เนื้อหามีความสัมพันธ์กันหรือไม่ ถ้ามีคุณภาพทราฟฟิคนั้นก็จะมีคุณภาพในวิสัยทัศน์กูเกิลด้วย อย่างไรก็ตามการจะ Check ดูว่าทราฟฟิคไหนมีคุณภาพ Google ก็จะตรวจสอบจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานนั่นเอง
การสร้างแบ็คลิงค์แบบไหนจะถูกใจ Penguin ตัวใหม่

  ระบบ Google Penguin 4.0 มีความสามารถในการบริหารและลงโทษ Bad Links ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นเวลานานมากหลายปีที่กูเกิลพัฒนาระบบ Algorithm ใหม่ๆ เพื่อต่อสู้กับ Content Farms และ Spam Links ทั้งหลาย ทุกทีที่กูเกิลทำการอัพเดทระบเพนกวิ้น เราจะสังเกตว่าเว็บด้อยคุณภาพทั้งหลายจะน้อยลงอย่างมาก และทำให้มีเว็บคุณภาพแสดงบนผลการค้นหามากกว่าเดิม โดย Google ต้องการจะลงโทษกับการทำ SEO Black Hat ทุกรูปแบบ และพากเพียรไม่ให้นักทำ SEO สายดำเข้ามาแทรกแซงการจัดอันดับที่มีคุณภาพของกูเกิล อันที่จริงอาจกล่าวได้ว่า ถ้าไม่มีนักทำ SEO สายดำ สายเทา หรือนักการประชาสัมพันธ์ที่มุ่งแต่จะสร้างลิงค์ขยะ ผลการค้นหา SERPs ของกูเกิลจะยิ่งน่าเชื่อถือมากๆ โดยที่ไม่ต้องปรับปรุง Penguin Algorithm ด้วยซ้ำ แต่อย่างว่าเมื่อมีคนที่จะหาประโยชน์จากกูเกิลในเชิงด้อยคุณภาพ Google ก็ต้องมุ่งมั่นไม่ให้พวกเขาเหล่านั้น สามารถมีตัวตนบน Google Search โดยกูเกิลก็มีกฎระเบียบ ข้อปฏิบัติให้ Webmasters ปฏิบัติตามอยู่แล้ว ถ้าหากทำตามกฎของกูเกิล การทำอันดับไม่ยากอย่างแน่นอน เพราะถ้าทำเว็บคุณภาพมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ทุกอย่างจะตามมาเอง
เรายังสามารถใช้ Network ส่วนตัวทำอันดับได้หรือไม่

  ตั้งแต่กูเกิลทำการ Update Algorithm อย่าง Penguin 3.0 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นักทำ SEO โดยมากแล้วที่ใช้ Wordpress ในการสร้างเน็ตเวิร์คเพื่อดันอันดับกูเกิล โดน Google Penalty และโดนแบนกันเป็นว่าเล่น นักทำ SEO ส่วนมากแล้วจึงหันไปสร้างลิงค์จากเว็บบอร์ด เว็บประกาศ บล็อกฟรี และโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยหลีกเลี่ยงการสร้างแบ็คลิงค์ด้วย PBN (Private Blog Network) เพราะกลัวโดนกูเกิลเก็บ เพราะต้นทุนในการซื้อ โดเนมเนม และ SEO Hosting ไม่ใช่ราคาสุดคุ้ม ถ้าหากโดนแบนที เงินทุนก็อาจหายไปกับตาได้ง่ายๆ เลย อย่างไรก็ตามหากเรามุ่งมั่นที่จะสร้าง Network ส่วนตัวให้มีคุณภาพ ไม่ว่า Algorithm ไหนก็สามารถดันอันดับได้ และไม่โดนทำโทษอย่างแน่นอน ยิ่งทำให้เน็ตเวิร์คมีคุณภาพมากเท่าไหร่ ความยั่งยืนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งที่จะบ่งบอกว่าเว็บไหนมีคุณภาพหรือไม่ ก็คือ การสร้าง Content นั่นเอง หากอยากทำให้ Network ส่วนตัว มีคุณภาพก็ต้องพยายามเขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชม และบทความจะต้องแตกต่างกับเว็บอื่น ซึ่งนักทำ SEO มือใหม่อาจไม่เข้าใจว่า คำว่าไม่ซ้ำกับเว็บอื่น นั้น รวมไปถึงเว็บของตัวเองที่มี  Domain Name  ไม่เหมือนกันด้วยนั่นเอง และนักทำ SEO ส่วนมากจะใช้ Wordpress ในการขับเคลื่อนอันดับ Search Engine Optimize  ซึ่งสมัยนี้เราก็สามารถใช้เวิร์ดเพลสมาทำเว็บ Blog Network ได้ ขอแค่เน้นไปที่การสร้างบทความที่มีคุณภาพ รับรองว่าไม่โดนกูเกิลแบนอย่างแน่นอน
Google Penguin ทำงานเรียลไทม์ไม่ได้หมายถึงดันอันดับง่าย

  การที่กูเกิลอัพเดทอัลกอริทึม Google Penguin แบบเรียลไทม์ไม่ได้หมายความว่าการดันอันดับ SEO จะง่ายนะครับ การที่อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ก็อาจมีการให้สกอร์ลิงค์ได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็จะตัดคะแนนลิงค์ไม่มีคุณภาพรวดเร็วขึ้นเช่นกัน การทำ SEO ที่ด้อยคุณภาพ ยังไงก็โดน Google Penalty และโดนทำโทษ แบนเว็บเร็วขึ้นด้วย แบบว่ามาเร็ว เคลมเร็ว ยังไงยังงั้น แม้ว่า Penguin Algorithm จะเป็น Core Algorithm ในการจัดอันดับบน SERPs แต่อย่าได้ลืมว่ากูเกิลพัฒนาอัลกอริทึมหลักหลายตัวช่วยในการจัดอันดับให้มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น Google Panda , Google Hummingbird , Doorway Page Algorithm , Google Pigeon , Hack Sites Algorithm และอื่นๆ อีกที่มีหน้าที่การทำงานไม่เหมือนกัน ทำงานรองรับซึ่งกันและกัน ซึ่งแม้ว่าเพนกวิ้นอัลกอริทึมจะทำงานแบบเรียลไทม์ก็ไม่สามารถการัณตีได้ว่าเราจะดันอันดับได้ง่าย เพราะกูเกิลไม่ได้พัฒนาอัลกอริทึมให้นักทำ SEO ดันอันดับได้ง่ายอยู่แล้วนั่นเอง นอกจากนี้กูเกิลยังให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานมาเป็นลำดับแรก ต่อให้คุณมีลิงค์คุณภาพเข้าสู่เว็บหลักมาแค่ไหน ถ้าสถิติออกมาว่าคนไม่ชอบเว็บคุณ กูเกิลก็จะไม่ขอบตามไปด้วย เพราะกูเกิลเชื่อ Ranking Signal ที่มาจาก Humans นั่นเอง นั่นยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า ถ้าคุณอยากให้เว็บมีคุณภาพในสายตาของกูเกิล คุณก็ต้องสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพควบคู่กับการหาทราฟฟิคคุณภาพเข้าสู่ Website ของคุณด้วย แน่นอนว่านักทำ SEO โดยส่วนมากสามารถสร้างแบ็คลิงค์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ และเข้าใจลิงค์แต่ละประเภทเป็นอย่างดี ขึ้นอยู่กับจะสร้าง Content ที่มีคุณภาพต่อผู้อ่านมากน้อยสักแค่ไหน และต่อให้มีการสร้างลิงค์คุณภาพจำนวนมากๆ ก็ยังไม่สามารถรับประกันอันดับที่แน่นอนได้เหมือนในยุคก่อน
เพราะปัจจัยการคำนวณการจัดอันดับของ Google ในยุคนี้ มีมากมายและส่วนมากแล้วจะมุ่งไปที่การให้คนมาเป็นคนตัดสินคุณภาพของ Website  ไม่ใช่จำนวนลิงค์เหมือนในยุคก่อน
แน่นอนว่าหากท่านเห็นเว็บติดอันดับต้นๆ ด้วยแบ็คลิงค์จำนวนมาก ยังดันอันดับได้ ซึ่งผมได้เรียนให้กับผู้ติดตามทราบหลายครั้งแล้วว่า แบ็คลิงค์สามารถดันอันดับได้ แต่กูเกิลมองเป็นปัจจัยรอง และให้เชื่อเถอะว่าหากเว็บเหล่านั้นดันอันดับด้วยลิงค์เพียวๆ เว็บของเขาต้องมี Time Line ในการทำอันดับค่อนข้างนานมาก และใช้ปริมาณลิงค์จากเว็บที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการโพสเว็บบอร์ด โพสเว็บประกาศ โพสบทความบนบล็อกฟรี หรือแม้แต่โพสเนื้อหาบนเว็บโซเชียล และอาจจะใช้ Tool  หรือมีทีมงานหลายท่านช่วยกันเพิ่มลิงค์และใช้เทคนิคสารพัด แล้วเมื่อติดอันดับจะเอาเป็นว่าใช้วิธีการอะไรดีละ ผมสรุปให้ละกัน เทคนิคสร้างลิงค์แบบมั่วๆ ยำลิงค์ให้มากที่สุด แน่นอนมันดันอันดับได้ แต่ความเสี่ยงสูงมากที่จะโดน Google ลงโทษ เพราะการสร้างแบ็คลิงค์โดยไม่ชอบคุณภาพและไม่มีการคัดกรองเว็บที่มีคุณภาพมาสร้างแบ็คลิงค์นั้น อาจส่งผลเสียในระยะยาวอย่างแน่นอน ช้าเร็วเท่านั้นเอง ที่กูเกิลจะแจ้งผ่าน Webmaster Tools ว่ามีลิงค์ขาเข้าผิดปกติและไม่เป็น Nature  ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับเว็บโดนทำโทษแบบ Manual Action แล้วนั่นเอง ซึ่งผมอยากให้ผู้เยี่ยมชมสร้างแบ็คลิงค์จากหน้าเว็บที่คัดกรองมาแล้วว่ามีคุณภาพ และเว็บเหล่านั้นมีเนื้อหาหลัก และคีย์เวิร์ดหลักสัมพันธ์กับเว็บไซต์ของเราด้วย และพยายามไม่ควรสร้างแบ็คลิงค์กับเว็บที่มีลักษณะโพสเนื้อหาซ้ำๆ Duplicate Content หรือเว็บที่มีการโพสบทความน้อยๆ โดยเน้นการแทรกลิงค์เป็นหลัก เพราะกูเกิลจะมองว่าเป็นการ Spam Contents เพื่อสร้าง Spam Links ซึ่งอาจส่งผลเสียมากกว่าดีต่อเว็บของเราอย่างแท้จริง
ลิงค์แบบไหนจะทำอันดับอย่างมีประสิทธิผล

  แม้ว่าการเขียนเนื้อหา
คุณภาพเป็นมิตรกับผู้เยี่ยมชมจะสามารถทำอันดับบน SERPs ได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันว่ากูเกิลลดความสำคัญของ Links Signal ในการจัดอันดับ การสร้างเนื้อหา
คุณภาพอาจไม่พอต่อการทำให้เว็บมีอันดับขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องทำการ Optimize Page แต่ละหน้าให้รองรับคีย์เวิร์ดเป้าประสงค์ แน่นอนถ้าคุณเป็นเว็บไซต์เกิดใหม่ ก็ต้องมองไปที่การติดอันดับ Niche Keywords แต่อย่างได้ประมาณคีย์เวิร์ดเฉพาะที่มีคนค้นหาน้อย บาง
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องรับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: SEO
อ้างจาก: บริการ SEOรับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 062-363-9429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#25
รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google

รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google เริ่มต้นศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับบริการ SEOติดตามได้จากที่นี่ Google แจ้งว่าจะอัพเดท Penguin Algorithm เร็วๆนี้
นักทำ SEO หลายท่านคงรอคอยระบบ Google Penguin Algorithm อัพเดท Version ใหม่ เพราะนับจากมีการอัพเดท Penguin 3.0 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางกูเกิลได้หยุดพัฒนาระบบอัลกอริทึมขนาดใหญ่ จุดมุ่งหมายเพื่อกำจัดเว็บสแปม และ SEO Black Hat ให้หมดไป การอัพเดทระบบ Penguin 4.0 ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นการปฏิบัติงานแบบเรียลไทม์เต็มรูปแบบ รวมทั้ง Panda 4.2 ก็จะทำงานแบบเรียลไทม์ด้วยเหมือนกัน
เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยงแปลง

  แน่นอนว่าเมื่อ Google ยังไม่ได้อัพเดท Penguin 4.0 เราก็จะไม่ทราบระเบียบการทำงานของระบบอัลกอริทึมเพนกวิ้นรุ่นใหม่ ว่าจะมีการปฏิบัติงานเป็นอย่างไร และมีประสิทธิมากน้อยเท่าใด กับการจัดการกับ Spam Links ทั้งหลาย ที่เราเห็นกันเกลื่อนตามเว็บที่เปิดให้สมัครใช้งานฟรี ไม่ว่าจะเป็นเว็บบอร์ดฟรี เว็บประกาศฟรี บล็อกฟรี ล้วนแต่มีนักทำ SEO ทั้งมือใหม่ มือเก๋า ไปใช้บริการเพื่อสร้างสแปมลิงค์กันเป็นว่าเล่น แถมยังมีอันดับที่ดีอีกด้วย ต้องรอดูว่าการอัพเดทระบบอัลกอริทึมรุ่นใหม่นี้จะเป็นยังไง หลังจากที่นักทำ SEO ทั่วโลก รอคอยการพัฒนามากว่า 14 เดือน เมื่อรวมระยะเวลาการอัพเดทครั้งสุดท้าย จนถึงการอัพเดทอีกครั้งบริการ SEO

  อัลกอริทึมรุ่นใหม่ต้องเจ๋งกว่ารุ่นเก่า Google Penguin 4.0 น่าจะมีการเพิ่มความสามารถในการจัดการกับ Links ไม่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับ Network ส่วนตัวที่ด้อยคุณภาพ และการลงโทษเว็บที่มีลักษณะเป็น Content Farm เพื่อลดปริมาณลิงค์ขยะที่มีอยู่ปริมาณมาก จากการจงใจสร้างสแปมลิงค์โดยนักทำ SEO สายดำ สายเทา ทั้งหลาย ที่มักจะทดลองแนวทางการ Spam Contents และ Spam Links รูปแบบใหม่ๆ เพื่อหลบหลีกการตรวจสอบจากกูเกิล ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน กูเกิลได้ปล่อยอัลกอริทึมตัวใหม่ภายใต้ชื่อ Hack Sites Algorithm เป็นอัลกอริทึมสำหรับบริหารกับเว็บไซต์ที่โดน Hacker ทำการแฮกเพื่อสร้างลิงค์กลับไปยังเว็บเป้าประสงค์ ซึ่งก็คือ SAPE Network อันโด่งดัง ที่ชาวรัสเซียเป็นคนต้นคิดนั่นเอง แน่นอนว่าสมัยก่อนกูเกิลจัดการกับ Network ส่วนตัวเหล่านี้ ด้วยการลบออกจากผลการค้นหาแบบ Manual ซึ่งยุ่งยากและใช้ Time นาน อีกทั้งนักทำ SEO ก็สร้างลิงค์จากเว็บใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่ออัลกอริทึมตัวนี้ออกมา เรียกได้ว่าจบ Games สำหรับนักทำ SEO ที่ใช้วิธีการนี้ก็ว่าได้ แน่นอนว่าอัลกอริทึมดังกล่าวจะทำงานร่วมกับ Googel Penguin 4.0 ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัด Spam Network ได้ดียิ่งขึ้น

  การทำงานแบบ Real Time จะสามารถกำจัดลิงค์ขยะรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นักทำ SEO หลายท่านอาจมองว่าการ Update Penguin จะสามารถทำอันดับได้เร็วยิ่งขึ้น เพราะการนับคะแนนเป็นแบบเรียลไทม์ ซึ่งผมคิดว่ากูเกิลเขาคงอ่านเกมมาตั้งแต่แรกแล้วว่าการทำให้อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ อาจเป็นแนวทางให้บรรดานักทำ SEO สายดำ สามารถยุ่งเกี่ยวการจัดอันดับของกูเกิล จนทำให้การจัดอันดับไม่มีความน่าไว้วางใจต่อยูสเซอร์ และช่วงเวลาที่กูเกิลได้พัฒนาอัลกอริทึค่อนข้างนานแสนนานนั้น น่าจะสามารถรับมือกับวิธีการที่เป็นสิ่งที่ผิดอย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน เพราะอย่าลืมว่าเมื่ออัลกอริทึมทำงานแบบเรียลไมท์ นับคะแนนลิงค์อย่างรวดเร็ว การทำโทษหรือที่เรียกว่า Google Penalty ก็จะทำงานอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้การทำตามกฎของกูเกิลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ทำไมกูเกิลให้ความสำคัญกับ Google Penguin

  หลายๆ คนอาจข้องใจว่าทำไม Google จึงให้ความสำคัญกับ Penguin Algorithm และใช้เวลาพัฒนา ปรับปรุง ค่อนข้างนาน แน่นอนว่ากูเกิลได้ลดความสำคัญของลิงค์ลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกการใช้ลิงค์ในการให้แต้มเว็บที่มีลิงค์คุณภาพ ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่าระบบการจัดอันดับกูเกิลในปัจจุบัน มีการใช้เทคโนโลยี RankBrain ที่เป็นระบบ AI (Artificail Intelligence) ประมาณ 15% ของการ Query  Data แสดงต่อ User  และอัลกอริทึมดังกล่าวมีลักษณะการดำเนินงานเหมือนกับ Google Hummingbird Algorithm และทำงานเป็น Factor ที่สาม ซึ่งกูเกิลอาจจะนำมาคัดกรองคุณภาพอีกรอบ หลังจากที่มีการ Query ข้อมูลจาก Core Algorithm แล้ว นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาก็ยังไม่สำคัญเท่ากับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน และสถิติของ Website ที่เกิดจาก User  ค่าเหล่านี้มีผลต่อการจัดอันดับค่อนข้างสูง เพราะเป็นค่าที่มาจากคนจริงๆ ไม่สามารถสร้างหรือดัดแปลงเพื่อหลอกกูเกิลได้นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นแม้การดันอันดับ Google ด้วยการสร้าง Links มันจะถูกลดความสำคัญลง แต่มันก็สามารถดันอันดับได้ เพียงแต่อาจต้องใช้ลิงค์คุณภาพปริมาณมากพอที่กูเกิลจะคิดว่ามีคุณภาพ ข้อสังเกตุอีกประการหนึ่งคือ การสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพจะทำให้เกิด Referral Traffic คุณภาพด้วยเช่นกัน และทราฟฟิคก็เป็นตัว Drive อันดับ Google ที่มีประสิทธิภาพ พูดง่ายๆ คือ หากเราเขียนเนื้อหาคุณภาพแล้วชี้ลิงค์ไปยังเว็บหลัก เมื่อมีคนคลิกเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์หลัก Google ก็จะเข้าใจว่าทราฟฟิคดังกล่าวมาจากเว็บไหน หน้าไหน เนื้อหามีความสัมพันธ์กันหรือไม่ ถ้ามีคุณภาพทราฟฟิคนั้นก็จะมีคุณภาพในวิสัยทัศน์กูเกิลด้วย อย่างไรก็ตามการจะ Check ดูว่าทราฟฟิคไหนมีคุณภาพ Google ก็จะ Check จากพฤติกรรมของ User นั่นเอง
การสร้างลิงค์แบบไหนจะพอใจ Penguin ตัวใหม่

  ระบบ Google Penguin 4.0 มีความสามารถในการจัดการและลงโทษ Bad Links ได้อย่างมีประสิทธิผล เป็นเวลาเนิ่นนานหลายปีที่กูเกิลปรับปรุงระบบ Algorithm ใหม่ๆ เพื่อต่อสู้กับ Content Farms และ Spam Links ทั้งหลาย ทุกทีที่กูเกิลทำการอัพเดทระบเพนกวิ้น เราจะสังเกตว่าเว็บด้อยคุณภาพทั้งหลายจะน้อยลงอย่างมาก และทำให้มีเว็บคุณภาพแสดงบนผลการค้นหามากกว่าเดิม โดย Google ต้องการจะลงโทษกับการทำ SEO Black Hat ทุกรูปแบบ และพากเพียรไม่ให้นักทำ SEO สายดำเข้ามาเปลี่ยนแปลงการจัดอันดับที่มีคุณภาพของกูเกิล อันที่จริงอาจกล่าวได้ว่า ถ้าไม่มีนักทำ SEO สายดำ สายเทา หรือนัก Marketing ที่มุ่งแต่จะสร้างแบ็คลิงค์ขยะ ผลการค้นหา SERPs ของกูเกิลจะยิ่งน่าเชื่อถือมากๆ โดยที่ไม่ต้องพัฒนา Penguin Algorithm ด้วยซ้ำ แต่อย่างว่าเมื่อมีคนที่จะหาประโยชน์จากกูเกิลในเชิงไม่มีคุณภาพ Google ก็ต้องพยายามไม่ให้พวกเขาเหล่านั้น สามารถมีตัวตนบน Search Engine โดยกูเกิลก็มีกฎระเบียบ ข้อปฏิบัติให้ Webmasters ปฏิบัติตามอยู่แล้ว ถ้าหากทำตามกฎของกูเกิล การทำอันดับไม่ยากอย่างแน่นอน เพราะถ้าทำเว็บคุณภาพมีประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชม ทุกอย่างจะตามมาเอง
เรายังสามารถใช้ Network ส่วนตัวดันอันดับได้หรือไม่

  ตั้งแต่กูเกิลทำการ Update Algorithm อย่าง Penguin 3.0 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นักทำ SEO โดยมากแล้วที่ใช้ Wordpress ในการสร้างเน็ตเวิร์คเพื่อดันอันดับกูเกิล โดน Google Penalty และโดนแบนกันเป็นว่าเล่น นักทำ SEO โดยส่วนมากจึงหันไปสร้างลิงค์จากเว็บบอร์ด เว็บประกาศ บล็อกฟรี และโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยหลีกเลี่ยงการสร้างลิงค์ด้วย PBN (Private Blog Network) เพราะกลัวโดนกูเกิลเก็บ เพราะต้นทุนในการซื้อ ชื่อเว็บไซต์ และ SEO Hosting ไม่ใช่ราคาถูก ถ้าหากโดนแบนที เงินทุนก็อาจหายไปกับตาได้ง่ายๆ เลย อย่างไรก็ตามหากเรามุ่งมั่นที่จะสร้าง Network ส่วนตัวให้มีคุณภาพ ไม่ว่า Algorithm ไหนก็สามารถดันอันดับได้ และไม่โดนทำโทษอย่างแท้จริง ยิ่งทำให้เน็ตเวิร์คมีคุณภาพมากเท่าไหร่ ความยั่งยืนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งที่จะบ่งบอกว่าเว็บไหนมีคุณภาพหรือไม่ ก็คือ การสร้าง Content นั่นเอง หากต้องการทำให้เน็ตเวิร์คส่วนตัวมีคุณภาพก็ต้องมุ่งมั่นสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ เป็นผลดีต่อผู้เยี่ยมชม และบทความจะต้องไม่ซ้ำกับเว็บอื่น ซึ่งนักทำ SEO มือใหม่อาจไม่เข้าใจว่า คำว่าแตกต่างกับเว็บไซต์อื่น นั้น รวมไปถึงเว็บของตัวเองที่มี ชื่อเว็บไซต์ แตกต่างกันด้วยนั่นเอง และนักทำ SEO ส่วนใหญ่จะใช้ Wordpress ในการขับเคลื่อนอันดับ SEO  ซึ่งยุคปัจจุบันเราก็สามารถใช้เวิร์ดเพลสมาทำเว็บเน็ตเวิร์คส่วนตัวได้ ขอแค่เน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ รับรองว่าไม่โดนกูเกิลแบนอย่างแน่นอน
Google Penguin ทำงานเรียลไทม์ไม่ได้หมายถึงทำอันดับง่าย

  การที่กูเกิลอัพเดทอัลกอริทึม Google Penguin แบบเรียลไทม์ไม่ได้หมายความว่าการทำอันดับ SEO จะง่ายนะครับ การที่อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ก็อาจมีการให้สกอร์ลิงค์ได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็จะตัด Score ลิงค์ไม่มีคุณภาพรวดเร็วขึ้นเช่นกัน การทำ SEO ที่ไม่มีคุณภาพ ยังไงก็โดน Google Penalty และโดนทำโทษ แบนเว็บเร็วขึ้นด้วย แบบว่ามาเร็ว เคลมเร็ว ยังไงยังงั้น แม้ว่า Penguin Algorithm จะเป็น Core Algorithm ในการจัดอันดับบน SERPs แต่จงจำไว้ว่ากูเกิลปรับปรุงอัลกอริทึมหลักหลายตัวช่วยในการจัดอันดับให้มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น Google Panda , Google Hummingbird , Doorway Page Algorithm , Google Pigeon , Hack Sites Algorithm และอื่นๆ อีกที่มีหน้าที่การปฏิบัติงานแตกต่างกัน ทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งแม้ว่าเพนกวิ้นอัลกอริทึมจะทำงานแบบเรียลไทม์ก็ไม่สามารถการัณตีได้ว่าเราจะทำอันดับได้ง่าย เพราะกูเกิลไม่ได้ปรับปรุงอัลกอริทึมให้นักทำ SEO ทำอันดับได้ง่ายอยู่แล้วนั่นเอง อีกทั้งกูเกิลยังให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของยูสเซอร์มาเป็นอันดับแรก ต่อให้คุณมีลิงค์คุณภาพเข้าสู่เว็บหลักมาแค่ไหน ถ้าข้อมูลออกมาว่าคนไม่ชอบเว็บคุณ กูเกิลก็จะไม่ขอบตามไปด้วย เพราะกูเกิลเชื่อ Ranking Signal ที่มาจาก Humans นั่นเอง นั่นยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า ถ้าคุณอยากให้เว็บมีคุณภาพในมุมมองของกูเกิล คุณก็ต้องสร้างลิงค์คุณภาพควบคู่กับการหาทราฟฟิคคุณภาพเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณด้วย แน่นอนว่านักทำ SEO ส่วนมากสามารถสร้างลิงค์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ และเข้าใจลิงค์แต่ละแบบเป็นอย่างดี ขึ้นอยู่กับจะสร้าง Content ที่มีคุณภาพต่อผู้อ่านมากน้อยสักแค่ไหน และต่อให้มีการสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพจำนวนมากๆ ก็ยังไม่สามารถการัณตีอันดับที่แน่นอนได้เหมือนในสมัยก่อน
เพราะ Factor การคำนวณการจัดอันดับของ Google ในยุคนี้ มีเยอะแยะและส่วนมากจะมุ่งไปที่การให้คนมาเป็นคนตัดสินคุณภาพของ Website  ไม่ใช่ปริมาณลิงค์เหมือนในยุคก่อน
แน่นอนว่าหากท่านเห็นเว็บติดอันดับต้นๆ ด้วย Backlinks จำนวนมาก ยังดันอันดับได้ ซึ่งผมได้เรียนให้กับผู้ติดตามทราบหลายครั้งแล้วว่า ลิงค์สามารถทำอันดับได้ แต่กูเกิลมองเป็น Factor รอง และให้เชื่อเถอะว่าหากเว็บเหล่านั้นดันอันดับด้วยลิงค์เพียวๆ เว็บของเขาต้องมี Time Line ในการดันอันดับค่อนข้างนานแสนนาน และใช้ปริมาณลิงค์จากเว็บที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโพสเว็บบอร์ด โพสเว็บประกาศ โพสบทความบนบล็อกฟรี หรือแม้กระทั่งโพสบทความบนเว็บโซเชียล และอาจจะใช้เครื่องมือ หรือมี Team Work หลายคนช่วยกันเพิ่มลิงค์และใช้เทคนิคสารพัด แล้วเมื่อติดอันดับจะสรุปว่าใช้วิธีการอะไรดีละ ผมสรุปให้ละกัน วิธีการสร้างลิงค์แบบมั่วๆ ยำลิงค์สูงสุด แน่นอนมันทำอันดับได้ แต่ความเสี่ยงสูงมากที่จะโดน Google ลงโทษ เพราะการสร้างแบ็คลิงค์โดยไม่ชอบคุณภาพและไม่มีการคัดเลือกเว็บที่มีคุณภาพมาสร้างลิงค์นั้น อาจส่งผลเสียในระยะยาวอย่างแท้จริง ไม่นานเท่านั้นเอง ที่กูเกิลจะแจ้งผ่าน Webmaster Tools ว่ามีลิงค์ขาเข้าผิดปกติและไม่เป็น Nature  ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับเว็บโดนทำโทษแบบ Manual Action แล้วนั่นเอง ซึ่งผมอยากให้ผู้เยี่ยมชมสร้างลิงค์จากหน้าเว็บที่คัดเลือกมาแล้วว่ามีคุณภาพ และเว็บเหล่านั้นมีบทความหลัก และ Keywords หลักสอดคล้องกับ Website ของเราด้วย และมุ่งมั่นไม่ควรสร้างลิงค์กับเว็บที่มีลักษณะโพสบทความซ้ำๆ Duplicate Content หรือเว็บที่มีการโพสเนื้อหาน้อยๆ โดยเน้นการแทรกลิงค์เป็นหลัก เพราะกูเกิลจะมองว่าเป็นการ Spam Contents เพื่อสร้าง Spam Links ซึ่งอาจส่งผลเสียมากกว่าดีต่อเว็บของเราอย่างแท้จริง
ลิงค์แบบไหนจะดันอันดับอย่างมีประสิทธิผล

  แม้ว่าการเขียนเนื้อหา
คุณภาพเป็นมิตรกับผู้ติดตามจะสามารถดันอันดับบน SERPs ได้ แต่ยังไงก็ตามอย่างที่ทราบกันว่ากูเกิลลดความสำคัญของ Links Signal ในการจัดอันดับ การเขียนเนื้อหา
คุณภาพอาจไม่เพียงพอต่อการทำให้เว็บมีอันดับขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องทำการ Optimize Page แต่ละหน้าให้สนับสนุน Keyword วัตถุประสงค์ แน่นอนถ้าคุณเป็นเว็บไซต์เกิดใหม่ ก็ต้องมองไปที่การติดอันดับ Niche Keywords แต่อย่างได้ราวๆ Keyword เฉพาะที่มีคนค้นหาน้อย บางคีย์แม้จะเป็นคำค้นเฉพาะเจาะจงแต่มีการค้นหาจำนวนมาก และคี
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องรับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: SEO
อ้างจาก: บริการ SEOรับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 062-363-9429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#26
รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google

สินค้าเกี่ยวกับรับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google ติดตามรายละเอียดและเนื้อหาเกี่ยวกับบริการ SEOอ่านบทความคุณภาพได้จากส่วนนี้ Google แจ้งว่าจะอัพเดท Penguin Algorithm เร็วๆนี้
นักทำ SEO หลายคนคงรอคอยระบบ Google Penguin Algorithm อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ เพราะนับตั้งแต่มีการอัพเดท Penguin 3.0 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางกูเกิลได้หยุดปรับปรุงระบบอัลกอริทึมขนาดใหญ่ เป้าหมายเพื่อกำจัดเว็บสแปม และ SEO Black Hat ให้หมดไป การอัพเดทระบบ Penguin 4.0 ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นการทำงานแบบเรียลไทม์เต็มรูปแบบ รวมทั้ง Panda 4.2 ก็จะทำงานแบบเรียลไทม์ด้วยเช่นเดียวกัน
เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยงแปลง

  แน่นอนว่าเมื่อ Google ยังไม่ได้อัพเดท Penguin 4.0 เราก็จะไม่ทราบกระบวนการทำงานของระบบอัลกอริทึมเพนกวิ้นรุ่นใหม่ ว่าจะมีการทำงานเป็นอย่างไร และมีประสิทธิมากน้อยแค่ไหน กับการจัดการกับ Spam Links ทั้งหลาย ที่เราเห็นกันเกลื่อนตามเว็บที่เปิดให้สมัครใช้งานฟรี ไม่ว่าจะเป็นเว็บบอร์ดฟรี เว็บประกาศฟรี บล็อกฟรี ล้วนแต่มีนักทำ SEO ทั้งมือใหม่ มือเก๋า ไปใช้บริการเพื่อสร้างสแปมลิงค์กันเป็นว่าเล่น แถมยังมีอันดับที่ดีอีกด้วย ต้องรอดูว่าการอัพเดทระบบอัลกอริทึมเวอร์ชั่นใหม่นี้จะเป็นอย่างไร หลังจากที่นักทำ SEO ทั่วโลก รอคอยการพัฒนามากว่า 14 เดือน เมื่อรวมระยะเวลาการอัพเดทครั้งสุดท้าย จนถึงการอัพเดทอีกครั้งบริการ SEO

  อัลกอริทึมรุ่นใหม่ต้องดีกว่ารุ่นเก่า Google Penguin 4.0 น่าจะมีการเพิ่มความสามารถในการจัดการกับ Links ไม่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับ Network ส่วนตัวที่ไม่มีคุณภาพ และการลงโทษเว็บที่มีลักษณะเป็น Content Farm เพื่อลดจำนวนลิงค์ขยะที่มีอยู่จำนวนมาก จากการจงใจสร้างสแปมลิงค์โดยนักทำ SEO สายดำ สายเทา ทั้งหลาย ที่มักจะทดลองวิธีการ Spam Contents และ Spam Links รูปแบบใหม่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากกูเกิล ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน กูเกิลได้ปล่อยอัลกอริทึมตัวใหม่ภายใต้ชื่อ Hack Sites Algorithm เป็นอัลกอริทึมสำหรับจัดการกับเว็บไซต์ที่โดน Hacker ทำการแฮกเพื่อสร้างลิงค์กลับไปยังเว็บเป้าหมาย ซึ่งก็คือ SAPE Network อันโด่งดัง ที่ชาวรัสเซียเป็นคนต้นคิดนั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อก่อนกูเกิลจัดการกับ Network ส่วนตัวเหล่านี้ ด้วยการลบออกจากผลการค้นหาแบบ Manual ซึ่งยุ่งยากและใช้เวลานาน อีกทั้งนักทำ SEO ก็สร้างลิงค์จากเว็บใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่ออัลกอริทึมตัวนี้ออกมา เรียกได้ว่าจบเกมส์สำหรับนักทำ SEO ที่ใช้เทคนิคนี้ก็ว่าได้ แน่นอนว่าอัลกอริทึมดังกล่าวจะทำงานร่วมกับ Googel Penguin 4.0 ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัด Spam Network ได้ดียิ่งขึ้น

  การทำงานแบบ Real Time จะสามารถกำจัดลิงค์ขยะรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นักทำ SEO หลายคนอาจมองว่าการ Update Penguin จะสามารถทำอันดับได้เร็วยิ่งขึ้น เพราะการนับคะแนนเป็นแบบเรียลไทม์ ซึ่งผมคิดว่ากูเกิลเขาคงอ่านเกมส์มาตั้งแต่แรกแล้วว่าการทำให้อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ อาจเป็นช่องทางให้บรรดานักทำ SEO สายดำ สามารถแทรกแซงการจัดอันดับของกูเกิล จนทำให้การจัดอันดับไม่มีความน่าเชื่อถือต่อผู้ใช้งาน และระยะเวลาที่กูเกิลได้พัฒนาอัลกอริทึค่อนข้างยาวนานนั้น น่าจะสามารถรับมือกับเทคนิคที่ไม่ถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน เพราะอย่าลืมว่าเมื่ออัลกอริทึมทำงานแบบเรียลไมท์ นับคะแนนลิงค์อย่างรวดเร็ว การทำโทษหรือที่เรียกว่า Google Penalty ก็จะทำงานอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการทำตามกฎของกูเกิลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ทำไมกูเกิลให้ความสำคัญกับ Google Penguin

  หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไม Google จึงให้ความสำคัญกับ Penguin Algorithm และใช้เวลาพัฒนา ปรับปรุง ค่อนข้างนาน แน่นอนว่ากูเกิลได้ลดความสำคัญของลิงค์ลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกการใช้ลิงค์ในการให้คะแนนเว็บที่มีลิงค์คุณภาพ ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่าระบบการจัดอันดับกูเกิลในปัจจุบัน มีการใช้เทคโนโลยี RankBrain ที่เป็นระบบ AI (Artificail Intelligence) ประมาณ 15% ของการ Query ข้อมูลแสดงต่อผู้ใช้งาน และอัลกอริทึมดังกล่าวมีลักษณะการทำงานเหมือนกับ Google Hummingbird Algorithm และทำงานเป็นปัจจัยที่สาม ซึ่งกูเกิลอาจจะนำมาคัดกรองคุณภาพอีกรอบ หลังจากที่มีการ Query ข้อมูลจาก Core Algorithm แล้ว นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาก็ยังไม่สำคัญเท่ากับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน และสถิติของเว็บไซต์ที่เกิดจากผู้ใช้งาน ค่าเหล่านี้มีผลต่อการจัดอันดับค่อนข้างสูง เพราะเป็นค่าที่มาจากคนจริงๆ ไม่สามารถสร้างหรือดัดแปลงเพื่อหลอกกูเกิลได้นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นแม้การทำอันดับ Google ด้วยการสร้าง Links มันจะถูกลดความสำคัญลง แต่มันก็สามารถทำอันดับได้ เพียงแต่อาจต้องใช้ลิงค์คุณภาพจำนวนมากพอที่กูเกิลจะมองว่ามีคุณภาพ ข้อสังเกตุอีกประการหนึ่งคือ การสร้างลิงค์คุณภาพจะทำให้เกิด Referral Traffic คุณภาพด้วยเช่นกัน และทราฟฟิคก็เป็นตัว Drive อันดับ SEO ที่มีประสิทธิภาพ พูดง่ายๆ คือ หากเราเขียนบทความคุณภาพแล้วชี้ลิงค์ไปยังเว็บหลัก เมื่อมีคนคลิกเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์หลัก Google ก็จะเข้าใจว่าทราฟฟิคดังกล่าวมาจากเว็บไหน หน้าไหน บทความมีความสอดคล้องกันหรือไม่ ถ้ามีคุณภาพทราฟฟิคนั้นก็จะมีคุณภาพในสายตากูเกิลด้วย อย่างไรก็ตามการจะตรวจสอบดูว่าทราฟฟิคไหนมีคุณภาพ Google ก็จะตรวจสอบจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานนั่นเอง
การสร้างลิงค์แบบไหนจะถูกใจ Penguin ตัวใหม่

  ระบบ Google Penguin 4.0 มีความสามารถในการจัดการและลงโทษ Bad Links ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเวลายาวนานหลายปีที่กูเกิลพัฒนาระบบ Algorithm ใหม่ๆ เพื่อต่อสู้กับ Content Farms และ Spam Links ทั้งหลาย ทุกครั้งที่กูเกิลทำการอัพเดทระบเพนกวิ้น เราจะเห็นว่าเว็บด้อยคุณภาพทั้งหลายจะลดลงอย่างมาก และทำให้มีเว็บคุณภาพแสดงบนผลการค้นหามากยิ่งขึ้น โดย Google ต้องการจะลงโทษกับการทำ SEO Black Hat ทุกรูปแบบ และพยายามไม่ให้นักทำ SEO สายดำเข้ามาแทรกแซงการจัดอันดับที่มีคุณภาพของกูเกิล อันที่จริงอาจกล่าวได้ว่า ถ้าไม่มีนักทำ SEO สายดำ สายเทา หรือนักการตลาดที่มุ่งแต่จะสร้างลิงค์ขยะ ผลการค้นหา SERPs ของกูเกิลจะยิ่งน่าเชื่อถือมากๆ โดยที่ไม่ต้องพัฒนา Penguin Algorithm ด้วยซ้ำ แต่อย่างว่าเมื่อมีคนที่จะหาประโยชน์จากกูเกิลในเชิงด้อยคุณภาพ Google ก็ต้องพยายามไม่ให้พวกเขาเหล่านั้น สามารถมีตัวตนบน Google Search โดยกูเกิลก็มีกฎระเบียบ ข้อบังคับให้ Webmasters ปฏิบัติตามอยู่แล้ว ถ้าหากทำตามกฎของกูเกิล การทำอันดับไม่ยากอย่างแน่นอน เพราะถ้าทำเว็บคุณภาพมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ทุกอย่างจะตามมาเอง
เรายังสามารถใช้ Network ส่วนตัวทำอันดับได้หรือไม่

  ตั้งแต่กูเกิลทำการ Update Algorithm อย่าง Penguin 3.0 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นักทำ SEO ส่วนใหญ่ที่ใช้ Wordpress ในการสร้างเน็ตเวิร์คเพื่อทำอันดับกูเกิล โดน Google Penalty และโดนแบนกันเป็นว่าเล่น นักทำ SEO ส่วนใหญ่จึงหันไปสร้างลิงค์จากเว็บบอร์ด เว็บประกาศ บล็อกฟรี และโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยหลีกเลี่ยงการสร้างลิงค์ด้วย PBN (Private Blog Network) เพราะกลัวโดนกูเกิลเก็บ เพราะต้นทุนในการซื้อ Domain Name และ SEO Hosting ไม่ใช่ราคาถูก ถ้าหากโดนแบนที เงินทุนก็อาจหายไปกับตาได้ง่ายๆ เลย อย่างไรก็ตามหากเรามุ่งมั่นที่จะสร้าง Network ส่วนตัวให้มีคุณภาพ ไม่ว่า Algorithm ไหนก็สามารถทำอันดับได้ และไม่โดนทำโทษอย่างแน่นอน ยิ่งทำให้เน็ตเวิร์คมีคุณภาพมากเท่าไหร่ ความยั่งยืนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งที่จะบ่งบอกว่าเว็บไหนมีคุณภาพหรือไม่ ก็คือ การสร้าง Content นั่นเอง หากต้องการทำให้เน็ตเวิร์คส่วนตัวมีคุณภาพก็ต้องพยายามเขียนบทความที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และบทความจะต้องไม่ซ้ำกับเว็บอื่น ซึ่งนักทำ SEO มือใหม่อาจไม่เข้าใจว่า คำว่าไม่ซ้ำกับเว็บอื่น นั้น รวมไปถึงเว็บของตัวเองที่มี Domain Name แตกต่างกันด้วยนั่นเอง และนักทำ SEO ส่วนใหญ่จะใช้ Wordpress ในการขับเคลื่อนอันดับเอสอีโอ ซึ่งปัจจุบันเราก็สามารถใช้เวิร์ดเพลสมาทำเว็บเน็ตเวิร์คส่วนตัวได้ ขอแค่เน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ รับรองว่าไม่โดนกูเกิลแบนอย่างแน่นอน
Google Penguin ทำงานเรียลไทม์ไม่ได้หมายถึงทำอันดับง่าย

  การที่กูเกิลอัพเดทอัลกอริทึม Google Penguin แบบเรียลไทม์ไม่ได้หมายความว่าการทำอันดับ SEO จะง่ายนะครับ การที่อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ก็อาจมีการให้คะแนนลิงค์ได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็จะตัดคะแนนลิงค์ไม่มีคุณภาพรวดเร็วขึ้นเช่นกัน การทำ SEO ที่ไม่มีคุณภาพ ยังไงก็โดน Google Penalty และโดนทำโทษ แบนเว็บเร็วขึ้นด้วย แบบว่ามาเร็ว เคลมเร็ว ยังไงยังงั้น แม้ว่า Penguin Algorithm จะเป็น Core Algorithm ในการจัดอันดับบน SERPs แต่อย่าลืมว่ากูเกิลพัฒนาอัลกอริทึมหลักหลายตัวช่วยในการจัดอันดับให้มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น Google Panda , Google Hummingbird , Doorway Page Algorithm , Google Pigeon , Hack Sites Algorithm และอื่นๆ อีกที่มีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน ทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งแม้ว่าเพนกวิ้นอัลกอริทึมจะทำงานแบบเรียลไทม์ก็ไม่สามารถการัณตีได้ว่าเราจะทำอันดับได้ง่าย เพราะกูเกิลไม่ได้พัฒนาอัลกอริทึมให้นักทำ SEO ทำอันดับได้ง่ายอยู่แล้วนั่นเอง นอกจากนี้กูเกิลยังให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานมาเป็นอันดับแรก ต่อให้คุณมีลิงค์คุณภาพเข้าสู่เว็บหลักมาแค่ไหน ถ้าสถิติออกมาว่าคนไม่ชอบเว็บคุณ กูเกิลก็จะไม่ขอบตามไปด้วย เพราะกูเกิลเชื่อ Ranking Signal ที่มาจาก Humans นั่นเอง นั่นยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า ถ้าคุณอยากให้เว็บมีคุณภาพในสายตาของกูเกิล คุณก็ต้องสร้างลิงค์คุณภาพควบคู่กับการหาทราฟฟิคคุณภาพเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณด้วย แน่นอนว่านักทำ SEO ส่วนใหญ่สามารถสร้างลิงค์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ และเข้าใจลิงค์แต่ละประเภทเป็นอย่างดี ขึ้นอยู่กับจะสร้าง Content ที่มีคุณภาพต่อผู้อ่านมากน้อยแค่ไหน และต่อให้มีการสร้างลิงค์คุณภาพจำนวนมากๆ ก็ยังไม่สามารถการัณตีอันดับที่แน่นอนได้เหมือนในอดีต เพราะปัจจัยการคำนวณการจัดอันดับของ Google ในยุคนี้ มีมากมายและส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่การให้คนมาเป็นคนตัดสินคุณภาพของเว็บไซต์ ไม่ใช่จำนวนลิงค์เหมือนในอดีต แน่นอนว่าหากคุณเห็นเว็บติดอันดับต้นๆ ด้วยแบ็คลิงค์จำนวนมาก ยังทำอันดับได้ ซึ่งผมได้เรียนให้กับผู้อ่านทราบหลายครั้งแล้วว่า แบ็คลิงค์สามารถทำอันดับได้ แต่กูเกิลมองเป็นปัจจัยรอง และให้เชื่อเถอะว่าหากเว็บเหล่านั้นทำอันดับด้วยลิงค์เพียวๆ เว็บของเขาต้องมี Time Line ในการทำอันดับค่อนข้างยาวนาน และใช้จำนวนลิงค์จากเว็บที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโพสเว็บบอร์ด โพสเว็บประกาศ โพสบทความบนบล็อกฟรี หรือแม้แต่โพสบทความบนเว็บโซเชียล และอาจจะใช้เครื่องมือ หรือมีทีมงานหลายคนช่วยกันเพิ่มลิงค์และใช้เทคนิคสารพัด แล้วเมื่อติดอันดับจะสรุปว่าใช้เทคนิคอะไรดีละ ผมสรุปให้ละกัน เทคนิคสร้างลิงค์แบบมั่วๆ ยำลิงค์ให้มากที่สุด แน่นอนมันทำอันดับได้ แต่ความเสี่ยงสูงมากที่จะโดน Google ลงโทษ เพราะการสร้างลิงค์โดยไม่สนใจคุณภาพและไม่มีการคัดกรองเว็บที่มีคุณภาพมาสร้างลิงค์นั้น อาจส่งผลเสียในระยะยาวอย่างแน่นอน ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ที่กูเกิลจะแจ้งผ่าน Webmaster Tools ว่ามีลิงค์ขาเข้าผิดปกติและไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับเว็บโดนทำโทษแบบ Manual Action แล้วนั่นเอง ซึ่งผมอยากให้ผู้อ่านสร้างแบ็คลิงค์จากหน้าเว็บที่คัดกรองมาแล้วว่ามีคุณภาพ และเว็บเหล่านั้นมีเนื้อหาหลัก และคีย์เวิร์ดหลักสอดคล้องกับเว็บไซต์ของเราด้วย และพยายามอย่าสร้างลิงค์กับเว็บที่มีลักษณะโพสบทความซ้ำๆ Duplicate Content หรือเว็บที่มีการโพสบทความน้อยๆ โดยเน้นการแทรกลิงค์เป็นหลัก เพราะกูเกิลจะมองว่าเป็นการ Spam Contents เพื่อสร้าง Spam Links ซึ่งอาจส่งผลเสียมากกว่าดีต่อเว็บของเราอย่างแน่นอน
ลิงค์แบบไหนจะทำอันดับอย่างมีประสิทธิภาพ

  แม้ว่าการเขียนบทความคุณภาพเป็นมิตรกับผู้อ่านจะสามารถทำอันดับบน SERPs ได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันว่ากูเกิลลดความสำคัญของ Links Signal ในการจัดอันดับ การเขียนบทความคุณภาพอาจไม่เพียงพอต่อการทำให้เว็บมีอันดับขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องทำการ Optimize Page แต่ละหน้าให้สนับสนุนคีย์เวิร์ดเป้าหมาย แน่นอนถ้าคุณเป็นเว็บไซต์เกิดใหม่ ก็ต้องมองไปที่การติดอันดับ Niche Keywords แต่อย่างได้ประมาณคีย์เวิร์ดเฉ
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องรับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: SEO
อ้างจาก: บริการ SEOรับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 062-363-9429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#27
รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google

รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google เจาะลึกบทความเกี่ยวกับบริการ SEOเติมเต็มความรู้ได้จากบทความนี้ Google แจ้งว่าจะอัพเดท Penguin Algorithm เร็วๆนี้
นักทำ SEO หลายคนคงรอคอยระบบ Google Penguin Algorithm อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ เพราะนับตั้งแต่มีการอัพเดท Penguin 3.0 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางกูเกิลได้หยุดปรับปรุงระบบอัลกอริทึมขนาดใหญ่ เป้าหมายเพื่อกำจัดเว็บสแปม และ SEO Black Hat ให้หมดไป การอัพเดทระบบ Penguin 4.0 ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นการทำงานแบบเรียลไทม์เต็มรูปแบบ รวมทั้ง Panda 4.2 ก็จะทำงานแบบเรียลไทม์ด้วยเช่นเดียวกัน
เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยงแปลง

  แน่นอนว่าเมื่อ Google ยังไม่ได้อัพเดท Penguin 4.0 เราก็จะไม่ทราบกระบวนการทำงานของระบบอัลกอริทึมเพนกวิ้นรุ่นใหม่ ว่าจะมีการทำงานเป็นอย่างไร และมีประสิทธิมากน้อยแค่ไหน กับการจัดการกับ Spam Links ทั้งหลาย ที่เราเห็นกันเกลื่อนตามเว็บที่เปิดให้สมัครใช้งานฟรี ไม่ว่าจะเป็นเว็บบอร์ดฟรี เว็บประกาศฟรี บล็อกฟรี ล้วนแต่มีนักทำ SEO ทั้งมือใหม่ มือเก๋า ไปใช้บริการเพื่อสร้างสแปมลิงค์กันเป็นว่าเล่น แถมยังมีอันดับที่ดีอีกด้วย ต้องรอดูว่าการอัพเดทระบบอัลกอริทึมเวอร์ชั่นใหม่นี้จะเป็นอย่างไร หลังจากที่นักทำ SEO ทั่วโลก รอคอยการพัฒนามากว่า 14 เดือน เมื่อรวมระยะเวลาการอัพเดทครั้งสุดท้าย จนถึงการอัพเดทอีกครั้งบริการ SEO

  อัลกอริทึมรุ่นใหม่ต้องดีกว่ารุ่นเก่า Google Penguin 4.0 น่าจะมีการเพิ่มความสามารถในการจัดการกับ Links ไม่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับ Network ส่วนตัวที่ไม่มีคุณภาพ และการลงโทษเว็บที่มีลักษณะเป็น Content Farm เพื่อลดจำนวนลิงค์ขยะที่มีอยู่จำนวนมาก จากการจงใจสร้างสแปมลิงค์โดยนักทำ SEO สายดำ สายเทา ทั้งหลาย ที่มักจะทดลองวิธีการ Spam Contents และ Spam Links รูปแบบใหม่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากกูเกิล ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน กูเกิลได้ปล่อยอัลกอริทึมตัวใหม่ภายใต้ชื่อ Hack Sites Algorithm เป็นอัลกอริทึมสำหรับจัดการกับเว็บไซต์ที่โดน Hacker ทำการแฮกเพื่อสร้างลิงค์กลับไปยังเว็บเป้าหมาย ซึ่งก็คือ SAPE Network อันโด่งดัง ที่ชาวรัสเซียเป็นคนต้นคิดนั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อก่อนกูเกิลจัดการกับ Network ส่วนตัวเหล่านี้ ด้วยการลบออกจากผลการค้นหาแบบ Manual ซึ่งยุ่งยากและใช้เวลานาน อีกทั้งนักทำ SEO ก็สร้างลิงค์จากเว็บใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่ออัลกอริทึมตัวนี้ออกมา เรียกได้ว่าจบเกมส์สำหรับนักทำ SEO ที่ใช้เทคนิคนี้ก็ว่าได้ แน่นอนว่าอัลกอริทึมดังกล่าวจะทำงานร่วมกับ Googel Penguin 4.0 ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัด Spam Network ได้ดียิ่งขึ้น

  การทำงานแบบ Real Time จะสามารถกำจัดลิงค์ขยะรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นักทำ SEO หลายคนอาจมองว่าการ Update Penguin จะสามารถทำอันดับได้เร็วยิ่งขึ้น เพราะการนับคะแนนเป็นแบบเรียลไทม์ ซึ่งผมคิดว่ากูเกิลเขาคงอ่านเกมส์มาตั้งแต่แรกแล้วว่าการทำให้อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ อาจเป็นช่องทางให้บรรดานักทำ SEO สายดำ สามารถแทรกแซงการจัดอันดับของกูเกิล จนทำให้การจัดอันดับไม่มีความน่าเชื่อถือต่อผู้ใช้งาน และระยะเวลาที่กูเกิลได้พัฒนาอัลกอริทึค่อนข้างยาวนานนั้น น่าจะสามารถรับมือกับเทคนิคที่ไม่ถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน เพราะอย่าลืมว่าเมื่ออัลกอริทึมทำงานแบบเรียลไมท์ นับคะแนนลิงค์อย่างรวดเร็ว การทำโทษหรือที่เรียกว่า Google Penalty ก็จะทำงานอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการทำตามกฎของกูเกิลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ทำไมกูเกิลให้ความสำคัญกับ Google Penguin

  หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไม Google จึงให้ความสำคัญกับ Penguin Algorithm และใช้เวลาพัฒนา ปรับปรุง ค่อนข้างนาน แน่นอนว่ากูเกิลได้ลดความสำคัญของลิงค์ลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกการใช้ลิงค์ในการให้คะแนนเว็บที่มีลิงค์คุณภาพ ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่าระบบการจัดอันดับกูเกิลในปัจจุบัน มีการใช้เทคโนโลยี RankBrain ที่เป็นระบบ AI (Artificail Intelligence) ประมาณ 15% ของการ Query ข้อมูลแสดงต่อผู้ใช้งาน และอัลกอริทึมดังกล่าวมีลักษณะการทำงานเหมือนกับ Google Hummingbird Algorithm และทำงานเป็นปัจจัยที่สาม ซึ่งกูเกิลอาจจะนำมาคัดกรองคุณภาพอีกรอบ หลังจากที่มีการ Query ข้อมูลจาก Core Algorithm แล้ว นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาก็ยังไม่สำคัญเท่ากับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน และสถิติของเว็บไซต์ที่เกิดจากผู้ใช้งาน ค่าเหล่านี้มีผลต่อการจัดอันดับค่อนข้างสูง เพราะเป็นค่าที่มาจากคนจริงๆ ไม่สามารถสร้างหรือดัดแปลงเพื่อหลอกกูเกิลได้นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นแม้การทำอันดับ Google ด้วยการสร้าง Links มันจะถูกลดความสำคัญลง แต่มันก็สามารถทำอันดับได้ เพียงแต่อาจต้องใช้ลิงค์คุณภาพจำนวนมากพอที่กูเกิลจะมองว่ามีคุณภาพ ข้อสังเกตุอีกประการหนึ่งคือ การสร้างลิงค์คุณภาพจะทำให้เกิด Referral Traffic คุณภาพด้วยเช่นกัน และทราฟฟิคก็เป็นตัว Drive อันดับ SEO ที่มีประสิทธิภาพ พูดง่ายๆ คือ หากเราเขียนบทความคุณภาพแล้วชี้ลิงค์ไปยังเว็บหลัก เมื่อมีคนคลิกเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์หลัก Google ก็จะเข้าใจว่าทราฟฟิคดังกล่าวมาจากเว็บไหน หน้าไหน บทความมีความสอดคล้องกันหรือไม่ ถ้ามีคุณภาพทราฟฟิคนั้นก็จะมีคุณภาพในสายตากูเกิลด้วย อย่างไรก็ตามการจะตรวจสอบดูว่าทราฟฟิคไหนมีคุณภาพ Google ก็จะตรวจสอบจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานนั่นเอง
การสร้างลิงค์แบบไหนจะถูกใจ Penguin ตัวใหม่

  ระบบ Google Penguin 4.0 มีความสามารถในการจัดการและลงโทษ Bad Links ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเวลายาวนานหลายปีที่กูเกิลพัฒนาระบบ Algorithm ใหม่ๆ เพื่อต่อสู้กับ Content Farms และ Spam Links ทั้งหลาย ทุกครั้งที่กูเกิลทำการอัพเดทระบเพนกวิ้น เราจะเห็นว่าเว็บด้อยคุณภาพทั้งหลายจะลดลงอย่างมาก และทำให้มีเว็บคุณภาพแสดงบนผลการค้นหามากยิ่งขึ้น โดย Google ต้องการจะลงโทษกับการทำ SEO Black Hat ทุกรูปแบบ และพยายามไม่ให้นักทำ SEO สายดำเข้ามาแทรกแซงการจัดอันดับที่มีคุณภาพของกูเกิล อันที่จริงอาจกล่าวได้ว่า ถ้าไม่มีนักทำ SEO สายดำ สายเทา หรือนักการตลาดที่มุ่งแต่จะสร้างลิงค์ขยะ ผลการค้นหา SERPs ของกูเกิลจะยิ่งน่าเชื่อถือมากๆ โดยที่ไม่ต้องพัฒนา Penguin Algorithm ด้วยซ้ำ แต่อย่างว่าเมื่อมีคนที่จะหาประโยชน์จากกูเกิลในเชิงด้อยคุณภาพ Google ก็ต้องพยายามไม่ให้พวกเขาเหล่านั้น สามารถมีตัวตนบน Google Search โดยกูเกิลก็มีกฎระเบียบ ข้อบังคับให้ Webmasters ปฏิบัติตามอยู่แล้ว ถ้าหากทำตามกฎของกูเกิล การทำอันดับไม่ยากอย่างแน่นอน เพราะถ้าทำเว็บคุณภาพมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ทุกอย่างจะตามมาเอง
เรายังสามารถใช้ Network ส่วนตัวทำอันดับได้หรือไม่

  ตั้งแต่กูเกิลทำการ Update Algorithm อย่าง Penguin 3.0 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นักทำ SEO ส่วนใหญ่ที่ใช้ Wordpress ในการสร้างเน็ตเวิร์คเพื่อทำอันดับกูเกิล โดน Google Penalty และโดนแบนกันเป็นว่าเล่น นักทำ SEO ส่วนใหญ่จึงหันไปสร้างลิงค์จากเว็บบอร์ด เว็บประกาศ บล็อกฟรี และโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยหลีกเลี่ยงการสร้างลิงค์ด้วย PBN (Private Blog Network) เพราะกลัวโดนกูเกิลเก็บ เพราะต้นทุนในการซื้อ Domain Name และ SEO Hosting ไม่ใช่ราคาถูก ถ้าหากโดนแบนที เงินทุนก็อาจหายไปกับตาได้ง่ายๆ เลย อย่างไรก็ตามหากเรามุ่งมั่นที่จะสร้าง Network ส่วนตัวให้มีคุณภาพ ไม่ว่า Algorithm ไหนก็สามารถทำอันดับได้ และไม่โดนทำโทษอย่างแน่นอน ยิ่งทำให้เน็ตเวิร์คมีคุณภาพมากเท่าไหร่ ความยั่งยืนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งที่จะบ่งบอกว่าเว็บไหนมีคุณภาพหรือไม่ ก็คือ การสร้าง Content นั่นเอง หากต้องการทำให้เน็ตเวิร์คส่วนตัวมีคุณภาพก็ต้องพยายามเขียนบทความที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และบทความจะต้องไม่ซ้ำกับเว็บอื่น ซึ่งนักทำ SEO มือใหม่อาจไม่เข้าใจว่า คำว่าไม่ซ้ำกับเว็บอื่น นั้น รวมไปถึงเว็บของตัวเองที่มี Domain Name แตกต่างกันด้วยนั่นเอง และนักทำ SEO ส่วนใหญ่จะใช้ Wordpress ในการขับเคลื่อนอันดับเอสอีโอ ซึ่งปัจจุบันเราก็สามารถใช้เวิร์ดเพลสมาทำเว็บเน็ตเวิร์คส่วนตัวได้ ขอแค่เน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ รับรองว่าไม่โดนกูเกิลแบนอย่างแน่นอน
Google Penguin ทำงานเรียลไทม์ไม่ได้หมายถึงทำอันดับง่าย

  การที่กูเกิลอัพเดทอัลกอริทึม Google Penguin แบบเรียลไทม์ไม่ได้หมายความว่าการทำอันดับ SEO จะง่ายนะครับ การที่อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ก็อาจมีการให้คะแนนลิงค์ได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็จะตัดคะแนนลิงค์ไม่มีคุณภาพรวดเร็วขึ้นเช่นกัน การทำ SEO ที่ไม่มีคุณภาพ ยังไงก็โดน Google Penalty และโดนทำโทษ แบนเว็บเร็วขึ้นด้วย แบบว่ามาเร็ว เคลมเร็ว ยังไงยังงั้น แม้ว่า Penguin Algorithm จะเป็น Core Algorithm ในการจัดอันดับบน SERPs แต่อย่าลืมว่ากูเกิลพัฒนาอัลกอริทึมหลักหลายตัวช่วยในการจัดอันดับให้มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น Google Panda , Google Hummingbird , Doorway Page Algorithm , Google Pigeon , Hack Sites Algorithm และอื่นๆ อีกที่มีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน ทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งแม้ว่าเพนกวิ้นอัลกอริทึมจะทำงานแบบเรียลไทม์ก็ไม่สามารถการัณตีได้ว่าเราจะทำอันดับได้ง่าย เพราะกูเกิลไม่ได้พัฒนาอัลกอริทึมให้นักทำ SEO ทำอันดับได้ง่ายอยู่แล้วนั่นเอง นอกจากนี้กูเกิลยังให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานมาเป็นอันดับแรก ต่อให้คุณมีลิงค์คุณภาพเข้าสู่เว็บหลักมาแค่ไหน ถ้าสถิติออกมาว่าคนไม่ชอบเว็บคุณ กูเกิลก็จะไม่ขอบตามไปด้วย เพราะกูเกิลเชื่อ Ranking Signal ที่มาจาก Humans นั่นเอง นั่นยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า ถ้าคุณอยากให้เว็บมีคุณภาพในสายตาของกูเกิล คุณก็ต้องสร้างลิงค์คุณภาพควบคู่กับการหาทราฟฟิคคุณภาพเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณด้วย แน่นอนว่านักทำ SEO ส่วนใหญ่สามารถสร้างลิงค์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ และเข้าใจลิงค์แต่ละประเภทเป็นอย่างดี ขึ้นอยู่กับจะสร้าง Content ที่มีคุณภาพต่อผู้อ่านมากน้อยแค่ไหน และต่อให้มีการสร้างลิงค์คุณภาพจำนวนมากๆ ก็ยังไม่สามารถการัณตีอันดับที่แน่นอนได้เหมือนในอดีต เพราะปัจจัยการคำนวณการจัดอันดับของ Google ในยุคนี้ มีมากมายและส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่การให้คนมาเป็นคนตัดสินคุณภาพของเว็บไซต์ ไม่ใช่จำนวนลิงค์เหมือนในอดีต แน่นอนว่าหากคุณเห็นเว็บติดอันดับต้นๆ ด้วยแบ็คลิงค์จำนวนมาก ยังทำอันดับได้ ซึ่งผมได้เรียนให้กับผู้อ่านทราบหลายครั้งแล้วว่า แบ็คลิงค์สามารถทำอันดับได้ แต่กูเกิลมองเป็นปัจจัยรอง และให้เชื่อเถอะว่าหากเว็บเหล่านั้นทำอันดับด้วยลิงค์เพียวๆ เว็บของเขาต้องมี Time Line ในการทำอันดับค่อนข้างยาวนาน และใช้จำนวนลิงค์จากเว็บที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโพสเว็บบอร์ด โพสเว็บประกาศ โพสบทความบนบล็อกฟรี หรือแม้แต่โพสบทความบนเว็บโซเชียล และอาจจะใช้เครื่องมือ หรือมีทีมงานหลายคนช่วยกันเพิ่มลิงค์และใช้เทคนิคสารพัด แล้วเมื่อติดอันดับจะสรุปว่าใช้เทคนิคอะไรดีละ ผมสรุปให้ละกัน เทคนิคสร้างลิงค์แบบมั่วๆ ยำลิงค์ให้มากที่สุด แน่นอนมันทำอันดับได้ แต่ความเสี่ยงสูงมากที่จะโดน Google ลงโทษ เพราะการสร้างลิงค์โดยไม่สนใจคุณภาพและไม่มีการคัดกรองเว็บที่มีคุณภาพมาสร้างลิงค์นั้น อาจส่งผลเสียในระยะยาวอย่างแน่นอน ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ที่กูเกิลจะแจ้งผ่าน Webmaster Tools ว่ามีลิงค์ขาเข้าผิดปกติและไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับเว็บโดนทำโทษแบบ Manual Action แล้วนั่นเอง ซึ่งผมอยากให้ผู้อ่านสร้างแบ็คลิงค์จากหน้าเว็บที่คัดกรองมาแล้วว่ามีคุณภาพ และเว็บเหล่านั้นมีเนื้อหาหลัก และคีย์เวิร์ดหลักสอดคล้องกับเว็บไซต์ของเราด้วย และพยายามอย่าสร้างลิงค์กับเว็บที่มีลักษณะโพสบทความซ้ำๆ Duplicate Content หรือเว็บที่มีการโพสบทความน้อยๆ โดยเน้นการแทรกลิงค์เป็นหลัก เพราะกูเกิลจะมองว่าเป็นการ Spam Contents เพื่อสร้าง Spam Links ซึ่งอาจส่งผลเสียมากกว่าดีต่อเว็บของเราอย่างแน่นอน
ลิงค์แบบไหนจะทำอันดับอย่างมีประสิทธิภาพ

  แม้ว่าการเขียนบทความคุณภาพเป็นมิตรกับผู้อ่านจะสามารถทำอันดับบน SERPs ได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันว่ากูเกิลลดความสำคัญของ Links Signal ในการจัดอันดับ การเขียนบทความคุณภาพอาจไม่เพียงพอต่อการทำให้เว็บมีอันดับขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องทำการ Optimize Page แต่ละหน้าให้สนับสนุนคีย์เวิร์ดเป้าหมาย แน่นอนถ้าคุณเป็นเว็บไซต์เกิดใหม่ ก็ต้องมองไปที่การติดอันดับ Niche Keywords แต่อย่างได้ประมาณคีย์เวิร์ดเฉ
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องรับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: SEO
อ้างจาก: บริการ SEOรับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 062-363-9429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#28
รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google

แสดงความรู้รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google ผู้เขียนขออาสาเล่าเรื่องเกี่ยวกับบริการ SEOศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดได้จากที่นี่ Google แจ้งว่าจะอัพเดท Penguin Algorithm เร็วๆนี้
นักทำ SEO หลายคนคงรอคอยระบบ Google Penguin Algorithm อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ เพราะนับตั้งแต่มีการอัพเดท Penguin 3.0 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางกูเกิลได้หยุดปรับปรุงระบบอัลกอริทึมขนาดใหญ่ เป้าหมายเพื่อกำจัดเว็บสแปม และ SEO Black Hat ให้หมดไป การอัพเดทระบบ Penguin 4.0 ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นการทำงานแบบเรียลไทม์เต็มรูปแบบ รวมทั้ง Panda 4.2 ก็จะทำงานแบบเรียลไทม์ด้วยเช่นเดียวกัน
เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยงแปลง

  แน่นอนว่าเมื่อ Google ยังไม่ได้อัพเดท Penguin 4.0 เราก็จะไม่ทราบกระบวนการทำงานของระบบอัลกอริทึมเพนกวิ้นรุ่นใหม่ ว่าจะมีการทำงานเป็นอย่างไร และมีประสิทธิมากน้อยแค่ไหน กับการจัดการกับ Spam Links ทั้งหลาย ที่เราเห็นกันเกลื่อนตามเว็บที่เปิดให้สมัครใช้งานฟรี ไม่ว่าจะเป็นเว็บบอร์ดฟรี เว็บประกาศฟรี บล็อกฟรี ล้วนแต่มีนักทำ SEO ทั้งมือใหม่ มือเก๋า ไปใช้บริการเพื่อสร้างสแปมลิงค์กันเป็นว่าเล่น แถมยังมีอันดับที่ดีอีกด้วย ต้องรอดูว่าการอัพเดทระบบอัลกอริทึมเวอร์ชั่นใหม่นี้จะเป็นอย่างไร หลังจากที่นักทำ SEO ทั่วโลก รอคอยการพัฒนามากว่า 14 เดือน เมื่อรวมระยะเวลาการอัพเดทครั้งสุดท้าย จนถึงการอัพเดทอีกครั้งบริการ SEO

  อัลกอริทึมรุ่นใหม่ต้องดีกว่ารุ่นเก่า Google Penguin 4.0 น่าจะมีการเพิ่มความสามารถในการจัดการกับ Links ไม่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับ Network ส่วนตัวที่ไม่มีคุณภาพ และการลงโทษเว็บที่มีลักษณะเป็น Content Farm เพื่อลดจำนวนลิงค์ขยะที่มีอยู่จำนวนมาก จากการจงใจสร้างสแปมลิงค์โดยนักทำ SEO สายดำ สายเทา ทั้งหลาย ที่มักจะทดลองวิธีการ Spam Contents และ Spam Links รูปแบบใหม่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากกูเกิล ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน กูเกิลได้ปล่อยอัลกอริทึมตัวใหม่ภายใต้ชื่อ Hack Sites Algorithm เป็นอัลกอริทึมสำหรับจัดการกับเว็บไซต์ที่โดน Hacker ทำการแฮกเพื่อสร้างลิงค์กลับไปยังเว็บเป้าหมาย ซึ่งก็คือ SAPE Network อันโด่งดัง ที่ชาวรัสเซียเป็นคนต้นคิดนั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อก่อนกูเกิลจัดการกับ Network ส่วนตัวเหล่านี้ ด้วยการลบออกจากผลการค้นหาแบบ Manual ซึ่งยุ่งยากและใช้เวลานาน อีกทั้งนักทำ SEO ก็สร้างลิงค์จากเว็บใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่ออัลกอริทึมตัวนี้ออกมา เรียกได้ว่าจบเกมส์สำหรับนักทำ SEO ที่ใช้เทคนิคนี้ก็ว่าได้ แน่นอนว่าอัลกอริทึมดังกล่าวจะทำงานร่วมกับ Googel Penguin 4.0 ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัด Spam Network ได้ดียิ่งขึ้น

  การทำงานแบบ Real Time จะสามารถกำจัดลิงค์ขยะรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นักทำ SEO หลายคนอาจมองว่าการ Update Penguin จะสามารถทำอันดับได้เร็วยิ่งขึ้น เพราะการนับคะแนนเป็นแบบเรียลไทม์ ซึ่งผมคิดว่ากูเกิลเขาคงอ่านเกมส์มาตั้งแต่แรกแล้วว่าการทำให้อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ อาจเป็นช่องทางให้บรรดานักทำ SEO สายดำ สามารถแทรกแซงการจัดอันดับของกูเกิล จนทำให้การจัดอันดับไม่มีความน่าเชื่อถือต่อผู้ใช้งาน และระยะเวลาที่กูเกิลได้พัฒนาอัลกอริทึค่อนข้างยาวนานนั้น น่าจะสามารถรับมือกับเทคนิคที่ไม่ถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน เพราะอย่าลืมว่าเมื่ออัลกอริทึมทำงานแบบเรียลไมท์ นับคะแนนลิงค์อย่างรวดเร็ว การทำโทษหรือที่เรียกว่า Google Penalty ก็จะทำงานอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการทำตามกฎของกูเกิลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ทำไมกูเกิลให้ความสำคัญกับ Google Penguin

  หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไม Google จึงให้ความสำคัญกับ Penguin Algorithm และใช้เวลาพัฒนา ปรับปรุง ค่อนข้างนาน แน่นอนว่ากูเกิลได้ลดความสำคัญของลิงค์ลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกการใช้ลิงค์ในการให้คะแนนเว็บที่มีลิงค์คุณภาพ ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่าระบบการจัดอันดับกูเกิลในปัจจุบัน มีการใช้เทคโนโลยี RankBrain ที่เป็นระบบ AI (Artificail Intelligence) ประมาณ 15% ของการ Query ข้อมูลแสดงต่อผู้ใช้งาน และอัลกอริทึมดังกล่าวมีลักษณะการทำงานเหมือนกับ Google Hummingbird Algorithm และทำงานเป็นปัจจัยที่สาม ซึ่งกูเกิลอาจจะนำมาคัดกรองคุณภาพอีกรอบ หลังจากที่มีการ Query ข้อมูลจาก Core Algorithm แล้ว นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาก็ยังไม่สำคัญเท่ากับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน และสถิติของเว็บไซต์ที่เกิดจากผู้ใช้งาน ค่าเหล่านี้มีผลต่อการจัดอันดับค่อนข้างสูง เพราะเป็นค่าที่มาจากคนจริงๆ ไม่สามารถสร้างหรือดัดแปลงเพื่อหลอกกูเกิลได้นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นแม้การทำอันดับ Google ด้วยการสร้าง Links มันจะถูกลดความสำคัญลง แต่มันก็สามารถทำอันดับได้ เพียงแต่อาจต้องใช้ลิงค์คุณภาพจำนวนมากพอที่กูเกิลจะมองว่ามีคุณภาพ ข้อสังเกตุอีกประการหนึ่งคือ การสร้างลิงค์คุณภาพจะทำให้เกิด Referral Traffic คุณภาพด้วยเช่นกัน และทราฟฟิคก็เป็นตัว Drive อันดับ SEO ที่มีประสิทธิภาพ พูดง่ายๆ คือ หากเราเขียนบทความคุณภาพแล้วชี้ลิงค์ไปยังเว็บหลัก เมื่อมีคนคลิกเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์หลัก Google ก็จะเข้าใจว่าทราฟฟิคดังกล่าวมาจากเว็บไหน หน้าไหน บทความมีความสอดคล้องกันหรือไม่ ถ้ามีคุณภาพทราฟฟิคนั้นก็จะมีคุณภาพในสายตากูเกิลด้วย อย่างไรก็ตามการจะตรวจสอบดูว่าทราฟฟิคไหนมีคุณภาพ Google ก็จะตรวจสอบจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานนั่นเอง
การสร้างลิงค์แบบไหนจะถูกใจ Penguin ตัวใหม่

  ระบบ Google Penguin 4.0 มีความสามารถในการจัดการและลงโทษ Bad Links ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเวลายาวนานหลายปีที่กูเกิลพัฒนาระบบ Algorithm ใหม่ๆ เพื่อต่อสู้กับ Content Farms และ Spam Links ทั้งหลาย ทุกครั้งที่กูเกิลทำการอัพเดทระบเพนกวิ้น เราจะเห็นว่าเว็บด้อยคุณภาพทั้งหลายจะลดลงอย่างมาก และทำให้มีเว็บคุณภาพแสดงบนผลการค้นหามากยิ่งขึ้น โดย Google ต้องการจะลงโทษกับการทำ SEO Black Hat ทุกรูปแบบ และพยายามไม่ให้นักทำ SEO สายดำเข้ามาแทรกแซงการจัดอันดับที่มีคุณภาพของกูเกิล อันที่จริงอาจกล่าวได้ว่า ถ้าไม่มีนักทำ SEO สายดำ สายเทา หรือนักการตลาดที่มุ่งแต่จะสร้างลิงค์ขยะ ผลการค้นหา SERPs ของกูเกิลจะยิ่งน่าเชื่อถือมากๆ โดยที่ไม่ต้องพัฒนา Penguin Algorithm ด้วยซ้ำ แต่อย่างว่าเมื่อมีคนที่จะหาประโยชน์จากกูเกิลในเชิงด้อยคุณภาพ Google ก็ต้องพยายามไม่ให้พวกเขาเหล่านั้น สามารถมีตัวตนบน Google Search โดยกูเกิลก็มีกฎระเบียบ ข้อบังคับให้ Webmasters ปฏิบัติตามอยู่แล้ว ถ้าหากทำตามกฎของกูเกิล การทำอันดับไม่ยากอย่างแน่นอน เพราะถ้าทำเว็บคุณภาพมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ทุกอย่างจะตามมาเอง
เรายังสามารถใช้ Network ส่วนตัวทำอันดับได้หรือไม่

  ตั้งแต่กูเกิลทำการ Update Algorithm อย่าง Penguin 3.0 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นักทำ SEO ส่วนใหญ่ที่ใช้ Wordpress ในการสร้างเน็ตเวิร์คเพื่อทำอันดับกูเกิล โดน Google Penalty และโดนแบนกันเป็นว่าเล่น นักทำ SEO ส่วนใหญ่จึงหันไปสร้างลิงค์จากเว็บบอร์ด เว็บประกาศ บล็อกฟรี และโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยหลีกเลี่ยงการสร้างลิงค์ด้วย PBN (Private Blog Network) เพราะกลัวโดนกูเกิลเก็บ เพราะต้นทุนในการซื้อ Domain Name และ SEO Hosting ไม่ใช่ราคาถูก ถ้าหากโดนแบนที เงินทุนก็อาจหายไปกับตาได้ง่ายๆ เลย อย่างไรก็ตามหากเรามุ่งมั่นที่จะสร้าง Network ส่วนตัวให้มีคุณภาพ ไม่ว่า Algorithm ไหนก็สามารถทำอันดับได้ และไม่โดนทำโทษอย่างแน่นอน ยิ่งทำให้เน็ตเวิร์คมีคุณภาพมากเท่าไหร่ ความยั่งยืนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งที่จะบ่งบอกว่าเว็บไหนมีคุณภาพหรือไม่ ก็คือ การสร้าง Content นั่นเอง หากต้องการทำให้เน็ตเวิร์คส่วนตัวมีคุณภาพก็ต้องพยายามเขียนบทความที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และบทความจะต้องไม่ซ้ำกับเว็บอื่น ซึ่งนักทำ SEO มือใหม่อาจไม่เข้าใจว่า คำว่าไม่ซ้ำกับเว็บอื่น นั้น รวมไปถึงเว็บของตัวเองที่มี Domain Name แตกต่างกันด้วยนั่นเอง และนักทำ SEO ส่วนใหญ่จะใช้ Wordpress ในการขับเคลื่อนอันดับเอสอีโอ ซึ่งปัจจุบันเราก็สามารถใช้เวิร์ดเพลสมาทำเว็บเน็ตเวิร์คส่วนตัวได้ ขอแค่เน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ รับรองว่าไม่โดนกูเกิลแบนอย่างแน่นอน
Google Penguin ทำงานเรียลไทม์ไม่ได้หมายถึงทำอันดับง่าย

  การที่กูเกิลอัพเดทอัลกอริทึม Google Penguin แบบเรียลไทม์ไม่ได้หมายความว่าการทำอันดับ SEO จะง่ายนะครับ การที่อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ก็อาจมีการให้คะแนนลิงค์ได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็จะตัดคะแนนลิงค์ไม่มีคุณภาพรวดเร็วขึ้นเช่นกัน การทำ SEO ที่ไม่มีคุณภาพ ยังไงก็โดน Google Penalty และโดนทำโทษ แบนเว็บเร็วขึ้นด้วย แบบว่ามาเร็ว เคลมเร็ว ยังไงยังงั้น แม้ว่า Penguin Algorithm จะเป็น Core Algorithm ในการจัดอันดับบน SERPs แต่อย่าลืมว่ากูเกิลพัฒนาอัลกอริทึมหลักหลายตัวช่วยในการจัดอันดับให้มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น Google Panda , Google Hummingbird , Doorway Page Algorithm , Google Pigeon , Hack Sites Algorithm และอื่นๆ อีกที่มีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน ทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งแม้ว่าเพนกวิ้นอัลกอริทึมจะทำงานแบบเรียลไทม์ก็ไม่สามารถการัณตีได้ว่าเราจะทำอันดับได้ง่าย เพราะกูเกิลไม่ได้พัฒนาอัลกอริทึมให้นักทำ SEO ทำอันดับได้ง่ายอยู่แล้วนั่นเอง นอกจากนี้กูเกิลยังให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานมาเป็นอันดับแรก ต่อให้คุณมีลิงค์คุณภาพเข้าสู่เว็บหลักมาแค่ไหน ถ้าสถิติออกมาว่าคนไม่ชอบเว็บคุณ กูเกิลก็จะไม่ขอบตามไปด้วย เพราะกูเกิลเชื่อ Ranking Signal ที่มาจาก Humans นั่นเอง นั่นยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า ถ้าคุณอยากให้เว็บมีคุณภาพในสายตาของกูเกิล คุณก็ต้องสร้างลิงค์คุณภาพควบคู่กับการหาทราฟฟิคคุณภาพเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณด้วย แน่นอนว่านักทำ SEO ส่วนใหญ่สามารถสร้างลิงค์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ และเข้าใจลิงค์แต่ละประเภทเป็นอย่างดี ขึ้นอยู่กับจะสร้าง Content ที่มีคุณภาพต่อผู้อ่านมากน้อยแค่ไหน และต่อให้มีการสร้างลิงค์คุณภาพจำนวนมากๆ ก็ยังไม่สามารถการัณตีอันดับที่แน่นอนได้เหมือนในอดีต เพราะปัจจัยการคำนวณการจัดอันดับของ Google ในยุคนี้ มีมากมายและส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่การให้คนมาเป็นคนตัดสินคุณภาพของเว็บไซต์ ไม่ใช่จำนวนลิงค์เหมือนในอดีต แน่นอนว่าหากคุณเห็นเว็บติดอันดับต้นๆ ด้วยแบ็คลิงค์จำนวนมาก ยังทำอันดับได้ ซึ่งผมได้เรียนให้กับผู้อ่านทราบหลายครั้งแล้วว่า แบ็คลิงค์สามารถทำอันดับได้ แต่กูเกิลมองเป็นปัจจัยรอง และให้เชื่อเถอะว่าหากเว็บเหล่านั้นทำอันดับด้วยลิงค์เพียวๆ เว็บของเขาต้องมี Time Line ในการทำอันดับค่อนข้างยาวนาน และใช้จำนวนลิงค์จากเว็บที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโพสเว็บบอร์ด โพสเว็บประกาศ โพสบทความบนบล็อกฟรี หรือแม้แต่โพสบทความบนเว็บโซเชียล และอาจจะใช้เครื่องมือ หรือมีทีมงานหลายคนช่วยกันเพิ่มลิงค์และใช้เทคนิคสารพัด แล้วเมื่อติดอันดับจะสรุปว่าใช้เทคนิคอะไรดีละ ผมสรุปให้ละกัน เทคนิคสร้างลิงค์แบบมั่วๆ ยำลิงค์ให้มากที่สุด แน่นอนมันทำอันดับได้ แต่ความเสี่ยงสูงมากที่จะโดน Google ลงโทษ เพราะการสร้างลิงค์โดยไม่สนใจคุณภาพและไม่มีการคัดกรองเว็บที่มีคุณภาพมาสร้างลิงค์นั้น อาจส่งผลเสียในระยะยาวอย่างแน่นอน ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ที่กูเกิลจะแจ้งผ่าน Webmaster Tools ว่ามีลิงค์ขาเข้าผิดปกติและไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับเว็บโดนทำโทษแบบ Manual Action แล้วนั่นเอง ซึ่งผมอยากให้ผู้อ่านสร้างแบ็คลิงค์จากหน้าเว็บที่คัดกรองมาแล้วว่ามีคุณภาพ และเว็บเหล่านั้นมีเนื้อหาหลัก และคีย์เวิร์ดหลักสอดคล้องกับเว็บไซต์ของเราด้วย และพยายามอย่าสร้างลิงค์กับเว็บที่มีลักษณะโพสบทความซ้ำๆ Duplicate Content หรือเว็บที่มีการโพสบทความน้อยๆ โดยเน้นการแทรกลิงค์เป็นหลัก เพราะกูเกิลจะมองว่าเป็นการ Spam Contents เพื่อสร้าง Spam Links ซึ่งอาจส่งผลเสียมากกว่าดีต่อเว็บของเราอย่างแน่นอน
ลิงค์แบบไหนจะทำอันดับอย่างมีประสิทธิภาพ

  แม้ว่าการเขียนบทความคุณภาพเป็นมิตรกับผู้อ่านจะสามารถทำอันดับบน SERPs ได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันว่ากูเกิลลดความสำคัญของ Links Signal ในการจัดอันดับ การเขียนบทความคุณภาพอาจไม่เพียงพอต่อการทำให้เว็บมีอันดับขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องทำการ Optimize Page แต่ละหน้าให้สนับสนุนคีย์เวิร์ดเป้าหมาย แน่นอนถ้าคุณเป็นเว็บไซต์เกิดใหม่ ก็ต้องมองไปที่การติดอันดับ Niche Keywords แต่อย่างได้ประมาณคีย์เวิร์ดเฉ
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องรับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
รับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: SEO
อ้างจาก: บริการ SEOรับทำ SEO รับโปรโมทเว็บติดอันดับ Google
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 062-363-9429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#29
บริการ SEO รับโปรโมทเว็บติดหน้าแรก Google

บริการ SEO รับโปรโมทเว็บติดหน้าแรก Google ผู้เขียนขอนำเสนอเกี่ยวกับบริการ SEOเรียนรู้ได้จากที่นี่ Google แจ้งว่าจะอัพเดท Penguin Algorithm เร็วๆนี้
นักทำ SEO หลายคนคงรอคอยระบบ Google Penguin Algorithm อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ เพราะนับตั้งแต่มีการอัพเดท Penguin 3.0 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางกูเกิลได้หยุดปรับปรุงระบบอัลกอริทึมขนาดใหญ่ เป้าหมายเพื่อกำจัดเว็บสแปม และ SEO Black Hat ให้หมดไป การอัพเดทระบบ Penguin 4.0 ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นการทำงานแบบเรียลไทม์เต็มรูปแบบ รวมทั้ง Panda 4.2 ก็จะทำงานแบบเรียลไทม์ด้วยเช่นเดียวกัน
เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยงแปลงบริการ SEO

  แน่นอนว่าเมื่อ Google ยังไม่ได้อัพเดท Penguin 4.0 เราก็จะไม่ทราบกระบวนการทำงานของระบบอัลกอริทึมเพนกวิ้นรุ่นใหม่ ว่าจะมีการทำงานเป็นอย่างไร และมีประสิทธิมากน้อยแค่ไหน กับการจัดการกับ Spam Links ทั้งหลาย ที่เราเห็นกันเกลื่อนตามเว็บที่เปิดให้สมัครใช้งานฟรี ไม่ว่าจะเป็นเว็บบอร์ดฟรี เว็บประกาศฟรี บล็อกฟรี ล้วนแต่มีนักทำ SEO ทั้งมือใหม่ มือเก๋า ไปใช้บริการเพื่อสร้างสแปมลิงค์กันเป็นว่าเล่น แถมยังมีอันดับที่ดีอีกด้วย ต้องรอดูว่าการอัพเดทระบบอัลกอริทึมเวอร์ชั่นใหม่นี้จะเป็นอย่างไร หลังจากที่นักทำ SEO ทั่วโลก รอคอยการพัฒนามากว่า 14 เดือน เมื่อรวมระยะเวลาการอัพเดทครั้งสุดท้าย จนถึงการอัพเดทอีกครั้ง

  อัลกอริทึมรุ่นใหม่ต้องดีกว่ารุ่นเก่า Google Penguin 4.0 น่าจะมีการเพิ่มความสามารถในการจัดการกับ Links ไม่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับ Network ส่วนตัวที่ไม่มีคุณภาพ และการลงโทษเว็บที่มีลักษณะเป็น Content Farm เพื่อลดจำนวนลิงค์ขยะที่มีอยู่จำนวนมาก จากการจงใจสร้างสแปมลิงค์โดยนักทำ SEO สายดำ สายเทา ทั้งหลาย ที่มักจะทดลองวิธีการ Spam Contents และ Spam Links รูปแบบใหม่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากกูเกิล ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน กูเกิลได้ปล่อยอัลกอริทึมตัวใหม่ภายใต้ชื่อ Hack Sites Algorithm เป็นอัลกอริทึมสำหรับจัดการกับเว็บไซต์ที่โดน Hacker ทำการแฮกเพื่อสร้างลิงค์กลับไปยังเว็บเป้าหมาย ซึ่งก็คือ SAPE Network อันโด่งดัง ที่ชาวรัสเซียเป็นคนต้นคิดนั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อก่อนกูเกิลจัดการกับ Network ส่วนตัวเหล่านี้ ด้วยการลบออกจากผลการค้นหาแบบ Manual ซึ่งยุ่งยากและใช้เวลานาน อีกทั้งนักทำ SEO ก็สร้างลิงค์จากเว็บใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่ออัลกอริทึมตัวนี้ออกมา เรียกได้ว่าจบเกมส์สำหรับนักทำ SEO ที่ใช้เทคนิคนี้ก็ว่าได้ แน่นอนว่าอัลกอริทึมดังกล่าวจะทำงานร่วมกับ Googel Penguin 4.0 ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัด Spam Network ได้ดียิ่งขึ้น

  การทำงานแบบ Real Time จะสามารถกำจัดลิงค์ขยะรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นักทำ SEO หลายคนอาจมองว่าการ Update Penguin จะสามารถทำอันดับได้เร็วยิ่งขึ้น เพราะการนับคะแนนเป็นแบบเรียลไทม์ ซึ่งผมคิดว่ากูเกิลเขาคงอ่านเกมส์มาตั้งแต่แรกแล้วว่าการทำให้อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ อาจเป็นช่องทางให้บรรดานักทำ SEO สายดำ สามารถแทรกแซงการจัดอันดับของกูเกิล จนทำให้การจัดอันดับไม่มีความน่าเชื่อถือต่อผู้ใช้งาน และระยะเวลาที่กูเกิลได้พัฒนาอัลกอริทึค่อนข้างยาวนานนั้น น่าจะสามารถรับมือกับเทคนิคที่ไม่ถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน เพราะอย่าลืมว่าเมื่ออัลกอริทึมทำงานแบบเรียลไมท์ นับคะแนนลิงค์อย่างรวดเร็ว การทำโทษหรือที่เรียกว่า Google Penalty ก็จะทำงานอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการทำตามกฎของกูเกิลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ทำไมกูเกิลให้ความสำคัญกับ Google Penguin

  หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไม Google จึงให้ความสำคัญกับ Penguin Algorithm และใช้เวลาพัฒนา ปรับปรุง ค่อนข้างนาน แน่นอนว่ากูเกิลได้ลดความสำคัญของลิงค์ลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกการใช้ลิงค์ในการให้คะแนนเว็บที่มีลิงค์คุณภาพ ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่าระบบการจัดอันดับกูเกิลในปัจจุบัน มีการใช้เทคโนโลยี RankBrain ที่เป็นระบบ AI (Artificail Intelligence) ประมาณ 15% ของการ Query ข้อมูลแสดงต่อผู้ใช้งาน และอัลกอริทึมดังกล่าวมีลักษณะการทำงานเหมือนกับ Google Hummingbird Algorithm และทำงานเป็นปัจจัยที่สาม ซึ่งกูเกิลอาจจะนำมาคัดกรองคุณภาพอีกรอบ หลังจากที่มีการ Query ข้อมูลจาก Core Algorithm แล้ว นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาก็ยังไม่สำคัญเท่ากับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน และสถิติของเว็บไซต์ที่เกิดจากผู้ใช้งาน ค่าเหล่านี้มีผลต่อการจัดอันดับค่อนข้างสูง เพราะเป็นค่าที่มาจากคนจริงๆ ไม่สามารถสร้างหรือดัดแปลงเพื่อหลอกกูเกิลได้นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นแม้การทำอันดับ Google ด้วยการสร้าง Links มันจะถูกลดความสำคัญลง แต่มันก็สามารถทำอันดับได้ เพียงแต่อาจต้องใช้ลิงค์คุณภาพจำนวนมากพอที่กูเกิลจะมองว่ามีคุณภาพ ข้อสังเกตุอีกประการหนึ่งคือ การสร้างลิงค์คุณภาพจะทำให้เกิด Referral Traffic คุณภาพด้วยเช่นกัน และทราฟฟิคก็เป็นตัว Drive อันดับ SEO ที่มีประสิทธิภาพ พูดง่ายๆ คือ หากเราเขียนบทความคุณภาพแล้วชี้ลิงค์ไปยังเว็บหลัก เมื่อมีคนคลิกเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์หลัก Google ก็จะเข้าใจว่าทราฟฟิคดังกล่าวมาจากเว็บไหน หน้าไหน บทความมีความสอดคล้องกันหรือไม่ ถ้ามีคุณภาพทราฟฟิคนั้นก็จะมีคุณภาพในสายตากูเกิลด้วย อย่างไรก็ตามการจะตรวจสอบดูว่าทราฟฟิคไหนมีคุณภาพ Google ก็จะตรวจสอบจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานนั่นเอง
การสร้างลิงค์แบบไหนจะถูกใจ Penguin ตัวใหม่

  ระบบ Google Penguin 4.0 มีความสามารถในการจัดการและลงโทษ Bad Links ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเวลายาวนานหลายปีที่กูเกิลพัฒนาระบบ Algorithm ใหม่ๆ เพื่อต่อสู้กับ Content Farms และ Spam Links ทั้งหลาย ทุกครั้งที่กูเกิลทำการอัพเดทระบเพนกวิ้น เราจะเห็นว่าเว็บด้อยคุณภาพทั้งหลายจะลดลงอย่างมาก และทำให้มีเว็บคุณภาพแสดงบนผลการค้นหามากยิ่งขึ้น โดย Google ต้องการจะลงโทษกับการทำ SEO Black Hat ทุกรูปแบบ และพยายามไม่ให้นักทำ SEO สายดำเข้ามาแทรกแซงการจัดอันดับที่มีคุณภาพของกูเกิล อันที่จริงอาจกล่าวได้ว่า ถ้าไม่มีนักทำ SEO สายดำ สายเทา หรือนักการตลาดที่มุ่งแต่จะสร้างลิงค์ขยะ ผลการค้นหา SERPs ของกูเกิลจะยิ่งน่าเชื่อถือมากๆ โดยที่ไม่ต้องพัฒนา Penguin Algorithm ด้วยซ้ำ แต่อย่างว่าเมื่อมีคนที่จะหาประโยชน์จากกูเกิลในเชิงด้อยคุณภาพ Google ก็ต้องพยายามไม่ให้พวกเขาเหล่านั้น สามารถมีตัวตนบน Google Search โดยกูเกิลก็มีกฎระเบียบ ข้อบังคับให้ Webmasters ปฏิบัติตามอยู่แล้ว ถ้าหากทำตามกฎของกูเกิล การทำอันดับไม่ยากอย่างแน่นอน เพราะถ้าทำเว็บคุณภาพมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ทุกอย่างจะตามมาเอง
เรายังสามารถใช้ Network ส่วนตัวทำอันดับได้หรือไม่

  ตั้งแต่กูเกิลทำการ Update Algorithm อย่าง Penguin 3.0 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นักทำ SEO ส่วนใหญ่ที่ใช้ Wordpress ในการสร้างเน็ตเวิร์คเพื่อทำอันดับกูเกิล โดน Google Penalty และโดนแบนกันเป็นว่าเล่น นักทำ SEO ส่วนใหญ่จึงหันไปสร้างลิงค์จากเว็บบอร์ด เว็บประกาศ บล็อกฟรี และโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยหลีกเลี่ยงการสร้างลิงค์ด้วย PBN (Private Blog Network) เพราะกลัวโดนกูเกิลเก็บ เพราะต้นทุนในการซื้อ Domain Name และ SEO Hosting ไม่ใช่ราคาถูก ถ้าหากโดนแบนที เงินทุนก็อาจหายไปกับตาได้ง่ายๆ เลย อย่างไรก็ตามหากเรามุ่งมั่นที่จะสร้าง Network ส่วนตัวให้มีคุณภาพ ไม่ว่า Algorithm ไหนก็สามารถทำอันดับได้ และไม่โดนทำโทษอย่างแน่นอน ยิ่งทำให้เน็ตเวิร์คมีคุณภาพมากเท่าไหร่ ความยั่งยืนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งที่จะบ่งบอกว่าเว็บไหนมีคุณภาพหรือไม่ ก็คือ การสร้าง Content นั่นเอง หากต้องการทำให้เน็ตเวิร์คส่วนตัวมีคุณภาพก็ต้องพยายามเขียนบทความที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และบทความจะต้องไม่ซ้ำกับเว็บอื่น ซึ่งนักทำ SEO มือใหม่อาจไม่เข้าใจว่า คำว่าไม่ซ้ำกับเว็บอื่น นั้น รวมไปถึงเว็บของตัวเองที่มี Domain Name แตกต่างกันด้วยนั่นเอง และนักทำ SEO ส่วนใหญ่จะใช้ Wordpress ในการขับเคลื่อนอันดับเอสอีโอ ซึ่งปัจจุบันเราก็สามารถใช้เวิร์ดเพลสมาทำเว็บเน็ตเวิร์คส่วนตัวได้ ขอแค่เน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ รับรองว่าไม่โดนกูเกิลแบนอย่างแน่นอน
Google Penguin ทำงานเรียลไทม์ไม่ได้หมายถึงทำอันดับง่าย

  การที่กูเกิลอัพเดทอัลกอริทึม Google Penguin แบบเรียลไทม์ไม่ได้หมายความว่าการทำอันดับ SEO จะง่ายนะครับ การที่อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ก็อาจมีการให้คะแนนลิงค์ได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็จะตัดคะแนนลิงค์ไม่มีคุณภาพรวดเร็วขึ้นเช่นกัน การทำ SEO ที่ไม่มีคุณภาพ ยังไงก็โดน Google Penalty และโดนทำโทษ แบนเว็บเร็วขึ้นด้วย แบบว่ามาเร็ว เคลมเร็ว ยังไงยังงั้น แม้ว่า Penguin Algorithm จะเป็น Core Algorithm ในการจัดอันดับบน SERPs แต่อย่าลืมว่ากูเกิลพัฒนาอัลกอริทึมหลักหลายตัวช่วยในการจัดอันดับให้มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น Google Panda , Google Hummingbird , Doorway Page Algorithm , Google Pigeon , Hack Sites Algorithm และอื่นๆ อีกที่มีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน ทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งแม้ว่าเพนกวิ้นอัลกอริทึมจะทำงานแบบเรียลไทม์ก็ไม่สามารถการัณตีได้ว่าเราจะทำอันดับได้ง่าย เพราะกูเกิลไม่ได้พัฒนาอัลกอริทึมให้นักทำ SEO ทำอันดับได้ง่ายอยู่แล้วนั่นเอง นอกจากนี้กูเกิลยังให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานมาเป็นอันดับแรก ต่อให้คุณมีลิงค์คุณภาพเข้าสู่เว็บหลักมาแค่ไหน ถ้าสถิติออกมาว่าคนไม่ชอบเว็บคุณ กูเกิลก็จะไม่ขอบตามไปด้วย เพราะกูเกิลเชื่อ Ranking Signal ที่มาจาก Humans นั่นเอง นั่นยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า ถ้าคุณอยากให้เว็บมีคุณภาพในสายตาของกูเกิล คุณก็ต้องสร้างลิงค์คุณภาพควบคู่กับการหาทราฟฟิคคุณภาพเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณด้วย แน่นอนว่านักทำ SEO ส่วนใหญ่สามารถสร้างลิงค์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ และเข้าใจลิงค์แต่ละประเภทเป็นอย่างดี ขึ้นอยู่กับจะสร้าง Content ที่มีคุณภาพต่อผู้อ่านมากน้อยแค่ไหน และต่อให้มีการสร้างลิงค์คุณภาพจำนวนมากๆ ก็ยังไม่สามารถการัณตีอันดับที่แน่นอนได้เหมือนในอดีต เพราะปัจจัยการคำนวณการจัดอันดับของ Google ในยุคนี้ มีมากมายและส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่การให้คนมาเป็นคนตัดสินคุณภาพของเว็บไซต์ ไม่ใช่จำนวนลิงค์เหมือนในอดีต แน่นอนว่าหากคุณเห็นเว็บติดอันดับต้นๆ ด้วยแบ็คลิงค์จำนวนมาก ยังทำอันดับได้ ซึ่งผมได้เรียนให้กับผู้อ่านทราบหลายครั้งแล้วว่า แบ็คลิงค์สามารถทำอันดับได้ แต่กูเกิลมองเป็นปัจจัยรอง และให้เชื่อเถอะว่าหากเว็บเหล่านั้นทำอันดับด้วยลิงค์เพียวๆ เว็บของเขาต้องมี Time Line ในการทำอันดับค่อนข้างยาวนาน และใช้จำนวนลิงค์จากเว็บที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโพสเว็บบอร์ด โพสเว็บประกาศ โพสบทความบนบล็อกฟรี หรือแม้แต่โพสบทความบนเว็บโซเชียล และอาจจะใช้เครื่องมือ หรือมีทีมงานหลายคนช่วยกันเพิ่มลิงค์และใช้เทคนิคสารพัด แล้วเมื่อติดอันดับจะสรุปว่าใช้เทคนิคอะไรดีละ ผมสรุปให้ละกัน เทคนิคสร้างลิงค์แบบมั่วๆ ยำลิงค์ให้มากที่สุด แน่นอนมันทำอันดับได้ แต่ความเสี่ยงสูงมากที่จะโดน Google ลงโทษ เพราะการสร้างลิงค์โดยไม่สนใจคุณภาพและไม่มีการคัดกรองเว็บที่มีคุณภาพมาสร้างลิงค์นั้น อาจส่งผลเสียในระยะยาวอย่างแน่นอน ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ที่กูเกิลจะแจ้งผ่าน Webmaster Tools ว่ามีลิงค์ขาเข้าผิดปกติและไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับเว็บโดนทำโทษแบบ Manual Action แล้วนั่นเอง ซึ่งผมอยากให้ผู้อ่านสร้างแบ็คลิงค์จากหน้าเว็บที่คัดกรองมาแล้วว่ามีคุณภาพ และเว็บเหล่านั้นมีเนื้อหาหลัก และคีย์เวิร์ดหลักสอดคล้องกับเว็บไซต์ของเราด้วย และพยายามอย่าสร้างลิงค์กับเว็บที่มีลักษณะโพสบทความซ้ำๆ Duplicate Content หรือเว็บที่มีการโพสบทความน้อยๆ โดยเน้นการแทรกลิงค์เป็นหลัก เพราะกูเกิลจะมองว่าเป็นการ Spam Contents เพื่อสร้าง Spam Links ซึ่งอาจส่งผลเสียมากกว่าดีต่อเว็บของเราอย่างแน่นอน
ลิงค์แบบไหนจะทำอันดับอย่างมีประสิทธิภาพ

  แม้ว่าการเขียนบทความคุณภาพเป็นมิตรกับผู้อ่านจะสามารถทำอันดับบน SERPs ได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันว่ากูเกิลลดความสำคัญของ Links Signal ในการจัดอันดับ การเขียนบทความคุณภาพอาจไม่เพียงพอต่อการทำให้เว็บมีอันดับขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องทำการ Optimize Page แต่ละหน้าให้สนับสนุนคีย์เวิร์ดเป้าหมาย แน่นอนถ้าคุณเป็นเว็บไซต์เกิดใหม่ ก็ต้องมองไปที่การติดอันดับ Niche Keywords แต่อย่างได้ประมาณคีย์เวิร์ดเฉ
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องบริการ SEO รับโปรโมทเว็บติดหน้าแรก Google
บริการ SEO รับโปรโมทเว็บติดหน้าแรก Google
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: SEO
อ้างจาก: บริการ SEOบริการ SEO รับโปรโมทเว็บติดหน้าแรก Google
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 062-363-9429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#30
บริการ SEO รับโปรโมทเว็บติดหน้าแรก Google

แลกเปลี่ยนความรู้บริการ SEO รับโปรโมทเว็บติดหน้าแรก Google อ่านบทความที่ได้รับความนิยมเกี่ยวกับบริการ SEOทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้จากบทความนี้ครับ Google แจ้งว่าจะอัพเดท Penguin Algorithm เร็วๆนี้
นักทำ SEO หลายคนคงรอคอยระบบ Google Penguin Algorithm อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ เพราะนับตั้งแต่มีการอัพเดท Penguin 3.0 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางกูเกิลได้หยุดปรับปรุงระบบอัลกอริทึมขนาดใหญ่ เป้าหมายเพื่อกำจัดเว็บสแปม และ SEO Black Hat ให้หมดไป การอัพเดทระบบ Penguin 4.0 ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นการทำงานแบบเรียลไทม์เต็มรูปแบบ รวมทั้ง Panda 4.2 ก็จะทำงานแบบเรียลไทม์ด้วยเช่นเดียวกัน
เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยงแปลงบริการ SEO

  แน่นอนว่าเมื่อ Google ยังไม่ได้อัพเดท Penguin 4.0 เราก็จะไม่ทราบกระบวนการทำงานของระบบอัลกอริทึมเพนกวิ้นรุ่นใหม่ ว่าจะมีการทำงานเป็นอย่างไร และมีประสิทธิมากน้อยแค่ไหน กับการจัดการกับ Spam Links ทั้งหลาย ที่เราเห็นกันเกลื่อนตามเว็บที่เปิดให้สมัครใช้งานฟรี ไม่ว่าจะเป็นเว็บบอร์ดฟรี เว็บประกาศฟรี บล็อกฟรี ล้วนแต่มีนักทำ SEO ทั้งมือใหม่ มือเก๋า ไปใช้บริการเพื่อสร้างสแปมลิงค์กันเป็นว่าเล่น แถมยังมีอันดับที่ดีอีกด้วย ต้องรอดูว่าการอัพเดทระบบอัลกอริทึมเวอร์ชั่นใหม่นี้จะเป็นอย่างไร หลังจากที่นักทำ SEO ทั่วโลก รอคอยการพัฒนามากว่า 14 เดือน เมื่อรวมระยะเวลาการอัพเดทครั้งสุดท้าย จนถึงการอัพเดทอีกครั้ง

  อัลกอริทึมรุ่นใหม่ต้องดีกว่ารุ่นเก่า Google Penguin 4.0 น่าจะมีการเพิ่มความสามารถในการจัดการกับ Links ไม่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับ Network ส่วนตัวที่ไม่มีคุณภาพ และการลงโทษเว็บที่มีลักษณะเป็น Content Farm เพื่อลดจำนวนลิงค์ขยะที่มีอยู่จำนวนมาก จากการจงใจสร้างสแปมลิงค์โดยนักทำ SEO สายดำ สายเทา ทั้งหลาย ที่มักจะทดลองวิธีการ Spam Contents และ Spam Links รูปแบบใหม่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากกูเกิล ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน กูเกิลได้ปล่อยอัลกอริทึมตัวใหม่ภายใต้ชื่อ Hack Sites Algorithm เป็นอัลกอริทึมสำหรับจัดการกับเว็บไซต์ที่โดน Hacker ทำการแฮกเพื่อสร้างลิงค์กลับไปยังเว็บเป้าหมาย ซึ่งก็คือ SAPE Network อันโด่งดัง ที่ชาวรัสเซียเป็นคนต้นคิดนั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อก่อนกูเกิลจัดการกับ Network ส่วนตัวเหล่านี้ ด้วยการลบออกจากผลการค้นหาแบบ Manual ซึ่งยุ่งยากและใช้เวลานาน อีกทั้งนักทำ SEO ก็สร้างลิงค์จากเว็บใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่ออัลกอริทึมตัวนี้ออกมา เรียกได้ว่าจบเกมส์สำหรับนักทำ SEO ที่ใช้เทคนิคนี้ก็ว่าได้ แน่นอนว่าอัลกอริทึมดังกล่าวจะทำงานร่วมกับ Googel Penguin 4.0 ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัด Spam Network ได้ดียิ่งขึ้น

  การทำงานแบบ Real Time จะสามารถกำจัดลิงค์ขยะรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นักทำ SEO หลายคนอาจมองว่าการ Update Penguin จะสามารถทำอันดับได้เร็วยิ่งขึ้น เพราะการนับคะแนนเป็นแบบเรียลไทม์ ซึ่งผมคิดว่ากูเกิลเขาคงอ่านเกมส์มาตั้งแต่แรกแล้วว่าการทำให้อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ อาจเป็นช่องทางให้บรรดานักทำ SEO สายดำ สามารถแทรกแซงการจัดอันดับของกูเกิล จนทำให้การจัดอันดับไม่มีความน่าเชื่อถือต่อผู้ใช้งาน และระยะเวลาที่กูเกิลได้พัฒนาอัลกอริทึค่อนข้างยาวนานนั้น น่าจะสามารถรับมือกับเทคนิคที่ไม่ถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน เพราะอย่าลืมว่าเมื่ออัลกอริทึมทำงานแบบเรียลไมท์ นับคะแนนลิงค์อย่างรวดเร็ว การทำโทษหรือที่เรียกว่า Google Penalty ก็จะทำงานอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการทำตามกฎของกูเกิลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ทำไมกูเกิลให้ความสำคัญกับ Google Penguin

  หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไม Google จึงให้ความสำคัญกับ Penguin Algorithm และใช้เวลาพัฒนา ปรับปรุง ค่อนข้างนาน แน่นอนว่ากูเกิลได้ลดความสำคัญของลิงค์ลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกการใช้ลิงค์ในการให้คะแนนเว็บที่มีลิงค์คุณภาพ ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่าระบบการจัดอันดับกูเกิลในปัจจุบัน มีการใช้เทคโนโลยี RankBrain ที่เป็นระบบ AI (Artificail Intelligence) ประมาณ 15% ของการ Query ข้อมูลแสดงต่อผู้ใช้งาน และอัลกอริทึมดังกล่าวมีลักษณะการทำงานเหมือนกับ Google Hummingbird Algorithm และทำงานเป็นปัจจัยที่สาม ซึ่งกูเกิลอาจจะนำมาคัดกรองคุณภาพอีกรอบ หลังจากที่มีการ Query ข้อมูลจาก Core Algorithm แล้ว นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาก็ยังไม่สำคัญเท่ากับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน และสถิติของเว็บไซต์ที่เกิดจากผู้ใช้งาน ค่าเหล่านี้มีผลต่อการจัดอันดับค่อนข้างสูง เพราะเป็นค่าที่มาจากคนจริงๆ ไม่สามารถสร้างหรือดัดแปลงเพื่อหลอกกูเกิลได้นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นแม้การทำอันดับ Google ด้วยการสร้าง Links มันจะถูกลดความสำคัญลง แต่มันก็สามารถทำอันดับได้ เพียงแต่อาจต้องใช้ลิงค์คุณภาพจำนวนมากพอที่กูเกิลจะมองว่ามีคุณภาพ ข้อสังเกตุอีกประการหนึ่งคือ การสร้างลิงค์คุณภาพจะทำให้เกิด Referral Traffic คุณภาพด้วยเช่นกัน และทราฟฟิคก็เป็นตัว Drive อันดับ SEO ที่มีประสิทธิภาพ พูดง่ายๆ คือ หากเราเขียนบทความคุณภาพแล้วชี้ลิงค์ไปยังเว็บหลัก เมื่อมีคนคลิกเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์หลัก Google ก็จะเข้าใจว่าทราฟฟิคดังกล่าวมาจากเว็บไหน หน้าไหน บทความมีความสอดคล้องกันหรือไม่ ถ้ามีคุณภาพทราฟฟิคนั้นก็จะมีคุณภาพในสายตากูเกิลด้วย อย่างไรก็ตามการจะตรวจสอบดูว่าทราฟฟิคไหนมีคุณภาพ Google ก็จะตรวจสอบจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานนั่นเอง
การสร้างลิงค์แบบไหนจะถูกใจ Penguin ตัวใหม่

  ระบบ Google Penguin 4.0 มีความสามารถในการจัดการและลงโทษ Bad Links ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเวลายาวนานหลายปีที่กูเกิลพัฒนาระบบ Algorithm ใหม่ๆ เพื่อต่อสู้กับ Content Farms และ Spam Links ทั้งหลาย ทุกครั้งที่กูเกิลทำการอัพเดทระบเพนกวิ้น เราจะเห็นว่าเว็บด้อยคุณภาพทั้งหลายจะลดลงอย่างมาก และทำให้มีเว็บคุณภาพแสดงบนผลการค้นหามากยิ่งขึ้น โดย Google ต้องการจะลงโทษกับการทำ SEO Black Hat ทุกรูปแบบ และพยายามไม่ให้นักทำ SEO สายดำเข้ามาแทรกแซงการจัดอันดับที่มีคุณภาพของกูเกิล อันที่จริงอาจกล่าวได้ว่า ถ้าไม่มีนักทำ SEO สายดำ สายเทา หรือนักการตลาดที่มุ่งแต่จะสร้างลิงค์ขยะ ผลการค้นหา SERPs ของกูเกิลจะยิ่งน่าเชื่อถือมากๆ โดยที่ไม่ต้องพัฒนา Penguin Algorithm ด้วยซ้ำ แต่อย่างว่าเมื่อมีคนที่จะหาประโยชน์จากกูเกิลในเชิงด้อยคุณภาพ Google ก็ต้องพยายามไม่ให้พวกเขาเหล่านั้น สามารถมีตัวตนบน Google Search โดยกูเกิลก็มีกฎระเบียบ ข้อบังคับให้ Webmasters ปฏิบัติตามอยู่แล้ว ถ้าหากทำตามกฎของกูเกิล การทำอันดับไม่ยากอย่างแน่นอน เพราะถ้าทำเว็บคุณภาพมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ทุกอย่างจะตามมาเอง
เรายังสามารถใช้ Network ส่วนตัวทำอันดับได้หรือไม่

  ตั้งแต่กูเกิลทำการ Update Algorithm อย่าง Penguin 3.0 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นักทำ SEO ส่วนใหญ่ที่ใช้ Wordpress ในการสร้างเน็ตเวิร์คเพื่อทำอันดับกูเกิล โดน Google Penalty และโดนแบนกันเป็นว่าเล่น นักทำ SEO ส่วนใหญ่จึงหันไปสร้างลิงค์จากเว็บบอร์ด เว็บประกาศ บล็อกฟรี และโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยหลีกเลี่ยงการสร้างลิงค์ด้วย PBN (Private Blog Network) เพราะกลัวโดนกูเกิลเก็บ เพราะต้นทุนในการซื้อ Domain Name และ SEO Hosting ไม่ใช่ราคาถูก ถ้าหากโดนแบนที เงินทุนก็อาจหายไปกับตาได้ง่ายๆ เลย อย่างไรก็ตามหากเรามุ่งมั่นที่จะสร้าง Network ส่วนตัวให้มีคุณภาพ ไม่ว่า Algorithm ไหนก็สามารถทำอันดับได้ และไม่โดนทำโทษอย่างแน่นอน ยิ่งทำให้เน็ตเวิร์คมีคุณภาพมากเท่าไหร่ ความยั่งยืนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งที่จะบ่งบอกว่าเว็บไหนมีคุณภาพหรือไม่ ก็คือ การสร้าง Content นั่นเอง หากต้องการทำให้เน็ตเวิร์คส่วนตัวมีคุณภาพก็ต้องพยายามเขียนบทความที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และบทความจะต้องไม่ซ้ำกับเว็บอื่น ซึ่งนักทำ SEO มือใหม่อาจไม่เข้าใจว่า คำว่าไม่ซ้ำกับเว็บอื่น นั้น รวมไปถึงเว็บของตัวเองที่มี Domain Name แตกต่างกันด้วยนั่นเอง และนักทำ SEO ส่วนใหญ่จะใช้ Wordpress ในการขับเคลื่อนอันดับเอสอีโอ ซึ่งปัจจุบันเราก็สามารถใช้เวิร์ดเพลสมาทำเว็บเน็ตเวิร์คส่วนตัวได้ ขอแค่เน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ รับรองว่าไม่โดนกูเกิลแบนอย่างแน่นอน
Google Penguin ทำงานเรียลไทม์ไม่ได้หมายถึงทำอันดับง่าย

  การที่กูเกิลอัพเดทอัลกอริทึม Google Penguin แบบเรียลไทม์ไม่ได้หมายความว่าการทำอันดับ SEO จะง่ายนะครับ การที่อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ก็อาจมีการให้คะแนนลิงค์ได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็จะตัดคะแนนลิงค์ไม่มีคุณภาพรวดเร็วขึ้นเช่นกัน การทำ SEO ที่ไม่มีคุณภาพ ยังไงก็โดน Google Penalty และโดนทำโทษ แบนเว็บเร็วขึ้นด้วย แบบว่ามาเร็ว เคลมเร็ว ยังไงยังงั้น แม้ว่า Penguin Algorithm จะเป็น Core Algorithm ในการจัดอันดับบน SERPs แต่อย่าลืมว่ากูเกิลพัฒนาอัลกอริทึมหลักหลายตัวช่วยในการจัดอันดับให้มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น Google Panda , Google Hummingbird , Doorway Page Algorithm , Google Pigeon , Hack Sites Algorithm และอื่นๆ อีกที่มีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน ทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งแม้ว่าเพนกวิ้นอัลกอริทึมจะทำงานแบบเรียลไทม์ก็ไม่สามารถการัณตีได้ว่าเราจะทำอันดับได้ง่าย เพราะกูเกิลไม่ได้พัฒนาอัลกอริทึมให้นักทำ SEO ทำอันดับได้ง่ายอยู่แล้วนั่นเอง นอกจากนี้กูเกิลยังให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานมาเป็นอันดับแรก ต่อให้คุณมีลิงค์คุณภาพเข้าสู่เว็บหลักมาแค่ไหน ถ้าสถิติออกมาว่าคนไม่ชอบเว็บคุณ กูเกิลก็จะไม่ขอบตามไปด้วย เพราะกูเกิลเชื่อ Ranking Signal ที่มาจาก Humans นั่นเอง นั่นยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า ถ้าคุณอยากให้เว็บมีคุณภาพในสายตาของกูเกิล คุณก็ต้องสร้างลิงค์คุณภาพควบคู่กับการหาทราฟฟิคคุณภาพเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณด้วย แน่นอนว่านักทำ SEO ส่วนใหญ่สามารถสร้างลิงค์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ และเข้าใจลิงค์แต่ละประเภทเป็นอย่างดี ขึ้นอยู่กับจะสร้าง Content ที่มีคุณภาพต่อผู้อ่านมากน้อยแค่ไหน และต่อให้มีการสร้างลิงค์คุณภาพจำนวนมากๆ ก็ยังไม่สามารถการัณตีอันดับที่แน่นอนได้เหมือนในอดีต เพราะปัจจัยการคำนวณการจัดอันดับของ Google ในยุคนี้ มีมากมายและส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่การให้คนมาเป็นคนตัดสินคุณภาพของเว็บไซต์ ไม่ใช่จำนวนลิงค์เหมือนในอดีต แน่นอนว่าหากคุณเห็นเว็บติดอันดับต้นๆ ด้วยแบ็คลิงค์จำนวนมาก ยังทำอันดับได้ ซึ่งผมได้เรียนให้กับผู้อ่านทราบหลายครั้งแล้วว่า แบ็คลิงค์สามารถทำอันดับได้ แต่กูเกิลมองเป็นปัจจัยรอง และให้เชื่อเถอะว่าหากเว็บเหล่านั้นทำอันดับด้วยลิงค์เพียวๆ เว็บของเขาต้องมี Time Line ในการทำอันดับค่อนข้างยาวนาน และใช้จำนวนลิงค์จากเว็บที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโพสเว็บบอร์ด โพสเว็บประกาศ โพสบทความบนบล็อกฟรี หรือแม้แต่โพสบทความบนเว็บโซเชียล และอาจจะใช้เครื่องมือ หรือมีทีมงานหลายคนช่วยกันเพิ่มลิงค์และใช้เทคนิคสารพัด แล้วเมื่อติดอันดับจะสรุปว่าใช้เทคนิคอะไรดีละ ผมสรุปให้ละกัน เทคนิคสร้างลิงค์แบบมั่วๆ ยำลิงค์ให้มากที่สุด แน่นอนมันทำอันดับได้ แต่ความเสี่ยงสูงมากที่จะโดน Google ลงโทษ เพราะการสร้างลิงค์โดยไม่สนใจคุณภาพและไม่มีการคัดกรองเว็บที่มีคุณภาพมาสร้างลิงค์นั้น อาจส่งผลเสียในระยะยาวอย่างแน่นอน ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ที่กูเกิลจะแจ้งผ่าน Webmaster Tools ว่ามีลิงค์ขาเข้าผิดปกติและไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับเว็บโดนทำโทษแบบ Manual Action แล้วนั่นเอง ซึ่งผมอยากให้ผู้อ่านสร้างแบ็คลิงค์จากหน้าเว็บที่คัดกรองมาแล้วว่ามีคุณภาพ และเว็บเหล่านั้นมีเนื้อหาหลัก และคีย์เวิร์ดหลักสอดคล้องกับเว็บไซต์ของเราด้วย และพยายามอย่าสร้างลิงค์กับเว็บที่มีลักษณะโพสบทความซ้ำๆ Duplicate Content หรือเว็บที่มีการโพสบทความน้อยๆ โดยเน้นการแทรกลิงค์เป็นหลัก เพราะกูเกิลจะมองว่าเป็นการ Spam Contents เพื่อสร้าง Spam Links ซึ่งอาจส่งผลเสียมากกว่าดีต่อเว็บของเราอย่างแน่นอน
ลิงค์แบบไหนจะทำอันดับอย่างมีประสิทธิภาพ

  แม้ว่าการเขียนบทความคุณภาพเป็นมิตรกับผู้อ่านจะสามารถทำอันดับบน SERPs ได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันว่ากูเกิลลดความสำคัญของ Links Signal ในการจัดอันดับ การเขียนบทความคุณภาพอาจไม่เพียงพอต่อการทำให้เว็บมีอันดับขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องทำการ Optimize Page แต่ละหน้าให้สนับสนุนคีย์เวิร์ดเป้าหมาย แน่นอนถ้าคุณเป็นเว็บไซต์เกิดใหม่ ก็ต้องมองไปที่การติดอันดับ Niche Keywords แต่อย่างได้ประมาณคีย์เวิร์ดเฉ
ภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องบริการ SEO รับโปรโมทเว็บติดหน้าแรก Google
บริการ SEO รับโปรโมทเว็บติดหน้าแรก Google
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: SEO
อ้างจาก: บริการ SEOบริการ SEO รับโปรโมทเว็บติดหน้าแรก Google
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 062-363-9429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#31
บริการ SEO

บริการ SEO หากคุณกำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบริการ SEOทำความเข้าใจอย่างกระจ่างจากบทความดังต่อไปนี้ Google แจ้งว่าจะอัพเดท Penguin Algorithm เร็วๆนี้
นักทำ SEO หลายคนคงรอคอยระบบ Google Penguin Algorithm อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ เพราะนับตั้งแต่มีการอัพเดท Penguin 3.0 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางกูเกิลได้หยุดปรับปรุงระบบอัลกอริทึมขนาดใหญ่ เป้าหมายเพื่อกำจัดเว็บสแปม และ SEO Black Hat ให้หมดไป การอัพเดทระบบ Penguin 4.0 ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นการทำงานแบบเรียลไทม์เต็มรูปแบบ รวมทั้ง Panda 4.2 ก็จะทำงานแบบเรียลไทม์ด้วยเช่นเดียวกัน
เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยงแปลงบริการ SEO

  แน่นอนว่าเมื่อ Google ยังไม่ได้อัพเดท Penguin 4.0 เราก็จะไม่ทราบกระบวนการทำงานของระบบอัลกอริทึมเพนกวิ้นรุ่นใหม่ ว่าจะมีการทำงานเป็นอย่างไร และมีประสิทธิมากน้อยแค่ไหน กับการจัดการกับ Spam Links ทั้งหลาย ที่เราเห็นกันเกลื่อนตามเว็บที่เปิดให้สมัครใช้งานฟรี ไม่ว่าจะเป็นเว็บบอร์ดฟรี เว็บประกาศฟรี บล็อกฟรี ล้วนแต่มีนักทำ SEO ทั้งมือใหม่ มือเก๋า ไปใช้บริการเพื่อสร้างสแปมลิงค์กันเป็นว่าเล่น แถมยังมีอันดับที่ดีอีกด้วย ต้องรอดูว่าการอัพเดทระบบอัลกอริทึมเวอร์ชั่นใหม่นี้จะเป็นอย่างไร หลังจากที่นักทำ SEO ทั่วโลก รอคอยการพัฒนามากว่า 14 เดือน เมื่อรวมระยะเวลาการอัพเดทครั้งสุดท้าย จนถึงการอัพเดทอีกครั้ง

  อัลกอริทึมรุ่นใหม่ต้องดีกว่ารุ่นเก่า Google Penguin 4.0 น่าจะมีการเพิ่มความสามารถในการจัดการกับ Links ไม่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับ Network ส่วนตัวที่ไม่มีคุณภาพ และการลงโทษเว็บที่มีลักษณะเป็น Content Farm เพื่อลดจำนวนลิงค์ขยะที่มีอยู่จำนวนมาก จากการจงใจสร้างสแปมลิงค์โดยนักทำ SEO สายดำ สายเทา ทั้งหลาย ที่มักจะทดลองวิธีการ Spam Contents และ Spam Links รูปแบบใหม่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากกูเกิล ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน กูเกิลได้ปล่อยอัลกอริทึมตัวใหม่ภายใต้ชื่อ Hack Sites Algorithm เป็นอัลกอริทึมสำหรับจัดการกับเว็บไซต์ที่โดน Hacker ทำการแฮกเพื่อสร้างลิงค์กลับไปยังเว็บเป้าหมาย ซึ่งก็คือ SAPE Network อันโด่งดัง ที่ชาวรัสเซียเป็นคนต้นคิดนั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อก่อนกูเกิลจัดการกับ Network ส่วนตัวเหล่านี้ ด้วยการลบออกจากผลการค้นหาแบบ Manual ซึ่งยุ่งยากและใช้เวลานาน อีกทั้งนักทำ SEO ก็สร้างลิงค์จากเว็บใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่ออัลกอริทึมตัวนี้ออกมา เรียกได้ว่าจบเกมส์สำหรับนักทำ SEO ที่ใช้เทคนิคนี้ก็ว่าได้ แน่นอนว่าอัลกอริทึมดังกล่าวจะทำงานร่วมกับ Googel Penguin 4.0 ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัด Spam Network ได้ดียิ่งขึ้น

  การทำงานแบบ Real Time จะสามารถกำจัดลิงค์ขยะรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นักทำ SEO หลายคนอาจมองว่าการ Update Penguin จะสามารถทำอันดับได้เร็วยิ่งขึ้น เพราะการนับคะแนนเป็นแบบเรียลไทม์ ซึ่งผมคิดว่ากูเกิลเขาคงอ่านเกมส์มาตั้งแต่แรกแล้วว่าการทำให้อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ อาจเป็นช่องทางให้บรรดานักทำ SEO สายดำ สามารถแทรกแซงการจัดอันดับของกูเกิล จนทำให้การจัดอันดับไม่มีความน่าเชื่อถือต่อผู้ใช้งาน และระยะเวลาที่กูเกิลได้พัฒนาอัลกอริทึค่อนข้างยาวนานนั้น น่าจะสามารถรับมือกับเทคนิคที่ไม่ถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน เพราะอย่าลืมว่าเมื่ออัลกอริทึมทำงานแบบเรียลไมท์ นับคะแนนลิงค์อย่างรวดเร็ว การทำโทษหรือที่เรียกว่า Google Penalty ก็จะทำงานอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการทำตามกฎของกูเกิลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ทำไมกูเกิลให้ความสำคัญกับ Google Penguin

  หลายๆ คนอาจสงสัยว่าทำไม Google จึงให้ความสำคัญกับ Penguin Algorithm และใช้เวลาพัฒนา ปรับปรุง ค่อนข้างนาน แน่นอนว่ากูเกิลได้ลดความสำคัญของลิงค์ลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกการใช้ลิงค์ในการให้คะแนนเว็บที่มีลิงค์คุณภาพ ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่าระบบการจัดอันดับกูเกิลในปัจจุบัน มีการใช้เทคโนโลยี RankBrain ที่เป็นระบบ AI (Artificail Intelligence) ประมาณ 15% ของการ Query ข้อมูลแสดงต่อผู้ใช้งาน และอัลกอริทึมดังกล่าวมีลักษณะการทำงานเหมือนกับ Google Hummingbird Algorithm และทำงานเป็นปัจจัยที่สาม ซึ่งกูเกิลอาจจะนำมาคัดกรองคุณภาพอีกรอบ หลังจากที่มีการ Query ข้อมูลจาก Core Algorithm แล้ว นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาก็ยังไม่สำคัญเท่ากับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน และสถิติของเว็บไซต์ที่เกิดจากผู้ใช้งาน ค่าเหล่านี้มีผลต่อการจัดอันดับค่อนข้างสูง เพราะเป็นค่าที่มาจากคนจริงๆ ไม่สามารถสร้างหรือดัดแปลงเพื่อหลอกกูเกิลได้นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นแม้การทำอันดับ Google ด้วยการสร้าง Links มันจะถูกลดความสำคัญลง แต่มันก็สามารถทำอันดับได้ เพียงแต่อาจต้องใช้ลิงค์คุณภาพจำนวนมากพอที่กูเกิลจะมองว่ามีคุณภาพ ข้อสังเกตุอีกประการหนึ่งคือ การสร้างลิงค์คุณภาพจะทำให้เกิด Referral Traffic คุณภาพด้วยเช่นกัน และทราฟฟิคก็เป็นตัว Drive อันดับ SEO ที่มีประสิทธิภาพ พูดง่ายๆ คือ หากเราเขียนบทความคุณภาพแล้วชี้ลิงค์ไปยังเว็บหลัก เมื่อมีคนคลิกเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์หลัก Google ก็จะเข้าใจว่าทราฟฟิคดังกล่าวมาจากเว็บไหน หน้าไหน บทความมีความสอดคล้องกันหรือไม่ ถ้ามีคุณภาพทราฟฟิคนั้นก็จะมีคุณภาพในสายตากูเกิลด้วย อย่างไรก็ตามการจะตรวจสอบดูว่าทราฟฟิคไหนมีคุณภาพ Google ก็จะตรวจสอบจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานนั่นเอง
การสร้างลิงค์แบบไหนจะถูกใจ Penguin ตัวใหม่

  ระบบ Google Penguin 4.0 มีความสามารถในการจัดการและลงโทษ Bad Links ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเวลายาวนานหลายปีที่กูเกิลพัฒนาระบบ Algorithm ใหม่ๆ เพื่อต่อสู้กับ Content Farms และ Spam Links ทั้งหลาย ทุกครั้งที่กูเกิลทำการอัพเดทระบเพนกวิ้น เราจะเห็นว่าเว็บด้อยคุณภาพทั้งหลายจะลดลงอย่างมาก และทำให้มีเว็บคุณภาพแสดงบนผลการค้นหามากยิ่งขึ้น โดย Google ต้องการจะลงโทษกับการทำ SEO Black Hat ทุกรูปแบบ และพยายามไม่ให้นักทำ SEO สายดำเข้ามาแทรกแซงการจัดอันดับที่มีคุณภาพของกูเกิล อันที่จริงอาจกล่าวได้ว่า ถ้าไม่มีนักทำ SEO สายดำ สายเทา หรือนักการตลาดที่มุ่งแต่จะสร้างลิงค์ขยะ ผลการค้นหา SERPs ของกูเกิลจะยิ่งน่าเชื่อถือมากๆ โดยที่ไม่ต้องพัฒนา Penguin Algorithm ด้วยซ้ำ แต่อย่างว่าเมื่อมีคนที่จะหาประโยชน์จากกูเกิลในเชิงด้อยคุณภาพ Google ก็ต้องพยายามไม่ให้พวกเขาเหล่านั้น สามารถมีตัวตนบน Google Search โดยกูเกิลก็มีกฎระเบียบ ข้อบังคับให้ Webmasters ปฏิบัติตามอยู่แล้ว ถ้าหากทำตามกฎของกูเกิล การทำอันดับไม่ยากอย่างแน่นอน เพราะถ้าทำเว็บคุณภาพมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ทุกอย่างจะตามมาเอง
เรายังสามารถใช้ Network ส่วนตัวทำอันดับได้หรือไม่

  ตั้งแต่กูเกิลทำการ Update Algorithm อย่าง Penguin 3.0 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นักทำ SEO ส่วนใหญ่ที่ใช้ Wordpress ในการสร้างเน็ตเวิร์คเพื่อทำอันดับกูเกิล โดน Google Penalty และโดนแบนกันเป็นว่าเล่น นักทำ SEO ส่วนใหญ่จึงหันไปสร้างลิงค์จากเว็บบอร์ด เว็บประกาศ บล็อกฟรี และโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยหลีกเลี่ยงการสร้างลิงค์ด้วย PBN (Private Blog Network) เพราะกลัวโดนกูเกิลเก็บ เพราะต้นทุนในการซื้อ Domain Name และ SEO Hosting ไม่ใช่ราคาถูก ถ้าหากโดนแบนที เงินทุนก็อาจหายไปกับตาได้ง่ายๆ เลย อย่างไรก็ตามหากเรามุ่งมั่นที่จะสร้าง Network ส่วนตัวให้มีคุณภาพ ไม่ว่า Algorithm ไหนก็สามารถทำอันดับได้ และไม่โดนทำโทษอย่างแน่นอน ยิ่งทำให้เน็ตเวิร์คมีคุณภาพมากเท่าไหร่ ความยั่งยืนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งที่จะบ่งบอกว่าเว็บไหนมีคุณภาพหรือไม่ ก็คือ การสร้าง Content นั่นเอง หากต้องการทำให้เน็ตเวิร์คส่วนตัวมีคุณภาพก็ต้องพยายามเขียนบทความที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และบทความจะต้องไม่ซ้ำกับเว็บอื่น ซึ่งนักทำ SEO มือใหม่อาจไม่เข้าใจว่า คำว่าไม่ซ้ำกับเว็บอื่น นั้น รวมไปถึงเว็บของตัวเองที่มี Domain Name แตกต่างกันด้วยนั่นเอง และนักทำ SEO ส่วนใหญ่จะใช้ Wordpress ในการขับเคลื่อนอันดับเอสอีโอ ซึ่งปัจจุบันเราก็สามารถใช้เวิร์ดเพลสมาทำเว็บเน็ตเวิร์คส่วนตัวได้ ขอแค่เน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ รับรองว่าไม่โดนกูเกิลแบนอย่างแน่นอน
Google Penguin ทำงานเรียลไทม์ไม่ได้หมายถึงทำอันดับง่าย

  การที่กูเกิลอัพเดทอัลกอริทึม Google Penguin แบบเรียลไทม์ไม่ได้หมายความว่าการทำอันดับ SEO จะง่ายนะครับ การที่อัลกอริทึมทำงานเรียลไทม์ก็อาจมีการให้คะแนนลิงค์ได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็จะตัดคะแนนลิงค์ไม่มีคุณภาพรวดเร็วขึ้นเช่นกัน การทำ SEO ที่ไม่มีคุณภาพ ยังไงก็โดน Google Penalty และโดนทำโทษ แบนเว็บเร็วขึ้นด้วย แบบว่ามาเร็ว เคลมเร็ว ยังไงยังงั้น แม้ว่า Penguin Algorithm จะเป็น Core Algorithm ในการจัดอันดับบน SERPs แต่อย่าลืมว่ากูเกิลพัฒนาอัลกอริทึมหลักหลายตัวช่วยในการจัดอันดับให้มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น Google Panda , Google Hummingbird , Doorway Page Algorithm , Google Pigeon , Hack Sites Algorithm และอื่นๆ อีกที่มีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน ทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งแม้ว่าเพนกวิ้นอัลกอริทึมจะทำงานแบบเรียลไทม์ก็ไม่สามารถการัณตีได้ว่าเราจะทำอันดับได้ง่าย เพราะกูเกิลไม่ได้พัฒนาอัลกอริทึมให้นักทำ SEO ทำอันดับได้ง่ายอยู่แล้วนั่นเอง นอกจากนี้กูเกิลยังให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานมาเป็นอันดับแรก ต่อให้คุณมีลิงค์คุณภาพเข้าสู่เว็บหลักมาแค่ไหน ถ้าสถิติออกมาว่าคนไม่ชอบเว็บคุณ กูเกิลก็จะไม่ขอบตามไปด้วย เพราะกูเกิลเชื่อ Ranking Signal ที่มาจาก Humans นั่นเอง นั่นยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า ถ้าคุณอยากให้เว็บมีคุณภาพในสายตาของกูเกิล คุณก็ต้องสร้างลิงค์คุณภาพควบคู่กับการหาทราฟฟิคคุณภาพเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณด้วย แน่นอนว่านักทำ SEO ส่วนใหญ่สามารถสร้างลิงค์ได้อย่างหลากหลายรูปแบบ และเข้าใจลิงค์แต่ละประเภทเป็นอย่างดี ขึ้นอยู่กับจะสร้าง Content ที่มีคุณภาพต่อผู้อ่านมากน้อยแค่ไหน และต่อให้มีการสร้างลิงค์คุณภาพจำนวนมากๆ ก็ยังไม่สามารถการัณตีอันดับที่แน่นอนได้เหมือนในอดีต เพราะปัจจัยการคำนวณการจัดอันดับของ Google ในยุคนี้ มีมากมายและส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่การให้คนมาเป็นคนตัดสินคุณภาพของเว็บไซต์ ไม่ใช่จำนวนลิงค์เหมือนในอดีต แน่นอนว่าหากคุณเห็นเว็บติดอันดับต้นๆ ด้วยแบ็คลิงค์จำนวนมาก ยังทำอันดับได้ ซึ่งผมได้เรียนให้กับผู้อ่านทราบหลายครั้งแล้วว่า แบ็คลิงค์สามารถทำอันดับได้ แต่กูเกิลมองเป็นปัจจัยรอง และให้เชื่อเถอะว่าหากเว็บเหล่านั้นทำอันดับด้วยลิงค์เพียวๆ เว็บของเขาต้องมี Time Line ในการทำอันดับค่อนข้างยาวนาน และใช้จำนวนลิงค์จากเว็บที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโพสเว็บบอร์ด โพสเว็บประกาศ โพสบทความบนบล็อกฟรี หรือแม้แต่โพสบทความบนเว็บโซเชียล และอาจจะใช้เครื่องมือ หรือมีทีมงานหลายคนช่วยกันเพิ่มลิงค์และใช้เทคนิคสารพัด แล้วเมื่อติดอันดับจะสรุปว่าใช้เทคนิคอะไรดีละ ผมสรุปให้ละกัน เทคนิคสร้างลิงค์แบบมั่วๆ ยำลิงค์ให้มากที่สุด แน่นอนมันทำอันดับได้ แต่ความเสี่ยงสูงมากที่จะโดน Google ลงโทษ เพราะการสร้างลิงค์โดยไม่สนใจคุณภาพและไม่มีการคัดกรองเว็บที่มีคุณภาพมาสร้างลิงค์นั้น อาจส่งผลเสียในระยะยาวอย่างแน่นอน ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ที่กูเกิลจะแจ้งผ่าน Webmaster Tools ว่ามีลิงค์ขาเข้าผิดปกติและไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับเว็บโดนทำโทษแบบ Manual Action แล้วนั่นเอง ซึ่งผมอยากให้ผู้อ่านสร้างแบ็คลิงค์จากหน้าเว็บที่คัดกรองมาแล้วว่ามีคุณภาพ และเว็บเหล่านั้นมีเนื้อหาหลัก และคีย์เวิร์ดหลักสอดคล้องกับเว็บไซต์ของเราด้วย และพยายามอย่าสร้างลิงค์กับเว็บที่มีลักษณะโพสบทความซ้ำๆ Duplicate Content หรือเว็บที่มีการโพสบทความน้อยๆ โดยเน้นการแทรกลิงค์เป็นหลัก เพราะกูเกิลจะมองว่าเป็นการ Spam Contents เพื่อสร้าง Spam Links ซึ่งอาจส่งผลเสียมากกว่าดีต่อเว็บของเราอย่างแน่นอน
ลิงค์แบบไหนจะทำอันดับอย่างมีประสิทธิภาพ

  แม้ว่าการเขียนบทความคุณภาพเป็นมิตรกับผู้อ่านจะสามารถทำอันดับบน SERPs ได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันว่ากูเกิลลดความสำคัญของ Links Signal ในการจัดอันดับ การเขียนบทความคุณภาพอาจไม่เพียงพอต่อการทำให้เว็บมีอันดับขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องทำการ Optimize Page แต่ละหน้าให้สนับสนุนคีย์เวิร์ดเป้าหมาย แน่นอนถ้าคุณเป็นเว็บไซต์เกิดใหม่ ก็ต้องมองไปที่การติดอันดับ Niche Keywords แต่อย่างได้ประมาณคีย์เวิร์ดเฉ
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องบริการ SEO
บริการ SEO
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
แท็ก: SEO
อ้างจาก: บริการ SEOบริการ SEO
หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Usชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)ที่อยู่: เชียงใหม่

เบอร์โทรติดต่อ: 062-363-9429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com
#32
ลดราคาได้อีกคลังสินค้า รับสร้างคลังสินค้า โดย thaiintermat.com ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง ระบบลำเลียง โทร 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-1845-9573 หลายท่านอยากทำความเข้าใจเกี่ยวกับคลังสินค้าทุกคำถามเรามีคำตอบ  คลังของค้าของขาย (Warehouse) คือที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของวาง สะสม พัก กระจายผลิตภัณฑ์คงคลัง คลังของค้าของขายมีชื่อเรียกได้ต่างๆ กัน อาทิ ศูนย์กระจายของค้าขาย, ศูนย์จำหน่ายของค้าขาย และโกดัง ฯลฯ คำว่าคลังของค้าขายจึงเป็นคำที่มีความหมายรวมๆ ส่วนจะเรียกว่าอะไร ก็ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันของคลังสินค้าที่ได้รับการรับรองแต่ละ Category คลังสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมที่รับ สินค้าที่ได้รับการรับรองเข้ามาทำ การคัดแยก แล้วกระจายออกไป เรียกว่า ศูนย์กระจายผลิตภัณฑ์ (Distribution Center) และกรรมวิธี ดังกล่าว เรียกว่า Cross Docking

ในขณะที่คลังสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลบางแห่งมีฟังก์ชันเพิ่มขึ้นมาคือหลัง รับสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลเข้ามาแล้ว ก็เก็บสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมไว้และทำหน้าที่จัดสรรของค้าของขายก่อนส่งมอบตามคำบังคับซื้อ จึงมีแนวปฏิบัติย่อยเสริมด้วย รับสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลเข้า สั่งสม จัดของค้าขายตามใบสั่ง Buy (Order Picking) อันเป็นแนวทาง ที่ใช้เวลาและกำลังคนสูงสุด ตรวจเช็ค หีบห่อ และจัดส่ง กล่าวคือ รับหน้าที่ในการซื้อมาขายไปไว้ด้วย จึงเรียกว่าศูนย์ซื้อมาขายไปของค้าของขาย การลด Time และวิธีการในศูนย์จัดจำหน่ายสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมทำได้ด้วย การนำวิทยาการด้านคอมพิวเตอร์ช่วยออกใบสั่ง Purchase

อย่างไรก็ตาม ข้อควรคำนึงถึงเกี่ยวกับคลังสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลยังรวมถึง ประเด็นเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของสายการสร้าง การซื้อมาขายไป และการกระจายสินค้าที่ไม่มีคลังของค้าของขายเป็นของตัวเอง ไม่ปรารถนาสร้างคลังสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมเองอาจใช้บริการเช่าคลังสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมสาธารณะ และหัวข้อเกี่ยวกับที่ซึ่งเป็นที่ตั้งตั้ง คลังของค้าขายควรตั้งในจุดที่ตอบแทน ผู้ใช้ประโยชน์ได้อย่าง ลงตัว

คลังสินค้าเป็นทั้ง Inbound และ Outbound ของวัตถุดิบและสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม ด้วยเหตุผลที่สินค้าคงคลังมีหลายกลุ่ม Input ของ คลังผลิตภัณฑ์จึงแตกต่างกันไป อาจมีจุดเริ่มต้นจากซัพพลายเออร์นำวัตถุดิบมาป้อนให้คลังของค้าของขาย หรือฝ่ายสิ่งของพัสดุนำ MRO (Maintenance Repair and Operation Supply ชิ้นส่วนเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการบำรุง ดูแลและอุปการะการสร้าง) มามอบให้ฝ่ายผลิต Manufacturer ของค้าของขายนำของค้าขายสำเร็จ ส่งเข้าคลังสินค้าที่ได้รับการรับรองและกระจายไปยัง ผู้บริโภค ฯลฯ วงจรดังกล่าวเป็น Spec ทั่วไปของของค้าขายคงคลัง ความไม่แม่นยำของอุปสงค์ทำให้ผู้ผลิตต้อง Plan และคำนวณว่า จะจัดสรรปันส่วนการสร้างเป็นสถิติเท่าใด มิตรำ สินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมคงคลังมาสร้างคุณค่า โดยการสร้างให้เป็นสินค้าที่ได้รับการรับรอง การวางแผนจะทำให้ทราบว่าควรผลิตจำนวนเท่าใดควรจัดเตรียมวัตถุดิบ แต่ละประเภทปริมาณเท่าไร ในวัตถุดิบที่มีอายุสั้นอย่างผักผลไม้ การ Plan สั่งวัตถุดิบค่อนข้างหลีกเลี่ยงไม่ได้มาก เพราะผลิตภัณฑ์ไม่มีความเป็นอิสระ มีเงื่อนไข ด้านเวลาเป็นข้อ Limit หากปรารถนาอย่างแรงกล้าให้อิสระอาจนำเข้าห้องเย็น แต่เป็นการเพิ่ม ต้นทุน การทราบอุปสงค์ทำให้ได้ Data ของวัตถุดิบที่สินค้าคงคลังส่งผลเป็นประจำต่อระบบการผลิตและจำหน่ายสินค้า คลังสินค้ามีขาดไม่ได้ในแง่ที่เป็นทั้งทางเข้าและทางออกของ Raw Material ไปจนถึงสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมสำเร็จรูป สรุปก่อนการพยากรณ์ อุปสงค์ จึงสำคัญต้องเข้าใจการจัดหาวัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์ (Supply) รู้ความคิด Management Raw Material และไอเดียการกระจายสินค้า คลังของค้าขาย (Warehouse) คือ สถานที่ใช้ในการเก็บดูแลของค้าขายให้อยู่ในสภาพและคุณภาพสำหรับผู้อ่านที่พร้อมจะนำส่งมอบให้กับบริษัทที่ข้องเกี่ยวตามที่ร้องขอ โดยอาจเรียกเป็นชื่ออื่นๆ เช่น คลังผลิตภัณฑ์ (Warehouse) , โกดัง (Godown) , ที่เก็บของ (Storage) , ที่เก็บของค้าขาย (Whaft) , คลัง สิ่งของพัสดุ (Depot) , ฉางเก็บสินค้า (Silo) , แท็งค์เก็บของเหลว (Liquid Tank) , คลังทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) โดยไม่ว่าจะเรียกว่าอะไร คลังสินค้าที่ได้รับการรับรองก็จะทำหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึง คือ เป็นสถานที่เก็บดูแลของค้าของขายหรือ Raw Material หรือสิ่งของต่างๆ เพื่อส่งเสริมในกิจกรรมต่างๆของกระบวนการ Supply Chain

รูปแบบของคลังของค้าของขายแบ่งตามลักษณะทางกายภาพ (Physical) ได้เป็น
1.คลังผลิตภัณฑ์ที่มิดชิด มีกำแพง เพดาน และทางเข้า เช่น คลังสินค้าทั่วไป ซึ่งบางแห่งจะมีการสั่งการอุณหภูมิ หรือ มีการติดตั้งเครื่องทำความเย็น (Frozen Warehouse)
2.คลังของค้าขายที่มีแต่หลังคา แต่ไม่มีผนัง ใช้ในการเก็บผลิตภัณฑ์ซึ่งไม่เสียหายจากสภาวะอากาศ มักเป็นผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่และมีน้ำหนักของวัตถุ ซึ่งความเป็นไปได้ที่จะเสียหายหรือสูญหายได้ยาก
3.คลังสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลกลางแจ้ง พื้นต้องเป็นคอนกรีต มีการยกพื้น มีระบบป้องกันน้ำท่วม ไม่มีหลังคา หรือสิ่งปลูกสร้าง หากไม่มีลักษณะดังกล่าวก็ไม่ถือเป็นคลังของค้าขายกลางแจ้งแต่อาจเป็นลานวางผลิตภัณฑ์ทั่วไป คลังสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลกลางแจ้ง อาจดังเช่น ลานที่ใช้ในการเรียงกองตู้คอนเทนเนอร์ เช่น ตาม ICD หรือ ท่าเรือ หรือ สนามบิน นอก จากนี้ยังเช่น คลังสินค้าที่ได้รับการรับรองกลางแจ้ง ใช้เก็บสินค้าที่ได้รับการรับรองที่มีสัดส่วนใหญ่ หรือสินค้าที่ได้รับการรับรอง เทกอง หรือพืชไร่ แร่ธาตุต่างๆ
4.คลังของค้าขายที่เป็นถัง (Tank) หรือ สิ่งก่อตั้งอื่นๆ ที่สินค้าที่ได้รับการรับรองนำเข้าหรือเอาออก โดยขั้นตอนดูดผ่านท่อ (Pipe) เช่น คลังเก็บน้ำมัน เก็บเคมี หรือ Silo เก็บอาหารสัตว์ , สินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมการเกษตรต่างๆ
5.คลังผลิตภัณฑ์เคลื่อนที่ได้ กล่าวคือ ระวาง (Deck) ของเรือสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือเครื่องบินหรือโบกี้เก็บสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลของรถไฟหรือตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้ในการจัดส่งของค้าขายที่ใช้เป็นแหล่งเก็บสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลเพื่อรอการส่งมอบ
6.คลังเก็บ Data อิเล็กทรอนิคส์ (Data Bank) เช่น Server ที่ใช้เก็บ Data ซึ่งช่วงเวลานี้ถือเป็นของค้าของขายประเภทหนึ่ง ซึ่งสามารถส่งมอบให้ผู้ที่อยาก โดยเคล็ดลับ Down Load ผ่านเน็ตเวิร์ค Network เช่น Web site เป็นต้น

Management สินค้าคงคลัง (Inventory Management) เช่น รายการของค้าขายสำเร็จรูป , สินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมระหว่าง Manufacturing , Raw Material , วัสดุสิ้นเปลือง , สินทรัพย์สิ่งของ ซึ่งรวบยอดจะต้องมีลักษณะที่เป็นของที่สามารถโยกย้ายได้ที่เรียกว่าเป็นสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นของที่มีมูลค่าอันอาจถือกรรมสิทธิถือครองและเปลี่ยนมือความเป็นเจ้า ของได้ โดยสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลจะต้องคู่กับระบบลำเลียงและเป็นส่วนละเลยไม่ได้ที่สุดของระบบ Supply Chain Management (SCM) เพราะพันธกิจหลักของ SCM คือ การเคลื่อนย้ายส่งมอบของค้าของขายและต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ (Physical Goods) ซึ่งสินค้าที่เป็นอิเล็กโทรนิกส์ ก็จะต้องมีการเคลื่อนย้ายผ่าน Media ไม่ว่าจะเป็น Disc , Server หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของบริการจะเป็นส่วนควบที่คิดไปกับตัวสินค้า จุดมุ่งหมายหลักของใน Management Logistics คือ การสร้างความ Satisfy ต่อผู้ซื้อสินค้า ที่เรียกว่า Efficient Consumers Response หรือ ECR โดยมีต้นทุนในการทำงานในระดับ Economy Scale การที่เรากำหนดระดับสินค้าคงคลังในระดับที่มากจนเกิน พอดี อาจดูแคล้วคลาดจากอันตรายแต่ก็จะส่งผลให้ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนสูงเช่นกัน จึงต้องมีการจัดการของค้าของขายคงคลังให้เหมาะสม

รูปแบบของผลิตภัณฑ์จัดแบ่งตามภาระกิจ เพิ่มเติมไปด้วย
1.สินค้าคงคลังหรือผลิตภัณฑ์หมุนเวียน (Current Stock) เป็นการสำรองสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม เพื่อให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อความประสงค์ทั้งเพื่อการผลิตและพัฒนาและเพื่อการจัดส่งมอบให้กับลูกค้า ร่วมถึงสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลที่ผลิตได้บางฤดูเท่านั้น จึงต้องมีการผลิตและเก็บดูแลไว้ขายตลอดปี
2.สินค้าที่อยู่ระหว่างกระบวนการผลิตข้างในกระบวนการผลิตโรงงาน (Work-in-process Stock)
3.สินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมคงคลังสำรอง (Safety/Buffer) เป็นการสำรองของค้าขายซึ่งมีระยะ Time ในการจัดส่งมอบ( Lead Time) เช่นของค้าของขาย ซึ่งต้องมีการนำเข้าจากต่างท้องถิ่น
4.ของค้าขายระหว่างการขนส่ง (In-Transit) ซึ่งอยู่ในระหว่างถนนหนทางการจัดส่ง จากห้องทำงานของผู้ Sell มายังแหล่งผลิตผลิต เช่น การจัดส่งทางเรือ ซึ่งใช้ Time ขนส่งจากผู้ทำไปสู่ Customer ซึ่งอยู่คนละส่วนของทวีป หรือเก็บเยียวยาไว้ ณ คลังสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือศูนย์กระจายสินค้า การจัดส่งสิ่งของจากโรงงานไปยังผู้ใช้บริการ
5.สินค้าคงคลังสำรองของ Suppliers หรือผู้จัดส่ง เป็นสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลคงคลังสำรองที่ผู้จำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลได้เก็บสำรองไว้ให้กับ Manufacturer ( Customer ) เพื่อคุ้มครองความแปรผันของ Order ฉุกเฉินหรือปกป้อง Manufacturing ที่ไม่ทันหรือคุ้มครองการจัดส่งไม่ทัน ซึ่งถือเป็นต้นทุนของผู้แลกเปลี่ยน (Suppliers) โดยธรรมชาติก็จะมีการบวกเข้าไปในต้นทุนสินค้าที่ได้รับการรับรอง ซึ่งก็ จะกลายเป็นต้นทุนของผู้ Purchase ในที่สุด

การดำเนิน Activity ของ Supply Chain ซึ่งมี Logistics เป็นหัวใจของการจัดการจัดการมุ่งไปสู่ Just in Time ที่ต้องมีการวางระบบ Manufacturing ให้มีสมรรถภาพเชิงต้นทุนในการปรับเปลี่ยนการผลิตให้ตอบแทนต่อการแปรผันต่างๆได้ อย่างเช่นต้นทุนที่สันพันธ์กับผลิตภัณฑ์คงคลังไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป จะ มีผลต่อความสามารถใน Competition Management บริหารจัดการที่ดี โดยเฉพาะนำการบริหารจัดการแบบ Lean และนำระบบการบริหารจัดการ Data ข่าวสารที่ดี สามารถลดการลงทุน ในสินค้าที่ได้รับการรับรองคงคลังในด้าน Raw Material และสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมสำเร็จรูปโดยรวมของโซ่อุปทานได้ และ เพิ่มยอดแลกเปลี่ยนได้มากขึ้น ก็จะส่งผลให้ปริมาณส่วนการ หมุนเวียนสินค้าคงคลังสูงขึ้นและ เมื่อเกิดการลงทุนในสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลคงคลังน้อยลง ก็จะส่งผลให้ปริมาณส่วนผลตอบแทนการลงทุนสูงขึ้นได้ และต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเก็บดูแลให้ดีขึ้นถดถอยที่เรียกว่า Economy of Scale ต้นทุนการดำเนินการจึงลดลงด้วย ซึ่งนำไปสู่การตั้งราคาที่ต่ำลงได้และเกิดความสามารถในการพยายามเป็นที่หนึ่ง (Core Competency)

ประโยชน์ของคลังของค้าของขาย
1. ทำให้ต้นทุนของสินค้าที่ได้มาตรฐานสากลน้อยลง
2. เป็นการปกป้องการขาดมือของสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมที่จะแลกเปลี่ยน
3. ช่วยลดสิ่งที่กีดขวางอันจะเกิดขึ้นเนื่องด้วยการจัดส่ง
4. สามารถผลิตได้ในปริมาณเกินกว่าความต้องการตาม Season
5. ช่วยให้ได้ใช้ของค้าขายนั้นๆ ได้ทันเวลาตามประสงค์
6. ตอบแทนความต้องการของผู้บริโภค
7. ช่วยให้การผลิตและพัฒนาดำเนินไปได้โดยปกติ
8. ช่วยให้เครดิตแก่อุตสาหกรรมหรือคนขายที่มีทุนน้อย
9. ช่วยให้ราคาของค้าขายมีเสถียรภาพ
10. ช่วยเก็บพักผลิตภัณฑ์ชั่วคราวที่จะต้องส่งออกไปต่างบ้านเมืองอีกต่อหนึ่งในลักษณะของ Re-export

ขอบเขตในการทำงานคลังของค้าของขาย
1. รับฝากของค้าของขายโดยได้รับเงิน หรือเงินตอบแทน หรือประโยชน์อื่นใด
2. ให้ผู้ฝากยืมเงินโดยเอาสินค้าที่ได้รับการรับรองที่ฝากไว้นั้นจำนำไว้เป็น Insurance
3. ให้บริการด้านความเย็นเพื่อเก็บเยียวยาสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือด้วยขั้นตอนอย่างอื่นเพื่อประโยชน์ของผู้ฝาก
4. กระทำการ Purchase Sell แลกเปลี่ยน เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มเติมกิจการคลังสินค้า
5. รับมอบอำนาจจากผู้ฝากสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมให้กระทำตามแบบพิธีการของศุลกากรเกี่ยวกับการนำเข้ามาและส่งออก
6. นำเงินที่ได้รับจากการ Service ไปลงทุนหาอรรถประโยชน์

รายละเอียดการคลังของค้าขาย
รายละเอียดในการขออนุญาตดำเนินกิจการการคลังผลิตภัณฑ์
1. แบบ ค.ส. 1 ใบคำขอรับความเห็นชอบเพื่อจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทผนวกกิจการคลังสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม
2. แบบ ค.ส. 2 ใบคำขออนุมัติเพิ่มเติมกิจการคลังของค้าขาย
3. แบบ ค.ส. 3 ใบคำขอรับใบแทนใบอนุญาต
4. แบบ ค.ส. 4 ใบคำขอตอบตกลงจัดตั้งสาขาสถานประกอบการ
5. แบบ ค.ส. 5 ใบคำขอแจ้งประเภทและปริมาณของค้าขาย

บทความการรับและส่งมอบสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม
1. ใบนำส่งสินค้าที่ได้รับการรับรองเข้าเก็บในคลังสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม
2. ใบรับสินค้าที่ได้รับการรับรอง
3. ใบรับคลังสินค้า (Warehouse Receipt)
4. ใบประทวนสินค้า

เป้าหมายของคลังของค้าขาย
คลังสินค้าที่ได้รับการรับรองมีรูปแบบและวิธีการที่แตกต่างกันไป และถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนิน Activity อันเกี่ยวข้องกับการเก็บเยียวยาสินค้าที่ได้รับการรับรองสำเร็จรูป และ Raw Material เพื่อใช้ในเวลาที่ถูกต้อง อย่างไรก็ดีแม้คลังสินค้าจะมีหลายอย่างต่างๆ กันรูปแบบ แต่จะมีเป้าหมายหลักที่สำคัญที่คล้ายๆกัน ซึ่งพอรวบยอดได้เช่นนี้

1. เพื่อทำหน้าที่ดูแลระดับสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรมคงคลังให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะเจาะ
2. เพื่อช่วยเหลือ Manufacturing ให้มี Raw Material และส่วนที่เกี่ยวข้องไว้ใช้อย่างเพียงพอ
3. เพื่อทำหน้าที่ผสมผสานสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม
4. เพื่อทำหน้าที่รวมสินค้าก่อนจัดส่ง
5. เพื่อทำหน้าที่คัดแยกหีบห่อ หรือทำหน้าที่เป็นศูนย์กระจายของค้าของขาย

ประโยชน์ของคลังของค้าของขาย
คลังสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม เป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดขาย และการกระจายสินค้าที่ผลิตด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งเกี่ยวพันกับระบบของ Manufacturing และการขนส่ง ซึ่ง Factor เบ็ดเสร็จดังกล่าวจัดเป็นต้

รูปตัวอย่างคลังสินค้า รับสร้างคลังสินค้า by thaiintermat.com ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง Belt Conveyor Tel 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:09-0197-6305


คลังสินค้า บริการสร้าง ออกแบบระบบคลังสินค้า by Thaiintermat ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง ระบบลำเลียง หมายเลขโทรศัพท์ 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-1859-0978
อ้างอิงจาก: คลังสินค้า
เนื้อหาอยู่ในกลุ่ม: คลังสินค้า
อ้างจาก: คลังสินค้าคลังสินค้า รับสร้างคลังสินค้า by thaiintermat.com ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง Belt Conveyor Tel 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:09-0197-6305
ประเภทของเว็บ: สายพานลำเลียง คลังสินค้า คอนเวเยอร์ ชั้นวางสินค้า ระบบลำเลียง Racking - Conveyor - Mobile Rack - Roller Conveyor - Belt Conveyor
ผู้ลงโฆษณา: ไทยอินเตอร์แมท
Web Page: http://www.thaiintermat.com
Detail: http://www.thaiintermat.com/company.php
Contact Us: http://www.thaiintermat.com/contact.php
Page: ไทยอินเตอร์แมท
Name: THAIINTERMAT CO.,LTD.
โทรศัพท์: 02-7383580-94 Press 12 - 17 Fax : 02-738-3598 - 9
Email: marketing@thaiintermat.com
Address: 95/2 Moo14 Kingkeaw-Onnuch Rd., Rachataewa, Bangplee, Samutprakarn 10540
ประเภทงาน: ออกแบบ ผลิตและติดตั้ง ระบบจัดเก็บสินค้า และ ระบบลำเลียงสินค้า ครบวงจรเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
#33
เคล็ดลับการเลือกคุณปรีดา เจริญวัฒนา รับโปรโมทเว็บ รับทำ SEO SEO ราคาถูก โปรโมทเว็บด้วยแนวทางสายขาว เบอร์โทร AIS 087-1736064 อ่านบทความที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับรับทำ SEOศึกษาเรียนรู้เรื่องดังกล่าวจากบทความนี้ สวัสดีผู้ทรงเกียรติทุกท่านครับทุกท่านที่เข้ามาอ่าน Article เกี่ยวกับการทำการประชาสัมพันธ์ผ่านระบบออนไลน์ผ่านทาง Search Engine หรือที่เรียกว่า SEO ซึ่งเป็นคำที่ย่อมาจากคำว่า Search Engine Optimize เป็นการปรับให้เว็บช่วยเหลือและรองรับการปฏิบัติงานของเสิร์ทเอนจิ้นนั่นเองครับ การทำให้เว็บส่งเสริมเสิร์ทเอนจิ้นนั้นมีอยู่หลายกลยุทธ์และหลายแนวปฏิบัติเพราะเหตุนี้ขึ้นอยู่กับความปรารถนาของผู้สร้างและออกแบบเว็บว่ามีเทคนิคและขั้นตอนยังไง เพราะเหตุนั้นของใช้ที่ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานในการปรับให้เว็บส่งเสริม google search ก็คือ Google Webmaster Tools เป็นเครื่องใช้สอยที่ช่วยให้นักค้นคว้าพัฒนา Blog สามารถทำให้เว็บค้นหากูเกิ้ลรู้จักและรู้โครงสร้างของเว็บได้ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งเจ้าของเว็บสามารถเข้าจัดการเว็บของตนเองเพื่อให้ทำงานสัมพันธ์กับเสิร์ทเอนจิ้น และการใช้ Tool ประเภทนี้ก็จะดำเนินการให้เว็บ Index ง่ายขึ้น คำว่า อินเด็กซ์ในผลการค้นหา Search Engine Result Pages ( S E R Ps) หมายถึง การที่ google search นำเว็บของเราไป Appear ในผลการค้นหา Search Engine Result Pages (SERPs) ถึงจะอย่างไรการที่จะดำเนินงานให้เว็บ Index ง่ายดายนั้นเว็บนั้นๆต้อง Write เนื้อหาคุณภาพมากที่สุด (Unique Content) ที่ไม่ซ้ำกับเว็บอื่นด้วย นอกจากนั้นแล้วเครื่องใช้สอยที่ช่วยให้นักปรับปรุงพัฒนาเว็บหรือเจ้าของสามารถทราบรายละเอียดของเว็บรวบยอดก็คือ Google Analytics เป็นส่วนที่ทำให้ผู้ใช้งานทราบว่าเว็บมีสถิติผู้เข้าชม Traffic มาจากไหน และมีปริมาณการเข้า-ออกหน้าไหนมากที่สุด และยังสามารถบอกได้อีกว่าหน้าไหนที่มีผลตอบรับที่ดี เพื่อนัก Marketing Online หรือคนขายของแม่ค้าแม่ขายที่จัดจำหน่ายของผ่านระบบ Online ที่ปรารถนาอย่างแรงกล้าทราบ Detail ของคีย์แต่ละคำว่า คำไหนที่มีคนค้าหาสูงสุดและกำลังได้รับความโปรดปราน ก็สามารถใช้งาน Google Keyword Tool และ Google Trend ได้ครับ สิ่งละเลยไม่ได้ที่ผู้โพสต์อยากแนะนำผู้ที่สนใจและกำลังประสงค์รับทำ SEO ก็คือ การพยายามทำตามหลักเกณฑ์และข้อบังคับของ Google อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเข้าใจเป้าหมายของเสิร์ทเอนจิ้นที่ปรารถนาเนื้อเรื่องที่มีคุณภาพเป็นมิตรกับผู้อ่านและเป็นประโยชน์ต่อผู้เสิร์ชข้อมูลนั่นเองครับ และทาง google ได้มุ่งมั่นวิจัยพัฒนาระบบค้นหาของตัวเองอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างระบบอัลกอริทึม (Algorithm) อย่าง Panda Algorithm ที่มีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาของเว็บทั่วโลก รวมทั้่งการพิจารณาว่าเนื้อหามีคุณภาพอย่างแท้จริงมากหรือน้อยขนาดเท่าใด ตลอดจนเช็คความผูกพันกันของรายละเอียดเว็บหลักและ Content จากลิงค์ภายนอก Google Penguin ที่มีหน้าที่สำรวจความถูกของ Links ที่เชื่อมโยงกันว่ามีความเป็นธรรมชาติมากน้อยเพียงใด และมีการเพิ่มขึ้นหรือน้อยลงผิดปกติหรือไม่ Hummingbird Algorithm ที่เช็คการ Link เนื้อหาข้างในเว็บไซต์ว่านำทางผู้ใช้งานได้ถูกต้องหรือไม่ จากเนื้อหาข้างต้นจะดำเนินงานให้ทุกคนพอรู้เกี่ยวกับ google search ขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ แล้วหากถามว่าเราควรที่จะรับทำ SEO ด้วยตัวเอง หรือไปจ้างบริษัทรับทำ SEO เป็นผู้ประชาสัมพันธ์เว็บ ซึ่งตัวกระผมเองแนะแนวครับว่าหากท่านมีงบราวๆแต่ไม่มีเวลาการเลือกใช้บริการ SEO จากธุรกิจที่มีความสารถและ Experience นั้นอันจะทำให้เว็บท่านติดหน้าแรกได้ครับ ซึ่งปริมาณค่า Service รับทำ SEO ของแต่ละแห่งนั้นไม่เท่ากันรวมไปถึงระยะ Time ในการทำลำดับก็จะแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยแต่ละสถานประกอบการหรือผู้รับทำ SEO นั้นมี Technique และหนทางที่ไม่คล้ายๆครับ แต่วัตถุประสงค์หลักก็คือการทำให้เว็บส่งเสริมเสิร์ทเอนจิ้นให้ได้มากที่สุด หรือที่เรียกว่า Search Engine Optimize ของท่านใดที่มี Time และมีเงินแต่ไม่อยากจ้างใครทำลำดับให้ก็สามารถเรียนรู้หา Data ต่างๆและลงมือปฏิบัติด้วยตัวเองได้ครับ จงจำไว้ครับว่าหากท่านอยากประชาสัมพันธ์เว็บให้ติดอันดับ Google สิ่งที่ละเลยไม่ได้อันดับแรกของทั้งหมด คือ การที่เรา Write Content คุณภาพที่สุดทั้งในส่วนของ On Page และ Off Page ครับ

ผู้เขียน ปรีดา เจริญวัฒนา อาสาสอนทำ SEO ฟรี

การทำ SEO ให้เว็บติดอันดับ Google แบ่งออกเป็น 2 Category ใหญ่ๆ คือ

1. การปรับ SEO On Page
การประกาศเว็บให้ติดลำดับ Google ด้วย Technique "SEO On Page" เป็นการการเน้นการปรับแต่งภายในเว็บเป็นหลัก ซึ่ง ข้าพเจ้าต้องบอกกับท่านคนอ่านทุกคนก่อนครับว่า ผู้ร่วมงานของเราได้ให้ความสำคัญเรื่องของการปรับ On Page เป็นอย่างมากครับ ด้วยเหตุที่ว่าการปรับให้เว็บสนับสนุน Search Engine ที่ดีก็คือการทำให้เสิร์ทเอนจิ้นเข้าใจว่าเรากำลังเขียนเว็บเกี่ยวกับอะไร สื่อถึงอะไร และอยากให้เว็บค้นหานำเว็บเราไปจัดอยู่ในประเภทคำค้นหา (Keyword) ในกลุ่มใด ซึ่งที่ผู้โพสต์พูดมาทั้งหมดอยู่ในการปรับปรุงในส่วนของออนเพจทั้งสิ้นครับ เริ่มต้นแต่การปรับในส่วนของ Title Tag, Meta Description Tag, Meta Keyword Tag ซึ่งมีความคัญมากครับ เพราะการกำหนดในส่วนนี้นั้นจะดำเนินงานให้ Search Engine เข้าใจว่าเว็บของเราอยู่ในกลุ่มคีย์ไหน ในหน้าเว็บนั้นควรแทรกรูปภาพพร้อมทั้งใช้คำสั่ง alt เพื่ออธิบายภาพว่ามีความหมายยังไง เว็บที่ดีควรมีการเพิ่ม File Video เข้าไปเพื่อเป็นการมุ่งเสนอ Content ที่หลายหลากให้กับคนที่เข้ามาอ่านเนื้อหา อีกทั้งควรนำเอาระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ดมาติดข้างใน Website ด้วยเพื่อทำให้ค้นสามารถแชร์หรือแนะแนวเว็บเราต่อได้ หรือไม่ก็ใช้เป็นส่วนที่ Contact กับลูกค้า และแน่นอนครับว่า Social Network ลำดับต้นๆที่ได้รับความพอใจเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google+, Twitter, Youtube ฯลฯ เป็นต้น ในการนำระบบ Social Online มาติดไว้ข้างในเว็บเพจของเรานอกจากที่จะสามารถ Contact สื่อสารกันได้ง่ายแล้ว ยังสร้างความมีสัจจะอีกด้วย ที่สำคัญมันทำให้อันดับดีขึ้นอย่างกระจ่าง และสิ่งที่ละเลยไปไม่ได้ก็คือ การเพิ่ม Tag คำที่มอบหมาย H1, H2, H3, Storng, Under Line และ Font Color เข้าไปในเนื้อเรื่อง พร้อมทั้งมีการกำหนด Size ฟอนท์อย่างเหมาะสม (Font Size) และจัดองค์ประกอบของเว็บและสถานะของเว็บ (Web Layout) ให้สนับสนุนผู้ที่เข้ามา Read Data เป็นหลัก และเนื้อหาและ Detail ที่นำมาโพสหรือเขียนไว้ในเว็บไซต์จะต้องเป็น Article คุณภาพในสายตาผู้อ่านจริงๆ ไม่ได้สำเนามาจากเว็บอื่น อีกทั้ง Content ต้องมีประโยชน์ต่อ Reader ไม่มากก็น้อยครับ การทำ Ranking บน Google ในยุคสมัยสมัยนี้ต้องทำเพื่อคนดูครับ ไม่ใช่ทำเพื่อ Google Bot หน้าที่เป็น Landing Page หรือหน้าหลักที่จะทำอันดับบน Search Engine นั้น ควรมี Anchor Text Link ในหน้านั้นอย่างเป็นธรรมชาติ ภายในบทความจะต้องมีคีย์เวิร์ดอยู่ใน Article นั้นไม่มากเกินไปและไม่น้อยจนเกินไปครับ เพียงเท่านั้นก็สามารถปรับให้เว็บสนับสนุน Search Engine Optimize ได้ในอันดับหนึ่งแล้วครับ ต่อไปเราจะเรียนรู้ในหัวข้อที่สองซึ่งจะเกี่ยวกับการปรับแต่งเว็บให้ส่งเสริม SEO จากปัจจัยภายนอกหรืออาจเรียกว่า External Factor ครับ สรุปในส่วนของการทำ SEO On Page นั้น เว็บมาสเตอร์หรือเจ้าของเว็บควรเขียนบทความที่อ่านรู้เรื่องไม่ซ้ำใคร โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ Reader ได้รับประโยชน์จากการ Read Article ดังกล่าว และข้างใน Content จะต้องมี Keyword อย่างเหมาะสม ตลอดจนปรับแต่ง Structure ของเว็บให้อ่านง่าย มีการเน้นคำในส่วนที่ปรารถนาอย่างแรงกล้าให้คนอ่านสังเกตตามหลักวิทยาศาสตร์และเข้าใจความหมายของข้อความ และเว็บควรมีการ Update อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อให้เว็บมีความเคลื่อนไหวซึ่งเป็นที่ชอบของ google bot อีกทั้งยังทำให้สถิติการ index ของเราเพิ่มขึ้น เพราะ Google Inc.ปรารถนาเว็บที่มี Data ใหม่และมีประโยชน์อีกทั้งชอบเว็บที่มี Structure ที่ใหญ่มีเนื้อหาที่หลายอย่างต่างๆ กันและมีคุณภาพสำหรับผู้อ่าน

2. การปรับ SEO Off Page
การประชาสัมพันธ์เว็บให้ติดหน้าแรก Google ด้วยเทคนิค "SEO Off Page" เป็นวิธีการทำลำดับบน google search โดยมุ้งเน้นในการปรับให้สนับสนุน search engine จากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ซึ่งการสร้าง Back Link คุณภาพมากที่สุดเป็นจิตใจละเลยไม่ได้ในการSEOที่จะดันลำดับบล็อก ซึ่งกล่าวคือ การพิมพ์เนื้อเรื่องคุณภาพในสายตาผู้ใช้งาน Quality Content หรือจะเรียกว่า Unique Content ก็ได้ แล้วสร้างลิงค์เชื่อมโยงมายังเว็บหลัก โดยให้ทำเป็น Keyword Link กลับมายังเว็บที่ปรารถนาดันอันดับ ที่มักได้ยินบรรดานักทำ SEO พูดกันว่า "Anchor Text Link" ซึ่งเราเรียกหลักการพิมพ์เนื้อหาและสร้างลิงค์ไปหาเว็บหลัก (Money Site) ว่า "การสร้าง Back Link" ซึ่ง External Link จะช่วยสนับสนุนให้อันดับเว็บดีขึ้นครับ แต่อย่างไรก็ดีเราต้องให้ขาดไม่ได้เรื่องของการเขียน Article ที่ดีและมีประโยชน์อย่างแท้จริงครับ หากสร้างแบ็คลิงค์ด้วย Article ซ้ำๆ กัน ไม่ได้ส่งผลให้ลำดับดีขึ้น ถ้ามีก็น้อยมากครับ การสำเนาและโพสเนื้อหาซ้ำๆ นั้นไม่เป็นผลดีต่อการรับทำ SEO ครับ แทนที่จะดำเนินงานให้ Ranking ของเว็บมี Ranking ที่ดีขึ้นแต่กลับมีอันดับร่วงไปอีก การกรอก Content ที่มีคุณภาพในสายตาผู้ใช้งานกลับมายังเว็บหลักนั้นจะส่งผลดีต่ออันดับและยังเป็นการเพิ่มค่า PR (ค่าที่ google ใช้กำหนด Quality ของเว็บว่าอยู่ในระดับใด ซึ่งมีตั้งแต่ค่า 0 - 10) ของเว็บอีกด้วยครับ ซึ่งในการสร้าง back link ที่ดีและมีความสามารถนั้นควรสร้างหรือ Write เนื้อเรื่องกับเว็บที่มีค่า page rank สูงๆ ซึ่งจะช่วยได้มากในการทำอันดับครับ ยกแบบอย่างเช่น การไปเขียน Content ที่มีสาระและเป็นประโยชน์จากเว็บดังๆ อย่าง sanook.com, dealfish.co.th, blogger.com, wordpress.com ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งมีบล็อกฟรี เว็บบอร์ดฟรี จำนวนมากที่มีคุณภาพในสายตาผู้อ่านและมีค่า Authority Ranking ที่สูงและเว็บที่มีคนเข้าไปใช้บริการมากๆ นั้น จะทำให้ google bot ชอบมาเก็บข้อมูล crawling ซ้ำแล้วซ่ำเล่า ทำให้เนื้อหาที่เราเขียนนั้นมีการ Index ที่รวดเร็วครับ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการทำ on page ก็คือ การนำระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ดมาใช้ในการสร้าง bl ไม่ว่าจะเป็น Google Plus, Facebook, Twitter, Youtube ซึ่งจะช่วยดำเนินงานให้ Ranking ดีขึ้นและยังทำให้อันดับเว็บนิ่งและติด Ranking นาน อย่างไรก็ดีการประกาศเว็บให้ติดอันดับหน้าแรก google นั้นละเลยไม่ได้ทั้งในส่วนของ On Page และ Off Page ครับ ต้องทำควบคู่กันไปครับ ผู้ที่รับประชาสัมพันธ์เว็บให้ติดอันดับต้นๆของผล Search ของเสิร์ทเอนจิ้น หลายรายบ้างก็บอกว่าการทำ On Page สำคัญกว่า ปรับเปลี่ยนออนเพจอย่างเดียวก็สามารถทำอันดับได้ บ้างก็บอกว่าออนเพจไม่สำคัญเท่ากับออฟเพจ สร้างแบ็คลงค์มากๆ ยังไงก็ติดอันดับได้ง่ายนิดเดียว ด้วยประสบการณ์ของผู้เขียนอยากจะบอกให้กับ Reader ทุกคนว่า การทำ SEO นั้นไม่ได้เน้นหนักไปทางใดทางหนึ่งครับ หากแต่ต้องทำควบคู่กันไปอย่างสมดูลโดยที่ยึดหลักเน้น Quality ไว้ก่อนตามที่เว็บค้นหากูเกิ้ลปรารถนา ถ้ามัวแต่ปรับออนเพจอย่างเดียวไม่สร้างออฟเพจอย่างนี้ Ranking ก็ขึ้นยาก หรือถ้ามัวแต่สร้างออฟเพจในขณะที่ออนเพจไม่ได้คุณภาพในสายตาผู้อ่านเว็บก็ไม่สามารถที่จะอยู่อันดับต้นๆ ของผล Search ได้ครับ และขอเน้นย้ำให้กับคนอ่านใครๆว่ามุ่งมั่น Write Content ที่เป็นมิตรกับคนอ่านให้ได้สูงสุดเท่าที่จะทำได้ครับ

Google Panda Algorithm
บริษัท Google ได้วิจัยพัฒนาระบบ Search Search Engien ของตัวเองมาโดยตลอด และไม่คอยอยุดนิ่งอยู่กับที่ และ Google Panda ก็เป็น Algorithm อีกตัวหนึ่ง ที่ทางกูเกิ้ลได้วิจัยพัฒนาขึ้น เพื่อที่จะตรวจสอบคุณภาพของเนื้อหาของแต่ละเว็บ โดยมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบความถูกของบทความ ว่าเว็บไหนมี Quality และมี Content ที่ต้องกับความต้องการของผู้เสิร์ชสูงสุด และยัง Check เว็บเนื้อหาขยะ หรือ Spam Content หากตรวจพบก็จะถูกทำโทษโดยการ ลด Ranking ผล Search ลดสถิติการอินเด็กซ์ และหากพบว่าเว็บหรือบล็อกดังกล่าว ผิดกฎอย่างร้ายแรงก็จะถูกแบน เพราะเหตุนั้นหากเว็บใด Write บทความคุณภาพในสายตาผู้อ่านแล้วก็จะส่งผลให้อันดับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญ การทำ SEO ดัน Ranking เว็บคุณภาพอย่างแท้จริง ก็จะทำได้ง่ายแบบไม่ยากกว่าเว็บที่ไม่มีคุณภาพสำหรับผู้อ่าน

Google Penguin 2.1 Algorithm
มาทำความรู้จักกับ Algorithm ที่อัพเดทของ google ซึ่งในที่นี้ผมจะพูดถึง google penguin 2.1 สิ่งที่เปลี่ยนไปสำหรับการ Update penguin 2.1 คือ เว็บที่มีคุณภาพเป็นมิตรกับผู้อ่านในวิสัยทัศน์ของกูเกิ้ลจะขึ้นมาแทนที่เว็บที่ไม่มีคุณภาพเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน อีกทั้งแล้วเว็บไหนก็ตามที่มีการสร้างลิงค์อย่างผิดขั้นตอนและมีการเพิ่มปริมาณของลิงค์มากกว่าปกติใน Time ที่รวดเร็ว และเว็บที่ไม่ได้คุณภาพอย่างแท้จริงและมีการสร้าง Link ที่ผิดขั้นตอน ก็จะถูกกูเกิ้ลทำโทษ Google Pennalty นอกจากนี้แล้วการพยายามทำ SEO ที่ผิดหลักเกณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นการ Purchase Link เพื่ออยากเพิ่มค่า PR การสร้างเนื้อเรื่องคุณภาพและทำอย่างถูกจึงเป็นกลยุทธ์ที่เยี่ยมยอดในการทำ Ranking บน search engine ยุคนี้ ซึ่งอาจเอาเป็นว่าได้ว่าอัลกอริทึมตัวใหม่ท้ายสุดนี้ออกมา เพื่อกำจัด Spam Link ที่คุณภาพต่ำทั้งหลาย กำจัดลิงค์ที่สร้างจาก Network ที่ไม่มีคุณภาพเป็นมิตรกับผู้ใช้งานไม่เป็นผลดีต่อนักอ่าน อีกทั้งแล้วยังกำจัดลิงค์ผิด Nature ในสาย Google การทำลำดับในตอนนี้ควรกระจายคีย์ให้มีความหลายอย่างต่างๆ กัน สร้างเนื้อหาคุณภาพอย่างลึกซึ้งและมี Content ที่เชื่อมโยงกับบทความลักษณะเดียวกันเพื่อทำให้ search engine เข้าใจว่าเรากำลัง Write บทความเกี่ยวกับอะไร กระบวนการการทำให้เว็บกลับมาคือให้พากเพียรโฟกัสไปที่คุณภาพในสายตาผู้อ่านของเว็บเป็นสิ่งที่เป็นอันดับแรกว่ามีคุณภาพสำหรับผู้อ่านมากน้อยแค่ไหน ลักษณะของเว็บเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ พยายามตรวจสอบลิงค์เสียข้างในเว็บและ tag คำที่มอบหมายต่างๆ ว่ามีจุดผิดพลาดตรงไหนบ้าง แล้วเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้อง ต่อจากนั้นให้ไปดูในส่วนของลิงค์ภายนอกที่ Link เข้ามาหาเว็บหลักว่ามีลิงค์ไหนบ้างที่ด้อยคุณภาพหรือมีรายละเอียดที่ไม่เกี่ยวข้องกับเว็บหลัก โดยให้เปลี่ยนแปลงให้มีเพียงลิงค์ที่มีคุณภาพมากที่สุดกลับเข้าหาเว็บหลัก หลังจากนั้นก็ทำลำดับตามวิถีทางที่ถูกโดยเน้นคุณภาพอย่างแท้จริงของ Content เพื่อคนอ่านให้มากเท่าที่จะมากได้ โดยที่ Algorithm เพนกวิน 2.1 ถูกวิจัยพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ตรวจสอบลิงค์แปลกปลอม หรือลิงค์ที่มีการสร้างแบบไม่เป็นธรรมชาติ Unnatural Link ดังนั้นบริษัทกูเกิ้ลพยายามปรับปรุงพัฒนาระบบเสิร์ชของตัวเองให้มีคุณภาพที่สุด เพราะเหตุนี้เพื่อตอบสนองอุปสงค์ของผู้ค้นหาข้อมูล ให้สามารถ Search Data ได้ตรงความปรารถนา และมีความเป๊ะสูง เพราะฉะนั้นการทำ SEO ในยุคปัจจุบันนั้น จะต้องเน้น Article คุณภาพสำหรับผู้อ่านเป็นหลัก Unique Content คำว่า คุณภาพในสายตาผู้อ่าน ในทรรศนะบริษัทกูเกิ้ล คือ จะต้องเขียนบทความที่เป็นประโยชน์ต่อนักอ่าน คนอ่านเข้ามาอ่านแล้วได้รับประโยชน์ ตลอดจน Article นั้นจะต้องเป็นมิตรกับนักอ่าน Read ง่ายเพียงไม่กี่ขั้นตอน และถูกหลักไวยกรณ์ของ Language เอาเป็นว่าคือ Google Penguin 2.1 จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเช็ค Back Link ที่เข้าหาเว็บหลักว่ามีเนื้อหาที่เป็นมิตรกับผู้อ่านหรือไม่ และมีการเพิ่มปริมาณของลิงค์อย่างเป็น Nature หรือไม่ หากทำตามกฎของ Google แล้ว ไม่ว่าระบบอัลกอริทึมจะพัฒนาไปทิศทางใด เราก็สามารถอยู่กับระบบที่แปรผันได้ เพื่อระบบที่พัฒนาขึ้นจะมุ่งเน้นไปที่คุณภาพที่สุดเสมอ

Google Hummingbird Algorithm เรียกได้ว่าเป็น Algorithm ท้ายสุดอย่างเป็นทางการที่ Google ได้ปรับปรุงพัฒนาขึ้น เพื่อเช็คคุณภาพในสายตาผู้ใช้งานของเว็บ Structure เว็บ การเชื่อมโยงลิงค์ภายในเว็บ ซึ่งหน้าที่หลักคือสำรวจการ Link บทความภายในเว็บ ว่าเนื้อเรื่องแต่ละหน้ามีความผูกพันกันกันหรือไม่ และ Content เหล่านั้นตรงกับความปรารถนาของ User หรือไม่

Create Back Link from Free Blog
หากท่านคนอ่านกำลังวิจัยเกี่ยวกับ Search Engine Optimize และอยากมีบล็อกหรือเว็บของตัวเอง ข้าพเจ้าขอบอกให้ลองใช้ blogger ในการพิมพ์บล็อกของตัวเองครับ เพราะสามารถใช้งานได้ง่ายดายและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสามารถเชื่อมโยงไปยัง google plus และ youtube เนื่องด้วยรวมยอดเป็นผลิตภัณฑ์ของกูเกิ้ลเสิร์ซ การใช้งานนั้นง่ายแบบไม่ยากมากครับ เพียงแค่เรายื่นใช้งาน gmail เสร็จเรียบร้อย ก็สามารถนำอีเมล์ log in เข้าใช้งานได้กระทันหัน นอกจากนั้นท่านยังสามารถสร้างรายได้จาก Blog ด้วยการยื่นคำร้อง google adsense จาก Data Basic ที่กระผมกล่าวนั้น จะเห็นว่า blogger มีความสามารถที่หลายอย่างต่างๆ กันและเหมาะเพื่อ Write เนื้อหาคุณภาพและโปรโมทให้เป็นที่รู้จักของคนส่วนใหญ่ นอกจากการที่เราสามารถใช้บล็อกเกอร์ในการกรอก Content แล้ว เรายังสามารถที่จะนำมาสร้างเป็น back link กลับไปยังเว็บหลัก ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องของ Ranking ได้มากในระดับหนึ่งครับ นอกจากนี้ "Wordpress" เป็นอีก Blog ที่สนับนสนุนการทำ SEO โดยมีโครงสร้างและฟังกชั่นอุปการะบริการ SEO คุณภาพ Ranking หนึ่งของโลก เพราะมีโครงสร้างที่ดีสามารถปรับปรุงได้จากทุกส่วน รวมทั้งสามารถติดตั้ง Plugins เพิ่มได้ให้ใช้ฟรีเยอะแยะ รวมทั้งประเภทของ Blog หรือที่เรียกว่า Themes และมีการตั้งค่าต่างๆได้อย่างหลายหลาก แต่นักรับทำ SEO หลายรายที่รู้ผิดว่า wordpress โดนกูเกิ้ลแบนง่ายดาย ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เพราะว่าเว็บดังๆทั่วโลกส่วนมากก็ใช้ cms ตัวนี้ในการสร้างบล็อกครับ ความจริงแล้วการจะโดน google แบนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ "คุณภาพที่สุดของ Content " มากกว่าครับ ต่อให้เป็นcms แบบใด หรือแม้กระทั้งเขียนเว็บด้วยตัวเอง ก็มีโอกาสโดยแบนได้หากทำผิดกฎหรือไม่ Write Article คุณภาพในสายตาผู้ใช้งานด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นสิ่งละเลยไม่ได้ไม่ใช่ Flatform แต่บทความต่างหากเป็นตัวกำหนดคุณภาพอย่างแท้จริงของเว็บ แต่การมีเว็บที่มี Structure ที่ดีก็จะได้เปรียบมากกว่า ซึ่งเราสามารถใช้บริการของเวิร์ดเพลสรุ่นฟรี ที่ wordpress.com ส่วนตัวติดตั้งของเวิร์ดเพลส สามารถ Download ได้ที่ wordpress.org ครับ

Create Back Link from Webboard
เว็บบอร์ดเป็น Web Platform ลักษณะหนึ่ง ที่สามารถนำมาใช้ทำอันดับบน Google Search ได้เป็นอย่างดี และ Google Bot ก็ชอบที่จะมาเก็บข้อมูลตามเว็บบอร์ด เพราะเว็บบอร์ดจะมีย่านความถี่ในการอัพเดทรายละเอียดที่รวดเร็ว ยิ่งเป็นเว็บที่มี Member จำนวนมาก ยิ่งทำให้ Cont

ภาพคุณปรีดา เจริญวัฒนา รับโปรโมทเว็บ รับทำ SEO รับทำ SEO ราคาถูก การเพิ่มลิงค์อย่างเป็นธรรมชาติ โทรติดต่อ 087-1736064


คุณปรีดา เจริญวัฒนา รับโปรโมทเว็บ รับทำ SEO รับทำ SEO โปรโมทเว็บสร้างรายได้ Google Adsense ปรึกษาได้ที่ 087-1736064
อ้างอิงจาก: รับทำ SEO
บทความอยู่ในกลุ่ม: ปรีดา เจริญวัฒนา
อ้างจาก: รับทำ SEOคุณปรีดา เจริญวัฒนา รับโปรโมทเว็บ รับทำ SEO รับทำ SEO ราคาถูก การเพิ่มลิงค์อย่างเป็นธรรมชาติ โทรติดต่อ 087-1736064
ประเภทของเว็บ: ปรีดา เจริญวัฒนา รับโปรโมทเว็บราคาถูก
โฆษณาโดย: ปรีดา เจริญวัฒนา
หน้าแรกของเว็บ: http://www.seo4toprank.com
Information: http://www.seo4toprank.com/รับทำseo.php
Contact Us: http://www.seo4toprank.com/รับทำseoราคาถูก.php
Page: ปรีดา เจริญวัฒนา
Name: สันทรายคอมพิวเตอร์ กรุ๊ป
โทรศัพท์: 087-1736064
Email: seo4toprank@gmail.com
Address: 314/28 หมู่ 2 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50210
Business: ผู้ให้บริการ SEO รับทำ SEO โปรโมทเว็บติดอันดับ Google ด้วย Unique Content
#34
แนวทางการทำเว็บbaby giftset thailand ทำให้ลูกได้เรียนรู้ วันนี้ผมจะมานำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับbaby giftset thailandเรียนรู้อย่างถ่องแท้จากบทความนี้  การเลือก Purchase เสื้อผ้าเด็กนั้น เป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าหากเลือกเสื้อผ้าที่มี Quality ไม่ดีอาจจะเกิดการระคายเคืองต่อผิวเด็ก ได้ และที่ละเลยไม่ได้ต้องเป็นเนื้อผ้าที่ดีมีคุณภาพสำหรับผู้อ่านและเหมาะสำหรับเด็กน้อยแต่ละวัย ลักษณะลักษณะของเสื้อผ้าก็เป็นองค์ประกอบที่ละเลยไม่ได้ เพราะถ้าหากเนื้อผ้ามีความหนาหรือมีความแข็งกระด้างจะทำให้เด็กมีอาการอืด อัด ระคายเคืองผิว อาจจะส่งผลต่อความรู้สึกของเด็กน้อยได้ ของวิธีการเลือก Buy เสื้อผ้าเด็กน้อยนั้น

แนวทางใหญ่ๆ ในการเลือกซื้อbaby giftset thailand คือ อันดับแรกควรเลือกดูลักษณะของรูปแบบของเสื้อผ้าเด็กเล็กว่า มีลักษณะเช่นใดบ้าง เช่น มีลาย Cartoon ลายคิตตี้น่าเอ็นดู หรือแนวเกาหลีที่กำลังมาแรงในขณะนี้ ว่ามีความเข้ากันหรือเหมาะเจาะกับตัวเด็กเล็กหรือไม่ เพราะถ้าหากพ่อและแม่เลือกลักษณะของเสื้อผ้าที่มีความเป็นผู้ใหญ่มากเกินไป จะดำเนินงานให้เด็กน้อยไม่ชอบต่อเสื้อผ้าเหล่านั้น เพระรู้สึกว่ามันไม่น่ารักและไม่มีความสดใส และลักษณะที่ละเลยไม่ได้ที่ควรคำนึงอีกหนึ่งอย่างนั่นคือ แม้ว่ากระแสต่างๆจะกำลังมาแรง แต่เราก็ควรนึกถึงสภาพอากาศของประเทศเราด้วย ดังนั้นเสื้อผ้าเด็กน้อยไม่ควรรัดรูปมากเกินไป ควรเป็นรูปแบบที่ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี อันต่อไปคือควรดูถึง เนื้อผ้า เนื้อผ้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่ง เนื่องจาก ผิวของเด็กน้อยๆนั้น แตกต่างจากของผิวของผู้ใหญ่ ผิวของเด็กจะมีความบอบบาง และง่ายดายต่อการเกิดผดผื่น เนื้อผ้าที่เด็กเล็กควรสวมใส่นั้น ควรเป็น ผ้าฝ้ายหรือผ้าดอตคอม ที่มีเนื้อผ้าที่สวมใส่ได้สบาย ผ้าไม่หนาเกินไป และง่ายต่อการเลือกซื้อ เสื้อผ้าเด็กเล็กโดยส่วนใหญ่แล้วที่ออกมานั้น ส่วนมากจะออกแบบตามกระแสชื่นชอบ แต่ถ้าหากท่านเลือกซื้อเสื้อผ้าเด็กที่มี Quality เนื้อผ้าไม่ดี นอกจากลูกๆคุณจะเกิดผดผื่นตามตัวแล้ว อาการเหล่านี้ยังจะส่งผลให้เค้าเกิดการแสดงออกที่ฉุนเฉียวอีกด้วย เนื่องด้วยอาการระคายเคืองที่เกิดจากเสื้อผ้าที่ไม่ได้คุณภาพมากที่สุด ส่วนสิ่งที่ควรคำนึงที่จำเป็นสุดท้ายคือ ราคา ในการเลือก Purchase เสื้อผ้าเด็ก ราคาก็เป็นสิ่งที่จำเป็น หลายคนให้จำเป็นกับ ราคามากว่า คุณภาพเป็นมิตรกับผู้อ่าน แต่สินค้าที่ได้รับการรับรองที่มีราคาแพงไม่ได้หมายความว่าสินค้าจะมีคุณภาพอย่างแท้จริงดีสม่ำเสมอ ยิ่งกับเสื้อผ้าเด็กน้อยแล้ว ยิ่งต้องควรระมัดระวัง ในการเลือก Purchase เนื้อผ้าบาง Type อาจมีราคาแพงทำให้พอนำมาตัดเย็บเป็นชุดเสื้อผ้าต่างๆ ก็เลยทำให้เสื้อผ้าเหล่านั้นมีราคาแพงตามไปด้วย แต่หากมันมีคุณภาพมากที่สุดดี แม้ว่าราคามันค่อนข้างสูง แต่ถ้ามันทำให้ลูกๆของคุณสวมใส่สบาย และทันสมัย ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าชอบ ส่วนเสื้อผ้าที่มีราคาถูกที่อยู่ตามตลาดทั่วไป ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มี Quality ตลอดเวลา เพราะบางตัวก็เย็บด้วยช่างที่มีฝีมือและมีคุณภาพอย่างแท้จริง

ดังนั้น การเลือกซื้อเสื้อผ้าเด็กน้อย สิ่งที่ละเลยไม่ได้ที่สุดนั่นคือ การคำนึงถึงความเหมาะเจาะของเด็กแต่ละคนคุณภาพที่สุด ราคา และสภาพแวดล้อม ที่จะทำให้เสื้อผ้าที่คุณเลือก Buy มานั้นเด็กเล็กๆได้สวมใส่และใช้อย่างคุมค่าที่สุด แล้วมติดตามเนื้อหา ข้อคิดและคำแนะนำดีๆจากทางร้านได้ใหม่นะค่ะ อ่านบทความจบแล้วจงจำให้ขึ้นใจลองแวะเข้าไปเลือกชมเลือกช็อปเสื้อผ้าเด็กเล็ก จากร้านเรานะค่ะ

วิธีการเลือกเสื้อผ้าให้เด็กเล็กน้อย

1. เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับเพศและวัย

พ่อ คุณแม่ต้องคำนึงด้วยว่า ลูกเพศอะไรและอยู่ในวัยไหน สิ่งที่ควรคำนึงในการเลือกpikulthongให้กับคุณลูก

ถ้าเป็นเด็กเล็กผู้หญิง ควรสวมเสื้อผ้าที่สบายๆ เหมาะกับสภาพทางธรรมชาติ ไม่ควรสวมเสื้อผ้ารัดรูป หรือเนื้อผ้าบางๆ หรือเสื้อสายเดี่ยว เพื่อไม่ให้เห็นรูปร่างแน่นอน ถ้าลูกชอบก็ให้ลูกใส่เสื้อซับในด้วย เพราะต้องไม่ลืมว่า ณ ขณะนี้นี้ภัยสังคมมีเข้ามาหลายหลากประเภท

กรณี ที่เป็นรองเท้าของเด็กน้อย พ่อแม่ผู้ปกครองควรให้ลูกใส่รองเท้าสวม ไม่ควรใส่ส้นสูง เพราะ Baby ยังชอบวิ่ง เล่น อาจทำให้สะดุดล้ม เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายดาย

ส่วน เด็กคุณผู้ชาย ง่ายดายกว่าเด็กผู้หญิง จะเน้นที่การสวมเสื้อผ้าสบายๆ เหมาะกับสภาพแวดล้อมเช่นกัน แต่ที่ควรเน้นอีกเรื่องคือการแต่งกายสุภาพ เรื่องความขาวสะอาด เพราะเด็กเล็ก Man มักจะเล่นทโมนมากกว่าเด็กผู้หญิง

รองเท้าที่สวมใส่ก็เป็นรองเท้าสวมกระชับ เพราะต้องวิ่งเล่นสม่ำเสมอ

2. เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับกาลเทศะ

ควรจะสอนให้ลูกรู้จักกาลเทศะด้วย เพราะช่วงนี้มีสื่อมากมายที่เข้าถึงตัวลูก บางครั้งลูกก็จะเรียกร้องแต่งกายตามแบบ Fashion หรือตามกระแสฮิต ซึ่งก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องทำให้กระจ่างให้ลูกรู้ด้วยว่า ไม่มีความขาดไม่ได้ที่เราต้องวิ่งไล่ตาม Fashion แต่เราควรจะคำนึงถึงความเป็นไปได้และสถานที่ที่เราจะไปสุดยอดกว่า เช่น พ่อแม่ผู้ปกครองจะชวนลูกไปทำบุญไหว้พระที่วัด ก็ควรสอนให้ลูก Dress ให้สุภาพเรียบร้อย ไม่ควรใส่กางเกงหรือกระโปรงสั้น แต่งตัวเรียบร้อยเป็นอย่างไรก็ต้องแจกแจงให้ลูกเข้าใจด้วย หรือ ถ้าต้องใส่เครื่องแบบนักศึกษา พ่อและแม่ก็ต้องสอนให้ลูก Dress ให้เกียรติองกรณ์ตั้งแต่เล็ก ให้สวมเสื้อผ้าที่ไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป ไม่รัดรูป หรือนุ่งสั้น

3. เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับรูปร่าง

เสื้อผ้าที่เลือกสวมใส่ ควรเหมาะกับรูปร่าง เช่น ลูกรูปร่างอ้วน ก็ควรเลือกเสื้อผ้าเผื่อขนาดรูปร่าเล็กน้อย สวมใส่สบาย ถ้าใส่เสื้อที่พสมัยก่อนัว Time ขยับเขยื้อน ทำ Activity อื่นๆ ก็ไม่ง่ายดาย และยังดูไม่สวยงามอีกด้วย ความคิดความอ่านที่ว่าลูกตุ้ยนุ้ย แล้วใส่เสื้อสั้นเต่อหรือนุ่งสั้น Lovely เป็นความคิดความอ่านที่ไม่สมควรหรอกค่ะ เพราะเท่ากับเรายิ่งไปขับเน้นความอ้วนของลูกมากขึ้นไปอีก แต่ ถ้าลูกรูปร่างผอม ก็ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีลายขวาง ลายจุด เพื่ออำพรางรูปร่าง หรือแม้แต่การเลือกสีของเสื้อผ้าก็มีผลต่อการส

รูปภาพตัวอย่างbaby giftset thailand ราคาไม่แพง


baby giftset thailand ที่ผู้ปกครองมั่นใจ
อ้างอิงจาก: baby giftset thailand
คำที่เหมือนกัน: baby giftset thailand
อ้างจาก: baby giftset thailandbaby giftset thailand ราคาไม่แพง
Category: baby giftset thailand
ผู้ประชาสัมพันธ์: pikulthong
หน้าแรก: http://pikulthong.com
รายละเอียดสินค้าและบริการ: http://pikulthong.com/index.php/pikulthong-cattalog
ติดต่อ: http://pikulthong.com/index.php/contact-us
เพจ: pikulthong
ชื่อ: Pikulthong Lumsum Co., Ltd.
เบอร์โทร: 0-2224-7778-84
อีเมล์: sales@pikulthong.com
ที่อยู่: 34 Trok Thamma, Krung Kasem Road, Rongmuang, Pathumwan, Bangkok 10330
ประเภทธุรกิจ: Pikulthong is a part of an integrated children clothes conglomerate which has over 30 years of experience in the filed.
#35
เรียนรู้ด้วยตัวเองรับซื้อบ้านไม้เก่า พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องไม้ กับ โชคกันตพลค้าไม้ เรื่องไม้ต้องเราเท่านั้น ขอต้อนรับท่านเข้าสู่บทความที่เกี่ยวกับรับซื้อบ้านไม้เก่าคุณสามารถหาคำตอบได้จากที่นี่ สวัสดีท่านผู้มีเกียรติทุกท่านครับ Today ส่วนตัวผมจะมาอธิบายเว็บรับซื้อไม้เก่า รับ Purchase บ้านไม้ให้ราคาสูง ซึ่งจะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากเว็บ suwanneetum.com ซึ่งเว็บแห่งนี้รับ Buy ไม้เก่าทุกรูปแบบ พร้อม Service Buy -จำหน่ายเกี่ยวกับไม้ครบวงจร เรียกได้ว่ามาที่นี่ครบทุกสิ่งอย่างที่อยากก็ว่าได้ครับ ที่นี่มีบริการที่แตกต่างและหลากหลายให้ผู้ใช้บริการเลือกใช้ Service โชคกันตพลค้าไม้ รับซื้อบ้านไม้เก่า Structure เหล็ก-ไม้ทุกชนิดให้ราคาสูงที่สุด ติดต่อได้ที่ 085-1879081 , 087-5813595 ยืนยันคุณไม่ไม่สบอารมณ์แน่ชัด

Service ของเรา
- รับทุบโรงเรือน รื้อถอนอาคาร สิ่งปลูกสร้างทุกรูปแบบ
- รับ Purchase บ้านไม้เก่า ไม้กอง โกดัง โรงงาน โรงเลื่อยหมู เล้าหมู/ไก่/เป็ด แค้มป์ลูกจ้างก่อสร้าง แหล่งเรียนรู้ แหล่งราชการ บ้านไม้ทรงไทย ไม้กอง สังกะสี และสิ่งปลูกสร้างทุก Type

แนวทางการดำเนินการ
ขั้นแรก ตั้งคำถามข้อมูลเบื้องต้นของลักษณะสิ่งปลูกสร้าง
- สัดส่วน กว้าง/ยาว
- เสากี่ต้น
- พื้นกี่ชั้น
- พื้นหน้าอะไรบ้าง
- ชนิดของไม้
ขั้นที่สอง ออกแบบคำถามราคาบ้านที่ประสงค์จะจัดจำหน่าย
- นัดเวลาดูบ้าน
- ประเมินราคาบ้าน
แนวปฏิบัติสุดท้าย
- เซ็นข้อผูกมัดซื้อจัดจำหน่าย พร้อมจ่ายค่ามัดจำตามตกลง
- กำหนดวันรื้อถอน (พร้อมจ่ายเงินที่เหลือ)

Knowledge เรื่องไม้ก่อนสร้างบ้านไม้ โดยเว็บไม้เก่า Quality

หากใครคิดที่จะสร้างบ้านไม้ควรมาค้นคว้าเรื่องไม้ต่างๆ

1. Category ไม้

1.1 ไม้เนื้อแข็ง
ไม้เนื้อแข็งจากป่าที่นิยมมากๆ คือ ไม้มะค่าดีๆ ต้องมาจากเขมร จากลาวก็พอได้ ไม้เนื้อแข็งที่พอได้ก็มี เต็งลาว ประดู่ ตะแบก เต็งจะหาง่ายยิ่งกว่าอะไรหน่อยดูที่เนื้อแน่นๆ ประดู่ก็มีลายไม้สวย ไม้เนื้อแข็งจากสวน ไม่ยุ่งยาก ก็มีไม้สะเดาทนแดดทนฝนได้ ตอนเป็นต้นด้วงชอบทำลายแต่พอตัดออกมาใช้งาน ปลวกไม่กิน ไม้สะเดาไสแล้วเนื้อนวลบางสวยเอามาทำตง คาน พื้นกระดาน ได้ดี หาต้นใหญ่ๆ หน่อยอีกอย่างไม้มะขามเทศที่ต้นใหญ่พอถูกแดดไปนานๆ จะมีแดงสวย เนื้อแน่นไสแล้วนวลดี น่าเอาไปทำบันได ลูกขั้นแบบหนาๆ เรียกแบบเท่ห์ก็เป็นไม้กวางแดงลาว ไม้มะขามเปรี้ยว เหมาะของทำเขียง เนื้อไม้แข็งเหนียว ลองเอามาทำกระดานดูปราหลักเกณฑ์ว่าชอบบิ้งเบี้ยวโตมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 15 นิ้ว

1.2 ไม้เนื้อปานกลาง
พวกยางนา หากเป็นไม้ใหญ่นานๆ อายุเป็นร้อยปีหากอายุอ่อนจะอ่อน ไม้เลีอน หรือไม้มะเลี้ยน จากป่าแถวสีคิ้ว เนื้อไม้เนียนสวยเหมือนกัน ลายดี ไม้กระถิ่นยักษ์ สัดส่วนโตๆ มาเลื่อยเป็นกระดานได้ลวดลายดี มาจากป่าเขาใหญ่ ไม้กระถิ่นณรงค์เป็นไม้ที่เลื่อยออกมาสวยเหมือนไม้สัก หากอายุเกิน 20 ปี ลำต้นมักจะกลวงต้องรีบตัดมาใช้งาน

1.3 ไม้เนื้ออ่อน
พวกไม้สักจะอ่อน อะไรตกใส่ก็จะยุบ แต่สักโบราณก็เป็นไม้แข็งคล้ายกัน พวกไม้ทำเฟอร์นิเจอร์ เช่นพวกไม้ยางพาราซึ่งเบาและอ่อน ขาว เนื้อนวล ส่งออกต่างท้องถิ่นดี ญี่ปุ่นชอบไม้ยางพารามาก พวกไม้สวนผลไม้ที่เอามาทำทางเข้า วงกบ และไม้เส้นตกแต่งร้านก็มี ไม้มะม่วง ลวดลายสวยเหมือนไม้สัก เอาไปกลับทำแจกัน หรือแกะสลักได้ ไม้ขนุนหากแก่ๆ จะมี Yellow พวกไม้ก้ามปูหรือจามจุรี จะมีสัดส่วนโตหากเป็นแกนที่เป็นแดงจะแข็ง หากเป็นส่วนกระพี้หรือเปลือกก็จะอ่อนเหมาะสำหรับทำพาเลสหรือไม้ลัง ไม้สยาเป็นไม้อ่อนที่มีมากแถบมาเลเซียเนื้อไม้ทำวงกบ ทำทางเข้า บานหน้าต่าง

2. การหาไม้
ต้องไปหาแถบๆ ท้องถิ่นลาว กัมพูชา หรือพม่าไป Buy เป็นต้นๆ ก็ได้ หรือไปหา Buy ไม้ท่อน หรือไม้แปรรูปที่ถูกยึดมา การหาไม้เก่าจากบ้านเก่า ก็อาจหาได้จากการ Purchase เป็นหลังๆ แถวบุรีรัมย์ โนนดินแดง นางรอง แถวๆ สีคิ้ว ลำปาง แต่ละแห่งเป็นไม้ไม่ละม้ายคล้ายคลึง ถ้าเป็นแถวๆ บุรีรัมย์ก็มักเป็น ไม้เต็งรัง ไม้มะค่า ไม้ตะเคียนหิน หากเป็นแถบภาคเหนือก็จะเป็นพวกไม้สัก ไม้เต็งรัง การหาไม้เก่าจากร้านจำหน่ายไม้เก่า ที่เขาไปประมูล Buy แล้วก็ Buy มาจัดจำหน่ายเป็นชิ้นๆ รอให้นักสร้างบ้านไม้ พวกทำรีสอต จะมาซื้อมาหา ร้านขายไม้เก่าก็มีแถวๆ อ.ภาชี และ อ.นครหลวง จ.อยุธยา แถวๆ จ.สตั้งค่ารี ก็มีแถวๆ บัวลอย อ.หนองแค และแถวถนนบายพาสไปโคราช แถวๆ จ.นครนายกก็มีแถวคลองรังสิต มีอยู่หลายเจ้าคล้ายๆ การหาไม้อาจใช้แนวทางไป Buy ต้นไม้เป็นต้นๆ ต้นละราวๆ 1,000-1,200 บาท เช่นไม้สะเดา จ้างคนไปตัดเป็นท่อนๆละ 2.5-4.0 เมตร ค่าจ้างราวๆ 700 บาท/ตัน ขึ้นรถบรรทุกมาที่โรงเลื่อย

3. การเลื่อยไม้
ไม้เป็นท่อนๆ ก็จะบรรทุกลงมาที่จุดแปรงรูปไม้อุปกรณ์แบบง่ายยิ่งกว่าอะไรๆ ก็ประกอบด้วยโต๊ะเลื่อยไม้สัดส่วนวงเดือน 36 นิ้ว ต่อแบริ่ง ด้านเดียวต่อมาก็เป็นปุลเล่ย์ แล้วก็สายพานตัววีไปยังเครื่องต้นกำลังที่เป็นมอเตอร์หรือเครื่องยนต์ ครั้งเริ่มต้น จะเอาท่อนไม้ใส่ตัวรับเพื่อให้ลุนท่อนไม้ไปตามลูกกลิ้ง เลื่อยเอาเปลือกออกด้านแรก พอสุดก็ดันท่อนไม้กลับ เอาไม้รองออกจากนั้นก็พื้นเรียบๆ วาง แล้วดันตัดเปลือกอีก พอสุดก็ดันกลับ จากนั้นก็ดันด้านที่สาม ซึ่งจะทำแนวรับเพื่อให้ขนาดไม้หนาสมดุล พวกครบ 3 ด้าน ก็มาดันไม้ เพื่อเลื่อยตามสัดส่วนที่ต้องการ โดยเล็งกับแนวที่มาร์คไว้ที่แท่นเลื่อย จนหมดจึงหยุด ปีกไม้ก็เอามากองๆ ไป หากเป็นไม้ไม่ดีก็เอาไปทำฟืน หากเป็นปีกไม้สักก็จะเอาไปขายได้ทำผนังก็ดี ขี้เลื้อยก็ใส่รถบรรทุก 6 ล้อ ไปจำหน่ายเที่ยวละ 1,500 บาท

4. เอาไม้ไปอบ
เพื่อให้เนื้อไม้มีความชื้นถดถอยเหลือประมาณ 12 - 17% การอบจะค่อยเป็นค่อยไป ต้มหม้อไอน้ำด้วยฟืน เดินท่อมาแล้ว เอาขดลวดท่อน้ำ Hot มาใส่ในโรงอบไม้ ช่วงเริ่มต้นๆ จะพ่นไอน้ำแล้วใช้พัดลมเป่ากวนให้ทั่วถึง เพื่อป้องกันไม้หดตัวแล้วแตก หลังจากนั้นก็ไม่ต้องพ่นไอน้ำหลังจากความชื้นพื้นผิวไม้ลดลงคล้ายๆเนื้อในอบราวๆ 10-14 วัน หากเป็นไม้เนื้อแข็งจะหดน้อย ไม้เนื้ออ่อนก็จะเขาขึ้นมาก การเรียงไม้ในเตาอบก็ให้โปร่งๆ ลมวิ่ง Convenience ทั่วถึง

5. ไม้หลังอบ
ควรเก็บไม้หลังอบให้ดีๆ มิเช่นนั้นจะบิดงอ ขนาดไม้เต็งแข็งขนาด 2X10 นิ้ว ยาว 5 เมตร ยังบิดงอโค้งได้

6. บทส่งท้าย
Knowledge เรื่องไม้ เพื่อที่จะเลือกชนิดไม้ให้เชื่อมโยงกับจุดติดตั้งว่าเป็นฝาผนังภายนอกหรือภายในจะตีฝ้าหรือพื้นหรือเอาไปทำเสา เสานั้นจะกลมหรือเป็นเหลี่ยม จะทำบันไดแบบในร่มหรือแบบทนแดดทนฟ้า ไม้เชิงชายปิดปลายหลังคาควรจะเป็นไม้เนื้อแข็ง เพราะต้องทนแดดและทนน้ำฝน Knowledge เรื่องไม้ อาจหาหนทางทำให้ใช้ไม้ต้นทุนถูกก็ได้ตลอดจนบางครั้งก็ไม่จำเป็นแต่อย่างใดต้องเอาไปเอาไม้ป่ามาทำก็ได้ ไม้ไร่ไม้สวนไม้ปลูกมาทำก็ได้

ภาคคำนวน
โดยปกติไม้จะจำหน่ายเป็น ลบ.ฟุต แต่ User มักจะต้องคิดเป็นตารางเมตรตามแบบแปลนบ้าน

1 ลบ.ฟุต = 0.3048x0.3048x0.3048 ลบ.ม.

1 ลบ.ม. = 0.0283168 ลบ.ม.

1 ลบ.ม. = 1/0.283168 = 35.3147

หรือราวๆ 35 ลบ.ฟุต./ลบ.ม. *

ไม้หนา 1 นิ้ว เพราะอะไร้กระดานพื้น 1 ลบ.ฟุต ทำได้ 12 แผ่น

1 แผ่น 0.348x0.3048 = 0.092903 ต.ร.ม

12 แผ่น 0.092903x12 = 1.1148 ต.ร.ม

หรือ ประมาณ 1 ลบ.ฟ/ Table เมตร (ไม้หนา 1 นิ้ว)

การก่อตั้งบ้านไม้โดยทั่วไป
เมื่อได้ทำการขุดหลุม และได้ตอกเข็มไม้ หรือเข็มคอนกรีตตามขนาด ความยาว และยอดรวมที่ต้องการแล้ว ช่างจะตั้งเสาไม้ และติดตั้งคาน และตง ทั้งชั้นล่างและชั้นบน ต่อจากนั้นก็ติดตั้งขื่อหลังคา แล้วจึงวางโครงหลังคา เริ่มมุงหลังคาโดยใช้กระเบื้องลอน หรือแผ่นสังกะสี หรือแผ่นอะลูมินัมลอน เมื่อมุงหลังคาสำเร็จแล้ว จึงจะเริ่มติดตั้งบันไดชั้นล่างขึ้นชั้นบน ปูพื้นไม้ ติดตั้งเคร่าฝา วงกบทางเข้าหน้าต่าง แล้วตีฝาไม้ตามนอนหรืออาจจะตีฝาตามตั้งก็ได้ ไม้กระดานฝามักใช้ไม้ยางขนาด 12นิ้ว x 6 นิ้ว เมื่อบ้านเสร็จสิ้นแล้วจึงเริ่มทาสี โดยใช้สีน้ำมันทา ใช้สีรองพื้นชั้นหนึ่งก่อน สีรองพื้นนี้ใช้อุดตามรูและแผลในเนื้อไม้เสร็จแล้ว จึงใช้สีน้ำมันทาทับอีก 2 ครั้ง บ้านไม้บางหลังไม่ใช้สีน้ำมันทา แต่ใช้น้ำมันกันตัวสัตว์ทาก็มี

การทำพื้นไม้
ไม้กระดานพื้นนิยมปูตามความยาวของเรือน การวางพื้นคาน และตงมักพอใจวางตามภาพ

การทำบันไดไม้
บันไดไม้มีบันไดพุก และบันไดเจาะ ความกว้างของขั้นบันไดไม่ค

รูปที่เกี่ยวข้องรับซื้อไม้เก่า ให้ราคาสูงที่สุด กับ โชคกันตพลค้าไม้ เรื่องไม้ต้องเราเท่านั้น


รับซื้อไม้เก่า บ้านไม้ทรงไทย กับ โชคกันตพลค้าไม้ เรื่องไม้ยกให้เรา
อ้างอิงจาก: รับซื้อบ้านไม้เก่า
คำที่มีความหมายเดียวกัน: รับซื้อบ้านไม้เก่า
อ้างจาก: รับซื้อบ้านไม้เก่ารับซื้อไม้เก่า ให้ราคาสูงที่สุด กับ โชคกันตพลค้าไม้ เรื่องไม้ต้องเราเท่านั้น
Category Tag: รับซื้อบ้านไม้เก่า รับซื้อไม้เก่า
User: suwanneetum
หน้าหลักของเว็บไซต์: http://www.suwanneetum.com
หน้าผลิตภัณฑ์: http://www.รับซื้อไม้เก่า.com/aboutus.html
หน้าติดต่อสอบถาม: http://www.รับซื้อไม้เก่า.com/contactus.html
URL: suwanneetum
Name: โชคกันตพลค้าไม้
Phone Number: 085-1879081, 087-5813595
Email-Address: toom_suwannee@hotmail.co.th
Address: 33/1 หมู่ 8 ต.โพนทอง อ.หนองแค จ.สระบุรี 18250
About Us: รับซื้อบ้านไม้เก่า รับซื้อไม้เก่า ให้ราคาสูง รับซื้อบ้านไม้ทุกชนิด
#36
ประกาศจำหน่ายผู้ให้บริการ SEO4TOPRANK รับโปรโมทเว็บ บริการ SEO บริการ SEO เรียก Google Bot ด้วยบทความคุณภาพ สอบถามเพิ่มที่ AIS 087-1736064 หาคำตอบเกี่ยวกับบริการ SEOอ่านเรื่องราวดังกล่าวจากส่วนนี้ สวัสดีผู้อ่านทุกคนนักอ่านทุกคนที่เข้ามาค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับการบริการ SEO จากเว็บของเรา วันนี้ส่วนตัวกระผมขออธิบายเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์เว็บให้ติด Ranking Google หรือที่เรียกกันว่า SEO ซึ่งย่อมาจากคำว่า Search Engine Optimize นั่นเองครับ หลายคนสงสัยว่าขั้นตอนทำให้เว็บติดอันดับ Google นั้นทำยังไง มีความละเอียดและยากมากน้อยเพียงใด ส่วนตัวกระผมขอบอกกับผู้อ่านใครๆครับว่า การทำ seo นั้นไม่ได้ยากและไม่ได้ง่าย ขึ้นอยู่กับว่า เราให้ขาดไม่ได้ของคุณภาพมากน้อยเพียงใด และทำตามหลักเกณฑ์และกฎเกณฑ์ของ Google หรือไม่ ณ ตอนนี้ระบบ Search ของกูเกิ้ลเสิร์ซหรือที่เรียกว่า Google Algorithm ได้วิจัยพัฒนาไปอย่างมาก เพราะฉะนั้นก็เพื่อชดเชยความต้องการด้านการค้นหาข้อมูลที่ถูกไม่ผิดพลาดมากยิ่งขึ้น ทาง google ต้องการสร้างการพบเห็นที่ดีให้กับยูสเซอร์ Search Engine ของตน ซึ่งเราจะสงสัยว่า Google Search สามารถค้นหาและนำเว็บที่มีรายละเอียดสัมพันธ์กับอุปสงค์ของยูสเซอร์มาแสดงผลตรงกับสิ่งที่ยูสเซอร์ต้องการ การที่เราจะพัฒนาเว็บให้ติดหน้าแรก google นั้น สิ่งแรกที่เราควรคำนึงมากเท่าที่จะมากได้คือ การสร้างรายละเอียดที่มีคุณค่าและเป็นผลดีต่อผู้อ่านให้มากเท่าที่จะมากได้ การสร้างเนื้อหาคุณภาพ Quality Content จะทำให้เว็บของคุณเป็นที่สนใจของ Google Inc. ยิ่งถ้าหากท่าน Write Article คุณภาพเป็นมิตรกับผู้ใช้งานและมีรูปแบบทางเอกลักษณ์ Unique Content ที่แตกต่างจากเว็บทั่วไป เว็บของคุณก็สามารถทำอันดับได้ง่ายนิดเดียวครับ

การทำ seo ให้เว็บติด Ranking google นั้นสามารถแยกแยะออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ

1. การปรับ SEO On Page
เป็นการปรับให้เว็บรองรับและช่วยเหลือการบริการ SEO โดยเน้นที่การปรับปรุงภายในของเว็บที่จะทำอันดับบน Google ซึ่งการปรับเอสอีโอออนเพจมีความหมาย เพราะจะเป็นการบอกให้ Search Engine รู้ว่าเรากำลังเขียนเว็บเกี่ยวกับอะไร และเว็บของเรานั้นอยู่ในหมวดใดของคำค้นหา ไม่เพียงแต่การปรับ On Page จะเป็นการทำให้เว็บค้นหารู้จักเว็บของเราว่าเป็นเว็บเกี่ยวกับอะไรแล้ว ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เว็บติด Ranking Google เพราะหากเรา Write บทความที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อคนอ่าน เมื่อมีคนเข้ามาเว็บเราและเห็นว่าเป็นเว็บที่มี Article คุณภาพในสายตาผู้อ่านก็จะส่งต่อหรือนำไปเผยแพร่ ทำให้เว็บของเราเป็นที่ชอบของผู้ที่อยากค้นหา Data ที่ข้องเกี่ยวกับรายละเอียดที่เรา Present ซึ่ง เราสามารถปรับ seo on page ได้เช่นนี้

1.1 Title Tag ไตเติ้ลของ Blog นั้นมีความสำคัญและเป็นตัวที่จะบอกให้ Search Engine รับรู้ว่าเว็บของเรามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรและเน้นเรื่องไหนเป็นเหนือกว่า โดย Google จะให้ความระดับชั้นจำเป็นของ Title จากซ้ายไปขวา หากอยากเน้นคำไหนก็สามารถ Write คำนั้นอยู่ตอนต้นของประโยคในไตเติ้ลแท็ก เพราะเหตุนี้ไม่ควรกำหนดให้ไตเติ้ลสั้นหรือยาวมากจนเกินไป และไม่ควรใช้คำซ้ำๆ กัน

1.2 Meta Description Tag ในการบริการ SEO สิ่งที่อันจะทำให้เว็บ Search รู้จักและรู้ว่าเว็บเรานั้นมี Content เกี่ยวกับอะไร นอกจาก Title แล้ว ยังมีอีกแท็กหนึ่งที่เป็นการบรรยายภาพรวมของเว็บว่ามีรายละเอียดเกี่ยวกับอะไร นั่นคือ Meta Description นั่นเองครับ ในการทำให้เว็บรองรับการบริการ SEO เราควรใส่คำทำให้กระจ่างเว็บลงไปในส่วนนี้ เพราะเหตุนี้จะเป็นการทำให้ Search Engine นำเว็บเราไปจัดลำ Ranking อย่างถูกต้องตามกลุ่ม Keyword ที่เกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาของเว็บ

1.3 Meta Keywords Tag หากเราปรารถนาอย่างแรงกล้าให้ Google Search นำเว็บของเราไปปรากฏในหมวดใด สามารถกำหนด Keyword หลักของเว็บได้จากแท็กคำบัญชานี้ ซึ่งคุณสามารถเพิ่ม Keyword ได้มากกว่า 1 คำ โดยมีสัญลักษณ์ , (คอมม่า) คั่นกลางระหว่างคำหลัก หรือคีย์ที่ต้องการทำอันดับ Technique การเพิ่ม Keyword คือ ไม่ควรใส่มากเกินไป และควรเพิ่มคำที่มีอยู่ในเนื้อหาของเว็บ

1.4 H1 H2 H3... Tag หากค้นประสงค์ให้เว็บเป็นที่ชอบของ Google มากขึ้น สามารถใช้แท็กคำที่มอบหมาย H1 H2 H3 ในการกำหนด Size ของหัวข้อหลักหรือชื่อเรื่องของเนื้อหา และควรมี Keyword หลักของเว็บรวมอยู่ในชื่อเรื่องด้วย

1.5 Strong Tag การใช้คำบังคับตัวหนา (Strong) ให้กับบทความ หรือ Keywords ที่เราปรารถนาเน้นนั้น มีจำเป็นต่อการทำอันดับอยู่ไม่น้อยครับ เพราะเหตุนั้นเราสามารถใช้คำบัญชาขีดเส้นใต้ ตัวเอียง หรือการเพิ่มสีให้กับตัวตัวหนังสือในคำหลักของเว็บ เป็นอีกส่วนประกอบที่มีผลต่อ Ranking และทำให้ Ranking ของเว็บดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ควรใช้มากเกินไป ควรทำอย่างถูกและเป็น Nature

1.6 Text Link ในหน้าหลักของเว็บที่อยากประชาสัมพันธ์เว็บให้ติด Ranking Google นั้น ควรสร้าง Anchor Text Link คีย์ที่อยากทำลำดับเข้าสู่หน้าหลัก ซึ่งในหน้าหลักนั้นหากมีลิงค์ไหนที่มีการ Link ไปยังเว็บข้างนอกควรตั้งค่าให้เป็นลิงค์เชื่อมโยงแบบ Nofollow เพื่อไม่ให้สูญเสียค่า Page Rank ไปให้กับเว็บอื่น ส่วนการ Link ลิงค์ข้างในเว็บควรตั้งค่าเป็นลิงค์แบบ Dofollow ซึ่งโดยปกติแล้วหากเราไม่ได้กำหนดค่าอะไรให้กับลิงค์ Search Engine จะรู้ว่าเป็น Dofollow Auto และควรเพิ่มค่า title เพื่อกล่าว Link ที่ Link

1.7 Image การพัฒนาเว็บนั้นไม่ได้มีเพียงแค่รายละเอียด ประโยค เพียงอย่างเดียว การเพิ่มภาพให้กับ Web จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับนักอ่าน Content มากยิ่งกว่า ซึ่ง การเพิ่มรูปภาพให้กับเว็บเพจนั้น ควรใช้คำบัญชา alt เพื่อทำให้เข้าใจให้เสิร์ทเอนจิ้นรู้ว่ารูปภาพนั้นเกี่ยวกับอะไรและมีความเกี่ยวเนื่องกับ Content ในเว็บเช่นใด

1.8 Keyword In Content อีกแนวทางหนึ่งที่สำคัญและหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างยิ่งในการกรอก Article และให้เว็บเสิร์ชเข้าใจว่า Article ของเรามีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องไหนเป็นพิเศษ คือ การใส่ keyword ที่บริเวณตำแหน่งของ Content ในส่วนแรก (First Content) ให้ใส่ Keyword ไว้ในสถานะ 20 - 30 คำแรกโดยราวๆ ให้ชัดเจน หรืออาจจะใช้ตัวอักขระลักษณะเอียงหรือขีดเส้นใต้ก็ได้ การใส่ keyword ที่บริเวณ Content ในส่วนสุดท้ายของ Article (The last content) เพื่อเน้นความสำคัญหรือใช้ในการเอาเป็นว่า Content อาจจะใช้เป็นลักษณะขีดเส้นใต้ ตัวเอียงหรือหนา (นำเสนอให้ใช้ tag แบบ < b>คำค้น< /b> หรือแบบ < strong>คีย์ ก็ได้มีค่าเท่ากัน เพราะว่า Search Engine มีการให้ Score การจัดอันดับมากกว่า 200 Factor ) ก็ได้ครับตามแต่จะ Convenience

1.9 Keyword In File Name ใช้แนวทางเพิ่ม keyword ในการตั้งชื่อ File และโฟลเดอร์ (Folder name, File name) Method นี้ได้ผลเป็นที่ดีมากครับ เพราะเป็น Search Engine จะให้น้ำหนักมวลรวมกับชื่อ File หรือ Folder หรือที่เรียกว่า Keyword In File Name เคสที่เขียนเว็บเองไม่ได้ใช้ CMS สำเร็จรูปอย่าง Wordpress สามารถที่จะกำหนดค่า .htaccess ในการปรากฏชื่อไฟล์ Language ไทย ตามด้วย Surname .php หรือ html แล้วแต่จะสะดวก นำเสนอใช้แบบ .php เพราะ .html มีจุดด้อยในการทำให้ดีกว่าเดิมเว็บ ตัวอย่างเช่น ไม่สามารถ include คำบังคับจากที่อื่นมาได้ ส่วนตัวอย่างที่ใช้เว็บไซต์สำเร็จรูปก็อาจใช้สัญลักษณ์ - ในการแยกคำที่มีหลายพยางค์ เป็นต้น

1.9 Keyword In Domain หากท่านสามารถจดทะเบียนใช้งานชื่อเว็บได้ตรงกับ Keyword เป็นเรื่องที่ดีมาก หากชื่อไม่ว่างแล้วท่านก็สามารถที่จะใช้แนวทางนี้ได้เพียงแต่อาจเอาคำอื่นมารวมอยู่กับชื่อที่ตรงคำค้น เรื่องของคีย์ในโดเมนนั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่ในในขณะนี้จะต้องทำให้คุณภาพในสายตาผู้อ่านมากยิ่งขึ้นครับ

2.0 Content Update การปรับให้เว็บสนับสนุนการบริการ SEO ด้วย Search Engine Optimize ออนเพจ นั้น นอกที่เราจะปรับให้ Structure ของเว็บถูกหลักตามมาตรฐานของเว็บแล้ว สิ่งจำเป็นอีกประการหนึ่งก็คือ การหมั่นพยายาม Update เนื้อหาของเว็บอย่างเป็นประจำ เป็นประจำ เพื่อที่จะให้เว็บมี Article ให้ผู้ที่สนใช เข้ามา Read และวิจัยหา Knowledge จากเว็บของเรา อีกทั้งเพื่อบอกให้ Google Bot เข้ามาอัพเดท Cache ของเว็บเราอย่างต่อเนื่อง เราควรอัพเดทบทความของเว็บอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อที่อันจะทำให้เว็บของเราเป็นเว็บที่มีข้อมูลใหม่ สด และเป็นผลดีต่อยูสเซอร์อยู่เสมอ

2.1 XML-Sitemap การที่จะดำเนินงานให้เว็บของเรามีการ Update Cache ของ Search Engine อย่างต่อเนื่องนั้น นอกจากการรอให้ Google Bot วิ่งเข้าหาเว็บ เพื่อเก็บข้อมูลไป Index แล้ว การใช้ Google Webmaster Tools ในการอัพเดท Sitemap นั้นมีจำเป็น สาเหตุเพราะ การเพิ่ม Sitemap ของเว็บเราเข้าไปในส่วนของเครื่องใช้สอยเว็บมาสเตอร์ จะช่วยให้หน้าเว็บที่สร้างใหม่มีการ Index เร็วขึ้น และสถิติหน้าของเว็บมีผลต่อ Ranking บน Google Search ด้วย อย่างไรก็แล้วแต่หากเว็บนั้นมี Back Link Quality และมีการเพิ่มเนื้อเรื่องที่มีประโยชน์อย่างเป็นประจำ Daily เว็บนั้นก็จะได้รับความชอบจาก Google Bot เป็นดีกว่าปกติ และหน้าเว็บที่สร้างใหม่ก็จะถูกนำไปเก็บไว้ใน Search Engine อย่างรวดเร็ว

2.2 Web Structure and Web Layout การจะดำเนินการให้เว็บสนับสนุนระบบเสิร์ชของเว็บค้นหากูเกิ้ลให้มีสมรรถภาพนั้น Structure เว็บก็มีส่วนละเลยไม่ได้ในการให้ Score เพื่อจัดลำดับด้วยเช่นกัน เว็บที่มีโครงสร้างที่ดีและสนับสนุน SEO คือเว็บที่เขียนด้วย Language HTML และ PHP หรือภาษาอื่นๆ ที่มีรูปแบบการใช้แท็กคำบังคับที่ถูกต้อง รวมทั้งมีการจัดลักษณะเว็บให้รองรับ Operation ของ Tool Search โดยใช้เครื่องใช้สอย W3C Validator ในการสำรวจความถูกต้องของการเขียนเว็บโฮมเพจ และการทำให้เว็บมี Structure ที่ง่ายและสะดวกต่อการใช้งานและเข้าถึงข้อมูลนั้น ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยในเรื่องของการทำลำดับครับ

2.3 Keyword Density การอันจะทำให้เว็บเป็นที่ต้องการของระบบเสิร์ชนั้น นอกจากการเขียนด้วย Content Quality แล้ว ควรมีการกำหนดความหนาแน่นของคำค้นอย่างเป็นธรรมชาติด้วย การกระจายคำค้นที่มีความหนาแน่นน้อยก็จะไม่ช่วยเรื่องของอันดับมากเท่าที่ควร แต่หากกำหนดความหนาแน่นของคีย์มากเกินไป ก็อาจทำให้เว็บหายไปจาก Ranking ต้นๆ ได้ ดังนั้นการตั้งค่า Keyword Density ของเว็บให้เหมาะสมและเป็นธรรมชาติ จะช่วยดำเนินงานให้เว็บติด Ranking เนิ่นนานและยั่งยืนครับ

2.4 High Traffic High Ranking การบริการรับทำ SEO โดยหวังเพียงแค่อันดับบน Search Engine เพียงอย่างเดียวนั้นไม่จีรังยั่งยืน เพราะปัจจุบัน Google ได้นำเอาคนมาเป็นตัวแปรหนึ่งในการวัด Score สำหรับจัดอันดับ หมายความว่า การปรับแค่เพียง SEO On Page และ SEO Off Page เพียงอย่างเดียวนั้น ไม่ได้สร้างความอยู่ได้เป็นเวลานานของ Ranking เจ้าของเว็บควรใส่ใจในส่วนของเนื้อหา โดยปรับให้ Content ภายในเว็บมีคุณภาพอย่างแท้จริงเป็นมิตรกับนักอ่าน และสร้าง Article ที่มีประโยชน์ เพื่อที่จะดำเนินการให้เว็บมีสถิติ Reader หรือ Member ในการติดตามข้อมูลของเว็บอย่างเป็นประจำ เมื่อเว็บมี Content ที่ดี มี Off Page Link คุณภาพที่สุดในปริมาณที่เหมาะสม และมีสถิติ UIP Traffic ที่สมควรกับ Keyword หลักของเว็บ Ranking บนเว็บค้นหาก็ไม่ใช่เรื่องยากเพื่อเว็บที่ดี

2.5 Google Tools and API วันนี้ทาง Google ได้ค้นคว้าพัฒนา Tool เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าลงทะเบียนใช้งานฟรีมากมาย และหลายหลากลักษณะ ดังนั้นนั้นก็เพื่อทำให้ผู้ใช้งานสามารถดึงเอาความสามารถของ Search Engine Ranking หนึ่งของโลกมาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเพื่อสร้างความชำนิชำนาญที่ดีในการใช้ Service ของกูเกิ้ลเสิร์ซ และถูกต้องครับว่า การปรับ SEO-On Page ที่ดีนั้น ควรนำเอาระบบ Google Services มาติดภายใน Blog หลัก หรือเขียนคำสั่ง Link กับ Google API เพื่อทำให้เว็บมีการ Link ของข้อมูลและการนำเสนอเว็บที่ดี อีกทั้งเป็นการทำให้เว็บรองรับการใช้งานของผู้ที่เข้ามาอ่านเว็บได้อย่างหลายอย่างต่างๆ กัน ตลอดจนสามารถโต้ตอบและแชร์บทความของเว็บได้

2.6 Use Local Language ในการทำ SEO ติดอันดับ Google ที่ถูกต้องตามกฎและนโยบายของกูเกิ้ลแล้ว การเลือกใช้ Language ให้เชื่อมโยงกับกลุ่มหลักชัยในการประชาสันพันธ์หรือการโปรโมท เป็นสิ่งที่จำเป็นและมีจำเป็นอย่างยิ่ง เช่น หากเราปรารถนาอย่างแรงกล้าทำ Ranking บน Google.co.th ให้เราสร้างเว็บโฮมเพจที่ใช้ Thai Language เป็นภาษาหลักในการพิมพ์บทความ หากเราอยากทำอันดับบน Google.com ให้เราใช้ English (US) เป็น Language หลักในการกรอกบทความของ Web นอกจากนี้แล้วให้เราไปกำหนดเป้าหมายการทำ Ranking กับ Webmaster Tools และควรใช้โฮสที่มีค่า IP Address ที่สมพันธ์กับท้องถิ่นที่ปรารถนาโปรโมทด้วย

2.7 Unique Content On Page การสร้างเนื้อเรื่องที่มี Quality และเป็นมิตรกับนักอ่านนั้น ควรเขียนขึ้นมาใหม่รวมยอด หรือสร้างเนื้อหาที่ไม่ซ้ำใครและบทความเหล่านั้นมีประโยชน์ต่อผู้ที่เข้ามา Read การบริการรับทำ SEO แท้จริงคือการตอบแทนความต้องการด้าน Data ระหว่างผู้สร้างข้อมูล คือ Webmaster กับผู้ตรวจสอบและรวบรวม Data คือ Search Engine การมอบสิ่งที่เว็บค้นหาปรารถนาอย่างแรงกล้า เว็บ Search ก็จะมอบลำดับที่เราปรารถนาอย่างแรงกล้าด้วยเช่นกัน สรุป เราควรขยันขวัญขวายในการเพิ่มเนื้อหาที่มีประโยชน์ต่อคนอ่านอย่างเป็นประจำ และให้ความหมายในเรื่องของคนมากกว่าลำดับ เพราะคนจะเป็นส่วนสำคัญที่จะตัดสินว่าเว็บของเราควรอยู่ที่ตำแหน่งไหนของผลการค้นหา

2.8 Build Link In Site การ Link ลิงค์ข้างในเว็บเป็นสิ่งที่ต้องสร้างให้มีความสันพันธ์กันของ Data พากเพียรนำทาง User ให้เข้าถึงข้อมูลข้างในเว็บอย่างถูกต้อง และ Present เนื้อหาอันเป็นที่ปรารถนาของ User ตลอดจนปรับให้เว็บมีรูปแบบที่สะดวกสบายต่อการใช้งาน โดยกำหนดหน้าแรกเป็นตัวหลักในการนำทางไปยังหน้าย่อย และมี Anchor Text Link นำทางไปยัง Article ต่างๆ ภายในบล็อก

2. การปรับ SEO Off Page
เป็นการปรับให้เว็บรองรับและช่วยเหลือการบริการ SEO โดยเน้นที่การปรับส่วนประกอบภายนอกเป็นหลัก กล่าวคือ เป็นการกรอก Article คุณภาพมากที่สุดที่น่าสนใจและเป็นมิตรกับ Reader และทำการเชื่อมโยงลิงค์ไปยังเว็บหลัก หรือเรียกว่า การสร้าง Back Link ซึ่งการปรับ Search Engine Optimize ออฟเพจที่ถูกนั้น ควรให้ความสำคัญของคุณภาพสำหรับผู้อ่านของ Article และความเป็นประโยชน์ต่อนักอ่านเป็นหลักครับ เนื่องด้วยหาก Write เนื้อเรื่องที่น่าสนใจก็จะมีผู้ที่เข้ามา Read นำหน้าเว็บดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ ซึ่งเป็นการสร้าง Back Link ที่ถูกต้องและเป็น Nature การสร้าง Network ส่วนตัวก็เป็นการทำ SEO Off Page อีกแบบหนึ่งเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่ทำ SEO มีการเขียน Content ให้มีคุณภาพอย่างแท้จริงและมีประโยชน์มากน้อยเพียงใด หาก Write Content ที่ดีและเป็นมิตรกับนักอ่านถูกต้องว่าหน้าเว็บเหล่านั้นก็จะขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของผล Search Google และส่งผลให้เว็บหลักมีอันดับที่ดีขึ้นอีกด้วยครับ ลงความเห็น คือ การสร้างลิงค์เชื่อมโยงจากภายนอกเข้าสู่หน้าเว็บหลักที่ปรารถนาอย่างแรงกล้าทำ Ranking นั่นเองครับ

2.1 Link Building การสร้างลิงค์ที่ถูกต้องและเป็นธรรมชาตินั้น ควรให้ความหมายกับคุณภาพของบทความเป็นอันแรก หากเนื้อหาไม่ได้ Quality และมีการ Link Anchor Text Link ไปหาเว็บหลักก็ไม่มีความสามารถ และอาจทำให้ Ranking แย่ลงกว่าเดิม การสร้างรายละเอียดที่มีคุณค่าและมีความโดดเด่นจะช่วยส่งเสริมให้ลิงค์เหล่านั้นสามารถดัน Ranking เว็บหลักได้อย่างมีความสามารถ

2.2 Keyword Diversify การบริการ SEO ในขณะนี้แตกต่างจากยุคที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง Google เน้นคุณภาพมากที่สุดมากขึ้น การนำเสนอเว็บต้องให้ความสำคัญและรู้จักหน้าที่ต่อผู้ Search ข้อมูลผ่านทาง Search Engine มากขึ้น Content ที่นำไปปรากฏต่อนักอ่านจึงควรเป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์และเป็นที่อยากของผู้เสิร์ชอย่างแท้จริง การที่มุ่งหวังผลแต่เพียงลำดับอย่างเดียว โดยการใช้ Keyword ซ้ำๆ ในการทำอันดับนั้นไม่เป็นประโยชน์ต่อการนำเสนอเว็บในยุคที่อัลกอลิทึมเน้นคุณภาพในสายตาผู้อ่าน หากอยากที่จะทำอันดับบน Google Search คุณควรเปลี่ยน Keyword Link ตามความเหมาะสมของ Content เพื่อเชื่อมโยงไปหาเว็บหลักอย่าง Relationships กัน การสร้างลิงค์คุณภาพในสายตาผู้อ่านจึงควรมีการปรับ Keyword Diversify อย่างสมควรและมีคุณภาพในสายตาผู้ใช้งานตลอดจนสามารถเชื่อมโยง Content ที่ผู้ Search Data อยากอย่างสร้างสรรค์

2.3 PR ในการบริการ SEOในยุคนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าค่า PR ไม่มีจำเป็น อันที่จริงแล้ว Google ใช้ Factor มากมายในการจัดลำดับและค่า PR เป็นหนึ่งใน Factor หนึ่งที่มีผลต่อลำดับของ Blog ในขณะที่เว็บหน้าหลักปริมาณของ Back Link และคุณภาพของรายละเอียดอยู่ในระดับเดียวกัน เว็บที่มีค่า Page Rank สูงกว่าจะมี Ranking ที่เลิศกว่า ดังนั้นค่าดังกล่าวนี้จะเป็นการระบุให้เข้าใจว่าเว็บนั้นมีคุณภาพในสายตาผู้ใช้งานมากน้อยเท่าใด ซึ่งมีค่าตั้งแต่ 0 - 10 การจะปฏิบัติให้เว็บของเรามีค่า PR ที่สูงขึ้นนั้น เราสามารถไป Write เนื้อเรื่องที่น่าสนใจในเว็บที่มีค่า PR สูงๆ และทำสร้าง Link กลับไปยังเว็บหลัก

2.4 Social Network กระบวนการการนำเสนอเว็บเพื่อทำอันดับบน Google อีกส่วนประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญต่อ Ranking อย่างมาก คือ Link จากเว็บเว็บสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google Plus, Twitter และ Youtube เป็นส่วนจำเป็นในการทำ Ranking อย่างมาก การแชร์ Content คุณภาพเป็นมิตรกับผู้ใช้งานผ่านสังคมออนไลน์และการสร้างวีดีโอเผยแพร่บน Youtube เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้อันดับเว็บของคุณดียิ่งขึ้น

2.5 Unique Content Off Page ในการประกาศเว็บติด Ranking Google นั้น สิ่งละเลยไม่ได้ที่สุด ก็คือ การสร้าง Article Quality ไม่ซ้ำใคร หรือที่เรียกว่า Unique Content หรือ อาจเรียกอีกอย่างว่า Quality Content โดยที่เนื้อเรื่องคุณภาพในสายตาผู้อ่าน จะต้องเป็นการสร้างขึ้นมาใหม่รวบยอด และมีรายละเอียดที่รวมไปถึง Language Write ได้ถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ และประโยคที่ Write เป็นมิตรกับคนอ่าน เนื้อเรื่องนั้นจะต้องให้สาระประโยชน์แก่ Reader ตลอดจนอธิบาย Detail เรื่องนั้นๆ ได้อย่างลึกซึ้ง ผู้ที่เข้ามา Read Article แล้วได้รับ Knowled

รูปภาพที่เกี่ยวข้องเว็บไซต์ SEO4TOPRANK รับโปรโมทเว็บ บริการ SEO ทำอันดับ Google ดูเนื้อหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไซต์ เบอร์โทร AIS 087-1736064


Domain SEO4TOPRANK รับโปรโมทเว็บ บริการ SEO SEO ราคาถูก วิเคราะห์และสร้างไฟล์ robots.txt Tel. 0871736064
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
คำที่ใกล้เคียง: บริการ SEO
อ้างจาก: บริการ SEOเว็บไซต์ SEO4TOPRANK รับโปรโมทเว็บ บริการ SEO ทำอันดับ Google ดูเนื้อหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไซต์ เบอร์โทร AIS 087-1736064
หมวดหมู่ของเว็บ: Search Engine Optimize
แนะนำโดย: seo4toprank
หน้าหลัก: http://www.seo4toprank.com/บริการseo.php
ดูข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.seo4toprank.com/บริการทำseo.php
Contact: http://www.seo4toprank.com/บริการseoราคาถูก.php
บล็อก: seo4toprank
ชื่อ: สันทรายคอมพิวเตอร์ กรุ๊ป
เบอร์โทรติดต่อ: 087-1736064
เมล์: seo4toprank@gmail.com
ที่อยู่: 314/28 หมู่ 2 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50210
ประเภทกิจการ: ผู้ให้บริการ SEO รับทำ SEO โปรโมทเว็บติดอันดับ Google ด้วย Unique Content
#37
ผลดีเกี่ยวกับเว็บไซต์ SEO4TOPRANK รับโปรโมทเว็บ บริการ SEO บริการรับทำ SEO รับทำอันดับ Google Search ต่างประเทศ Tel. AIS 087-1736064 ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับบริการ SEOอ่านเรื่องราวดังกล่าวจากส่วนนี้ สวัสดีครับทุกท่านผู้ที่ชอบอ่านบทความออนไลน์ทุกคนที่เข้ามาศึกษาทำความเข้าใจอย่างครบถ้วนหาความรู้ที่ได้จากการลองผิดลองถูกเกี่ยวกับการบริการ SEO จากเว็บของเราและคุณทุกคน Today ข้าพเจ้าขอให้คำแนะนำเกี่ยวกับการโปรโมทเว็บสื่อออนไลน์ให้ติดอันดับหน้าแรกของ Google หรือที่เรียกกันว่า SEO ซึ่งย่อมาจากคำว่า Search Engine Optimize นั่นเองครับ สมาชิกหลายคนสงสัยต้องการหาคำตอบว่าวิธีการการทำให้เว็บติดลำดับ Google นั้นทำเช่นใด มีความซับซ้อนและยากมากน้อยเพียงใด ผู้เขียน (Author) ขอบอกกับ Reader หลายๆคนครับว่า การทำ seo นั้นไม่ได้ยากและไม่ได้ Easy ขึ้นอยู่กับว่า เราและเพื่อนร่วมวิชาชีพให้ Importance ของ Quality มากน้อยเพียงใด และทำตามข้อบัญญัติและนโยบายที่สมาชิกทุกคนต้องปฏิบัติตามของ Google หรือไม่ ช่วงเวลานี้ระบบค้นหาข้อมูลใหม่ของ Google Searchหรือที่เรียกว่า Google Algorithm ได้ทำให้ดียิ่งขึ้นไปอย่างมาก ทั้งนี้และทั้งนั้นก็เพื่อตอบสนองอารมณ์ความต้องการ (Need) ด้านการค้นหาวิธีทำข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญที่ถูกต้องตามหลักของเหตุผลแน่นอนมากขึ้นกว่าปกติ ทาง google ต้องการตามที่ใจปรารถนาสร้างประสบการณ์ที่สั่งสมที่ดีให้กับผู้ใช้งานที่มีประโยชน์ Search Engine ของตน ซึ่งเราและทีมงานทุกคนจะสิ่งที่สามารถสังเกตุว่า Google Search สามารถค้นหาสิ่งที่ไม่รู้และนำเว็บที่มีเนื้อหาสาระสอดคล้องกับความต้องการ (Need) ของ User งานที่เหมาะสมกับตัวเองมาปรากฏให้เห็นตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ทั่วไปงานที่เหมาะสมกับตัวเองต้องการเป็นอย่างสูง การที่เราและคุณทุกคนจะทำเว็บให้ติดอันดับ Google.co.th google นั้น สิ่งแรกที่เราและคุณทุกคนควรคำนึงมากที่สุดอย่างแท้จริงคือ การสร้างเนื้อหาวิชาการที่มีคุณค่าและเป็นผลดีมากกว่าผลเสียต่อผู้ที่สนใจอ่านบทความให้มากที่สุดที่เราตั้งใจไว้ การสร้างเนื้อหา (Content) คุณภาพ (Quality) Quality Content เป็นสิ่งจะทำเว็บของคุณเป็นที่ Interested ของกูเกิ้ลประเทศไทย ยิ่งถ้าหากคุณเขียนอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับบทความที่สร้างขึ้นคุณภาพที่ได้รับการยืนยันและมีเอกลักษณ์ Unique Content ที่แตกต่างจากเว็บทั่วไป เว็บของคุณก็ย่อมทำอันดับได้ง่ายครับ

การทำ seo ให้เว็บติดอันดับที่ดีของ google นั้นสามารถแบ่งตามประเภทออกเป็น 2 Category ใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ

1. การปรับ SEO On Page
เป็นการปรับให้เว็บรองรับและอุปการะการบริการ SEO โดยเน้นที่การปรับปรุงเสริมแต่งข้างในของเว็บที่จะทำ Ranking บน Google ซึ่งการปรับการทำอันดับเว็บบนกูเกิ้ลออนเพจมีสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ เพราะจะเป็นการบอกให้ Search Engine เข้าใจและสามารถเผยแพร่ความรู้ให้ผู้ที่สนใจว่าเราและผู้อ่านทุกคนกำลังทำเว็บเกี่ยวกับอะไร และเว็บของเราทุกคนนั้นอยู่ในหมวดใดของคำค้นหาสิ่งที่ไม่รู้ ไม่เพียงแต่การปรับ On Page จะเป็นการทำให้เว็บค้นหาข้อมูลใหม่รู้จักเว็บของเราและเพื่อนร่วมวิชาชีพว่าเป็นเว็บเกี่ยวกับอะไรแล้ว ยังเป็นปัจจัยสำคัญมากที่สุดที่ทำให้เว็บติดอันดับต้นๆ Google เพราะหากเราและผู้อ่านทุกคน Write เนื้อหาที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อ Reader เมื่อมีคนเข้ามาเว็บเราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บและเห็นว่าเป็นเว็บที่มีเนื้อเรื่องคุณภาพที่หลายคนไว้วางใจก็จะส่งต่อหรือนำไปเผยแพร่ ทำให้เว็บของพวกเราทุกคนเป็นที่มีความสนใจมากขึ้นของผู้ที่ต้องการเป็นอย่างสูงค้นหาแนวทางข้อมูลที่ถูกต้องที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบทความที่อ่านแล้วมีประโยชน์ที่เราและทีมงานทุกคนนำเสนอตรงไปตรงมาเกี่ยวกับ ซึ่ง เราและเพื่อนร่วมวิชาชีพย่อมปรับ seo on page ได้ตามนี้

1.1 Title Tag ไตเติ้ลของเว็บไซต์นั้นมีความสำคัญอย่างแท้จริงและเป็นตัวที่จะบอกให้ Search Engine รับรู้ว่าเว็บของเราและสมาชิกทุกท่านมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับอะไรและเน้นเรื่องไหนเป็นแปลกไปจากสามัญ โดย Google จะให้ความชั้นความสำคัญอันดับต้นๆของ Title จากซ้ายไปขวา หากต้องการ (Want) เน้นคำไหนก็ย่อมเขียนอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับคำนั้นอยู่ตอนต้นของประโยคบอกเล่าในไตเติ้ลแท็ก สรุปไม่ควรกำหนดให้ไตเติ้ลสั้นหรือยาวมากจนเกินไป และไม่ควรใช้คำซ้ำๆ กัน

1.2 Meta Description Tag ในการบริการ SEO สิ่งที่ซึ่งจะทำให้เว็บค้นหาคำตอบรู้จักและเข้าใจว่าเว็บเราและสมาชิกทุกท่านนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับ What? นอกจาก Title แล้ว ยังมีอีกแท็กหนึ่งที่เป็นการบรรยายภาพรวมของเว็บว่ามีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับ What? นั่นคือ Meta Description นั่นเองครับ ในการทำให้เว็บรองรับการบริการ SEO เราควรใส่คำทำให้กระจ่างเว็บลงไปในส่วนนี้ ทั้งนี้และทั้งนั้นจะเป็นการทำให้ Search Engine นำเว็บพวกเราทุกคนไปจัดลำอันดับอย่างถูกต้องชัดเจนตามกลุ่มคีย์เวิร์ดที่นิยมค้นหาที่ Accord กับเนื้อหาที่เป็นมิตรกับผู้อ่านของเว็บ

1.3 Meta Keywords Tag หากเราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บต้องการอย่างมากให้ Google Search นำเว็บของพวกเราทุกคนไปประกฏให้เห็นในหมวดใด ย่อมกำหนดคีย์เวิร์ดหลักของเว็บได้จากแท็กนโยบายนี้ ซึ่งคุณสามารถเพิ่ม Keyword ได้มากกว่า 1 คำ โดยมีสิ่งที่ทำขึ้นแสดงความหมาย , (คอมม่า) คั่นกลางระหว่างคำหลัก หรือคีย์เวิร์ดตลาดที่ต้องการอย่างแท้จริงทำอันดับที่ดีของ เทคนิค (Technique) การเพิ่ม Keyword คือ ไม่ควรใส่มากเกินไป และควรเพิ่มคำที่มีอยู่ในบทความที่อ่านแล้วมีประโยชน์ของเว็บ

1.4 H1 H2 H3... Tag หากค้นต้องการอย่างแรงกล้าให้เว็บเป็นที่มีความสนใจมากขึ้นของ Google มากขึ้น ย่อมใช้แท็กคำสั่งการ H1 H2 H3 ในการกำหนดขนาดที่ประมาณด้วยสายตาของหัวเรื่องหรือชื่อเรื่องของบทความที่อ่านแล้วมีประโยชน์ และควรมี Keyword หลักของเว็บรวมอยู่ในชื่อเรื่องด้วย

1.5 Strong Tag การใช้คำสั่งตัวหนา (Strong) ให้กับข้อความ (Message) หรือ Keywords ที่เราและทีมงานทุกคนต้องการอย่างแรงกล้าเน้นนั้น มีความสำคัญต่อการทำอันดับหน้าแรกของอยู่ไม่น้อยครับ เพราะเหตุนั้นเราและคุณทุกคนสามารถใช้คำสั่งการขีดเส้นใต้ ตัวเอียง หรือการเพิ่มสีให้กับตัวตัวหนังสือในคำหลักของเว็บ เป็นอีก Factor ที่มีผลต่ออันดับ (Ranking) และทำให้อันดับต้นๆของเว็บดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ควรใช้มากเกินไป ควรทำอย่างถูกต้องชัดเจนและเป็น Nature

1.6 Text Link ในหน้าหลักของเว็บที่ต้องการอย่างสูงโปรโมทเว็บทำการตลาดออนไลน์ให้ติดอันดับต้นๆของ Google นั้น ควรสร้าง Anchor Text Link คีย์เวิร์ดที่มีการค้นหามากที่ต้องการอย่างสูงทำอันดับต้นๆของเข้าสู่หน้าหลัก ซึ่งในหน้าหลักนั้นหากมีลิงค์ไหนที่มีการ Link ไปยังเว็บข้างนอกควรตั้งค่าให้เป็นลิงค์เชื่อมโยง (Link) แบบ Nofollow เพื่อไม่ให้สูญเสียค่า Page Rank ไปให้กับเว็บอื่น ส่วนการเชื่อมต่อลิงค์สิ่งที่อยู่ข้างในเว็บควรตั้งค่าเป็นลิงค์แบบ Dofollow ซึ่งโดยปกติแล้วหากเราและเพื่อนร่วมวิชาชีพไม่ได้กำหนดค่า What?ให้กับลิงค์ Search Engine จะเข้าใจว่าเป็น Dofollow มีกลไกทำหน้าที่ได้เอง และควรเพิ่มค่า title เพื่อชี้แจง Link ที่เชื่อมโยง

1.7 Image การสร้างเว็บนั้นไม่ได้มีเพียงแค่บทความที่อ่านแล้วได้รับความรู้ ข้อความ เพียงอย่างเดียว การเพิ่มภาพให้กับเว็บไซต์จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ (Interested) ให้กับผู้ที่ชอบอ่านเนื้อหาเพื่อแสวงหาความรู้เนื้อหาที่เป็นมิตรกับผู้อ่านมากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ซึ่ง การเพิ่มรูปให้กับเว็บเพจนั้น ควรใช้คำสั่ง alt เพื่ออธิบายให้เข้าใจอย่างชัดเจนให้เสิร์ทเอนจิ้นตระหนักดีว่ารูปนั้นเกี่ยวกับ What?และมีความสอดคล้อง (Accord) กับบทความที่ปรากฏบนเว็บในเว็บอย่างไร

1.8 Keyword In Content อีกกลยุทธ์หนึ่งที่จำเป็นและจำเป็นอย่างยิ่งยวดอย่างยิ่งในการเขียนบทความที่มีสาระเนื้อเรื่องและให้เว็บค้นหา (Search) Understand ว่าบทความที่เขียนด้วยมนุษย์ของเราและคุณทุกคนมีเนื้อหาวิชาการเกี่ยวกับเรื่องไหนเป็นพิเศษ (Special) คือ การใส่ keyword ที่บริเวณหน้าที่รับผิดชอบของบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านในส่วนแรก (First Content) ให้ใส่ คีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันกันสูง ไว้ในตำแหน่งที่ตั้ง 20 - 30 คำแรกโดยที่ประมาณการณ์ไว้ ให้ชัดเจนอย่างไม่มีข้อสงสัย หรืออาจจะใช้ตัวอักษรตัวหนังสือลักษณะเอียงหรือขีดเส้นใต้ก็ได้ การใส่ keyword ที่บริเวณ บทความคุณภาพในส่วนสุดท้ายของบทความที่ปรากฏบนเว็บ (The last content) เพื่อเน้นสิ่งสำคัญหรือใช้ในการสรุป (Summary) เนื้อหาสำคัญ อาจจะใช้เป็นลักษณะขีดเส้นใต้ ตัวเอียงหรือหนา (แนะนำ (Recommend) ให้ใช้ tag แบบ < b>คีย์เวิร์ดที่มีการค้นหามาก< /b> หรือแบบ < strong>คำค้นที่นิยมค้นหา ก็ได้มีค่าเท่ากัน (Equal) เพราะว่าเหตุผลคือ Search Engine มีการให้แต้มจากคณะกรรมการการจัดอันดับหน้าแรกของมากกว่า 200 ปัจจัยต่างๆ) ก็ได้ครับตามแต่จะง่ายดาย

1.9 Keyword In File Name ใช้ Method เพิ่ม keyword ในการตั้งชื่อ File และโฟลเดอร์ (Folder name, File name) วิธีการนี้ได้ผลเป็นที่ดีมากครับ เพราะเป็น Search Engine จะให้น้ำหนัก (Weight) กับชื่อไฟล์เอกสารที่ใช้ประกอบการทำงานหรือโฟล์เดอร์สำหรับจัดเก็บเอกสาร หรือที่เรียกว่า Keyword In File Name ตัวอย่างที่เขียน (Write) เว็บเองไม่ได้ใช้ CMS สำเร็จรูปอย่าง Wordpress สามารถที่จะกำหนดค่า .htaccess ในการปรากฏชื่อไฟล์เอกสารสำคัญภาษาไทย ตามด้วยนามสกุลจริง .php หรือ html แล้วแต่จะสะดวก แนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ใช้แบบ .php เพราะ .html มีจุดด้อยในการพัฒนาเว็บ ยกตัวอย่างให้ผู้อ่านเข้าใจเช่น ไม่สามารถ include ระเบียบจากที่อื่นมาได้ ส่วนตัวอย่างที่ใช้เว็บสำเร็จรูปก็อาจใช้สัญลักษณ์ - ในการแยกคำที่มีหลายพยางค์ เป็นต้น

1.9 Keyword In Domain หากท่านสามารถลงทะเบียนใช้งานใช้งาน (Work) ชื่อเว็บภาษาไทยได้ตรงกับ Keyword เป็นเรื่องที่ดีมาก หากชื่อไม่ว่างแล้วท่านก็สามารถที่จะใช้วิธีนี้ได้เพียงแต่อาจเอาคำอื่นมารวมอยู่กับชื่อที่ตรงคำค้นตลาด เรื่องของคำค้นที่มีผลตอบรับดีในโดเมนนั้นย่อมใช้งานได้ทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่ใน ณ ตอนนี้จะต้องทำให้คุณภาพที่หลายคนไว้วางใจมากยิ่งยวดครับ

2.0 Content อัพเดทเนื้อหาสาระ การปรับให้เว็บช่วยเหลือการบริการ SEO ด้วยการทำให้เว็บติดอันดับออนเพจ นั้น นอกที่เราและคุณทุกคนจะปรับให้โครงสร้าง (Structure) ของเว็บถูกหลักตามมาตรฐานของเว็บแล้ว สิ่งสำคัญมากที่สุดอีกประการหนึ่งก็คือ การหมั่น Attempt อัพเดทข้อมูลข่าวสารเนื้อหาที่เป็นมิตรกับผู้อ่านของเว็บอย่าง Regularly ต่อเนื่องไปตลอด เพื่อที่จะให้เว็บมีบทความที่เขียนด้วยมนุษย์ ให้ผู้ที่สนใช เข้ามาอ่านและจดจำ และวิจัยหาความรู้ก่อให้เกิดประโยชน์ จากเว็บของเราและทีมงานทุกคน อีกทั้งเพื่อบอกให้ Google Bot เข้ามาอัพเดทข้อมูลข่าวสาร Cache ของเว็บเราอย่างต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ เราและผู้อ่านทุกท่านควร Update เนื้อหาสาระของเว็บอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อที่อันจะทำให้เว็บของเราและทีมงานเป็นเว็บที่มีข้อมูลที่มีคุณค่าและสามารถอ้างอิงได้ใหม่ สด และเป็นประโยชน์เป็นคุณต่อผู้ใช้ (User) งาน (Work) อยู่เป็นประจำ

2.1 XML-Sitemap การที่ซึ่งเป็นการจะทำให้เว็บของเราและคุณทุกคนมีการอัพเดทเนื้อหาสาระ Cache ของ Search Engine อย่างต่อเนื่องเรื่อยไปนั้น นอกจากการรอให้ Google Bot วิ่งเข้าหาเว็บ เพื่อเก็บ Data ไป Index แล้ว การใช้ Google Webmaster Tools ในการอัพเดท (Update) Sitemap นั้นมีความสำคัญอันดับต้นๆ เนื่องด้วย การเพิ่ม Sitemap ของเว็บเราและทีมงานทุกคนเข้าไปในส่วนของสินค้าเว็บมาสเตอร์ จะช่วยให้หน้าเว็บที่สร้างใหม่มีการ Index รวดเร็วปานสายฟ้าผ่าเปรี้ยงๆ และจำนวนหน้าของเว็บมีผลต่อ Ranking บน Google Search ด้วย อย่างไรก็ตามหากเว็บนั้นมี Back Link คุณภาพที่ดี และมีการเพิ่มเนื้อเรื่องที่มีประโยชน์อย่างตลอดรอดฝั่งทุกวัน เว็บนั้นก็จะได้รับความมีความสนใจมากขึ้นจาก Google Bot เป็นยิ่งกว่าปกติ และหน้าเว็บที่สร้างใหม่ก็จะถูกนำไปจัดเก็บไว้ใน Search Engine อย่างเร็วจริงอะไรจริง

2.2 Web Structure and Web Layout การอันจะทำเว็บอุปการะระบบค้นหาแนวทางของกูเกิ้ลประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนั้น โครงสร้าง (Structure) เว็บก็มีส่วนสำคัญในการให้คะแนนที่บริสุทธิ์ยุตธรรมสำหรับจัดอันดับที่ดีของด้วยเช่นกัน เว็บที่มีโครงสร้างที่เป็นมาตรฐานที่ดีและสนับสนุน SEO คือเว็บที่เขียนให้อ่านเข้าใจง่ายเกี่ยวกับด้วยภาษา HTML และ PHP หรือภาษาอื่นๆ ที่มีรูปที่กำหนดขึ้นเป็นหลักหรือเป็นแนวซึ่งเป็นที่ยอมรับการใช้แท็กคำสั่งที่อย่างถูกต้อง รวมทั้งมีการจัดโครงสร้าง (Structure) เว็บให้รองรับการทำงานที่สร้างรายได้ดีของผลิตภัณฑ์ค้นหาความหมาย โดยใช้เครื่องมือที่ใช้ทุ่นแรง W3C Validator ในการตรวจเช็คความถูกต้องของการเขียนบทความเชิงให้ความรู้เว็บไซต์ และการทำให้เว็บมี Structure ที่ง่ายกว่าที่คาดไว้ต่อการใช้งานที่ตัวเองถนัดและเข้าถึงข้อมูลคุณภาพที่มีประโยชน์นั้น ก็เป็นอีกปัจจัยทั้งหมดหนึ่งที่จะช่วยในเรื่องของการทำอันดับหน้าแรกของครับ

2.3 Keyword Density การอันจะเป็นการกระทำให้เว็บเป็นที่ต้องการเป็นอย่างสูงของระบบค้นหาความหมายนั้น นอกจากการเขียนเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านด้วยบทความที่สร้างโดยมนุษย์คุณภาพ (Quality) แล้ว ควรมีการกำหนดความหนาแน่นของคำค้นที่นิยมค้นหาอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดด้วย การกระจายคีย์เวิร์ด (Keyword) ที่มีความหนาแน่นน้อยก็จะไม่ช่วยเรื่องของอันดับต้นๆมากเท่าที่ควร แต่หากกำหนดความหนาแน่นของคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันกันสูงมากเกินไป ก็อาจทำให้เว็บหายไปจากอันดับต้นๆต้นๆ ได้ สรุปได้ดังนี้การตั้งค่า Keyword Density ของเว็บให้เหมาะสม (Appropriate) และเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติ จะช่วยเกื้อกูลให้เว็บติดอันดับยาวนานและอยู่ได้เป็นเวลานานครับ

2.4 High Traffic High Ranking การติดหน้าแรก Google โดยหวังเพียงแค่อันดับหน้าแรกบน Search Engine เพียงอย่างเดียวนั้นเปลี่ยนไปตามวันเวลา เพราะปัจจุบันยุคสมัยนี้ Google Inc.ได้นำเอาคนมาเป็นตัวแปรหนึ่งในการวัดคะแนนทั้งหมดเพื่อจัดลำดับ หมายความว่า การปรับแค่เพียง SEO On Page และ SEO Off Page เพียงอย่างเดียวนั้น ไม่ได้สร้างความยั่งยืนของอันดับ (Ranking) เจ้าของเว็บควรใส่ใจในส่วนของเนื้อหาที่เป็นมิตรกับผู้อ่าน โดยปรับให้เนื้อหาสาระข้างในเว็บมีคุณภาพที่ดีเป็นมิตรกับผู้ที่ชอบการอ่าน และสร้างบทความที่โชว์บนเว็บที่มีประโยชน์ เพื่อที่ซึ่งจะทำให้เว็บมียอดรวมผู้ที่รักการอ่าน หรือสมาชิกในการติดตามข้อมูลที่เขียนจากการสรุปจากหนังสือของเว็บอย่างต่อเนื่องอย่างไม่ขาดตอน เมื่อเว็บมีบทความที่ปรากฏบนเว็บที่ดี มีแบ็คลิงค์คุณภาพที่หลายคนไว้วางใจในปริมาณที่ Fit และมีปริมาณ UID Traffic ที่อย่างเหมาะสมกับ Keyword หลักของเว็บ Ranking บนเว็บ Search ก็ไม่ใช่เรื่องยากของเว็บที่ดี

2.5 Google Tools and API ปัจจุบันทันด่วนทาง Google Inc.ได้ Develope เครื่องมือเสริมประสิทธิภาพของให้ผู้ใช้งานเข้าลงทะเบียนเพื่อสมัครเป็นสมาชิกใช้งานที่เหมาะสมกับตัวเองฟรีมากมายเกินกว่าที่คาดหวัง และหลายอย่างต่างๆ กันลักษณะ เพราะเหตุนั้นนั้นก็เพื่อทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปงานย่อมดึงเอาความสามารถส่วนตัวของ Search Engine อันดับหน้าแรกของหนึ่งของโลกมาใช้ Work อย่างมีประสิทธิภาพอันเป็นที่ยอมรับ อีกทั้งเพื่อสร้างประสบการณ์ทั้งหมดที่ดีในการใช้บริการที่มีประสิทธิภาพของเว็บค้นหากูเกิ้ล และจริงแท้แน่นอนครับว่า การปรับ SEO-On Page ที่ดีนั้น ควรนำเอาระบบ Google Services มาติดสิ่งที่อยู่ข้างในเว็บไซต์หลัก หรือเขียนให้อ่านเข้าใจง่ายเกี่ยวกับคำสั่งการเชื่อมต่อกับ Google API เพื่อทำให้เว็บมีการเชื่อมต่อของข้อมูลที่สามารถเชื่อถือได้และการนำเสนอเว็บที่ดี อีกทั้งเป็นการทำให้เว็บรองรับการใช้ Work ของผู้ที่เข้ามาอ่านเนื้อหาสาระเว็บได้อย่างหลายหลาก ตลอดจนย่อมโต้ตอบและแชร์ Article ของเว็บได้

2.6 Use Local Language ในการทำ SEO ติดอันดับ Google ที่ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนตามกฎที่กำหนดให้ทุกคนปฏิบัติตามและกฎที่ถูกคนต้องทำตามของกูเกิ้ลเสิร์ซแล้ว การเลือกใช้ Language ให้จำพวกเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมายของการทำงานในการประชาสันพันธ์หรือการโปรโมท เป็นสิ่งที่จำเป็นและมีสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เช่น หากเราและผู้อ่านทุกคนต้องการเป็นอย่างยิ่งทำอันดับหน้าแรกบน Google.co.th ให้เราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บสร้างเว็บไซต์ที่ใช้ Thai Language เป็นภาษาหลักในการเขียน (Writing) เนื้อหาที่เป็นมิตรกับผู้อ่าน หากเราและเพื่อนร่วมวิชาชีพต้องการตามที่ใจปรารถนาทำอันดับต้นๆของบน Google.com ให้เราและทีมงานใช้ English (US) เป็น Language หลักใน Writing เนื้อหาสาระของเว็บไซต์ นอกจากนี้แล้วให้เราทุกคนไปกำหนดเป้าหมาย (Target Goal) การทำลำดับกับ Webmaster Tools และควรใช้โฮสที่มีค่า IP Address ที่สมพันธ์กับท้องถิ่นที่ต้องการตามที่ใจปรารถนาโปรโมทด้วย

2.7 Unique Content On Page การสร้างบทความที่สร้างขึ้นที่มีคุณภาพที่ทุกคนมั่นใจและเป็นมิตรกับผู้อ่านทุกคนนั้น ควรเขียนอย่างละเอียดเกี่ยวกับขึ้นมาใหม่ทั้งหมดที่คำนวณได้ หรือสร้าง Article ที่ไม่ซ้ำท่านไหนที่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้และบทความที่อ่านแล้วได้รับความรู้เหล่านั้นมีประโยชน์ต่อผู้ที่เข้ามาอ่าน (Read) การบริการ SEO ด้วยBack Link คุณภาพ แท้จริงคือการ Respond Need ด้านข้อมูล (Data) ระหว่างผู้สร้างข้อมูลและงาน คือ Webmaster กับผู้ตรวจเช็คอย่างเคร่งครัดและประมวลข้อมูลข่าวสาร คือ Search Engine การมอบสิ่งท

รูปภาพที่เกี่ยวข้องเว็บไซต์ SEO4TOPRANK รับโปรโมทเว็บ บริการ SEO รับทำ SEO ทำอันดับด้วยเทคนิค Keyword In Domain เบอร์โทร AIS 087-173-6064


Domain SEO4TOPRANK รับโปรโมทเว็บ บริการ SEO รับทำ SEO อัพโหลดวีดีโอ Youtube ทำอันดับ เบอร์โทร AIS 087-173-6064
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
คำที่ใกล้เคียง: บริการ SEO
อ้างจาก: บริการ SEOเว็บไซต์ SEO4TOPRANK รับโปรโมทเว็บ บริการ SEO รับทำ SEO ทำอันดับด้วยเทคนิค Keyword In Domain เบอร์โทร AIS 087-173-6064
หมวดหมู่ของเว็บ: Search Engine Optimize
แนะนำโดย: seo4toprank
หน้าหลัก: http://www.seo4toprank.com/บริการseo.php
ดูข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.seo4toprank.com/บริการทำseo.php
Contact: http://www.seo4toprank.com/บริการseoราคาถูก.php
Facebook: https://www.facebook.com/seogoodspeed
Google Plus: https://plus.google.com/113496542065061127499
Twitter: https://twitter.com/seogoodspeed
Youtube: http://www.youtube.com/watch?v=MFT35HjZJ_s
Blogger: http://xn--seo-seogoodspeed-e81cyrqfb82anb.blogspot.com
Wordpress: http://seogoodspeed.wordpress.com
Blog: http://seogoodspeed.blog.com
Tumblr: http://seogoodspeed.tumblr.com
Flickr: http://www.flickr.com/photos/113764343@N02/11828971235
บล็อก: seo4toprank
ชื่อ: สันทรายคอมพิวเตอร์ กรุ๊ป
เบอร์โทรติดต่อ: 087-1736064
เมล์: seo4toprank@gmail.com
ที่อยู่: 314/28 หมู่ 2 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50210
ประเภทกิจการ: ผู้ให้บริการ SEO รับทำ SEO โปรโมทเว็บติดอันดับ Google ด้วย Unique Content
#38
กระทู้เกี่ยวกับทะเบียนรถ ทะเบียนสวย กระบะป้ายเขียว จำหน่ายโดย บอสนัมเบอร์ ติดต่อที่ 08-8099-9342 เชิญอ่านบทความที่มีคุณค่าว่าด้วยเรื่องทะเบียนรถศึกษาข้อมูลได้จากเนื้อหาส่วนนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศซื้อขายกรมการขนส่งสิ่งของทางบก เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ (Criterion) วิธีการการ ระยะวันเวลานาทีที่มีค่า และเงื่อนไขการประมูลหมายเลขทะเบียนซึ่งเป็นที่ Want หรือเป็นที่ สนอกสนใจของราษฎร พ.ศ. 2554 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พุทธศักราชตามปฏิทินไทย 2554

ข้อ 2 ให้มี " Faculty กรรมการจัดการยุคใหม่ประมูลหมายเลขทะเบียนรถในกรุงเทพมหานคร" และ " Faculty กรรมการบริหารจัดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถในส่วนภูมิภาค" โดย ให้มีอำนาจสั่งการหน้าที่ ดังที่เห็น

(1) บังคับบัญชา ดูแลเอาอกเอาใจการจัดประมูลหมายทะเบียนรถให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยกเลิกผลการประมูลหมายเลขทะเบียนใดๆ สั่งยุติ หรือเลื่อนการประมูลออกไป รวม ทั้งกำหนดวันประมูลขึ้นใหม่เพื่อแต่ละหมายเลขทะเบียนหรือทั้งหมดที่คาดคะเนได้ แม้จะได้มีประกาศขายสินค้าบริการผลการประมูลไปแล้วก็ตาม เมื่อพิจารณาอย่างมีเหตุผลเห็นว่าการประมูลเป็นไปโดยไม่ โปร่งใส ไม่เป็นธรรม หรือมีเหตุผลที่น่าเชื่อถืออื่นอันสมควร

(2) วินิจฉัย หรือออกคำสั่งการใด ๆ เพื่อให้การประมูลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส เป็นธรรม และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ใช้วัดที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด คำ วินิจฉัยหรือคำสั่งของ Faculty กรรมการจัดการยุคใหม่ประมูลหมายเลขทะเบียนรถให้เป็นที่สุด

ข้อ3 การประมูลหมายเลขทะเบียนให้ดำเนินกิจกรรมโดย Method การอย่างหนึ่งอย่างใด ตามนี้

(1) การประมูลทางวาจา (เคาะไม้) คือ การเข้าร่วมประมูล ณ ที่ตั้งที่จัดการประมูล
(2) การประมูลทางสิ่งที่ทำให้โลกแคบลงอย่างอินเตอร์เน็ต คือ การเข้าร่วมประมูลตามวันและวันเวลาอันมีค่าที่มีการประมูลผ่านทางเว็บไซต์ ตามที่กรมการขนส่งสิ่งของทางบกกำหนด ซึ่งมี ๒ แบบ คือ
(ก) การประมูลทางระบบเชื่อมโยงอินเตอร์เน็ตแบบปกติ ซึ่งผู้ประมูลจะใช้กลยุทธ์การเสนอราคาผ่านระบบ Internet ไปพร้อมกันในวันและช่วงของวันเวลาที่มีการประมูลจริงและอาจมีการถ่าย ทอดสดการประมูลจากแหล่ง การประมูลจริงผ่านทางเว็บไซต์ด้วย
(ข) การประมูลทางสิ่งที่ทำให้โลกแคบลงอย่างอินเตอร์เน็ตแบบเสนอราคาล่วงหน้า (Maximum Bid) ซึ่งผู้ประมูล จะตั้งราคาประมูลสูงสุดไว้ล่วงหน้าก่อนการประมูลหมายเลขทะเบียน จริงจะเริ่มขึ้น การประมูลหมายเลขทะเบียนทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ประมูลจะต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางอินเตอร์เน็ตที่มีอย่างเร็ว ไม่ต่ำกว่า ๑ เม็กกะไบท์ (๑ MB) และจะใช้ในเขตจังหวัดใด เนื้อที่ใด ให้เป็นไปตามความพร้อมของแต่ละจังหวัด
(3) การประมูลทางหมายเลขอุปกรณ์ติดต่อสื่อสาร คือ การเข้าร่วมประมูลตามวันและเวลา (Time) ที่มีการประมูลผ่านทางระบบหมายเลขอุปกรณ์ติดต่อสื่อสาร

ข้อ 4 การประมูลหมายเลขทะเบียนหมวดตัวหนังสือใดหรือหมายเลขทะเบียนใด เวลาไหน ให้เป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานที่มีผลตอบแทนดีขนส่งจังหวัดประกาศขายสินค้า กำหนด แล้วแต่เรื่องที่สามารถนำมาเป็นตัวอย่าง ให้กรมการจัดส่งสิ่งของทางบก หรือสำนักงานที่มีประโยชน์ขนส่งจังหวัด มีการมีซึ่งอำนาจออกประกาศขายสินค้าเพื่อนที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันำหมายเลขทะเบียนที่มีผู้ค้างชำระราคาประมูลของกรมการ ขนส่งทางบกหรือของสำนักงานที่มีประโยชน์ขนส่งจังหวัดต่างๆ ออกเปิดประมูลใหม่ตามวัน เวลา และที่ตั้งที่เห็นสมควร

ข้อ 5 ผู้ประสงค์จะเข้าร่วมประมูลหมายเลขทะเบียนย่อมสมัครลงทะเบียนได้ ดังที่เห็น

(1) การประมูลทางวาจา (เคาะไม้)
(ก) ส่วนกลางลงทะเบียน (Register) ได้ที่สำนักงานที่มีผลตอบแทนดีกองทุนขนาดกลางเพื่อความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบก ในวันและเวลาราชการ และส่วนภูมิภาคสมัครใช้งาน ได้ที่ สำนักงานที่ตัวเองถนัดขนส่งจังหวัดที่การจัดการประมูลหมายเลขทะเบียน ในวันและวันเวลาอันมีค่าราชการ
(ข) ลงทะเบียน ณ แหล่งการจัดการประมูลในวันที่มีการประมูลหมายเลขทะเบียน ตั้งแต่ระยะเวลา 08.30 น. เป็นต้นไป
(2) การประมูลทางระบบออนไลน์
(ก) สมัครลงทะเบียนได้ที่สำนักงานที่ใช้ความรู้กองทุนขนาดเล็กเพื่อความปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงในการใช้รถใช้ถนน กรมการจัดส่งทางบก ในวันและระยะเวลาสั้นหรือยาวราชการ และส่วนภูมิภาคสมัครใช้งานได้ที่สำนัก งานที่ตัวเองชอบขนส่งจังหวัดที่จัดการประมูลหมายเลขทะเบียน ในวันและ Time ราชการ
(ข) ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ ตามที่กรมการขนส่งสิ่งของทางบกกำหนด
(3) การประมูลทางเลขหมายโทรศัพท์
(ก) ส่วนกลางลงทะเบียนใช้งานได้ที่สำนักงาน (Work) กองทุนขนาดใหญ่เพื่อความทำให้มีความสุขในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งสิ่งของทางบก ในวันและวันเวลาอันมีค่าราชการ และส่วนภูมิภาคลงทะเบียน (Register) ได้ที่ สำนักงานที่มีผลตอบแทนดีขนส่งจังหวัดที่การจัดการประมูลหมายเลขเว็บรถ ในวันและวันเวลานาทีที่มีค่าราชการ
(ข) สมัครใช้งาน ณ ที่ตั้งจัดการประมูลในวันที่มีการประมูลหมายเลขทะเบียน ตั้งแต่ระยะเวลาสั้นหรือยาว 08.30 น. เป็นต้นไป
(ค) สมัครใช้งานผ่านทางเว็บไซต์ตามที่กรมการจัดส่งทางบกกำหนด
(ง) เปิดบัญชีเข้าใช้งานผ่านทางหมายเลขอุปกรณ์ติดต่อสื่อสารตามวิธีการที่กรมการจัดส่งสิ่งของทางบกกำหนด

ข้อ 6 ผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกประมูลหมายเลขทะเบียนต้องวางหลักประกัน (Insurance) การประมูลตามอัตราที่กำหนดไว้ท้ายประกาศ (Announced) นี้ พร้อมยื่นเอกสาร (Document) วัตถุที่ใช้เป็นหลักฐาน ดังต่อไปนี้

(1) บุคคลธรรมดา
(ก) ภาพถ่ายบัตรประจำตัวชาวบ้าน หรือภาพถ่ายใบ Significant ประจำตัวคนต่างด้าว แล้วแต่กรณี
(ข) หนังสือที่มีความรู้มอบการแสดงอำนาจ ในเคสตัวอย่างไม่มาดำเนินการตามที่กำหนดด้วยตนเอง
(2) นิติบุคคล
(ก) หนังสือที่ช่วยพัฒนาความรู้รับรองตามเงื่อนไขสัญญาการจดทะเบียนนิติบุคคล
(ข) ภาพถ่ายบัตรประจำตัวชาวบ้าน หรือภาพถ่ายใบสำคัญ (Significant) ประจำตัวคนต่างด้าวของ ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือของผู้ที่มีอำนาจชี้ขาดบริษัทที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บทุกท่าน
(ค) สมุดหนังสือมอบการมีซึ่งอำนาจ ในตัวอย่างไม่มาเริ่มงานด้วยตนเอง
ในกรณีตัวอย่างลงทะเบียน (Register) ผ่านทางเว็บไซต์ให้ผู้ลงทะเบียนเพื่อสมัครเป็นสมาชิกนำส่งพยายหลักฐานตาม (1) และ (2) แล้วแต่เคสที่สามารถยกเป็นตัวอย่าง พร้อมด้วยวัตถุที่ใช้เป็นหลักฐานการโอนเงินค่าหลักรับประกันก่อนถึงวันประมูล ทางโทรสารให้สำนักงานที่มีประโยชน์กองทุนเพื่อความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนน กรมการจัดส่งทางบก หรือสำนักงาน (Work) ขนส่งจังหวัดที่การจัดการประมูล แล้วแต่เคสที่สามารถยกเป็นตัวอย่าง

ข้อ 7 การดำเนินการประมูลหมายเลขทะเบียนซึ่งเป็นที่ต้องการตามที่ใจปรารถนาหรือเป็นที่นิยมเป็นอย่างสูงของพลเมืองปริมาณ 301 หมายเลข ให้ดำเนินการตามแบบแผนที่วางไว้ประมูลตามกลุ่มหมายเลข ทะเบียนที่กำหนดไว้ท้ายประกาศ (Announced) นี้

ข้อ 8 ผู้มีส่วนร่วมประมูลทางวาจาและ Internet ย่อมเสนอราคาและสู้ราคาได้เฉพาะในกลุ่มหมายเลขทะเบียนที่ตนมีปริมาณเงินวางหลักประกันเพียงพอหรือ สูงกว่าปริมาณที่กำหนดไว้ท้ายประกาศให้ทราบโดยทั่วกันนี้ ผู้ที่มีความประสงค์เข้าร่วมประมูลทางเลขหมายโทรศัพท์จะเสนอราคาและสู้ราคาได้เฉพาะหมายเลขทะเบียนที่ได้ระบุ (Specify) ไว้ขณะสมัครลงทะเบียนเท่านั้น
ข้อ 9 ผู้ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประมูลทางวาจา (เคาะไม้) ที่ลงชื่อใช้งานและได้วางหลักประกันแล้ว จะได้รับ แผ่นป้ายเสนอราคา (Bidding Card) หนึ่งอันเพื่อใช้ทำการประมูล ในวันประมูลหมายเลขทะเบียน สำหรับผู้เข้าร่วมประมูลทางสิ่งที่ก่อให้เกิดความเจริญอย่างอินเตอร์เน็ต จะได้รับรหัสผ่านที่มีความปลอดภัย (Password)ก่อนเริ่มการประมูล และในเรื่องประมูล ทางเลขหมายโทรศัพท์ผู้ เข้าประมูลต้องรับรองข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญส่วนบุคคลก่อนเริ่มการประมูล

ข้อ 10 การเสนอราคาในแต่ละหมายเลขให้เป็นไป ดังที่ปรากฏนี้

(1)การประมูลทางวาจา (เคาะไม้) ให้ใช้วิธียกแผ่นป้ายเสนอราคา (Bidding Card)
(2)การประมูลทางอินเตอร์เน็ต (Internet)
(ก) การประมูลทางเทคโนโลยีสารสนเทศทางอินเตอร์เน็ตแบบปกติ ให้ใช้วิธีการการเคาะเสนอราคาผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (Internet) ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
(ข) การประมูลทางเทคโนโลยีเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตแบบเสนอราคาล่วงหน้า (Maximum bid) ให้ผู้ประมูลตั้งราคาประมูลสูงสุดไว้ล่วงหน้าก่อนที่การประมูลหมายเลขทะเบียนจริงจะ เริ่มขึ้น และระบบจะดำเนินการตามแผนงานประมูล ต่อให้เสมือนหนึ่งผู้ประมูลเข้าร่วมประมูลด้วยตนเอง ซึ่งหากมีการตั้งราคาสมดุล ระบบจะสั่งให้รับราคาของ ผู้ประมูลแบบ เสนอราคาล่วงหน้าเข้ามาก่อนโดย Automatic เมื่อเสร็จสิ้นการประมูลหมายเลขทะเบียนแล้วให้มีการแจ้งผลการประมูลทางอีเมล์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) หรือ เนื้อหาสั้น (SMS) ให้ผู้ประมูลทราบ
(3) การประมูลทางเลขหมายโทรศัพท์ ให้ใช้ Method การเคาะเสนอราคาผ่านระบบเลขหมายโทรศัพท์ โดยมีเจ้าหน้าที่เป็น ผู้ขานราคาให้ผู้ประมูลทราบ ในการเสนอราคาแต่ละครั้งจะต้อง ได้รับความยินยอมจากผู้ประมูลและให้มี การเก็บบันทึก Discussion ไว้ด้วย เมื่อเสร็จสิ้นการประมูลหมายเลขทะเบียนแล้วให้มีการแจ้งผลการประมูล ทางจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) หรือประโยคสั้น (SMS) ให้ผู้ประมูลทราบ

ข้อ 11 เงื่อนไขการเสนอราคาให้เป็นไป ดังที่ปรากฏนี้

(1) การเสนอราคาครั้งที่หนึ่งต้องไม่ต่ำกว่าราคาเริ่มต้นที่กำหนดที่กรมการส่งสิ่งของทางบกกำหนดไว้ท้ายประกาศให้ผู้อ่านรับทราบนี้ และการเสนอราคาในแต่ละครั้งถัดไปต้องเป็นการเสนอราคา เพิ่มขึ้นตามราคาที่กรมการขนส่งสิ่งของทางบกกำหนด แต่ย่อมเสนอราคาเพิ่มขึ้นสูงกว่าอีกได้ โดยราคาที่เสนอเพิ่มสูงขึ้นจะต้องไม่น้อยกว่าช่วงราคาที่กรมการขน ส่งทางบกกำหนดไว้
(2) ในกรณีมีการเสนอราคา Equal ระหว่างผู้ประมูลด้วยวาจา ผู้ประมูลทางโทรศัพท์ และผู้ประมูลทางอินเตอร์เน็ต (Internet) กรมการขนส่งทางบกสงวนสิทธิ์ให้ผู้ประมูลทาง ระบบเชื่อมโยงอินเตอร์เน็ตได้สิทธิในการเสนอราคาของหมายเลขทะเบียนนั้นก่อน
(3) ในตัวอย่างมีการประมูลทาง Internet แบบเสนอราคาล่วงหน้า ระบบจะดำเนินการตามที่กำหนดเพิ่มราคาประมูลไปตามลำดับใครมาก่อนได้ก่อนราคาที่เพิ่มขึ้นของแต่ละกลุ่มหมายเลข จนถึง ราคาสูงสุดที่ผู้ประมูลหมายเลขทะเบียนแบบเสนอราคาล่วงหน้าได้ตั้งไว้ ซึ่งถ้าราคาสูงสุดของการประมูลหมายเลขทะเบียนในวันที่มีการประมูลจริงไม่ถึงราคาที่ผู้ ประมูลหมายเลขทะเบียนแบบเสนอราคาล่วงหน้าได้ตั้งไว้ จะถือว่าผู้ประมูลหมายเลขทะเบียนแบบเสนอราคาล่วงหน้านั้นชัยชนะการประมูลเพื่อหมายเลขทะเบียนนั้น แต่ถ้าราคาในการประมูลหมายเลขทะเบียน ในวันที่มีการประมูลจริงสูงกว่าราคาสูงสุดที่ผู้ประมูลหมายเลขทะเบียนแบบเสนอราคาล่วงหน้าตั้งไว้ ก็จะถือว่า ผู้ ประมูลหมายเลขทะเบียนที่ให้ราคาสูงสุดในวันที่ประมูลจริง Win การประมูลสำหรับหมายเลขทะเบียนนั้น
(4) การชัยชนะการประมูลของผู้เสนอราคาสูงสุด ให้มีผลตั้งแต่มีการนับถึงสามและมีการเคาะไม้ ถ้าก่อนนับถึงสามมีผู้เสนอราคาสูงขึ้นไป ให้ถือว่ายังไม่มีผู้ชนะอย่างเป็นเอกฉันท์การ ประมูล และให้เริ่มตั้งต้น ร้องขานราคาที่เสนอขึ้นใหม่ หากนับสามแล้วผู้ประมูลแบบเสนอราคาด้วยวาจาที่อยู่ในห้องประมูลและผู้ประมูลแบบเสนอราคาทาง โทรศัพท์ไม่สามารถเสนอราคาได้อีก เว้นแต่จะมีผู้ประมูลทางเทคโนโลยีสารสนเทศทางอินเตอร์เน็ตเสนอราคาเข้ามาก่อนที่จะทำการเคาะไม้ ก็ให้ทำการตั้งต้นขานราคาที่เสนอขึ้นใหม่

ข้อ 12 การอนุญาตหมายเลขทะเบียนให้แก่ผู้เสนอราคาสูงสุดจะแจ้งให้ทราบกระทันหันเมื่อเสร็จสิ้น การประมูลหมายเลขทะเบียนนั้น และกรมการส่งสิ่งของทางบกหรือสำนัก Work ขนส่งจังหวัดที่จัดการประมูล จะประกาศ (Announced) รายชื่อผู้ Win การประมูลอีกครั้งหนึ่ง ณ สำนักงานที่ใช้ความรู้กองทุนขนาดเล็กเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการส่งสิ่งของทางบก หรือสำนักงานที่มีประโยชน์ขนส่งจังหวัดที่การจัดการประมูล แล้วแต่กรณี และประกาศให้ทราบโดยทั่วกันผ่านเว็บไซต์ที่กรมการขนส่งสิ่งของทางบกกำหนด สิ่งที่อยู่ข้างใน 3 วันทำการหลังจากเสร็จสิ้นการ ประมูลหมายเลขทะเบียนแต่ละครั้ง

ข้อ 13 ผู้ชนะด้วยคะแนนที่เป็นเอกฉันท์การประมูลหมายเลขทะเบียนจะต้องชำระราคาประมูลหมายเลขทะเบียนส่วนที่เหลือหลังจากหักหลัก Insurance การประมูลแล้วให้เต็มจํานวนที่กําหนดไว้ สิ่งที่อยู่ภายใน 30 วัน นับถัดจากวันชนะ (Win) การประมูลหมายเลขทะเบียนนั้น โดยกรมการจัดส่งทางบกหรือสำนักงานที่เหมาะสมกับตัวเองขนส่งจังหวัดที่การจัดการประมูลไม่มีประโยชน์ต้องบอกกล่าวให้ผู้ชนะอย่างเป็นเอกฉันท์การ ประมูลรับทราบผลการประมูลหมายเลขทะเบียนนั้นอีก ในเรื่องที่สามารถนำมาเป็นตัวอย่างที่กรมการขนส่งทางบกนำหมายเลขทะเบียนที่ค้างชำระออกประมูลใหม่ ผู้ที่ชนะอย่างขาดลอย การประมูลครั้งใหม่ จะต้องชำระราคาเมื่อรวมกับหลักประกันที่หักไว้แล้วให้ครบร้อยละ 10 ของราคาที่ชนะอย่างเป็นเอกฉันท์ การประมูล ภายใน 7 วัน โดยกรมการส่งสิ่งของทางบก หรือสำนักงานที่ตัวเองชอบขนส่ง จังหวัดที่จัดการประมูลไม่มีประโยชน์อันใดต้องบอกกล่าวให้ผู้ชนะ (Win) การประมูลรับทราบผลการประมูลหมายเลขทะเบียนนั้นอีก

การชำระเงิน (Payment) ให้ชำระเป็นเงินสด หรือผ่านบัตรเครดิต หรือผ่านธนาคารเกียรตินาคิน (BILL PAYMENT) หรือแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายเข้าบัญชี "กองทุนขนาดกลางเพื่อความปลอดภัยสบายใจใน การใช้รถใช้ถนน" หรือโอนผ่าน Bank ดังที่ปรากฏ
(1) ส่วนกลาง เข้าบัญชีธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮาส์ เพื่อรายย่อยไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี "กองทุนรวมเพื่อความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนน
(2) ส่วนภูมิภาค เข้าบัญชี Bank ตามที่สำนักงานที่สร้างรายได้ดีขนส่งจังหวัดที่จัดการประมูลกำหนด และให้ส่งวัตถุที่ใช้เป็นหลักฐานการโอนเงินให้สำนัก Work ขนส่งจังหวัดทราบ

ข้อ 14 ผู้ Win การประมูลที่ไม่ชำระราคาหมายเลขทะเบียนที่ประมูลได้ให้ครบถ้วนสมบูรณ์สิ่งที่อยู่ภายในระยะช่วงของวันเวลา ที่กำหนดในข้อ ๑๓ ให้กรมการจัดส่งสิ่งของทางบก หรือสำนักงานที่มีผลตอบแทนดีขน ส่งจังหวัดแล้วแต่ตัวอย่าง จะมีหนังสือสำหรับศึกษาเรียนรู้ทวงถามเพื่อให้ชำระราคา และหากผู้ชนะด้วยคะแนนที่เป็นเอกฉันท์การประมูลไม่ Payment ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามเงื่อนไขที่กำหนดในหนังสือที่ใช้ประกอบการเรียนทวงถามกรมการขน ส่งทางบก หรือสำนักงานที่เหมาะสมกับตัวเองขนส่งจังหวัดที่จัดการประมูล จะริบหลักรับประกันการประมูลที่วางไว้ทันทีทันใดโดยไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวให้ทราบอีก และจะ Consider ไม่ให้ผู้นั้น เข้าร่วมประมูลหมายเลขทะเบียน เว้นแต่ จะได้นำหมายเลขทะเบียนนั้นออกประมูลใหม่จนคุ้มราคาเดิมที่ประมูลไว้ หรือหมายเลขทะเบียนนั้นได้รับชำระราคาจนครบ ส่วนต่างแล้ว หลักประกัน (Insurance) การประมูลที่ผู้ชนะด้วยคะแนนที่เป็นเอกฉันท์การประมูลวางไว้ ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการชำระราคาหมายเลขทะเบียนที่ประมูลได้

ข้อ 15 ผู้ชนะการประมูลจะต้องชำระค่าบริการที่ได้มาตรฐานให้แก่ Manager ประมูล โดยผู้ชนะการประมูล ที่เสนอราคาด้วยวาจาต้องชำระค่าบริการที่มีคุณภาพปัจจุบันทันด่วนหลังจากทราบผลการ ประมูล ส่วนผู้ชนะอย่างเป็นเอกฉันท์การประมูลทางอินเทอร์เน็ต และผู้ชนะการประมูลทางโทรศัพท์ต้องชำระค่าบริการด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานให้แก่กรรมการบริหารประมูลข้างใน ๑๕ วันนับแต่วันที่ชนะด้วยคะแนนที่เป็นเอกฉันท์การประมูล หมายเลขทะเบียนตามอัตราที่กำหนดไว้ท้ายฝากประกาศนี้

ข้อ 16 ผู้ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประมูลที่ไม่ชนะ (Win) การประมูลสามารถขอรับหลัก Insurance คืนได้ ดังที่เห็น

(๑) การประมูลทางวาจา (เคาะไม้) ให้นำหลักฐานการวางหลัก Insurance การประมูล พร้อมบัตรประจำตัวพลเมืองดีมาทำให้เห็นข้างในวันที่ประมูล ณ ที่ซึ่งเป็นที่ตั้งจัดการ ประมูลหรืออย่างช้าไม่เกิน ๒ วันทำการถัดไป ณ สำนักงานที่ตัวเองถนัดกองทุนขนาดเล็กเพื่อความแคล้วคลาดจากอันตรายในการใช้รถใช้ถนน กรมการจัดส่งสิ่งของทางบก หรือสำนักงานที่ตัวเองชอบขนส่งจังหวัดที่ การจัดการประมูล
(๒) การประมูลทางสื่ออินเตอร์เน็ต และการประมูลทางหมายเลขโทรศัพท์
(ก) ตัวอย่างวางหลักประกันการประมูลโดยโอนเงินผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย จะคืนหลักประกัน (Insurance) โดยโอนผ่านธนาคารทิสโก้ตามที่ได้แจ้งไว้ขณะลงทะเบียนใช้งาน
(ข) ตัวอย่างวางหลักประกันการประมูลเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็ค ณ สำนักงานกองทุนขนาดเล็ก เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบก หรือสำนัก งานที่ใช้สติปัญญาขนส่งจังหวัดที่จัดการประมูล หรือที่ซึ่งเป็นที่ตั้งจัดการประมูล ให้นำหลักฐานการวางหลักประกันการประมูลพร้อมบัตรประจำตัวประชาชนพลเมืองดีมาปรากฏอย่างประจักษ์ในวันประมูล ณ แหล่งการจัดการประมูล หรืออย่างช้าไม่เกินตามจำนวน ๒ วันทำการถัดไป ณ สำนักงานที่ตัวเองชอบกองทุนเพื่อความปลอดภัย (Safe) ในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานที่มีผลตอบแทนดี ขนส่งจังหวัดที่การจัดการประมูล

ข้อ 17 ในเคสตัวอย่างที่ไม่มารับหลัก Insurance คืนภายในระยะระยะเวลาสั้นหรือยาวที่กำหนดไว้ในข้อ ๑6 กรมการขนส่ง ทางบกจะคืนหลักประกัน (Insurance) การประมูลโดยโอนผ่านทางธนาคารออมสินตาม ที่ได้แจ้งไว้ขณะลงชื่อสมัครเป็นสมาชิก ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนหลัก Insurance ดังกล่าวผ่านทางธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะหักออกจากหลัก Insurance การประมูลนั้น (เงินที่ผู้ไม่ชัยชนะ การประมูลจะได้รับ = หลักรับประกันการประมูลหักด้วยค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการโอนเงินตามที่ธนาคารกรุงเทพเรียกเก็บ)

ข้อ 18 ในเคสที่สามารถยกเป็นตัวอย่างผู้ชนะด้วยคะแนนที่เป็นเอกฉันท์การประมูลหมายเลขทะเบียนถึงแก่ความตายและยังชำระราคาค่าประมูลหมายเลขทะเบียนไม่เต็มจํานวนที่กําหนดไว้ถูกต้อง ให้ถือว่าสิทธิการใช้หมายเลข ทะเบียนที่ประมูลได้นั้นเป็นอันระงับไป โดยกรมการจัดส่งสิ่งของทางบกจะริบหลักประกันรวมถึงเงินที่ได้มีการชำระไว้แล้วทั้งสิ้น เว้นแต่ทายาทหรือผู้จัดการองค์กรทรัพย์สินที่ส่งต่อๆกัน จะแจ้ง การสืบสิทธิการใช้หมายเลขทะเบียนดังกล่าวให้ทราบพร้อมกับชำระเงินอย่างถูกต้องค่าประมูลที่ค้างอยู่ ให้เต็มจํานวนที่กําหนดไว้ภายในกำหนดวันเวลา ๖ เดือน นับแต่วันที่ผู้ประมูลหมายเลข ทะเบียนถึงแก่ความตาย

ข้อ 19 หมายเลขทะเบียนใดที่ผู้ประมูลไม่ชำระราคาประมูลให้เต็มจํานวนที่กําหนดไว้ตามที่กำหนดในข้อ ๑๓หรือไม่ชำระราคาข้างในกำหนดช่วงของวันเวลา หรือทายาทหรือผู้จัดการฝ่ายขายของผู้ ชนะ (Win) การประมูลที่เสียชีวิตที่มีอิสระภาพไม่ประสงค์ จะเข้าสืบสิทธิในหมายเลขทะเบียนตามที่กำหนดในข้อ ๑8 กรมการส่งสิ่งของทางบกจะนำหมายเลขทะเบียนนั้นออกเปิดประมูล ใหม่ ในเคสตัวอย่างหมายเลขทะเบียนที่นำออกเปิดประมูลใหม่ ไม่มีผู้ประมูลหรือมีผู้ประมูลแต่ได้ราคา เมื่อรวมกับหลักประกัน (Insurance) ที่ริบไว้แล้วไม่คุ้มกับราคาประมูลเดิม ผู้ชนะอย่างขาดลอย การประมูลที่ละเลยไม่ชำระราคาดังกล่าวจะต้องดูแลอย่างต่อเนื่องเต็มราคาประมูลหรือในส่วนต่างนั้น ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีพลังอำนาจผ่อนหรือ Expansion ระยะ ช่วงของวันเวลาชำระราคาส่วนต่างได้ตามเหตุผล (Reason) และ

รูปภาพประกอบทะเบียนรถ ทะเบียนสวยลดราคาพิเศษ จำหน่ายโดย บอสนัมเบอร์ Tel 08-0950-6222


ทะเบียนรถ ทะเบียนสวย หมวดอักษรเบิ้ล โดย bossnumber ติดต่อที่ 08-0950-6222
อ้างอิงจาก: ทะเบียนรถ
คำที่ตรงกับเนื้อหา: ทะเบียนรถ
อ้างจาก: ทะเบียนรถทะเบียนรถ ทะเบียนสวยลดราคาพิเศษ จำหน่ายโดย บอสนัมเบอร์ Tel 08-0950-6222
กลุ่มของเว็บ: ทะเบียนรถ
ผู้นำเสนอ: bossnumber
หน้าหลักของเว็บ: http://www.bossnumber.com
Product:: http://www.bossnumber.com/document.php
หน้าติดต่อ: http://www.bossnumber.com/contact.php
Blog: bossnumber
Name: บอสนัมเบอร์
Phone: 08-0950-6222, 08-8099-9342
Mail: sale@bossnumber.com
Address: ไม่ระบุ
Enterprise: จำหน่ายทะเบียนสวย ทะเบียนรถ ทะเบียนประมูล สำหรับผู้ที่ต้องการเลขสวย เป็นศิริมงคล
#39
ประกาศเกี่ยวกับประตูรีโมท นำเข้า ผู้จำหน่าย homexpert2006 สนใจโทร ฝ่ายจำหน่าย +66 86 606 9163 วันนี้ผมจะมารายงานเกี่ยวกับประตูรีโมทอ่านบทความคุณภาพได้จากส่วนนี้ หลักการเลือกซื้อ (Buy) ประตูรีโมท :

การเลือก Buy ทางเข้ารีโมท หรือ มอเตอร์ทางเข้ารีโมท หรือ รีโมททางเข้ารั้ว หรือ ประตูรั้วนั้น นั้นมีความจำเป็นอย่างแท้จริงอย่างมาก ของบ้านพักอาศัย ออฟฟิศต่างๆ และโรงงานที่ตัวเองถนัด เพราะว่าเหตุผลคือเป็นอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่จะอำนวยความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี ประตูรีโมทเป็นอุปกรณ์ (Equipment) ที่สร้างประโยชน์อยู่หลายประการด้วยกัน ประการแรกเลยก็คือ ใช้เป็นทางเข้าออกคล้ายประตูทั่วไปนั่นเอง แต่ประตูรีโมทนั้น จะเหมาะสม (Appropriate) กว่ามาก ด้วยเหตุว่า เราทุกคนย่อมสั่งงาน (Work) จากรีโมทบังคับบัญชาประตูได้ตลอดช่วงของวันเวลา ที่ปรารถนาใช้งานที่มีประโยชน์ โดยไม่ต้องเดินไปเปิดทางเข้าเอง ซึ่งเหมาะสมอย่างมาก เพื่อ สำหรับออฟฟิศ โรงงานที่เหมาะสมกับตัวเอง และบ้านพักอาศัย ที่มีคนผ่านประจำ แต่ต้องดูแลรักษาเป็นอย่างดีเรื่องความปลอดภัยสบายใจตลอดวันเวลาอันมีค่า และอีกจุดหนึ่งที่ Significant ไม่แพ้กันก็คือ ทางเข้าโกดังขนาดที่วัดค่าตามมาตรฐานใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องไม่สะดวก ที่จะเปิดด้วยมือเปล่า ส่วนมากทางเข้าม้วน Size ใหญ่หลายๆบริษัทที่ปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลจะบังคับบัญชาด้วยรีโมทเป็นหลัก ปัจจัยในการเลือกใช้งานที่มีผลตอบแทนคุ้มค่าจะต้องเลือกให้เหมาะสม (Appropriate) กับการใช้งาน (Work) ของโกดัง เพื่อจะได้ใช้อย่างพอเพียงต้นทุนและมี Efficiency ในการใช้งานที่ใช้ความรู้อย่างสูงสุด ส่วนต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกของทางเข้ารีโมทนั้น ประกอบ (Complementary) ด้วย

มอเตอร์ Control การเปิดปิดของประตู : ซึ่งตัวมอเตอร์นั้นจะมีแรงในการขับเคลื่อนและรับน้ำหนักของวัตถุของประตูแตกต่างกันออกไป ส่วนที่จะต้องไตร่ตรองอยู่แล้วก็คือ Size นั้นเอง

รีโมทส่งสัญญาปากเปล่าณการเปิดปิดของประตู : ในส่วนนของรีโมทนั้นจะมีหลายระบบ ไม่ว่าจะเปลี่ยนคลื่นคลื่อนความถี่ หรือคลื่นวิทยุ ล้วนแต่ก่อเค้าโครงให้ Appropriate กับการใช้งานที่มีผลตอบแทนคุ้มค่า โดยเฉพาะความง่ายมากมายและง่ายในการพกพา คงทน รูปทรงสวยงาม โดยมากแล้วจะเน้นความปลอดภัยหายห่วงในการตั้งโค๊ดของรีโมทเพื่อมิให้บุคคลภายนอกสามา รถจูนได้

Foto Sensor / Foto Cell : Equipment เซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง อุปกรณ์ใช้สอยชนิด (Type) นี้เป็นสิ่งของเครื่องใช้เสริม ซึ่งจะใช้ป้องกันสิ่งไม่ดีขณะที่กำลังทำงานที่มีผลตอบแทนดี เพื่อความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์แก่ชีวิตที่มีค่าและทรัพย์สิน (Asset)

การเลือกทางเข้ารีโมท ต้องเลือกทางเข้าที่มีขนาดเหมาะสมกับจุดที่จะทำทางเข้า อย่างเหมาะสม (Appropriate) Especially ความสูง จะต้องมีขนาดที่ประมาณด้วยสายตาพอที่สินค้าที่ได้มาตรฐานขนาดที่วัดค่าตามมาตรฐานใหญ่ที่สุดจะต้องเข้าหรือออกได้โดยไม่ติดขัด

Reason อีกข้อหนึ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆในการตัดสินใจเลือกรีโมททางเข้าก็คือ ความเร็วที่คำนวณได้ในการเปิดปิดนั่นเอง โดยส่วนมากแล้ว ทางเข้าขนาดใหญ่นั้นมักจะเปิดปิดได้ช้ากว่าประตูขนาดเล็กซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดต้องเปิดปิดประตูกิจวัตรประจําวันนั้น การพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนเลือกประตูรีโมทที่มี Efficiency สูง ก็เป็นทางเลือกที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดเช่นกัน ซึ่งอาจจะต้องแลกมาด้วย ค่าใช้จ่ายราคาแพงเพื่อซื้อทางเข้ารีโมทคุณภาพที่ทุกคนมั่นใจดีมาใช้งานที่มีประโยชน์ ตรงนี้ขอแนะแนวว่า ควรจะคบคิดระยะยาวว่า หากเทียบกับ การต้องจ้างเจ้าหน้าที่ 1 คน มาเฝ้าทางเข้าออกแทนการที่จะต้องเปิดปิดประตูทุกช่วงเวลานั้น ค่าใช้จ่ายประจำวันเพื่อเงินที่ได้จากการเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่กับค่าใช้จ่ายประจำวันของการซื้อประตูและ ค่าซ่อมบำรุง ส่วนไหนจะคุ้มค่ามากกว่ากัน

ประโยชน์ของการใช้มอเตอร์โฮมเดคคอเรค

เปิด-ปิดมีกลไกทำหน้าที่ได้เอง ด้วยความปลอดภัยสบายใจเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ชีวิตที่มีอิสระภาพก็สะดวกสบาย

1.ไม่ต้องลงไปจากรถเพื่อเปิดทางเข้าเอง เสี่ยงกับโจรที่จ้องทำร้ายหรือจี้ปล้นทรัพย์สินที่มีมูลค่ามีค่าขณะลงไปเปิดประตู

2.ขณะฝนตกหนัก ไม่ต้องเปียกฝนลงไปจากรถเปิดทางเข้า

3.ในที่คับแคบการจราจรติดขัดไม่ต้องลงจากรถไปเปิดประตูให้เสียเวลา (Time) รถคันหลังปีบแตรไล่ ให้เสียความรู้สึก (Sense)

4.ย่อมเปิดต้อนรับแขกจากสิ่งที่อยู่ข้างในบ้านได้อย่างง่ายดาย

5.ขณะประตูเปิด-ป

รูปภาพประกอบประตูรีโมท ผลิตในประเทศ บริษัท homexpert2006 ติดต่อ ฝ่ายขาย +66 86 606 9163


ประตูรีโมท ประสิทธิภาพสูง ผู้จัดจำหน่าย โฮม เอ็กซ์เพิร์ท เทคโนโลยี ติดต่อสอบถาม ฝ่ายจำหน่าย +66 86 606 9163
อ้างอิงจาก: ประตูรีโมท
กลุ่มคำเดียวกัน: ประตูรีโมท
อ้างจาก: ประตูรีโมทประตูรีโมท ผลิตในประเทศ บริษัท homexpert2006 ติดต่อ ฝ่ายขาย +66 86 606 9163
Category: ประตูรีโมท ประตูไฟฟ้า
ประกาศโดย: homexpert2006
หน้าแรก: http://www.homexpert2006.com
รายละเอียดสินค้าและบริการ: http://www.homexpert2006.com/index.php?mo=29
Contact: http://www.homexpert2006.com/index.php?mo=10&art=41949176
เว็บเพจ: homexpert2006
ชื่อ: บริษัท โฮม เอ็กซ์เพิร์ท เทคโนโลยี จำกัด
เบอร์โทรติดต่อ: ฝ่ายขาย: 086-6069163, ฝ่ายเทคนิค: 086-5103789
เมล์: ไม่ระบุ
ที่อยู่: 22/110 ซ. โชคชัย 4 ถ.ลาดพร้าว แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10230
ประเภทธุรกิจ: จำหน่ายประตูรีโมท ประตูไฟฟ้า คุณภาพสูง ราคาถูก
#40
การประกอบวิชาชีพสอบราชการ ข่าวการสอบราชการ ขณะนี้คุณกำลังอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับสอบราชการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ได้จากเนื้อหานี้ เตรียมตัวสอบเข้ารับราชการ Work ราชการต้องทำอย่างไร

1. สิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆ

ในการสอบแข่งขันทักษะความรู้เข้ารับราชการทุกสังกัดทั้ง ก.พ. อาจารย์สังกัด ก.ค., สพฐ. เจ้าพนักงานสังกัด กทม. อบต. เทศบาลมีการแข่งทางวิชาการขันกันในอัตราที่สูงมากดังนั้น Because มีผู้ต้องการเป็นอย่างสูงเป็นข้าราชการที่มีความจงรักภักดีเป็นจำนวนมาก แต่สถิติอัตราที่บรรจุมีน้อย Complementary กับมีผู้สำเร็จ Education ใหม่ในแต่ละปี มียอดรวมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การแข่งขันจึงนับวันจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นผู้ที่ต้องการจะสอบแข่งขัน (Competition) เข้ารับราชการในสังกัดต่าง ๆ จะต้องเตรียมตัวในการสอบราชการให้พร้อม ปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่สำคัญเป็นอันดับแรกอันหนึ่งก็คือ การมีหนังสือสำหรับศึกษาเรียนรู้ที่ช่วยในการสอบวัดผลทางการศึกษาแข่งขันตัดสินผู้ชนะกับคนอื่นๆ ได้ Problem ที่ละเลยไม่ได้อันหนึ่งที่ผู้เขียนถ่ายทอดประสบการณ์ทราบก็คือ การขาดหนังสือสำหรับศึกษาเรียนรู้ที่ตรงกับหลักสูตรการเรียนการสอนที่เป็นมาตรฐานและ Content ที่อธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งหลักสูตรการเรียนการทำอย่างรอบคอบ Appropriate กับผู้ที่สนใจอ่านเนื้อหา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมีเบื้องต้นทางวิชาที่สอนเกี่ยวกับคณิตศาสตร์น้อย ภาคความสามารถในการเป็นลูกศิษย์ที่ดีในการศึกษาเรียนรู้ Analyze และสรุปบทความเหตุผลที่น่าเชื่อถือ

2. ขั้นตอนการเข้าสอบแข่งขันวัดฝีมือเข้ารับราชการ

กระบวนการในการสอบประลองการแข่งขันเข้ารับราชการในสังกัด ก.พ. ผู้สอนสังกัด ก.ค. ข้าราชการที่มีความจงรักภักดีสังกัด กทม. และเทศบาล จะมีการเข้าสอบ 3 ภาค คือ

   ภาค ก. Knowledge ความย่อมทั่วไป เป็นข้อสอบ ปรนัย 100 ข้อ 200 คะแนน (Score) แบ่งออกเป็น

   1) หลักสูตรความย่อมในการตั้งใจศึกษาและเคารพครูอาจารย์ วิเคราะห์ความน่าจะเป็น และสรุปเหตุผล เป็นข้อสอบ ปรนัย 50 ข้อ รวม 100 คะแนนทั้งหมด

   2) รายวิชา Language ไทย เป็นข้อสอบปรนัย 50 ข้อ รวม 100 คะแนนที่บริสุทธิ์ยุตธรรม

ในส่วนของภาค ก.ความรู้ที่ได้จากการลองผิดลองถูกความสามารถทั่วไป โดยส่วนมากจะตัดผ่านที่ 60 % ของแต้ม รวม (และไม่นำมาคิดสกอร์ที่บริสุทธิ์ยุตธรรมรวมกับภาค ข. ) คือสรุปใจความสำคัญคะแนนผ่าน 60% ของสกอร์ทั้งหมดรวมก็จะตรวจข้อสอบ ภาค ข. ต่อไป ถ้าไม่ผ่าน 60 % ของคะแนนรวม ก็ถือว่าสอบตก

  ภาค ข. ความรู้จริงรู้ชัดความสามารถเฉพาะตำแหน่งสายงาน (วิชาชีพ) รวม 200 คะแนนจากคณะกรรมการ

- ข้อสอบในส่วนนี้ อาจจะเป็นปรนัยทั้งหมดทั้งมวล หรือ ปรนัยผสมอัตนัย ก็ได้ แต่โดยส่วนมากเกิน 80 %ของทุกหน่วยงานที่หลายคนใฝ่ฝันจะเป็นปรนัย ( มีตัวเลือก ก ข ค ง)

ใน Exam ภาค ข. จะมีประกาศขายสินค้าบริการออกมาเมื่อเปิดรับสมัครสมาชิกติวสอบราชการว่าจะสอบในหัวข้อใหญ่ใดบ้าง โดยส่วนมากแล้ว จะเป็น พรบ.(กฏหมาย) ที่ต้องรู้และข้อปฎิบัติในหน่วยงานที่หลายคนใฝ่ฝันที่จัดสอบ และความรู้ที่เป็นประโยชน์เฉพาะตำแหน่งสายงาน เช่น นักทำให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดชุมชน ก็ต้องมีความรู้ที่ได้จากการตั้งใจศึกษาเกี่ยวกับทำให้มีความเจริญชุมชน เป็นต้น ( ในส่วนนี้ทาง Sheetram จะแจ้งให้ทราบครับเมื่อมีประกาศ (Announced) จัดสอบขึ้น )

- ภาค ค. ภาคความเหมาะสม (Appropriate) กับตำแหน่งที่ตั้ง รวม 100 สกอร์ทั้งหมด

  ในส่วนนี้จะคัดมาจากผู้ที่สอบได้ Score ในภาค ก. และ ข. ตาม Criterion ที่กำหนดในการสอบแข่งขันทางวิชาการจะดู บุคลิกภาพ และสัมภาษณ์ พร้อมกับดูผลการเล่าเรียน จากประวัติการเรียนในบางตำแหน่งพิกัดอาจจะมีการสอบวัดผลคะแนนอย่างอื่นด้วย เช่น ในตำแหน่งหน้าที่การงานปลัดอำเภอและ Assistant นายทะเบียน จะมีการสอบให้ผู้ Register พูดในหัวข้อใหญ่สั้น ๆ ที่ได้เตรียมเอาไว้ให้ และมีการสอบแข่งขันทางวิชาการวิ่งในระยะทางที่กำหนดในวันเวลาที่กำหนดให้ ซึ่งผู้ลงทะเบียนจะต้องศึกษาและสามารถนำมาประยุกต์ได้จาก Course ในการเข้าสอบในแต่ละครั้ง ไป ซึ่งในที่นี้พูดเฉพาะหลักสูตรการเรียนการสอนความเข้าใจความสามารถทั่วไปเท่านั้น

โดย Summary การสอบแข่งขันทางวิชาการได้ลำดับที่ที่ 1 2 3 ไล่ลงมาเรื่อย อยู่ที่แต้มที่บริสุทธิ์ยุตธรรม ภาค ข.+ ภาค ค. ผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาจะได้คะแนนที่รวบรวมแล้วมากกว่ากันครับ

3. การสอบ (Exam) Subjects ความรู้ที่สร้างคุณประโยชน์ความสามารถทั่วไป ตามหลักสูตรที่กำหนดของ ก.พ. วิชา (Subjects) ความย่อมทั่วไปของ ก.พ. ถือว่าเป็นหลักสูตรที่ยากที่สุด

- หลักสูตรการเรียนความรู้ที่ได้จากการลองผิดลองถูกความสามารถทั่วไปของ ก.พ. ถือว่าเป็น Subjects ที่ยากทีสุด ยากกว่าข้อสอบของ ก.ค., กทม., และเทศบาล ดูจาอัตราผู้ที่สอบผ่านวิชา (Subjects) นี้มีเพียง 10 - 20% ของผู้ที่สอบทั้งหมดทั้งสิ้น ข้อสอบของ ก.พ. มีทั้งส่วนที่ง่ายยิ่งกว่าอะไร ปานกลาง และยาก ที่สำคัญเป็นอันดับแรกก็คือผู้เข้าสอบจะไม่ย่อมทำข้อสอบได้ทั้งหมดที่คาดคะเนได้ในเวลาที่กำหนดให้ ผู้สอบจึงจำเป็นอย่างแท้จริงต้องศึกษาว่าข้อสอบรูปแบบใดง่ายดายหรือปานกลาง หรือยาก และมีสถิติข้อสอบเท่าใดและตนเองถนัดในเรื่องใดที่จะต้องเลือกทำก่อนเรื่องอื่น อย่าใช้วีทำจากข้อ 1 ไล่ไปเรื่อย ๆ เหมือนกับที่เคยทำข้อสอบสมัยเรียนในระดับมัธยมหรืออุดมศึกษาทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะใช้ไม่ได้กับการทำข้อสอบของ ก.พ. แต่จะต้องเลือกทำจากข้อสอบที่ง่ายกว่าปลอกกล้วยเข้าปากและถนัดก่อน ตามด้วยข้อสอบ
ยากปานกลาง ส่วนข้อสอบยากไว้ทำภายหลัง

- องค์ประกอบ (Elements) ของข้อสอบหลักสูตรความรู้ที่ดีความสามารถทั่วไปของ ก.พ. จะแบ่งบทความที่เป็นประโยชน์ออกเป็น 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรการเรียนการสอนความสามารถในการหาความรู้ วิเคราะห์และบทสรุปผล กับหลักสูตรการเรียนการสอนภาษา (Language) ไทย

ดังมีข้อมูลเพิ่มเติมดังที่ปรากฏนี้

- วิชาความรู้ที่มีคุณค่าความสามารถในการหมั่นเพียร์หาความรู้ พินิจพิจารณา และสรุปบทความดังกล่าวผล ซึ่งตามหลักสูตรการเรียนการสอนของ ก.พ. ได้กำหนดเนื้อหาของรายวิชาไว้ตามนี้

  ทดสอบความรู้ที่ได้จากการลองผิดลองถูกความสามารถในการนำเอาการศึกษามาพัฒนาชีวิต การแสดงความคิดเห็นและบทสรุปผล โดยให้แสดงความคิดเห็นจับประเด็นจากข้อมูลที่สามารถเชื่อถือได้ เหตุการณ์ต่างๆหรือเหตุผลที่ฟังขึ้นทางการเมือง เศรษฐกิจ และชุมชน การหาแนวโน้มหรือการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงที่น่าจะเป็นไปตามข้อมูลที่จำเป็นและมีประโยชน์ หรือสมมุติฐาน การคิดวิเคราะห์และคาดคะเนแล้วบทสรุปความเป็นอุปมา อุปไมย โดยอาศัยความเข้าใจทั่วไป และคิดหาสมเหตุสมผลด้วยตัวเลขอารบิกที่ใช้สากล" บทความของข้อสอบ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ ความสามารถทางด้านตัวเลขเพียวๆ ด้านความมี Reason และด้านภาษา (Language) แต่ละกลุ่มมียอดรวมข้อสอบโดยที่ประมาณการณ์ไว้และความยากง่ายและสะดวก เช่นนี้

   1. ความสามารถด้านตัวเลข (Number) แบ่งเป็น

    1.1 คณิตศาสตร์ (Mathematics) ทั่วไป จำนวนข้อสอบโดยที่ประมาณการณ์ไว้ 5 ข้อ - ยาก

    1.2 อนุกรม ปริมาณข้อสอบโดยที่คาดหมายไว้ 5 ข้อ - ยาก

    1.3 การวิเคราะห์จากข้อมูลทางสถิติข้อมูลที่เขียนจากการสรุปจากหนังสือจากตาราง สถิติข้อสอบโดยที่ประมาณการณ์ไว้ 5 ข้อ - ปานกลาง

   2. ความสามารถด้านความี Reason แบ่งเป็น

    2.1 อุปมาอุปไมย ปริมาณข้อสอบโดยที่คาดหมายไว้ 5-10 ข้อ - ปานกลาง

    2.2 การสรุปบทความความจากเงื่อนไขทางภาษา (Language) ยอดรวมข้อสอบโดยประมาณ 10 ข้อ - ยากมาก

    2.3 การสรุปรวบยอดความจากสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ (Mathematics) ปริมาณข้อสอบโดยประมาณการณ์ 10 ข้อ - ยากมาก

    2.4 ความมีความเชื่อมโยงกันจากรูป (มิติมีความเกี่ยวข้องกัน) (ระดับ 3 มักไม่ค่อยออก) ยอดรวมข้อสอบโดยประมาณการณ์ 0-5 ข้อ - ปานกลาง

   3. ความย่อมทางด้านภาษา (Language) (ความเข้าใจและสามารถเขียนสรุปภาษา (Language) ) จำนวนข้อสอบโดยน่าจะประมาณ 5 ข้อ - ปานกลาง

   - จะเห็นได้ว่าข้อสอบรูปแบบนี้ ใช้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ทางคณิตศาสตร์ (Mathematics) และตัวเลขอารบิกที่ใช้สากลที่ 20 - 25 ข้อ จึงนับว่าเป็นอุปสรรคที่เกิดจากปัจจัยภายในมีคุณค่าของผู้ที่อ่อน Mathematics หรือทิ้งคณิตศาสตร์มา นาน ผู้ที่รักการเรียนจะต้องทำความเข้าใจอย่างดีเยี่ยมหลัก Theory หรือมีความรู้ที่สร้างคุณประโยชน์หลักเบื้องต้น และหมั่นทำแบบฝึกหัดและข้อสอบเก่า ๆ ให้เกิดความชำนาญให้มาก

   - ส่วนที่จะต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดค่อนข้างมากคือวิชาที่สอนเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ทั่วไป แม้ว่าวิชาที่สอนเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ทั่วไปจะมีข้อสอบที่ถามโดยตรงเพียง 5 ข้อ แต่ความรู้และความเข้าใจวิชาคณิตศาสตร์ทั่วไปจะช่วยในการทำข้อสอบหัวข้อใหญ่อื่นๆ ในเรื่องของอนุกรม การพินิจพิจารณาข้อมูลที่เขียนจากประสบการณ์จาก Table การสรุปบทความความจากเงื่อนไขทาง Language (บางส่วนที่แบ่งออก) และการสรุปใจความสำคัญความจากสัญลักษณ์คณิตศาสตร์ ซึ่งมีข้อสอบโดยประมาณ 20-25 ข้อ ผู้ที่อ่อน Mathematics ก็ควรจะทำคะแนนที่บริสุทธิ์ยุตธรรมเหล่านี้ไว้บ้าง ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไปเลย ซึ่งจะเป็นการยากที่จะสกอร์ที่บริสุทธิ์ยุตธรรมส่วนอื่น ๆ ให้ได้ถึง 50 ข้อ

   - หนังสือสำหรับเรียนรู้ที่ควรจะอ่านอย่างมีสมาธิเกี่ยวกับเพิ่มเติมเสริมแต่งในด้านความสามารถด้าน Number

    1. หนังสือที่ใช้ประกอบการเรียนความรู้ก่อให้เกิดประโยชน์ความสามารถทั่วไป ตามหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการบรรจุไว้ ก.พ.

    2. Mathematics ชั้น ม.1-3 ดูในเรื่องการคำนวณขั้นรากฐาน ซึ่งมีคุณค่ามาก

    3. คณิตศาสตร์ (Mathematics) ชั้น ม.4-6 ดูในเรื่องค่าของข้อมูลที่สามารถวัดผลได้ช่วงต้น, ตรรก, สัญลักษณ์ทางวิชาคณิตศาสตร์, ระบบยอดรวมและเซท

    4. วิชาคณิตศาสตร์ระดับ Degree ตรี ดูในเรื่องดังข้อ 3 ข้างต้น

   - ข้อสอบ ก.พ. นั้นออกข้อสอบใน Knowledge ในระดับ ม.1-6 ดังนั้น ถ้าจะดู Mathematics ระดับปริญญาตรีให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า เนื้อหาหลักจะสูงกว่าที่ออกข้อสอบ แต่ถ้าหากอ่านและทำความเข้าใจในระดับปริญญา (Degree) ตรีเป็นการจะทำให้ได้เปรียบกว่า แต่ถ้าหากไม่มีเวลาก็ไม่มีประโยชน์อันใด

- รายวิชาภาษาไทย 50 ข้อ 100 สกอร์ที่รวบรวมแล้ว แบ่งออกเป็นข้อสอบ ประเภทต่าง ๆ โดยน่าจะประมาณ ดังที่ปรากฏ

  1. ศัพท์

   1.1 การเขียนบทความที่มีประโยชน์ตัวสะกด จำนวนข้อสอบ 0-5 ข้อ - ยาก

   1.2 สัมพันธภาพระหว่างคำกับสัญลักษณ์ในภาษาของคำและกลุ่มคำ สถิติข้อสอบ 10 ข้อ - ปานกลาง

  2. ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาทั้งหมดภาษา สถิติข้อสอบ 25 ข้อ - ยาก

   2.1 ข้อความที่สื่อความหมาย (ทั้งร้อยกรองและร้อยแก้ว)

   2.2 บทความ (Content)

  3. การเขียนเนื้อหาที่เป็นมิตรกับผู้อ่าน

   3.1 การเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ ยอดรวมข้อสอบ 5 ข้อ - ปานกลาง

   3.2 การเขียน (Writing) Sentence ได้ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนตามหลักภาษา (Language) สถิติข้อสอบ 5 ข้อ - ปานกลาง

   3.3 การเรียงความ จำนวนข้อสอบ 5 ข้อ - ปานกลาง

   - จะเห็นได้ว่า Language ไทยตามหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการบรรจุไว้ของ ก.พ. ส่วนมากแล้วจะเน้นความเข้าใจอย่างถ่องแท้ภาษา (Language) และการเขียนบทความเชิงคุณภาพเป็นหลัก ส่วนการเขียนบทความเชิงให้ความรู้ตัวสะกดจะมี หรือไม่มีก็ได้ (แต่ควรจะดูไว้บ้างเผื่อว่าจะออกมา) ผู้สอบจะต้องอ่านอย่างเข้าใจเกี่ยวกับความรู้จริงรู้ชัดเบื้องต้นของ Language ไทย และหมั่นทำแบบฝึกหัดมาก ๆ เช่นเดียวกัน

   - หนังสือที่ใช้ในการประกอบการเรียนการสอนที่ควรอ่าน (Read) เพิ่มเติมให้สมบูรณ์เกี่ยวกับภาษาไทย คือ

    1. หนังสือ (Book) ความรู้ (Knowledge) ความสามารถทั่วไป ตามหลัดสูตร ก.พ.

    2 . หลัก Language ไทย (TH101) ของ ม.รามคำแหง ดูเฉพาะเรื่องการใช้ภาษา (Language) มากกว่า จะดูเรื่องไวยากรณ์

    3 . การเตรียมตัวเพื่อการพูดและเขียนให้อ่านรู้เรื่องเกี่ยวกับ (TH 103) ของ ม.รามคำแหง

    4 . การใช้ภาษา (Language) ไทย Treatise งของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง เช่น ของ มสธ.

    5 . การใช้ภาษาไทย ระดับ ม.1-6

    สำหรับผู้ที่อ่อนคณิตศาสตร์ (Mathematics) จำนวนไม่น้อยย่อมสอบรายวิชา ก.พ. ผ่านได้ โดยให้มามุ่งทำข้อสอบภาษาไทยให้ได้แต้มจากคณะกรรมการดี ๆ เพราะดังที่ได้เรียนให้ทราบแล้วว่า ส่วนใหญ่ (Mainly) ไม่สามารถทำข้อสอบได้หมดทุกข้อ มักจะเพราะอะไร่ทัน Time จะต้องข้าม หรือใช้กลยุทธ์เดาในการทำข้อสอบ เพราะเหตุนั้นผู้ที่อ่อนคณิตศาสตร์ (Mathematics) ไม่ควรท้อถอยหรือหมดกำลังใจ

4. การเข้าสอบหลักสูตรการเรียนความรู้และความเข้าใจความสามารถทั่วไป ตามหลักสูตรการเรียนรู้ของ ก.ค. สพฐ.

4.1 หลักสูตรการเรียนความรู้ (Knowledge) ความย่อมในการนำเอาการศึกษามาพัฒนาชีวิต Analyze และข้อสรุปผล ในข้อสอบของ ก.ค. สพฐ. ที่ผ่านมา ไม่มีข้อสอบแบบการสรุปรวบยอดความจากสัญลักษณ์ จะเน้นหนังที่วิชาคณิตศาสตร์ ในแนวการวัดความถนัด (APTITUDE TEST) ซึ่งจะวัดความเข้าใจอย่างแท้จริงและความย่อมในเชิงวิเคราะห์ด้วยข้อมูลทางสถิติมากกว่าความย่อมในการจำ (ซึ่งหมาความว่าไม่เน้นในการจำสูตรต่างๆ) ส่วนเนื้อหาที่มีประโยชน์ในส่วนอื่น ๆ ก็มีข้อสอบพอสมควร เช่น อนุกรม การวิเคราะห์ด้วยข้อมูลทางสถิติข้อมูลข่าวสารจาก Table อุปมาอุปไมย ความย่อมด้าน Language การสรุปให้เข้าใจง่ายความจากเงื่อนไขทางภาษา

4.2 หลักสูตรการเรียนการสอน Language ไทย ข้อสอบของ ก.ค. จะมีบทความที่อ่านแล้วได้รับความรู้ที่เกี่ยวกับเขียนอย่างละเอียดเกี่ยวกับตัวสะกด ความหมายของคำและกลุ่มคำ ความรู้ที่ได้จากการลองผิดลองถูกทางด้านหลัก Language หรือไวยากรณ์ การอ่านและท่องจำ การใช้ราชาศัพท์ การเลือกใช้คำและกลุ่มคำ การเขียนบทความถ่ายทอดประสบการณ์ประโยคคำถามที่ถูกต้อง ความเข้าใจพร้อมทั้งสามารถนำไปประยุกต์ต่อได้ภาษามาจากการอ่านอย่างมีสมาธิเกี่ยวกับ Message และบทความที่เขียนขึ้น สรุปบทความว่าหลักสูตรการเรียนรู้ภาษา (Language) ไทยของ ก.ค. จะต่างไปในขณะที่ข้อสอบ ก.พ. มักจะไม่เรื่องข้างต้น

5. การสอบวัดผลทางการศึกษาหลักสูตรการเรียนการสอนความรู้ที่เป็นประโยชน์ความย่อมทั่วไปของ กทม.

5.1 หลักสูตรความรู้ (Knowledge) ความารถในการแสวงหาความรู้ วิเคราะห์และคาดคะเน และสรุปใจความสำคัญ Reason ในข้อสอบของ กทม. จะไม่มีข้อสอบการบทสรุปความจากสัญลักษณ์ ลักษณะข้อสอบจะเป็นเรื่องต่างๆ นอกจากนั้น ผู้ลงทะเบียนสอบควรจะดูเนื้อหา (Content) เรื่อง Mathematics เริ่มต้นให้มากหน่อย เพราะจะเป็นหลักเบื้องต้นของการทำข้อสอบเรื่องการวิเคราะห์และคาดคะเนข้อมูลที่เป็นประโยชน์จาก Table และแผนภูมิด้วย เพื่อเงื่อนไขภาษาของ กทม. จะมีเนื้อหาที่อ่านแล้วได้รับความรู้ที่ง่ายและซับซ้อนมากนัก สรุปคือผู้ที่ชอบอ่านหนังสืออาจจะ Read ในส่วนแรก ๆ เท่านั้น ส่วนที่ยากและซับซ้อนอาจจะอ่านและทบทวนเมื่อมีช่วงของวันเวลาเหลือก็ได้

5.2 วิชาภาษา (Language) ไทย ข้อสอบภาษา (Language) ไทยของ กทม. มีลักษณะเหมือนกับข้อสอบภาษาไทยของ ก.พ. จะเน้นเรื่องความเข้าใจจากเรื่องราวต่างๆภาษา คือ การอ่านอย่างจริงจังเกี่ยวกับเนื้อหาและบทความ นอกจากนั้นยัง มีความหมายของคำและกลุ่มคำ การใช้คำและกลุ่มคำ การเขียนข้อความ Sentence ตามหลักภาษา (Language) การเรียงเนื้อหา สิ่งที่ไม่เน้น คือการเขียนข้อความประโยค (Sentence) (อาจจะมีหรือไม่ก็ได้)

6. การสอบ Subjects ความรู้จริงรู้ชัดความย่อมทั่วไปของ อบต. เทศบาล อบจ.

- ข้อสอบความสามารถทั่วไปของเทศบาล อบต. จะมีลักษณะเหมือนกันแนวข้อสอบของ ก.พ. (โปรดดูในหัวข้อหลัก) และผู้สอบควรจะศึกษาและสามารถนำมาประยุกต์ได้เกี่ยวกับความรู้ที่ได้จากการศึกษาเรียนรู้อย่างจริงจังทั่วไป และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยุคนี้เอาไว้ด้วย ซึ่งเคยมีข้อตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบในเรื่องดังกล่าวด้วย

7. คำ Recommend ในการเตรียมตัวก่อนสอบ

- 1. ศึกษาทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง Course ของการสอบแข่งขันทักษะความรู้และแนวการสอบแข่งขันทักษะความรู้ให้ละเอียดยิบ โดยเรียนรู้จากคู่มือ (Manual) การับยื่นและหนังสือที่ใช้ในการประกอบการเรียนการสอนแนะนำแนวทางในการเตรียมสอบหลักสูตรการเรียนความรู้ที่ได้จากการลองผิดลองถูกความย่อมทั่วไป ซึ่งจะบอก ถึงหลักสูตรพื้นฐานและบทความที่เป็นประโยชน์ในการสอบวัดผลคะแนนโดยรอบคอบ พร้อมทั้ง Sample ข้อสอบ (อย่างง่ายดายๆ) เอาไว้ หนังสือที่ใช้ในการประกอบการเรียนการสอนเล่มดังกล่าวถือว่าเป็นแนวกว้าง ๆ ของเนื้อหาที่อ่านแล้วมีประโยชน์ข้อสอบเท่านั้น

- 2. หากหนังสือที่ช่วยพัฒนาความรู้หรือคัมภีร์ที่ดีและตรงกับแนวการสอบวัดผลทางการศึกษาไว้อ่านและทำความเข้าใจและทำแบบฝึกหัด บทความในท้องตลาดมีมากมายเกิดที่คาดคะเน ไม่ใช่ว่าจะต้องแนวกับ Exam เสมอๆ หรือบางเล่มก็เฉลยผิด ๆ ซึ่งเป็นการจะทำให้ผู้ที่ชอบอ่านเนื้อหาเพื่อแสวงหาความรู้เข้าใจและสามารถเขียนสรุปผิด และสอบตก ควรอดทนและพยายามตั้งคำถามบุคคลที่เคยสอบมาแล้ว และถามว่าหนังสือเล่มใดที่ตรงและถูกต้องชัดเจนบ้าง อาจจะได้หนังสือสำหรับศึกษาเรียนรู้ที่อย่างถูกต้องไม่ทำให้เราและสมาชิกทุกท่านหลงทางและสอบตกในที่สุด

- 3. ควรหาสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้เข้าสอบหลักสูตรความรู้ที่มีคุณประโยชน์ความย่อมเมื่อมีสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้จะทำได้ เพื่อหา Experience และดูแนนข้อสอบมากขึ้น

- 4. ควรทำสรุปเนื้อหาย่อบทความที่เป็นประโยชน์ของหลักสูตรที่เรียน ทำโน้ตย่อเฉพาะเนื้อหาสาระต้องคำนึงเป็นอันดับแรกสั้น ๆ ใช้ภาษาของตนเองเพื่อไม่ยากในการทบทวน

- 5. หมั้นทำแบบฝึกหัด การทำแบบฝึกหัดจะช่วยให้เราและสมาชิกทุกท่านเข้าใจและจำเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น

- 6. ควรจับกลุ่มดูหนังสือที่ใช้ในการประกอบการเรียนการสอนกับเพื่อนที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพื่อจะได้มีกำลังใจที่ส่งมาจากส่วนลึกในการดูหนังสือที่ใช้ประกอบการเรียน ไม่ว้าเหว่ และเมื่อสงสัยและยังไม่เข้าใจอย่างชัดแจ้งก็สามารถช่วยเหลือเผื่อแผ่กันได้ กลุ่มของดูหนังสือที่ช่วยพัฒนาความรู้ไม่ควรมากเกินไป หรือน้อยเกินไป คือคาดคะเน 4-5 คน

- 7. ให้นึกถึงความสำเร็จจากการทำงานที่ถนัดทางชีวิต หรือเป้าหมายในการทำงานของชีวิตที่มีสีสันให้เราทุกคนมีมานะมากขึ้น โดยพยายาม (Attempt) อ่านและท่องจำชีวประวัติบุคคลสำคัญ (Significant) หรือบุคคลที่ประสบผลสำเร็จใน Life จะช่วยให้เราและคุณทุกคนมีมานะมากขึ้น

- 8. ให้สิ่งสำคัญอันดับต้นๆของการดูแลรักษาสุขภาพและสุขภาพจิต ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การเรียนเพื่อเสริมสร้างความรู้และการดูสมุดหนังสือได้เป็นคุณประโยชน์

- 9. ควรมี Plan ดูหนังสือที่มีความรู้ เขียนให้อ่านเข้าใจง่ายเกี่ยวกับเป็น Table ไว้ แล้วปฏิบัติโดยเคร่งครัด

-10. ควรมีสถานที่ดูหนังสือที่มีความรู้ที่เป็นสัดส่วนของตนเอง และเงียบสงบไม่วุ่นวาย ซึ่งจะช่วยให้มีสมาธิในการดูสมุดหนังสือได้มาก

-11. ควรหาคนช่วยสอนในเรื่องที่เราและทีมงานทุกคนไม่ถนัด เช่น Mathemati

รูปที่เกี่ยวข้องสอบราชการ ข่าวการสอบราชการ


สอบราชการ ติวเข้มพิชิตข้อสอบราชการ
อ้างอิงจาก: สอบราชการ
คำที่มีความหมายเดียวกัน: สอบราชการ
อ้างจาก: สอบราชการสอบราชการ ข่าวการสอบราชการ
Category Tag: สอบราชการ งานราชการ ข้อสอบราชการ
ยูสเซอร์: ข้อสอบราชการ
หน้าหลักของเว็บไซต์: http://www.ข้อสอบราชการ.com
หน้าสินค้าและบริการ: http://www.ข้อสอบราชการ.com/index.php/topic,457.0.html
หน้าติดต่อสอบถาม: http://www.ข้อสอบราชการ.com/index.php/topic,499.0.html
URL: ข้อสอบราชการ
Name: ข้อสอบราชการ
Phone Number: 0870708815
Email-Address: nas_za.za@hotmail.com
Address: ไม่ระบุ
About Us: เว็บข้อสอบราชการ งานราชการ แนะแนวข้อสอบ สอบ ก.พ.
#41
การเรียนรู้bbinbox โดย wizwaystudio รับจัดงานพิธีต่างๆ เชิญติดตามบทความดีๆเกี่ยวกับbbinboxอ่านเนื้อหาคุณภาพจากบทความนี้ ความเป็นมาของบริษัทที่จดทะเบียนอย่างถูกต้อง วิซเว สตูดิโอ จำกัด
ประสบการณ์ที่เคยพบเจอกว่า 6 ปี ของการทำโชว์และกราฟฟิคของ Personnel ในทีม ตอนนี้บริษัทที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องของเราและทีมงานทุกคนจึงได้รวมบุคคลากรที่มีความสามารถด้าน ความเห็นสร้างสรรค์ bbinbox การทำกราฟฟิคและการจัดอีเว้นท์ มารวมตัวกัน จนกลายมาเป็น บริษัท (Company) วิซเว สตูดิโอ และเราและคุณทุกคนได้เริ่มทำงานที่เหมาะสมกับตัวเองโปรดักชั่น ด้านบริการที่ได้มาตรฐาน มาตั้งแต่ ปี ปีพุทธศักราช 2555 และได้จดทะเบียนเป็นรูปแบบ Company เมื่อวันที่ 28 May 2556 ณ จังหวัด ปทุมธานี สำนักงานที่มีประโยชน์ตั้ง อยู่ที่ 2/295 หมู่บ้าน พฤกษาวิลล์ ซอยเพิ่มสิน 34 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220 ให้บริการด้วยเทคนิคที่ถูกต้องผู้ซื้อสินค้าด้วยคุณภาพที่หลายคนไว้วางใจตลอด 1 ปีที่ผ่านมา

ด้านการสร้าง
ด้านการผลิต (Manufacturing) บริษัทที่มีจุดประสงค์ทางด้านผลกำไรของเราและสมาชิกทุกท่านย่อมจัดทำรายการทั้งหมดเพื่อออกอากาศทางโทรทัศน์ งานประชุมสัมมนา ทำสารคดี-วิดีโอ งานที่มีผลตอบแทนดีพรีเซนต์ ประวัติบริษัทที่ปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลและประวัติบุคคลในโอกาสและความน่าจะเป็นครบรอบต่างๆ รับถ่ายวิดีโอและภาพนิ่ง Work พิธีต่างๆ ด้วยกล้องที่ทันสมัยไม่ล้าหลัง รวมไปถึงการสำแดงออกมาให้เห็นโชว์เงา การทำกราฟฟิคให้รายการทั้งหมดโทรทัศน์ การเกิดขึ้นกราฟฟิค 3 มิติ และการทำ Projection Mapping

ด้านบริการที่ถูกต้องตามหลักการ
สิ่งของเครื่องใช้เครื่องฉาย DLP - LCD Projector รุ่นใหม่ที่มีความคมชัดให้แสงสว่างมาก พร้อมจอขนาดที่วัดได้ ตั้งแต่ 100 นิ้ว - 400 นิ้ว ทั้งฉายหน้าและหลัง จอ AIR SCREEN ขนาด (Size) 11x18 m., LED SCEEN (INDOOR), PLASMA TV , LCD TV , FIBER OPTIC และชุด Control อุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกกล้องถ่ายวีดีโอและเครื่องบันทึกเอกสารที่สำคัญเทปทุกระบบ เช่น DV CAM, BETA CAM, MINI DV และ DVC - PRO, เวทีที่มีผู้ชมมากมายการเกิดขึ้น, ระบบแสง-เสียง, งานสัมมนา-ชุมนุมกัน, เปิดตัวปรากฏอย่างชัดแจ้งสินค้าคุณภาพดี, งานที่หลายคนใฝ่ฝันกิจกรรม, Event, งานที่เหมาะสมกับตัวเองเลี้ยงสังสรรค์ และรับการจัดการปรากฏอย่างชันเจน ดนตรีหรือคอนเสิร์ต ฯลฯ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วยทีมงาน (Work) คุณภาพ (Quality) และมีประสบการณ์ที่ผ่านมาของ WIZ WAY STUDIO เราและผู้อ่านทุกคนจึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วไปด้วยดีมาโดยตลอดพร้อมทั้งมีการทำให้มันดียิ่งขึ้น ด้านเทคนิคส่วนตัวและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ให้ Service ตลอดระยะเวลา ซึ่งทางเราและเพื่อนร่วมวิชาชีพเน้นด้านคุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่น และด้วยประสบการณ์ที่เคยพบเจอ wizway studio รวมถึงการบริหาร (Management) งานที่มีผลตอบแทนดีที่ครบวงจร เพื่อให้ได้ผลงานที่ตรงกับเป้าหมายที่ผู้ใช้บริการปรารถนาที่จะได้ ผล Work ที่ ออกมาจึงเป็นที่ Accept ของลูกค้าที่รักในแบรนด์เสมอมา

กระบวนการในการวิเคราะห์ (Analyze) ความต้องการอย่างมากในการจัดอีเว้นท์

แนวทางในการวิเคราะห์และคาดคะเน Need ในการจัดสิ่งที่ปฏิบัติเป็นประจำทางการกระตุ้นยอดใช้สินค้าและบริการนั้น ควรมุ่งไปที่การค้นหาความหมายความปรารถนาของผู้บริโภค และทำให้ดีมากกว่าเดิมแผนไปสู่ความสามารถในการนำเสนอตรงไปตรงมาเกี่ยวกับ กิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางการกระตุ้นยอดใช้สินค้าและบริการที่ตอบสนองอารมณ์ต่อสิ่งที่ปรารถนาของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สามารถวัดผลได้

เมื่อได้ความคิดสร้างสรรค์ของประเภทกิจกรรมที่มีประโยชน์ท่ีสามารถตอบสนอง (Respond) ต่อความปรารถนาของผู้บริโภคได้แล้ว ก็เป็นประโยชน์ที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้งถึงความถูกต้อง (Correct) ของแนวคิดนั้นๆ ด้วยการสอบถามข้อสงสัยความเข้าใจเห็นจาก ผู้บริโภคเป้าหมายที่วางไว้เพื่อทำให้สำเร็จ ผู้ออกงานที่มีผลตอบแทนคุ้มค่า และทีมผู้บริหารสูงสุดการจัดงานที่มีผลตอบแทนคุ้มค่า ก่อนจะสรุปเรื่องราวประเภทที่แตกต่างของงานที่ตัวเองชอบ ย่อมแบ่งวิธีการ Complementary การพิจารณาอย่างรอบคอบลักษณะการจัดอีเว้นท์ ได้ดังเช่นนี้

1.แบ่งหมวดหมู่ที่ตั้งไว้กลุ่มสิ่งที่้ต้องการ ทั้งผู้ร่วมงานที่เหมาะสมกับตัวเอง และผู้ออกงานที่ใช้สติปัญญา
2.วิพากษ์วิจารณ์ความปรารถนาของกลุ่มสิ่งที่้ต้องการ ทั้ง 2 กลุ่ม ความสำเร็จจากการทำงานในการจัดงานที่ใช้สติปัญญานั้นวัดได้ที่ความถูกอกถูกใจของผู้ร่วมงานที่มีผลตอบแทนคุ้มค่า ถ้าเป็นการจัดกิจกรรมที่มีความน่าสนใจเหมือนจริง ก็ต้องให้ได้รับความถูกอกถูกใจตามที่ปรารถนาสูงกว่า การจัดกิจกรรมทั่วไป
3. Write แนวคิดของการจัดงานที่ตัวเองชอบออกมาอย่างพิถีพิถัน ผู้จัดต้องมองเห็นภาพของกิจกรรม (Activity) อย่างชัดเจนอย่างมาก ว่างานนี้จัดขึ้นเพื่อ What? เพื่อมนุษย์คนใด และจัดขึ้นเพราะอะไร กิจกรรมประจำวันนี้ตอบสนองความใฝ่ฝันของตลาดในแง่มุมไหน และตอบสนองได้เป็นสิ่งที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด Method ที่ใช้อยู่ได้เช่นใด
4.ได้รับการอุปการะอย่างดีจาก ผู้มีอิทธิพลในวงการนั้นๆ (influential) ในแต่ละวงการ ก็จะมีดาราเด่นที่ เป็นตัวดึงดูดให้คนเข้าร่วมงานที่ใช้ความรู้ เช่นองค์กรหลัก หรือบริษัทที่ได้รับความยอมรับใหญ่ๆในวงการ หรืออาจเป็นคนที่ได้รับความสนใจ (Interested) ก็ได้ แนวปฏิบัตินี้เป็นส่วน Significant ที่ช่วยช่วยเหลือ ให้งานที่มีผลตอบแทนดีที่จัดขึ้นเป็นที่น่าศรัทธา และได้รับการตอบรับจากผู้ร่วมงานที่ตัวเองชอบอย่างดี
5.เตรียมงบคาดหมายในการจัดสิ่งที่ปฏิบัติทางการตลาดให้อย่างเหมาะสม ตั้งโดยประมาณการรายรับให้เหมาะสม ไม่มากเกินจริง และที่คาดหมายไว้การค่าใช้จ่ายทั่วไปอย่างละเอียดลออถี่ถ้วน เพื่อให้การจัดงานที่เหมาะสมกับตัวเองอยู่ในงบราวๆที่วางไว้
6.สุดท้ายเป็นกระบวนการของการตัดสินใจ จากองค์ประกอบด้วยรวมรวมยอด ที่ได้ไตร่ตรองมาว่า ถึงความน่าจะเป็นทางธุรกิจขนาดกลางจะจัดงานที่สร้างรายได้ดีหรือไม่ หรือจะย่อมจัดกิจกรรมที่ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอทางการประชาสัมพันธ์เสมือนจริงออนไลน์ (Online) หรือไม่

ไม่ว่ากิจกรรมที่มีความน่าสนใจทางการจัดงานอีเวนท์ที่จัดขึ้นจะเป็นงานที่หลายคนใฝ่ฝันที่จัดทั่วไป หรือผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ต่างก็ไม่มีคำตอบ (Answer) ของการบริการควบคุมและการจัดการความเสี่ยงในการจัดงานที่ใช้สติปัญญาที่จริงแท้แน่นอนตายตัว ผู้จัดจึงต้องวิเคราะห์ทางเทคนิค และพิจารณาอย่างมีเหตุผลเองอย่างรอบคอบ (Carefully) ก่อนเริ่มงาน (Work)

บัญญัติ 5 ประการ ของการทำอีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้ง

ในขณะที่นักการประชาสัมพันธ์ต่างก็มีโจทย์ที่ต้องคิดว่าจะต้องวางกลยุทธ์เช่นใดหากจะนำ Event มาใช้ เพื่อสร้างความใกล้ชิดไม่ห่างกันระหว่าง Brand กับกลุ่มสิ่งที่้ต้องการ รวมถึงการสร้าง Brand Activation ที่ น่าเป็นที่สนใจให้กับ Brand ของตน ข้าพเจ้าเองในฐานะตำแหน่งหน้าที่การงานที่เป็น Event Agency ที่คลุกคลีกับวงการนี้มานาน ก็มีโจทย์ที่ต้องคิดหนักไม่ต่างจากกันว่าจะ Creative Event อย่างไรให้มีความไม่ใช่ทั่วไปเหมาะกับ Brand และกลุ่ม Target Goal สรุปเป็นประจำทุกครั้งที่มีงานที่ใช้สติปัญญาเข้ามา ข้าพเจ้าจะเริ่มต้นวางกลยุทธในการทำอีเว้นท์ โดยการ นำบัญญัติ 5 ประการ ที่ส่วนตัวกระผมใช้เป็นแนวทางในการคิด งาน (Work) มาออกความคิดเห็นก่อนเป็นชั้นต้น นั่นคือ

1. Brand Positioning ถือเป็นขั้นต้นที่เราและผู้อ่านทุกคนจะต้องเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาทั้งหมด Brand ของลูกค้าทั่วไปอย่างดีว่า Brand ของ Customer นั้นเป็นยังไง Core Values ของ Brand มี What?บ้าง คุณสมบัติของสินค้าคุณภาพดีที่ไม่ใช่ทั่วไประดับที่สูงกว่าที่เราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บต้องสื่อสาร (Communicate) ออกไปอยู่ตรงส่วนไหน Brand Personality และกระบวนการของงานที่สร้างรายได้ดีด้าน Advertising จะไปในทิศทางใด

2. Situation Analysis เป็นการแสดงความคิดเห็นสถานการณ์ทางการกระตุ้นยอดใช้สินค้าและบริการของผู้ใช้บริการว่าอยู่ในสถานะ (Status) ใดเป็นการเปิดตัวสินค้าราคาไม่แพงใหม่ หรือเป็น Relaunch สินค้าแบรนเนม หรือต้องการ (Want) ขยายให้ใหญ่ฐานตลาดออกไป หรือ แม้กระทั่งต้องการ (Want) สร้าง Brand ให้ชิดใกล้กับกลุ่มจุดมุ่งหมายมากขึ้น รวมถึงสถานะ (Status) ภาพทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ว่าเป็น Market Leader หรือ เป็น Follower ตลอดจนสภาพการชิงดีชิงเด่นขันในธุรกิจที่มีความเจริญรุ่งเรือนเป็นเช่นใด นักข่าวที่มีจรรยาบรรณให้ความสนใจกับธุรกิจ (Business) มากน้อยแค่ไหน เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำเกิดความยากง่ายกว่าวิธีอื่นเป็นอย่างมากในการนำเสนอให้ผู้อื่นรับรู้ เช่นถ้า Brand อยู่ในธุรกิจที่มีความต้องการทางการตลาดที่มี Competition ขันที่รุนแรงมากๆ และเป็นที่สนในของสื่อ บางครั้งแค่จัดงานที่ตัวเองถนัดแถลงข่าวเล็กๆ Brand ก็ย่อมอยู่หน้าหนึ่งได้ ในทางกลับกันหากอยู่ในงานที่ Low Profile มากๆ ก็คงต้องออกแรงมากหน่อย หรือหาก Brand นั้นๆไม่เคยแม้แต่น้อยทำกิจกรรม (Activity) มาก่อนเลย ก็เป็นที่แน่นอนรับประกันได้ว่าการมาครั้งแรกคงต้องสร้าง What?ให้เป็นที่จดจำ

3. Event Platform ตำแหน่งนี้ Significant มาก เพราะว่า Event คือเครื่องมืออำนวยความสะดวก Communicate ที่เจาะตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ การเป็นการจะทำให้กลุ่มเป้าหมายของการทำงานเชื่อว่า Brand เป็นอย่างไร นั้น จำเป็นอย่างยิ่งยวดอย่างยิ่งที่จะต้องวางวิถีทางของ Event ไม่ให้หลุดออกไปจาก Core Values ของ Brand สรุปคือในฐานะเจ้าของ Brand คุณคงต้องทำ Event Platform ไว้เป็นการดำเนินการว่าสินค้าของคุณจะทำหรือไม่ทำ What?ในยุทธวิธีของ Event เพื่อกำหนดทิศทางที่กระจ่างโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆไม่เป็นเช่นนั้นถ้าปล่อยกันไปตามแต่ใจ Brand Manager สิ่งที่ Brand ได้รับนอกจากจะขาดความบ่อยๆแล้วก

รูปภาพbbinbox by wizwaystudio บริการด้านงานบันเทิง


bbinbox โดย wizwaystudio รับจัดงานอีเว้นท์ครบวงจร
อ้างอิงจาก: bbinbox
คำที่ตรงกับบทความ: bbinbox
อ้างจาก: bbinboxbbinbox by วิซเว สตูดิโอ รับออกแบบ สร้างงานพรีเซนต์
Category Tag: bbinbox bbdiva by wizway studio
ยูสเซอร์: wizwaystudio
หน้าแรกของเว็บไซต์: http://www.bbinbox.com
หน้าสินค้าและบริการ: http://www.bbinbox.com/about_us.php
หน้าติดต่อสอบถาม: http://www.bbinbox.com/contactus.php
Site: wizwaystudio
Name: บริษัท วิซเว สตูดิโอ จำกัด
Phone: 086-371-6060, 086-365-8667
Mail: wizwaystudio@gmail.com
Address: 2/295 Soi Permsin 34, Khlongtanon, Sai Mai, Bangkok 10220
Enterprise: We are graphic team for BBInbox and BBdiva from Thailand got talent เราคือทีมผลิตกราฟฟิคให้แก่ BBInbox และ BBdiva จากรายการ Thailand got talent
#42
ขอนำเสนอรับสร้างบ้าน โดย บริษัท คอนเวนเจอร์ แปลนบ้าน แบบบ้านได้มาตรฐาน หากคุณเป็นคนที่ต้องการที่จะศึกษาเกี่ยวกับรับสร้างบ้านเรียนรู้อย่างละเอียดได้จากเนื้อหานี้ บ้านเป็นหนึ่งในปัจจัยทั่วไปสี่ที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดแก่การดำรง Life ของคนเราและผู้อ่านทุกท่าน การมีบ้านเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มชีวิตที่มีสไตล์ใหม่ที่จะเจริญก้าวหน้าต่อไป ดังนั้นแล้วการปลูกสร้างบ้าน ที่ได้มีการปฏิบัติตามกฎ (Rule) หมาย ระเบียบ จึงเป็นการอนุเคราะห์มีรายได้ที่มั่นคงของชีวิตในฐานะทางการเงินเป็นพลเมืองดี และเสริมสร้างความดีงามแก่จิตใจที่มั่นคงแน่วแน่

ขั้นตอนในการปลูกสร้างบ้าน

ในเขตที่ประกาศให้ผู้อ่านรับทราบใช้กฎหมายควบคุม (Control) การดำเนินการก่อสร้าง รับสร้างบ้าน อาคารหรือนโยบายหมายผังเมืองบ้าน หรืออาคารที่จะปลูกสร้าง ต้องได้รับอนุญาต (Permission) แบบแปลน เสียก่อน และจะสร้างเกินกว่าแบบที่ได้รับอนุญาตไม่ได้ โดยยื่นคำร้องได้ที้สำนักงานที่มีประโยชน์เทศบาล สำนัก Work เมืองพัทยา และสำนักงานที่มีผลตอบแทนดีเขต หรือกรุงเทพมหานคร อำเภอ และสำนักงานที่ตัวเองถนัดสุขาภิบาล แล้วแต่กรณีตัวอย่าง บริเวณนอกเขตควบคุม (Control) บ้านหรืออาคารที่จะปลูกสร้างไม่ต้องขอ Permission สามารถปลูกสร้างได้เลย

การแจ้งการปลูกสร้างบ้าน และผู้มีหน้าที่รับแจ้ง

เมื่อปลูกสร้างบ้าน หรืออาคารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เจ้าบ้านไปแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่นั้น ๆ คือ นายทะเบียนท้องถิ่น หรือกำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน หรือปลัดอำเภอ หรือผู้ช่วยแบ่งเบางานนายทะเบียน ณ สำนัก Work เทศบาล สำนักงานที่ตัวเองชอบเมืองพัทยา สำนักงานที่ตัวเองถนัดเขตกรุงเทพมหานคร ที่ว่าการอำเภอ หรือกิ่งอำเภอ แล้วแต่กรณี เพื่อขอเลขประจำบ้านสิ่งที่อยู่ภายใน 15 วัน นับแต่วันปลูกสร้างบ้านเสร็จ หากไม่ไปแแจ้งตามกำหนดมีความผิดตามกฎที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามหมาย มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

วัตถุที่ใช้เป็นหลักฐานที่จะต้องนำไปแจ้งเพื่อขอเลขประจำบ้าน

Book หรือเอกสารที่สร้างขึ้นจากการทำงานการได้รับอนุมัติการปลูกสร้างบ้าน หรืออาคาร (เฉพาะในเขตเนื้อที่ที่ป่าวประกาศใช้ Rule หมายควบคุมอาคารหรือกฎที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามหมายผังเมือง) สำเนาจากต้นฉบับทะเบียนบ้านหรือบัตรประจำตัวของผู้แจ้งเรื่องผู้ที่ได้รับมอบหมายให้นำ บัตรประจำตัวของผู้รับมอบ และหนังสือสำหรับเรียนรู้มอบหมาย (ถ้ามี) ไปปรากฏ (Appear) ด้วย วัตถุที่ใช้เป็นหลักฐานประจักษ์กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ปลูกสร้างบ้าน Contract ซื้อ (Buy) จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนม สัญษาที่เป็นลายลักษณ์อักษรเช่า (ถ้ามี) ผู้แจ้งให้ยื่นคำร้องตามแบบที่กำหนดต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งพร้อมวัตถุที่ใช้เป็นหลักฐานที่นำไปทำให้เห็น เมื่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งได้รับแจ้งการสร้างบ้าน ใหม่แล้ว ให้ตรวจสอบความถูกต้องตามแนวปฏิบัติของเอกสารที่สร้างขึ้นจากการทำงานพยายหลักฐานที่นำไปปรากฏ

Method การรับแจ้ง

เมื่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งได้รับแจ้งการสร้างบ้าน ใหม่แล้ว ให้ตรวจเช็คอย่างเข้มข้นความถูกต้องตามขั้นตอนของ Document พยายหลักฐานที่นำไปสำแดงออกมาให้เห็น เมื่อเห็นว่าถูกต้องแม่นยำ ก็ให้กำหนดเลขประจำบ้านให้พร้อมกับจัดทำทะเบียนบ้านและสำเนาจากต้นฉบับทะเบียนบ้านต่อไป โดยจะมอบคัดลอกจากต้นฉบับทะเบียนบ้านให้แก่ผู้แจ้งไว้เป็นวัตถุที่ใช้เป็นหลักฐาน เพื่อเริ่มงานในเรื่องการย้ายบุคคลเข้ามาอยุ่ในทะเบียนบ้านในโอกาสต่อไป หรือจะดำเนินการในคราวเดียวกันก็ได้ ส่วนเลขประจำบ้านที่นายทะเบียนกำหนดให้นั้น ให้เจ้าบ้านไปจัดทำเลขประจำบ้านติดไว้ที่หน้าบ้านหรือที่รั้วบ้านซึ่งเห็น ได้ชัดแจ้ง

การรื้อถอนบ้านซึ่งมีเลขประจำบ้าน

เมื่อได้มีการรื้อถอนบ้านหรืออาคารโดยไม่ประสงค์จะ บ้าน ปลูกสร้างใหม่ในที่ดิน นั้นอีก หรือรื้อเพื่อไปปลูกสร้างที่อื่น ให้เจ้าบ้านแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งข้างใน 15 วัน นับแต่วันรื้อถอนเสร็จ พร้อมกับนำสำเนาจากต้นฉบับทะเบียนบ้านคืนแก่นายทะเบียนด้วย หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกินตามที่กำหนดไว้ 1,000 บาท

หมายเหตุ : การแจ้งเกี่ยวกับบ้าน ไม่เสียค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด

การสร้างบ้าน ติดคลอง ติดแม่น้ำ ติดทะเล

การสร้างบ้านติด แม่น้ำ ลำคลอง หรือทะเล ตามข้อบัญญัติหมาย การสร้างบ้าน นั้นมี Rule ข้อกำหนดการสร้างบ้านไว้ เพื่อปกป้อง หรือปกป้องคุ้มครอง ความสูญเสีย และเสียหายต่อสิ่งที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งกฎระเบียบหมายได้ระบุห้ามก่อสร้างให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ไว้ เช่นนี้
1.การสร้างบ้าน ติดแหล่งน้ำเกี่ยวกับประชาชนที่แคบกว่า 10 เมตร ต้องสร้างบ้านห่างจากเขตอย่างน้อย 3 เมตร
2.การสร้างบ้าน ติดแหล่งน้ำเกี่ยวกับประชาชนที่กว้างกว่า 10 เมตร ต้องสร้างบ้านห่างจากเขตอย่างน้อย 6 เมตร
3.การสร้างบ้าน ติดแหล่งน้ำสาธารณะที่ใหญ่ๆ เช่น ทะเลสาบ หรือทะเล นั้น ต้องสร้างบ้านห่างจากเขตอย่างน้อย 12 เมตร

แต่ในบางครั้งยังย่อมก่อสร้างทางสถาปัตยกรรมติดกับแหล่งน้ำได้ แต่ก็ต้องขออนุญาตก่อสร้างตามโครงสร้างทางวิศวกรรมก่อน เช่น สะพานทำให้เข้าไปมา เขื่อน รั้ว ท่าเรือ ป้าย อู่เรือ คานเรือ เป็นต้น

การดู ฮวงจุ้ย ด้วยตนเองอย่างง่ายๆ

การสร้างบ้านในช่วงนี้ ผู้ปลูกบ้านบางรายให้สิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆกับการดู ฮวงจุ้ย หรือทิศทางของตัวบ้านก่อนสร้างบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องต่างๆ หรือการหันหน้าของตัวบ้าน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะจ้างซินแสที่มีความสามารถเฉพาะตัวหรือน่าสรรเสริญในการดู ฮวงจุ้ย แต่ซึ่งก็มีบางรายก็สามารถดู ฮวงจุ้ย ได้เองแบบคร่าวๆ หรือดูแบบประชาชนๆ พอรวบยอดใจความได้ง่ายแบบไม่ยากๆ ดังเนื้อหาที่แสดงอย่างละเอียดต่อไปนี้
1. ที่ดินไม่ควรอยู่ในทิศที่มีถนนวิ่งเข้าหา
2. ที่ดินไม่ควรเป็นรูปถุง หรือ หน้ากว้างหลังแคบ
3. หน้าที่ดินอิงน้ำและหลังพิงเขา ยกเว้นแต่ถ้าเป็นสายน้ำพุ่งเข้าหาที่ดินจะไม่ดี
4. ทางเข้าหน้าต้องไม่ตรงกับประตูหลังโดยไม่มี What?มาขวางกั้นจะไม่ดี
5. ห้ามจอดรถหรือเลี้ยงสัตว์เลี้ยงใต้ห้องนอนใหญ่
6. ห้ามมีแนวคานขวางบนเตียงนอน

เพราะเหตุนั้นแล้วหากต้องพิจารณาด้วยดุลยพินิจที่ถูกต้องอย่างละเอียดลออมากกว่านี้คงต้องจ้างซินแสมาดูว่า เข้ากับลักษณะเจ้าของ วันเดือนปีเกิดเจ้าของ หรือดวงของเจ้าของเป็นต้น

ฤกษ์เสาเอกเขานับกันตรงไหน

ฤกษ์ลงเสาเ

รูปตัวอย่างรับสร้างบ้าน by บริษัท Conventure สร้างบ้าน แบบบ้านได้มาตรฐาน


รับสร้างบ้าน by บริการ Conventure รับสร้างบ้าน อยู่แล้วมีความสุข
อ้างอิงจาก: รับสร้างบ้าน
คำที่มีความหมายเดียวกัน: รับสร้างบ้าน
อ้างจาก: รับสร้างบ้านรับสร้างบ้าน by บริษัท Conventure สร้างบ้าน แบบบ้านได้มาตรฐาน
กลุ่มของเว็บ: รับสร้างบ้าน
ผู้ที่ประกาศ: conventure
หน้าแรกของเว็บไซต์: http://www.conventure.co.th
หน้าสินค้าและบริการ: http://www.conventure.co.th/services.html
หน้าติดต่อสอบถาม: http://www.conventure.co.th/branch.html
Site: conventure
Name: Conventure Co.,Ltd.
Phone Number: 02 372 2000
Email-Address: thitiya-ka@hotmail.com
Address: 58/17 ศูนย์การค้าพรีเมียร์สัมมากร ถนนรามคำแหง (สุขาภิบาล 3) แขวง/เขต สะพานสูง กรุงเทพ 10240
About Us: รับสร้างบ้านสวยบนที่ดินของคุณ พร้อมให้บริการครบวงจร ด้วยทีมงานมืออาชีพ
#43
กระทู้ดราม่ารับซื้อบ้านไม้เก่า สอบถามราคาก่อนที่นี่ เลือก โชคกันตพลค้าไม้ มาที่นี่ไม่ผิดหวัง อ่านความเป็นมาเป็นไปเกี่ยวกับรับซื้อบ้านไม้เก่าทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งได้จากบทความนี้ครับ สวัสดีท่านผู้มีเกียรติทุกคน วันนี้ (Today) ผู้โพสต์จะมาแนะนำ (Recommend) เว็บรับจัดซื้อ (Purchase) ไม้เก่า รับ Buy บ้านไม้ให้ราคาสูง ซึ่งจะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากเว็บ suwanneetum.com ซึ่งเว็บแห่งนี้รับซื้อไม้เก่าทุกแผนก พร้อมบริการจัดซื้อ-จัดจำหน่ายสินค้าที่ได้รับความนิยมเกี่ยวกับไม้ครบวงจร เรียกได้ว่ามาที่นี่ครบทุกอย่าง (Everything) ที่ต้องการอย่างมากก็ว่าได้ครับ ที่นี่มีบริการ (Service) ที่แตกต่างและหลากหลายให้ผู้ใช้บริการเลือกใช้ Service โชคกันตพลค้าไม้ รับซื้อบ้านไม้เก่า โครงสร้างที่เป็นรูปแบบมาตรฐานเหล็ก-ไม้ทุกแผนกให้ราคาสูงที่สุด ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ 085-1879081 , 087-5813595 รับประกันตามกฎหมายคุณไม่ผิดหวังแน่นอนยืนยันได้

Service ของเราและทีมงานทุกคน
- รับทุบตึก รื้อถอนอาคาร สิ่งปลูกสร้างทุกรูปแบบ
- รับซื้อบ้านไม้เก่า ไม้กอง โกดัง โรง Work โรงเลื่อยหมู เล้าหมู/ไก่/เป็ด แค้มป์คนงานที่ตัวเองชอบก่อสร้างให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ แหล่งศึกษาหาความรู้ สถานที่ราชการ บ้านไม้ทรงไทย ไม้กอง สังกะสี และสิ่งปลูกสร้างทุกแผนก

แนวปฏิบัติการดำเนินการ
ขั้นแรก สอบถาม (Query) ข้อมูลที่เขียนจากการสรุปจากหนังสือพื้นฐานของลักษณะสิ่งปลูกสร้าง
- ขนาดที่วัดค่าตามมาตรฐาน กว้าง/ยาว
- เสากี่ต้น
- พื้นกี่ชั้น
- พื้นหน้า What?บ้าง
- ชนิด (Type) ของไม้
ขั้นที่สอง สอบถามราคาบ้านที่ Want จะขายสินค้าที่ได้รับความนิยม
- นัดระยะทางของวันเวลาดูบ้าน
- ประเมินผลราคาบ้าน
ขั้นตอน (Step) สุดท้าย
- เซ็นสัญญาที่ร่างขึ้นอย่างถูกต้องซื้อจัดจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ พร้อมจ่ายค่ามัดจำตามตกลง
- กำหนดวันรื้อถอน (พร้อมจ่ายเงินที่เหลือ)

ความรู้ที่ได้จากการตั้งใจศึกษาเรื่องไม้ก่อนสร้างบ้านไม้ โดยเว็บซื้อไม้คุณภาพที่แท้จริง

หากใครที่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้คิดที่จะสร้างบ้านไม้ควรมา Study เรื่องไม้ต่างๆ

1. Category ไม้

1.1 ไม้เนื้อแข็ง
ไม้เนื้อแข็งจากป่าที่นิยมชมชอบมากๆ คือ ไม้มะค่าดีๆ ต้องมาจากเขมร จากลาวก็พอได้ ไม้เนื้อแข็งที่พอได้ก็มี เต็งลาว ประดู่ ตะแบก เต็งจะหาง่ายยิ่งกว่าอะไรหน่อยดูที่เนื้อแน่นๆ ประดู่ก็มีลายไม้สวย ไม้เนื้อแข็งจากสวน ไม่ยุ่งยาก ก็มีไม้สะเดาทนแดดทนฝนได้ ตอนเป็นต้นด้วงชอบทำลายแต่พอตัดออกมาใช้งานที่ตัวเองชอบ ปลวกไม่กิน ไม้สะเดาไสแล้วเนื้อนวลบางสวยเอามาทำตง คาน พื้นกระดาน ได้ดี หาต้นใหญ่ๆ หน่อยอีกอย่างไม้มะขามเทศที่ต้นใหญ่พอถูกแดดไปนานๆ จะมีแดงสวย เนื้อแน่นไสแล้วนวลดี น่าเอาไปทำบันได ลูกขั้นแบบหนาๆ เรียกแบบเท่ห์ก็เป็นไม้กวางแดงลาว ไม้มะขามเปรี้ยว เหมาะสำหรับทำเขียง เนื้อไม้แข็งเหนียว ลองเอามาทำกระดานดูปราข้อบัญญัติว่าชอบบิ้งเบี้ยวโตมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 15 นิ้ว

1.2 ไม้เนื้อปานกลาง
พวกยางนา หากเป็นไม้ใหญ่นานๆ อายุเป็นร้อยปีหากอายุอ่อนจะอ่อน ไม้เลีอน หรือไม้มะเลี้ยน จากป่าแถวสีคิ้ว เนื้อไม้เนียนสวยเหมือนกันจนแยกไม่ออก ลายดี ไม้กระถิ่นยักษ์ ขนาด (Size) โตๆ มาเลื่อยเป็นกระดานได้ลวดลายดี มาจากป่าเขาใหญ่ ไม้กระถิ่นณรงค์เป็นไม้ที่เลื่อยออกมาสวยคล้ายไม้สัก หากอายุเกิน 20 ปี ลำต้นมักจะกลวงต้องรีบตัดมาใช้งานที่มีประโยชน์

1.3 ไม้เนื้ออ่อน
พวกไม้สักจะอ่อน อะไรตกใส่ก็จะยุบ แต่สักโบราณก็เป็นไม้แข็งคล้ายกัน พวกไม้ทำเฟอร์นิเจอร์ เช่นพวกไม้ยางพาราซึ่งเบาและอ่อน สีขาว เนื้อนวล ส่งออกต่างประเทศชาติดี ญี่ปุ่นชอบไม้ยางพารามาก พวกไม้สวนผลไม้ที่เอามาทำประตู วงกบ และไม้เส้นตกแต่งร้านก็มี ไม้มะม่วง ลวดลายสวยเหมือนไม้สัก เอาไปกลับทำแจกัน หรือแกะสลักได้ ไม้ขนุนหากแก่ๆ จะมี Yellow พวกไม้ก้ามปูหรือจามจุรี จะมีขนาดโตหากเป็นแกนที่เป็นแดงจะแข็ง หากเป็นส่วนกระพี้หรือเปลือกก็จะอ่อนเหมาะสำหรับทำพาเลสหรือไม้ลัง ไม้สยาเป็นไม้อ่อนที่มีมากแถบมาเลเซียเนื้อไม้ทำวงกบ ทำประตู หน้าต่าง

2. การหาไม้
ต้องไปหาแถบๆ ประเทศลาว กัมพูชา หรือพม่าไปจัดซื้อ (Purchase) เป็นต้นๆ ก็ได้ หรือไปหา Purchase ไม้ท่อน หรือไม้แปรรูปที่ถูกยึดมา การหาไม้เก่าจากบ้านเก่า ก็อาจหาได้จากการ Buy เป็นหลังๆ แถวบุรีรัมย์ โนนดินแดง นางรอง แถวๆ สีคิ้ว ลำปาง แต่ละแห่งเป็นไม้ไม่ละม้ายคล้ายคลึง ถ้าเป็นแถวๆ บุรีรัมย์ก็มักเป็น ไม้เต็งรัง ไม้มะค่า ไม้ตะเคียนหิน หากเป็นแถบภาคเหนือก็จะเป็นพวกไม้สัก ไม้เต็งรัง การหาไม้เก่าจากร้าน Sell ไม้เก่า ที่เขาไปประมูล Purchase แล้วก็ซื้อ (Buy) มา Sell เป็นชิ้นๆ รอให้นักสร้างบ้านไม้ พวกทำรีสอต จะมาจัดซื้อ (Purchase) มาหา ร้านขายสินค้าราคาถูกไม้เก่าก็มีแถวๆ อ.ภาชี และ อ.นครหลวง จ.อยุธยา แถวๆ จ.สระบุกำหนดไว้ว่ารี ก็มีแถวๆ บัวลอย อ.หนองแค และแถวถนนบายพาสไปโคราช แถวๆ จ.นครนายกก็มีแถวคลองรังสิต มีอยู่หลายเจ้าเหมือนกันจนแยกไม่ออก การหาไม้อาจใช้ Method ไป Buy ต้นไม้เป็นต้นๆ ต้นละราวๆ 1,000-1,200 บาท เช่นไม้สะเดา จ้างคนไปตัดเป็นท่อนๆละ 2.5-4.0 เมตร ค่าจ้างคาดหมาย 700 บาท/ตัน ขึ้นรถบรรทุกมาที่โรงเลื่อย

3. การเลื่อยไม้
ไม้เป็นท่อนๆ ก็จะบรรทุกลงมาที่จุดแปรงรูปไม้อุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกแบบง่ายดายๆ ก็ประกอบ (Complementary) ด้วยโต๊ะเลื่อยไม้ขนาดที่วัดค่าตามมาตรฐานวงเดือน 36 นิ้ว ต่อแบริ่ง ด้านเดียวต่อมาก็เป็นปุลเล่ย์ แล้วก็สายพานตัววีไปยังเครื่องต้นกำลังที่เป็นมอเตอร์หรือเครื่องยนต์ ครั้งเริ่มต้น จะเอาท่อนไม้ใส่ตัวรับเพื่อให้ลุนท่อนไม้ไปตามลูกกลิ้ง เลื่อยเอาเปลือกออกด้านแรก พอสุดก็ดันท่อนไม้กลับ เอาไม้รองออกจากนั้นก็พื้นเรียบๆ วาง แล้วดันตัดเปลือกอีก พอสุดก็ดันกลับ จากนั้นก็ดันด้านที่สาม ซึ่งจะทำแนวรับเพื่อให้ขนาด (Size) ไม้หนาตรงกัน พวกครบ 3 ด้าน ก็มาดันไม้ เพื่อเลื่อยตาม Size ที่ปรารถนาที่จะได้ โดยเล็งกับแนวที่มาร์คไว้ที่แท่นเลื่อย จนหมดจึงหยุด ปีกไม้ก็เอามากองๆ ไป หากเป็นไม้ไม่ดีก็เอาไปทำฟืน หากเป็นปีกไม้สักก็จะเอาไปจัดจำหน่ายได้ทำผนังก็ดี ขี้เลื้อยก็ใส่รถบรรทุก 6 ล้อ ไปจัดจำหน่ายสินค้าที่ได้รับความนิยมเที่ยวละ 1,500 บาท

4. เอาไม้ไปอบ
เพื่อให้เนื้อไม้มีความชื้นน้อยลงเหลือราวๆ 12 - 17% การอบจะค่อยเป็นค่อยไป ต้มหม้อไอน้ำด้วยฟืน เดินท่อมาแล้ว เอาขดลวดท่อน้ำร้อน (Hot) มาใส่ในโรงอบไม้ ระยะเริ่มแรกๆ จะพ่นไอน้ำแล้วใช้พัดลมเป่ากวนให้ทั่วถึง เพื่อ Prevent ไม้หดตัวแล้วแตก หลังจากนั้นก็ไม่ต้องพ่นไอน้ำหลังจากความชื้นพื้นผิวไม้ถดถอยเหมือนกันเนื้อในอบประมาณว่า 10-14 วัน หากเป็นไม้เนื้อแข็งจะหดน้อย ไม้เนื้ออ่อนก็จะเขาขึ้นมาก การเรียงไม้ในเตาอบก็ให้โปร่งๆ ลมวิ่งไม่ยาก ทั่วถึง

5. ไม้หลังอบ
ควรเก็บไม้หลังอบให้ดีๆ มิเช่นนั้นจะบิดงอ ขนาด (Size) ไม้เต็งแข็งขนาดที่วัดค่าตามมาตรฐาน 2X10 นิ้ว ยาว 5 เมตร ยังบิดงอโค้งได้

6. บทส่งท้าย
ความรู้ (Knowledge) เรื่องไม้ เพื่อที่จะเลือกแผนกไม้ให้รูปแบบเดียวกันกับจุดติดตั้งว่าเป็นฝาผนังภายนอกหรือสิ่งที่อยู่ข้างในจะตีฝ้าหรือพื้นหรือเอาไปทำเสา เสานั้นจะกลมหรือเป็นเหลี่ยม จะทำบันไดแบบในร่มหรือแบบทนแดดทนฟ้า ไม้เชิงชายปิดปลายหลังคาควรจะเป็นไม้เนื้อแข็ง เพราะต้องทนแดดและทนน้ำฝน ความรู้ที่เป็นประโยชน์เรื่องไม้ อาจหาวิธีและขั้นตอนการทำให้ใช้ไม้ต้นทุนถูกก็ได้ตลอดจนบางครั้งก็ไม่มีประโยชน์อันใดต้องเอาไปเอาไม้ป่ามาทำก็ได้ ไม้ไร่ไม้สวนไม้ปลูกมาทำก็ได้

ภาคคำนวน
โดยส่วนมากไม้จะขายสินค้าที่มีคุณภาพเป็น ลบ.ฟุต แต่ผู้ใช้มักจะต้องคิดเป็นตารางเมตรตามแบบแปลนบ้าน

1 ลบ.ฟุต = 0.3048x0.3048x0.3048 ลบ.ม.

1 ลบ.ม. = 0.0283168 ลบ.ม.

1 ลบ.ม. = 1/0.283168 = 35.3147

หรือน่าจะประมาณ 35 ลบ.ฟุต./ลบ.ม. *

ไม้หนา 1 นิ้ว เพราะเหตุใด้กระดานพื้น 1 ลบ.ฟุต ทำได้ 12 แผ่น

1 แผ่น 0.348x0.3048 = 0.092903 ต.ร.ม

12 แผ่น 0.092903x12 = 1.1148 ต.ร.ม

หรือ ที่คาดหมายไว้ 1 ลบ.ฟ/ตารางเมตร (ไม้หนา 1 นิ้ว)

การก่อสร้างให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้บ้านไม้โดยทั่วไป
เมื่อได้ทำการขุดหลุม และได้ตอกเข็มไม้ หรือเข็มคอนกรีตตาม Size ความยาว และสถิติที่ปรารถนาแล้ว ช่างจะตั้งเสาไม้ และติดตั้งคาน และตง ทั้งชั้นล่างและชั้นบน ต่อจากนั้นก็ติดตั้งขื่อหลังคา แล้วจึงวางโครงหลังคา เริ่มมุงหลังคาโดยใช้กระเบื้องลอน หรือแผ่นสังกะสี หรือแผ่นอะลูมินัมลอน เมื่อมุงหลังคาเรียบร้อยแล้ว จึงจะเริ่มติดตั้งบันไดชั้นล่างขึ้นชั้นบน ปูพื้นไม้ ติดตั้งเคร่าฝา วงกบประตูบานหน้าต่าง แล้วตีฝาไม้ตามนอนหรืออาจจะตีฝาตามตั้งก็ได้ ไม้กระดานฝามักใช้ไม้ยางขนาดที่วัดได้ 12นิ้ว x 6 นิ้ว เมื่อบ้าน Completed จึงเริ่มทาสี โดยใช้สีน้ำมันทา ใช้สีรองพื้นชั้นหนึ่งก่อน สีรองพื้นนี้ใช้อุดตามรูและแผลในเนื้อไม้ Completed จึงใช้สีน้ำมันทาทับอีก 2 ครั้ง บ้านไม้บางหลังไม่ใช้สีน้ำมันทา แต่ใช้น้ำมันกันตัวสัตว์ทาก็มี

การทำพื้นไม้
ไม้กระดานพื้นนิยม (Popular) ปูตามความยาวของเรือน การวางพื้นคาน และตงมัก Popular วางตามภาพ

การทำบันไดไม้
บันไดไม้มีบันไดพุก และบันไดเจาะ ความกว้างของขั้นบันไดไม่ควรจะน้อยกว่า 1.00 เมตร ไม้ทำขั้นบันไดควรใช้ไม้หนา 1 12 นิ้ว ขึ้นไป ความสูงและความกว้างของขั้นบันไดควรจะได้มาตรฐานเพื่อจะได้ขึ้นลงได้ง่ายดาย

การ

ภาพตัวอย่างรับซื้อไม้เก่า ให้ราคาสูง กับ โชคกันตพลค้าไม้ ผู้นำด้านค้าไม้


รับซื้อไม้เก่า ไม้กอง สังกะสี โดย โชคกันตพลค้าไม้ ค้าไม้กับคนกันเอง
อ้างอิงจาก: รับซื้อบ้านไม้เก่า
กระทู้อยู่ในกลุ่ม: รับซื้อบ้านไม้เก่า
อ้างจาก: รับซื้อบ้านไม้เก่ารับซื้อไม้เก่า ให้ราคาสูง กับ โชคกันตพลค้าไม้ ผู้นำด้านค้าไม้
ประเภทของเว็บ: รับซื้อบ้านไม้เก่า รับซื้อไม้เก่า
โฆษณาโดย: suwanneetum
หน้าแรกของเว็บ: http://www.suwanneetum.com
Information: http://www.รับซื้อไม้เก่า.com/aboutus.html
Contact Us: http://www.รับซื้อไม้เก่า.com/contactus.html
Webpage: suwanneetum
Name: โชคกันตพลค้าไม้
โทรศัพท์: 085-1879081, 087-5813595
Mail: toom_suwannee@hotmail.co.th
Address: 33/1 หมู่ 8 ต.โพนทอง อ.หนองแค จ.สระบุรี 18250
Business: รับซื้อบ้านไม้เก่า รับซื้อไม้เก่า ให้ราคาสูง รับซื้อบ้านไม้ทุกชนิด
#44
การเริ่มต้นธุรกิจconveyor ที่มีความทนทานต่อการสึกหรอ by thaiintermat.com ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง คอนเวเยอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-6341-3708 สวัสดีท่านผู้มีเกียรติทุกท่านวันนี้ผมจะมานำเสนอเกี่ยวกับconveyorอ่านได้จากบทความคุณภาพนี้ ทำความเข้าใจอย่างถูกต้องกับระบบสายพานลำเลียง Belt Covenyor

สายพานลำเลียง ประกอบ (Complementary) ด้วยแผ่นของconveyorที่มีลักษณะ Connection เป็นวง หมุนรอบล้อสายพานหรือพลูเลย์ 2 ตัวหรือมากกว่า 2 ตัว โดยที่พลูเลย์ 1 ตัวหรือทั้ง 2 ตัวเป็นตัวขับเคลื่อน ทำ หน้าที่ขับเคลื่อนให้สายพานและสิ่งของหรือวัสดุบนสายพานเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

การนำเอามาพัฒนาสายพานลำเลียง
จากผลพวงของการปฏิวัติกลุ่มอุตสาหกรรม ทำให้เกิดสิ่งที่ต้องการใช้เครื่องจักรที่ย่อมขนถ่ายสินค้าคุณภาพสูงหรือวัสดุได้ครั้งละยอดรวมมาก สายพานลำเลียงจึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อลดระยะทางของวันเวลาและประหยัด พลัง Work ในการขนส่งสิ่งของต่างๆ ซึ่งในช่วงแรกการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นสายพาลำเลียงทำโดยการใช้ฝ้าย (cotton) เสริมแรงในสายพานยาง (ปี ค.ศ. 1858 S.T. Parmalee ได้จด Patent BP 777/1858) และการใช้งานที่ใช้สติปัญญาของสายพานก็จะลำเลียงวัสดุที่มีน้ำหนักของวัตถุเบา เช่น แป้ง เมล็ดพืช ต่อมาจึงได้สายพานให้มีความกว้างมากขึ้น ความแข็งแรงสูงขึ้น ปรับเปลี่ยนไปไม่เหมือนเก่าโครงสร้างที่ถูกต้องตามหลักการและวัสดุที่ใช้เพื่อ เพิ่มความสามารถในการใช้งานที่ตัวเองชอบของสายพานให้สูงขึ้นเช่น การใช้สายพานลำเลียงลวดสลิงในงานที่ตัวเองชอบเหมือง

รูปแบบของสายพานลำเลียง

1. สายพานลำเลียงแบบทั่วไป (conventional conveyor belt)
2. สายพานลำเลียงลวดสลิง (steel cord conveyor belt)

ส่วนประกอบที่สำคัญยิ่งของสายพานลำเลียง

สายพานลำเลียงแบบทั่วไป เพิ่มเติมด้วย
1. ยางผิวบนหรือชั้นยางหุ้มด้านบน (top cover) มีหน้าที่รองรับวัสดุ ขนถ่าย และปกป้องคุ้มครองความเสียหายของชั้นผ้าใบรับแรง จากการสัมผัสกับวัสดุที่ลำเลียง เช่น แรงกระแทก การเจาะทะลุ น้ำมัน ความ Hot ซึ่งการเลือกใช้ Type ของยางผิวบนขึ้นอยู่กับความ เหมาะสมของการใช้งาน (Work) เช่น ยางอีพีดีเอ็มเพื่อสายพานที่ปรารถนาทนความร้อน (Hot) สูงเป็นพิเศษ (Special) ยางไนไทรล์เพื่อสายพานที่ต้อง สัมผัสกับน้ำมัน
2. ชั้นผ้าใบรับแรง (carcass) มีหน้าที่เป็นแกนรับแรงดึงของสายพานทั้งเส้นและช่วยกระจายแรงดึงของสายพานระหว่างการลำเลียงวัสดุ
3. ชั้นยางประสานผ้าใบ (skim rubber) มีหน้าที่ประสานชั้นผ้าใบแต่ละชั้นเข้าด้วยกัน
4. ยางผิวล่างหรือชั้นยางหุ้มข้างล่าง (bottom cover) มีหน้าที่ป้องกันความเสียหายของชั้นผ้าใบรับแรงจากการเสียดสีกับ
ลูกกลิ้ง (idler) และพลูเลย์ (pulley) ซึ่งไม่มีความจำเป็นใดๆต้องมีความหนาเท่ากับยางผิวบนเพราะด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ได้รับภาระหนักเหมือนยางผิวบน

สายพานลำเลียงลวดสลิง คลุกเคล้ากันด้วย
ชั้นโครงสร้างที่ถูกต้องคล้ายคลึงกับสายพานลำเลียงแบบทั่วไป แต่มีชั้นของเส้นลวดรับแรง(steel cord) ทำหน้าที่เป็นแกนรับแรงดึงของสายพานทั้งเส้นแทนชั้นของผ้าใบรับแรง

โครงสร้างที่ถูกต้องของสายพานลำเลียง
สายพานลำเลียงโดยทั่วไป (ยกเว้นสายพานแบบน้ำหนัก (Weight) เบาและสายพานแบบไม่ใช่ทั่วไป) การกำหนดสัญลักษณ์ของสายพาน ลำเลียงขึ้นกับความแข็งแรงของสายพาน ซึ่งปรากฏอย่างชัดแจ้งในหน่วยกิโลนิ วตันต่อเมตร (kN/m) ของความกว้างของสายพาน เช่น PP 550/3 คือ polyamide warp (เส้นด้ายตามแนวยาว) และ polyamide weft (เส้นด้ายตามแนวขวาง) มี 3 ชั้น และมีความ Strong รวม 500 kN/m EP 800/4 คือ polyester warp และ polyamide weft มี 4 ชั้น และมีความแข็งแรง (Strong) รวม 800 kN/m ST 2250 คือ steel cord belt และมีความแข็งแรงรวม 2,550 kN/m

1. สายพานลำเลียงน้ำหนักเบา (light belting)
สายพานลำเลียง Weight เบาเป็นสายพานที่ใช้กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร ในห้างสรรพสินค้าเกรดห้าดาวและซุปเปอร์มาร์เก็ต ในอาคารสนามที่ใช้สำหรับแข่งขันกีฬาบิน อุตสาหผู้วินิจฉัยบรรจุ กลุ่มอุตสาหกรรมกระดาษ และ การใช้งานทั่วไป ประกอบ (Complementary) ด้วยชั้นผ้าใบ 1, 2 หรือ 3 ชั้น (3 ชั้นไม่ค่อยนิยมเพราะว่าแนวโน้มต่อไปข้างหน้าคือการทำแบบชั้นเดียว) เส้นใยที่ใช้ ดังเช่น ฝ้าย เส้นใยผสมระหว่างฝ้ายและเส้นใย สังเคราะห์ ยางผิวบนหรือยางหุ้มด้านที่อยู่ตรงข้ามกับด้านล่าง Popular ใช้เป็นพีวีซีหรือโพลิยูรีเทน โพลิยูรีเทนเหมาะเพื่องานที่มีผลตอบแทนดีที่มีการเสียดสีสูงซึ่งจะไม่เกิดการแตกที่ผิว และไม่มีประโยชน์ต้องใช้พลาสทิไซเซอร์ สายพานลำเลียงชนิด (Type) นี้ปรารถนาที่จะได้การยืดตัวและการเสียดทานต่ำขณะใช้งาน (Work) มักใช้เส้นด้ายเดี่ยวตามขวาง สีของสายพานลำเลียงจะออกแนวสีพาสเทล พื้นผิวของสายพานอาจจะมีลายขรุขระเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ สารเชื่อมพันธะที่ใช้ ได้แก่ สารที่ไม่ยอมแยกระหว่างโครงสร้างที่เป็นมาตรฐานของพีวีซีและโพลิยูรีเทนที่จะติดกับโครง สร้างของเส้นใย

2. สายพานลำเลียงแบบหลายชั้น (multiply)
เส้นใยรับแรงถูกนำมาถักตามความกว้างและความยาวเพี่อเพิ่มความแข็งแรง (Strong) ให้แก่สายพานลำเลียง โดยที่ความแข็งแรง (Strong) ของชั้นเส้นใยเป็นไปตามตาราง (Table) ที่ 2 การเพิ่มความแข็งแรงทำได้โดย การเพิ่มปริมาณของคอร์ด (cord) หรือปริมาณของเส้นใยที่ตีเกลียวอยู่สิ่งที่อยู่ภายในเส้นคอร์ด 1 เส้นยางระหว่างชั้นเส้นใยจะแปรเปลี่ยนไปจากที่เคยไปตามความ Strong และหน้าที่การใช้งานที่หลายคนใฝ่ฝัน คือ ยิ่งมีชั้นเส้นใย หลายชั้นมากจะยิ่งเพิ่มความต้านทานต่อการ Impact ได้สูงขึ้น โดยเฉพาะ (Especially) อย่างยิ่งในโครงสร้างที่ถูกต้องตามหลักการแบบ 2 ชั้น โครงสร้างมาตรฐานที่เป็นฝ้าย 100% จะให้ความแข็งแรง 250 kN/m สายพานที่เป็นของผสม ระหว่างฝ้ายและเส้นใยสังเคราะห์จะให้ความแข็งแรงสูงถึง 1,500 kN/m เพื่อสายพานที่มีโครงสร้างที่ถูกต้องเป็นเส้นใยสังเคราะห์ทั้งหมดที่คาดคะเนได้ เช่น PP, EP และ EE (polyester warp and weft) จะให้ ความ Strong สูงถึง 2,500 kN/m ซึ่งโดยส่วนมากโปรดปรานใช้ไนลอนเป็นเส้นด้ายตามขวางและโพลิเอสเทอร์เป็นเส้นด้ายตามยาว

3. สายพานลำเลียงแบบถักทอ (solid woven)
สายพานลำเลียงแบบถักทอชั้นเดียว จะมีเส้นใยตามยาวสอดไขว้กับเส้นใยตามขวาง และยึดเส้นใยทั้งหมดทั้งสิ้นไว้ด้วยกัน เส้นใยที่นิยมเกี่ยวกับใช้ ได้แก้ ฝ้าย ไนลอน และโพลิเอสเทอร์ ซึ่งจะให้ความ แข็งแรง (Strong) 3,000 kN/m และเส้นใยอะรามีด จะให้ความ Strong สูงขึ้นคาดคะเน 4,000 kN/m และจะใช้ PVC, CR หรือ NBR ในการเคลือบชั้นเส้นใยเพื่อ Property ทนการติดไฟ

4. สายพานลำเลียงลวดสลิง (steel cord)
โครงสร้างที่ถูกต้องของสายพานแบบนี้ผนวกด้วย คอร์ดหลายคอร์ดวางในแนวระนาบและปิดทับทั้งข้างบนและด้านที่อยู่ตรงข้ามกับด้านบนด้วยยางจะเคลือบด้วยสังกะสีและสารเชื่อมติดเพื่อช่วยในการไม่ยอมแยกของคอร์ด และยาง

ขั้นตอนในการทำงานผลิต
กระบวนการผลิตสายพานลำเลียงขึ้นอยู่กับ Type และ Structure ของสายพาน ได้แก่
1. สายพานลำเลียงน้ำหนักเบา
2. สายพานลำเลียงแบบหลายชั้น
3. สายพานลำเลียงแบบถักทอ
4. สายพานลำเลียงลวดสลิง

สายพานลำเลียงน้ำหนักรวมของวัตถุเบา
โดยทั่วไปสายพาน Category นี้ผลิตโดยการพ่นน้ำยางหรือโพลิเมอร์ เช่น พีวีซีหรือโพลิยูรีเทน ให้กระจายตัว (spreading) เคลือบชั้นของสิ่งทอให้ได้ความหนาที่ต้องการเป็นอย่างสูง จากนั้นจึงนำไปอบให้ ความร้อนเกินกว่าปกติ ซึ่งการทำนั้นสามารถจะทำได้หลายๆ ชั้น โดยที่ชั้น สุดท้ายจะเป็นการเคลือบที่ผิว

สายพานลำเลียงแบบหลายชั้น
สิ่งทอที่เป็นฝ้ายและเส้นใยผสมระหว่างฝ้ายกับเส้นใยสังเคราะห์ต้องการการทำให้แห้งก่อนเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการผลิต จุ่มหรือวางสิ่งทอที่ผ่านการทำให้แห้งแล้วให้กระจายในสารละลายยางเพื่อ ให้เกิดการเชื่อมติดตามต้องการอย่างมาก แต่โดยทั่วไปสิ่งทอมักจะถูก ทำให้ติดกับยางโดยนำไปผ่านลูกกลิ้งของเครื่องคาเลนเดอร์ ซึ่งอย่างเร็วของลูกกลิ้งจะให้อัตราส่วนความเสียดทาน (friction ratio) เท่ากับ 1.5:1 เพื่อให้ได้สมบัติการติดที่ดีและมีความเหนียวติด (tack) ของฝ้ายน้ำหนักรวมของวัตถุเบา ไม่มีความจำเป็นใดๆต้องเคลือบด้วยยาง แต่ฝ้ายที่น้ำหนักรวมของวัตถุมากกว่า 28 ออนซ์ จะต้องมีการเคลือบด้วยยาง และนำไปผ่านเครื่องคาเลนเดอรท์ ที่มีความเร็วเท่ากับ 1:1 และสามารถสร้างยอดรวมชั้นได้ตามต้องการอย่างมากก่อนที่จะนำไปวัลคาไนซ์ สำหรับสายพานลำเลียงที่ผลิตจากชั้นของสิ่งทอที่เป็นเส้นใย สังเคราะห์ไม่จำเป็นแต่อย่างใดต้องนำสิ่งทอนั้นไปทำให้แห้งก่อน เพราะพันธะที่เชื่อมติดนั้นเป็นพันธะ Chemical นำสิ่งทอไปเคลือบด้วยน้ำยางบนเครื่องคาเลนเดอร์ สร้างแต่ละชั้นจนถึงชั้นสุดท้ายคือ การหุ้ม ด้วยยางผิวบนและเตรียมที่จะเข้าอบ เพื่อการวัลคาไนซ์แบบต่อเนื่องนั้นไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอนในการดำเนินงานสร้างยางของยางแต่ละชั้นและยางผิวบน

สายพานลำเลียงแบบถักทอ
นำสิ่งทอถักหรือชั้นผ้าใบรับแรงมาเคลือบด้วยพีวีซีเจลทั้งด้านที่อยู่ตรงข้ามกับด้านล่างและข้างล่างให้ได้ความหนาตามต้องการเป็นอย่างยิ่งหรืออาจจะหุ้มด้วยยางก็ได้

สายพานลำเลียงลวดสลิง
ดึงเส้นลวดให้ตึงเสมอภาคทุกเส้น ประกบยางที่จะให้ติดกับลวดโดยให้ยางผิวบนไว้ที่ด้านบนและยางผิวล่างไว้ที่ข้างล่างจากนั้นจึงกดให้สายพานแบนได้ขนาด (Size) ตัดขอบที่เกินออก แล้วจึงนำไป วัลคาไนซ์ในแท่นอัดขณะที่ดึงเส้นลวด

การวัลคาไนซ์
การวัลคาไนซ์สายพานยางทำได้ 2 ขั้นตอนหลัก คือ
1. press vulcanization
2. continuous vulcanization
- rotor cure
- contiroll system

สายพานพีวีซี ไม่ต้องวัลคาไนซ์แต่จะให้ความร้อนเพื่อให้หลอมติดกัน สายพานแบบถักทออาจจะต้องให้ความร้อนเกินกว่าปกติ โดยที่เคลื่อนผ่านอุโมงค์ที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส และต้องรอให้ เย็นก่อนจึงจะม้วนเก็บได้ หรืออาจใช้แท่นอัดกดให้เกิดความร้อนจัดที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส และทำให้เย็นก่อนจะเปิดออกมา และเพื่อ Prevent การบิดเบี้ยวของปลายสายพานแท่นอัดนั้น ต้องมีส่วนที่หล่อเย็นทั้งด้านในและด้านนอก

สายพานผ้าใบและสายพานลวดสลิงวัลคาไนซ์ด้วยการกดอัดคล้ายกัน (อุณหภูมิ ช่วงของวันเวลา และความดัน) เป็น Factor ที่ต้องพิจารณาอย่างสมเหตุสมผล โดยที่สายพานลวดสลิงปรารถนาความดันสูงกว่าและอุณหภูมิ ในการวัลคาไนซ์ที่ใช้โดยทั่วไปโดยประมาณ 145-155 องศาเซลเซียส และจะต้องอยู่ภายใต้แรงดึงตลอดวันเวลานาทีที่มีค่าการวัลคาไนซ์ สายพานยางที่ขึ้นรูปด้วยการดอัดจะต้องมีส่วนที่หล่อเย็นเข้าไปใน แท่นอัดเพื่อให้เกิดการคงรูป ระยะเวลาสั้นหรือยาวที่ใช้ในการวัลคาไนซ์ของสายพานแต่ละเส้นขึ้นกับคุณภาพที่แท้จริงของคอมพาวด์ ความหนา และอุณหภูมิที่ใช้ในการวัลคาไนซ์

การวัลคาไนซ์แบบต่อเนื่องไม่หยุดใน rotocure (เครื่องหมายการค้าในการประกอบกิจการของ Boston Woven Hose) หรือ AUMA (เครื่องหมายการค้าในการดำเนินงานธุรกิจของ Hermann Berstorff Maschinebau) สายพานจะผ่านไปยัง ดรัมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด (Size) ใหญ่ และไปยังดรัมที่มีขนาด (Size) เส้นผ่านศูนย์กลางเล็ก 2 ลูก โดยความร้อนเกินกว่าปกติที่ได้มาจากดรัมและเครื่องไม้เครื่องมือให้ความร้อนจัดอีกด้านหนึ่ง แถบของสายพานจะถูกดึงผ่านไป เพื่อให้คงรูป โดยใช้ความดันต่ำ วันเวลานาทีที่มีค่าในการวัลคาไนซ์ขึ้นกับความเร็วที่วัดค่าได้ของสายพานและมุมสัมผัส เส้นผ่านศูนย์กลางของดรัม และอุณหภูมิถ้าอุณหภูมิและเส้นผ่านศูนย์กลางของดรัมคงที่ เวลา (Time) ที่ ใช้ในการวัลคาไนซ์จะแปรผกผันกับความเร็วที่ระบุได้ของสายพาน

การวัลคาไนซ์แบบต่อเนื่องตลอดไปที่มีความอินเทรน ดังเช่น ระบบ ContiRoll (เครื่องหมายการค้าในการโปรโมทของ Siempelkamp GmbH) โดยลักษณะของแท่นอัดนั้นจะมีการเพิ่มแถบเหล็กแบบต่อเนื่องทั้งด้าน บนและด้านที่อยู่ตรงข้ามกับด้านบน ซึ่งจะเคลื่อนที่ไปพร้อมกับสายพานตลอดการกดอัดด้วยแบริ่งที่ไม่มีแรงเสียดทานและการหมุนของลูกกลิ้งขนาดที่ประมาณด้วยสายตาใหญ่ที่ปลายแท่นอัด

การต่อสายพาน (belt splice)
สามารถทำได้ 3 กลยุทธ์ เช่น
1. การต่อ Hot (vulcanized splice) เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้รอยต่อของสายพานมีความ Strong มากที่สุดที่เราตั้งใจไว้ และให้ความต่อเนื่องไปเรื่อยๆของรอยต่ออย่างสม่ำเสมอ (Regularly) โดยใช้เครื่องมือเสริมประสิทธิภาพที่มีแรงดันและความร้อนจัดเข้า มาช่วย
2. การต่อเย็น จะใช้กาว (adhesive) เป็นตัวหลักในการต่อ
3. การต่อกิ๊บ ใช้ในเคสที่มีความอย่างเร็วที่สุดในการใช้ Work เพราะด้วยเหตุผลที่ว่าวิธี (Method) นี้ใช้เวลา (Time) น้อยกว่าการต่อร้อนมากและต่อเย็น

การเลือกขนาดที่วัดได้ของสายพาน
การเลือกขนาดที่วัดได้ของสายพานลำเลียงที่มีความเหมาะสม คือ สายพานนั้นจะต้องมีความกว้างมากเพียงพอต่อการขนถ่ายวัสดุในปริมาณที่ต้องการ (Want) ได้ โดยวัสดุจะต้องไม่อยู่ชิดขอบของสายพาน มากเกินไป การเลือกขนาดความกว้างของสายพานลำเลียงที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับ Factor ดังต่อไปนี้
- ประเภทของวัสดุที่ลำเลียงและสมบัติของวัสดุ
- ขนาดที่ประมาณด้วยสายตาของวัสดุ (lump size)
- ความเร็วที่จับได้ของสายพาน (belt speed) (m/min, m/s)
- อัตราการขนถ่ายลำเลียง (ft3/hr)

เกรดของสายพาน
สายพานลำเลียงแบ่งเกรดตามคุณภาพที่ดีของชั้นผ้าใบและยางที่ใช้หุ้มดังนี้
1. แบ่งตามคุณภาพที่หลายคนไว้วางใจของชั้นผ้าใบ ( Table ที่ 6)
- ใช้ชั้นผ้าใบใยฝ้ายชนิด (Type) ที่ 1
- ใช้ชั้นผ้าใบใยฝ้ายแผนกที่ 2
- ใช้ชั้นผ้าใบใยฝ้ายแผนกที่ 3
- ใช้ชั้นผ้าใบใยฝ้ายประเภทที่ 4
- ใช้ชั้นผ้าใบใยสังเคราะห์รูปแบบที่ 1
- ใช้ชั้นผ้าใบใยสังเคราะห์แผนกที่ 2
- ใช้ชั้นผ้าใบใยสังเคราะห์แผนกที่ 3
2. แบ่งตามคุณภาพที่หลายคนไว้วางใจของยางที่ใช้หุ้ม (ตาราง (Table) ที่ 7)
- หุ้มด้วยยางแผนกที่ 1
- หุ้มด้วยยางชนิด (Type) ที่ 2

สายพานลำเลียงเป็นสายพานที่ใช้ขนส่งวัสดุจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยจะต้องมีตัวขับและพูเลย์ในการทำให้สายพานเคลื่อนที่ การเคลื่อนที่ของสายพานจะเกิดจากแรงเสียดทานระหว่าง สายพานกับพูเลย์ แรงเสียดทานดังกล่าวจะขึ้นอยุ่กับผิวสัมผัส ระหว่างสายพานกับพูเลย์ และแรงดึงให้สายพานตึง จากลักษณะการใช้งานที่เหมาะสมกับตัวเองสายพานจึงต้องมีสมบัติต่าง ๆ ดังเช่นนี้ คือ

ความทนทานต่อแรงเฉือน (Tear strength)
ระหว่างใช้งานที่สร้างรายได้ดี ชั้นยางและผ้าใบแต่ละชั้นจะรับแรงในการขับเคลื่อนสายพานในปริมาณที่แตกต่างกัน เมื่อผ่านพูเลย์ ยางผิวด้านที่อยู่ตรงข้ามกับด้านบนจะเกิดแรงกด ส่วนยางผิวด้านที่อยู่ตรงข้ามกับด้านล่างจะถูกยืดออก และชั้นผ้า ใบแต่ละชั้นก็รับแรงไม่สมดุล ระหว่างชั้นวัสดุแต่ละชั้นของสายพาน จะมีแรงเฉือนเกิดขึ้น แรงเฉือนดังกล่าวจะกระทำกับแต่ละจุดของสายพานมีลักษณะเป็นรอบ อาจทำให้เกิดอุปสรรคแยกชั้น ของสายพานได้หากแรงยืดของแต่ละชั้นไม่ Strong พอ การทดสอบสินค้าคุณภาพสายพานลำเลียงจึงต้องมีการทดสอบ สมบัติความทนทานต่อแรงเฉือนของสายพาน เกี่ยวกับการยึดมั่นระหว่างผ้า ใบกับยางและระหว่างผ้าใบกับผ้าใบแต่ละชั้น

ความทนทานต่อการสึกหรอ (Abrasion Resistance)
สายพานจะเกิดการเสียดสีตลอดระยะเวลาสั้นหรือยาวในระหว่างการใช้ Work Especially ที่ผิวยางบน ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับวัสดุที่ต้องการอย่างแรงกล้าจะลำเลียงวัสดุแต่ละประเภท อันจะทำให้เกิดการสึกหรอแตกต่างกัน จึง ต้องมีการตรวจเช็คในทุกครั้งในการผลิตและพัฒนาสายพานลำเลียง

ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม (Environmental Resistance)
การใช้งานที่มีผลตอบแทนดีสายพานลำเลียงมีลักษณะที่แตกต่างกันไป การใช้งานที่ใช้ความรู้กลา

รูปภาพที่เกี่ยวข้องconveyor ที่ได้มาตรฐาน by Thaiintermat ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง Mobile Rack โทร 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-1845-9573


conveyor สายพานที่ใช้ขนส่งวัสดุ โดย Thaiintermat co.,Ltd. ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง Mobile Rack สอบถามข้อมูล 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-6341-3708
อ้างอิงจาก: conveyor
คำที่เกี่ยวข้อง: conveyor
อ้างจาก: conveyorconveyor ที่ได้มาตรฐาน by Thaiintermat ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง Mobile Rack โทร 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-1845-9573
หมวดหมู่: สายพานลำเลียง คลังสินค้า คอนเวเยอร์ ชั้นวางสินค้า ระบบลำเลียง Racking - Conveyor - Mobile Rack - Roller Conveyor - Belt Conveyor
ผู้เผยแพร่: ไทยอินเตอร์แมท
Home Page: http://www.thaiintermat.com
รายละเอียด: http://www.thaiintermat.com/company.php
ติดต่อ: http://www.thaiintermat.com/contact.php
หน้าเว็บที่เกี่ยวข้อง: ไทยอินเตอร์แมท
ชื่อ: THAIINTERMAT CO.,LTD.
เบอร์โทร: 02-7383580-94 Press 12 - 17 Fax : 02-738-3598 - 9
อีเมล์: marketing@thaiintermat.com
ที่อยู่: 95/2 Moo14 Kingkeaw-Onnuch Rd., Rachataewa, Bangplee, Samutprakarn 10540
เกี่ยวกับเรา: ออกแบบ ผลิตและติดตั้ง ระบบจัดเก็บสินค้า และ ระบบลำเลียงสินค้า ครบวงจรเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
#45
ร่วมมือร่วมใจคลังสินค้า สำหรับจัดเก็บสินค้า ผลิตภัณฑ์ by thaiintermat.com ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง Racking หมายเลขโทรศัพท์ 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-6341-3708 เริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับคลังสินค้าทำความเข้าใจได้จากบทความนี้  คลังสินค้าเกรดสูง (Warehouse) คือแหล่งของวาง จัดเก็บรวบรวม พัก กระจาย Product คงคลัง คลังสินค้าราคาไม่แพงมีชื่อเรียกได้ต่างๆ กัน อาทิ ศูนย์กระจายสินค้าของแท้, ศูนย์ค้าขายระหว่างกัน Product และโกดัง ฯลฯ คำว่าคลังผลิตภัณฑ์จึงเป็นคำที่มีสัมพันธภาพระหว่างคำกับสัญลักษณ์ในภาษารวมๆ ส่วนจะเรียกว่า What? ก็ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันของคลังสินค้าราคาไม่แพงแต่ละ Category คลังสินค้าที่รับ สินค้าเกรดห้าดาวเข้ามาทำ การคัดแยก แล้วกระจายออกไป เรียกว่า ศูนย์กระจายสินค้าอันเลื่องชื่อ (Distribution Center) และวิธีทำที่มีแบบแผน ดังกล่าว เรียกว่า Cross Docking

ในขณะที่คลังสินค้าคุณภาพดีบางแห่งมีฟังก์ชันเพิ่มขึ้นมาคือหลัง รับสินค้าเข้ามาแล้ว ก็เก็บ Product ไว้และทำหน้าที่จัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพก่อนส่งมอบตามระเบียบซื้อ จึงมีวิธีการย่อยคลุกเคล้ากันด้วย รับสินค้าคุณภาพดีเข้า จัดการเก็บ จัดสินค้าที่มีชื่อเสียงตามใบสั่ง Purchase (Order Picking) อันเป็นวิธีการ ที่ใช้เวลา (Time) และกำลังคนมากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ตรวจเช็คอย่างจริงจัง หีบห่อ และจัดส่ง กล่าวคือ รับหน้าที่ในการกระบวนการขายไว้ด้วย จึงเรียกว่าศูนย์กระบวนการขายสินค้าแบรนเนม การลดระยะเวลาสั้นหรือยาวและแนวปฏิบัติในศูนย์ขายสินค้าเกรดห้าดาวทำได้ด้วย การนำคอมพิวเตอร์ (Computer) ช่วยออกใบสั่งซื้อ

อะไรก็แล้วแต่ ข้อควรคำนึงถึงเกี่ยวกับคลังสินค้ายังรวมถึง ประเด็น (Issues) เกี่ยวกับความเป็นเจ้าของสาย Manufacturing การสร้างความสันพันธ์ทางธุรกิจ และการกระจายสินค้าที่ไม่มีคลังผลิตภัณฑ์เป็นของตัวเอง ไม่ต้องการเป็นอย่างยิ่งสร้างคลังสินค้าเองอาจใช้บริการที่ดีเช่าคลังสินค้าคุณภาพสาธารณะ (Public) และ Issues เกี่ยวกับแหล่งตั้ง คลังสินค้าคุณภาพควรตั้งในจุดที่ตอบสนองความปรารถนา ผู้ใช้ได้อย่าง ลงตัว

คลังสินค้าที่ได้มาตรฐานเป็นทั้ง Inbound และ Outbound ของวัตถุดิบและสินค้าคุณภาพ ด้วยเหตุผลที่ดีที่สินค้า (Product) คงคลังมีหลายลักษณะ Input ของ คลังสินค้าเกรดห้าดาวจึงแตกต่างกันไป อาจมีจุดเริ่มต้นจากซัพพลายเออร์นำวัตถุดิบ (Raw Material) มาป้อนให้คลังสินค้าเกรดห้าดาว หรือฝ่ายพัสดุ (Supplies) นำ MRO (Maintenance Repair and Operation Supply ชิ้นส่วนอุปกรณ์ (Equipment) ที่ใช้ในการบำรุง ดูแลรักษาเอาใจใส่และส่งเสริม Manufacturing ) มามอบให้ฝ่ายผลิต ผู้ผลิต (Manufacturer) สินค้าเกรดสูงนำสินค้าคุณภาพสำเร็จ ส่งเข้าคลังสินค้า (Product) และกระจายไปยัง ผู้บริโภค ฯลฯ วงจรดังกล่าวเป็น Spec ทั่วไปของผลิตภัณฑ์คุณภาพคงคลัง ความไม่แน่นอนยืนยันได้ของอุปสงค์ทำให้ผู้ผลิตต้องวางแผนก่อนดำเนินงานและคำนวณว่า จะจัดสรรปันส่วนการสร้างเป็นปริมาณเท่าใด เพื่อนำ สินค้า (Product) คงคลังมาสร้างคุณค่า โดยการสร้างให้เป็นสินค้าเกรดห้าดาว การวางแผนอย่างรอบคอบเป็นสิ่งจะทำทราบว่าควรผลิตปริมาณเท่าใดควรตระเตรียมวัตถุดิบสำหรับผลิต แต่ละชนิดยอดรวมเท่าไร ใน Raw Material ที่มีอายุสั้นอย่างผักผลไม้ การวางแผนอย่างเหนือชั้นสั่งวัตถุดิบค่อนข้างจำเป็นมาก เพราะสินค้าราคาไม่แพงไม่มีความเป็นอิสระ มีเงื่อนไข ด้านระยะเวลาสั้นหรือยาวเป็นข้อขีดจำกัด หากปรารถนาที่จะได้ให้อิสระอาจนำเข้าห้องเย็น แต่เป็นการเพิ่ม ต้นทุน การทราบอุปสงค์ทำให้ได้ข้อมูลและงานของวัตถุดิบที่สินค้าอันเลื่องชื่อคงคลังส่งผลต่อเนื่องเรื่อยไปต่อระบบการสร้างและจัดจำหน่ายสินค้าของแท้ คลังสินค้ามีความสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้ในแง่ที่เป็นทั้งทางเข้าและทางออกของวัตถุดิบหลักไปจนถึงสินค้าของดีราคาประหยัดสำเร็จรูป เพราะเหตุนั้นก่อนการพยากรณ์ อุปสงค์ จึงจำเป็นต้องตระหนักดีการจัดหา Raw Material /สินค้าที่มีชื่อเสียง (Supply) เข้าใจและสามารถเขียนสรุปแนวคิดการจัดการ วัตถุดิบ (Raw Material) และแนวคิดการกระจายสินค้า คลังสินค้าคุณภาพ (Warehouse) คือ ที่ซึ่งเป็นที่ตั้งใช้ในการเก็บดูแลรักษาสินค้าคุณภาพดีให้อยู่ในสภาพและคุณภาพที่ได้รับการยืนยันที่พร้อมจะนำส่งมอบให้กับหน่วยงานที่เหมาะสมกับตัวเองที่เป็นประเภทเดียวกันตามที่ร้องขอ โดยอาจเรียกเป็นชื่ออื่นๆ เช่น คลังสินค้าคุณภาพสูง (Warehouse) , โกดัง (Godown) , ที่เก็บของ (Storage) , ที่เก็บสินค้าเกรดห้าดาว (Whaft) , คลัง พัสดุ (Depot) , ฉางเก็บ Product (Silo) , แท็งค์เก็บของเหลว (Liquid Tank) , คลังทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) โดยไม่ว่าจะเรียกว่า What? คลังผลิตภัณฑ์คุณภาพก็จะทำหน้าที่ไม่ต่างจากกัน คือ เป็นสถานที่เก็บดูแลรักษาสินค้าคุณภาพดีหรือวัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิตหรือสิ่งของต่างๆ เพื่อส่งเสริมในกิจกรรม (Activity) ต่างๆของขั้นตอน Supply Chain

รูปแบบของคลังสินค้าคุณภาพแบ่งตามลักษณะทางกายภาพ (Physical) ได้เป็น
1.คลังสินค้าที่มิดชิด มีกำแพง เพดาน และทางเข้า ดังเช่น คลังสินค้าทั่วไป ซึ่งบางแห่งจะมีการมอบหมายอุณหภูมิ หรือ มีการติดตั้งเครื่องทำความเย็น (Frozen Warehouse)
2.คลังผลิตภัณฑ์ที่มีแต่หลังคา แต่ไม่มีผนัง ใช้ในการเก็บสินค้าอันเลื่องชื่อซึ่งไม่เสียหายจากสถานะสภาวะอากาศ มักเป็นผลิตภัณฑ์ Size ใหญ่และมีปริมาณน้ำหนัก ซึ่งโอกาสที่มีความเป็นไปได้ที่จะเสียหายหรือสูญหายได้ยาก
3.คลังสินค้าเกรดห้าดาวกลางแจ้ง พื้นต้องเป็นคอนกรีต มีการยกพื้น มีระบบป้องกัน (Prevent) น้ำท่วม ไม่มีหลังคา หรือสิ่งก้อสร้างให้เป็นรูปเป็นร่าง หากไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวก็ไม่ถือเป็นคลังสินค้าคุณภาพสูงกลางแจ้งแต่อาจเป็นลานวางผลิตภัณฑ์ทั่วไป คลังสินค้า (Product) กลางแจ้ง อาจเช่น ลานที่ใช้ในการเรียงกองตู้คอนเทนเนอร์ เช่น ตาม ICD หรือ ท่าเรือ หรือ สนามที่ใช้เพื่อจัดการแข่งขันกีฬาบิน นอก จากนี้ยังกล่าวคือ คลังสินค้าเกรดสูงกลางแจ้ง ใช้เก็บสินค้าคุณภาพสูงที่มีขนาดที่วัดค่าตามมาตรฐานใหญ่ หรือสินค้า เทกอง หรือพืชไร่ แร่ธาตุต่างๆ
4.คลังสินค้าคุณภาพดีที่เป็นถัง (Tank) หรือ สิ่ง Structure อื่นๆ ที่สินค้าคุณภาพสูงนำเข้าหรือเอาออก โดยวิธีและขั้นตอนดูดผ่านท่อ (Pipe) เช่น คลังเก็บน้ำมัน เก็บเคมี (Chemical) หรือ Silo เก็บอาหารสัตว์ , สินค้าของดีราคาประหยัดการเกษตรต่างๆ
5.คลังสินค้า (Product) เคลื่อนที่ได้ เช่น ระวาง (Deck) ของเรือสินค้าคุณภาพสูง หรือเครื่องบินหรือโบกี้เก็บผลิตภัณฑ์ของรถไฟหรือตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้ในการจัดส่งสิ่งของผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ใช้เป็นที่ตั้งเก็บสินค้าคุณภาพเพื่อรอการโยนมอบ
6.คลังเก็บข้อมูลจากผู้ที่มีความรู้อิเล็กทรอนิคส์ (Data Bank) เช่น Server ที่ใช้เก็บ Data ซึ่งปัจจุบันทันด่วนถือเป็นสินค้าที่ได้มาตรฐานประเภทหนึ่ง ซึ่งย่อมส่งมอบให้ผู้ที่ต้องการอย่างสูง โดยขั้นตอน Down Load ผ่านเครือข่ายที่มีความสัมพันธ์กัน Network เช่น Web site เป็นต้น

การบริหารจัดการสินค้าที่ได้มาตรฐานคงคลัง (Inventory Management) ได้แก่ รายการทั้งหมดสินค้าอันเลื่องชื่อสำเร็จรูป , สินค้าเกรดห้าดาวระหว่างการสร้าง , Raw Material , วัสดุสิ้นเปลือง , ทรัพย์สินที่มีมูลค่าสิ่งของ ซึ่งทั้งหมดเบ็ดเสร็จจะต้องมีลักษณะที่เป็นของที่สามารถโยกย้ายได้ที่เรียกว่าเป็นสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นของที่มีมูลค่าอันอาจถือกรรมสิทธิถือครองและเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมมือความเป็นเจ้า ของได้ โดยสินค้าที่ถูกใจจะต้องคู่กับชั้นวางสินค้าและเป็นส่วนสำคัญเป็นอันดับต้นๆที่สุดของระบบ Supply Chain Management (SCM) เพราะพันธกิจหลักของ SCM คือ การเคลื่อนย้ายส่งมอบสินค้าอันเลื่องชื่อและต้องเป็นสินค้าที่จับต้องได้ (Physical Goods) ซึ่งสินค้าของดีราคาประหยัดที่เป็นอิเล็กโทรนิกส์ ก็จะต้องมีการเคลื่อนย้ายผ่าน Media ไม่ว่าจะเป็น Disc , Server หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อบริการที่ได้มาตรฐานจะเป็นส่วนควบที่คิดไปกับตัวสินค้าของดีราคาประหยัด จุดมุ่งหมายหลักของในการบริการจัดการยุคใหม่ Logistics คือ การสร้างความพึงพอใจอย่างมากต่อ Customer ที่เรียกว่า Efficient Consumers Response หรือ ECR โดยมีต้นทุนในการดำเนิน Work ในระดับ Economy Scale การที่เราและคุณทุกคนกำหนดระดับสินค้าเกรดห้าดาวคงคลังในระดับที่มากจนเกิน สมกัน อาจดูทำให้มีความสุขแต่ก็จะส่งผลให้ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนสูงเช่นกัน จึงต้องมีการจัดการองค์การสินค้าที่ถูกใจคงคลังให้ Appropriate

ลักษณะของสินค้าคุณภาพจัดแบ่งตามภาระกิจ คลุกเคล้ากันไปด้วย
1.สินค้าคุณภาพคงคลังหรือสินค้าที่ถูกใจหมุนเวียน (Current Stock) เป็นการสำรองสินค้าที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อสิ่งที่ปรารถนาทั้งเพื่อการผลิต (Manufacturing) และเพื่อสิ่งที่นำส่งมอบให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบในแบรนด์ ร่วมถึงสินค้าของแท้ที่ผลิตได้บางฤดูเท่านั้น จึงต้องมีการผลิตและเก็บรักษาเป็นอย่างดีไว้แลกเปลี่ยนระหว่างกันกับตลอดปี
2.ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนผลิตสิ่งที่อยู่ภายในขั้นตอนในการดำเนินงานผลิตโรงงานที่เหมาะสมกับตัวเอง (Work-in-process Stock)
3.สินค้าราคาไม่แพงคงคลังสำรอง (Safety/Buffer) เป็นการสำรอง Product ซึ่งมีระยะช่วงของวันเวลาในการโยนมอบ( Lead Time) เช่นสินค้าแบรนเนม ซึ่งต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศที่มีความมั่นคง
4.สินค้าแบรนเนมระหว่างการขนส่งสิ่งของ (In-Transit) ซึ่งอยู่ในระหว่างเส้นทางเดินการขนส่งสิ่งของ จากโรงงานของผู้จัดจำหน่ายมายังโรง Work ผลิต เช่น การจัดส่งสิ่งของทางเรือ ซึ่งใช้ระยะเวลา ขนส่งจาก Manufacturer ไปสู่ลูกค้า ซึ่งอยู่คนละส่วนของทวีป หรือเก็บการบำรุงรักษาไว้ ณ คลังสินค้าเกรดสูง หรือศูนย์กระจาย Product การจัดส่งสิ่งของจากโรงงานที่หลายคนใฝ่ฝันไปยังลูกค้า (Customer)
5.สินค้าแบรนเนมคงคลังสำรองของ Suppliers หรือผู้จัดส่ง เป็นสินค้าคุณภาพสูงคงคลังสำรองที่ผู้จำหน่ายสินค้าที่ได้รับความนิยมสินค้าเกรดสูงได้เก็บสำรองไว้ให้กับ ผู้ทำ (ผู้ใช้บริการ) เพื่อป้องกันความแปรผันของ Order ฉุกเฉินหรือป้องกัน (Prevent) การผลิตและพัฒนาที่ไม่ทันหรือป้องกัน (Prevent) การจัดส่งไม่ทัน ซึ่งถือเป็นต้นทุนของผู้จำหน่าย (Suppliers) โดย Nature ก็จะมีการบวกเข้าไปในต้นทุน Product ซึ่งก็ จะกลายเป็นต้นทุนของผู้ Buy ในที่สุด

การดำเนินการปฏิบัติงานของ Supply Chain ซึ่งมี Logistics เป็นจิตใจของบริหารจัดการจัดการมุ่งไปสู่ Just in Time ที่ต้องมีการวางระบบการผลิต (Manufacturing) ให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานเชิงต้นทุนในการปรับเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเก่า Manufacturing ให้แลกเปลี่ยนระหว่างกันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดต่างๆได้ โดยเฉพาะต้นทุนที่เป็นพวกเดียวกันกับสินค้าแบรนเนมคงคลังไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบหรือสินค้าคุณภาพสูงสำเร็จรูป จะ มีผลต่อความย่อมในการแข่งทางความรู้ขันการบริหารงานจัดการที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนำการจัดการองค์กรแบบ Lean และนำระบบบริการจัดการข้อมูลจากผู้ที่มีความรู้ข่าวใหม่ที่ดี ย่อมลดการลงทุน ในสินค้าคุณภาพดีคงคลังในด้านวัตถุดิบสำหรับผลิตและสินค้า (Product) สำเร็จรูปโดยรวมของสิ่งที่มีความสัมพันธ์อุปทานได้ และ เพิ่มยอดขายได้มากขึ้น ก็จะส่งผลให้ปริมาณส่วนการ หมุนเวียนสินค้าคุณภาพดีคงคลังสูงขึ้นและ เมื่อเกิดการลงทุนในผลิตภัณฑ์คุณภาพคงคลังถดถอย ก็จะส่งผลให้อัตราส่วนผลตอบแทนการลงทุนสูงขึ้นได้ และต้นทุนค่าใช้จ่ายทั่วไปในการเก็บการดูแลรักษาถดถอยที่เรียกว่า Economy of Scale ต้นทุนการดำเนินงานที่มีผลตอบแทนดีจึงถดถอยด้วย ซึ่งนำไปสู่การตั้งราคาที่ต่ำลงได้และเกิดความย่อมในการชิงดีชิงเด่นขัน (Core Competency)

ประโยชน์ของคลังสินค้า
1. ทำให้ต้นทุนของสินค้าเกรดห้าดาวถดถอย
2. เป็นการป้องกันการขาดมือของสินค้าที่ถูกใจที่จะขาย (Sell)
3. ช่วยลดปัญหาที่เกิดจากปัจจัยภายในอันจะเกิดขึ้นก็เพราะว่าการจัดส่งสิ่งของ
4. ย่อมผลิตได้ในปริมาณเกินกว่าความต้องการ (Need) ตามฤดู
5. ช่วยให้ได้ใช้สินค้าราคาไม่แพงนั้นๆ ได้ทันวันเวลาสิ่งที่มีค่าตามต้องการอย่างสูง
6. ตอบสนองความต้องการความต้องการ (Need) ของผู้บริโภค
7. ช่วยให้การผลิตดำเนินไปได้โดยปกติ
8. ช่วยให้เครดิตแก่อุตสาหกรรมหรือคนขายที่มีทุนน้อย
9. ช่วยให้ราคาสินค้าคุณภาพดีมีเสถียรภาพ
10. ช่วยเก็บพักผลิตภัณฑ์ชั่วคราวที่จะต้องส่งออกไปต่างประเทศอีกต่อหนึ่งในลักษณะของ Re-export

ขอบเขตในการดำเนินงานที่ตัวเองชอบคลังสินค้าที่ถูกใจ
1. รับฝากสินค้าแบรนเนมโดยได้รับเงิน หรือค่าตอบแทน หรือประโยชน์อื่นใด
2. ให้ผู้ฝากยืมเงินโดยเอาสินค้าแบรนเนมที่ฝากไว้นั้นจำนำไว้เป็นประกัน
3. ให้บริการที่ได้มาตรฐานด้านความเย็นเพื่อเก็บรักษาเป็นอย่างดีสินค้าดีมีที่นี่ หรือด้วยกรรมวิธีและขั้นตอนอย่างอื่นเพื่อประโยชน์ของผู้ฝาก
4. กระทำการซื้อ (Buy) จำหน่ายสินค้าราคาถูก แลกเปลี่ยน (Exchange) เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มเติมกิจการคลังสินค้าเกรดสูง
5. รับมอบอำนาจและยศถาบรรดาศักดิ์จากผู้ฝากสินค้าราคาไม่แพงให้กระทำตามแบบพิธีการของศุลกากรเกี่ยวกับการนำเข้ามาและส่งออก
6. นำเงินที่ได้รับจากการบริการไปลงทุนหาการแบ่งสัดส่วนผลประโยชน์

เอกสารสำคัญการคลัง Product
เอกสารที่เกี่ยวกับงานในการขอตอบตกลงดำเนินกิจการการคลัง Product
1. แบบ ค.ส. 1 ใบคำขอรับความเห็นชอบเพื่อจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่มีจุดประสงค์ทางด้านผลกำไรประกอบกิจการคลังผลิตภัณฑ์
2. แบบ ค.ส. 2 ใบคำขอ Permission เพิ่มเติมกิจการคลังสินค้าที่ถูกใจ
3. แบบ ค.ส. 3 ใบคำขอรับใบแทนใบตอบตกลง
4. แบบ ค.ส. 4 ใบคำขออนุมัติจัดตั้งแผนกบริษัทที่ปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล
5. แบบ ค.ส. 5 ใบคำขอแจ้งชนิดและปริมาณสินค้าคุณภาพดี

เอกสารสำคัญการรับและส่งมอบสินค้าอันเลื่องชื่อ
1. ใบนำส่งสินค้าดีมีที่นี่เข้าเก็บในคลังสินค้า (Product)
2. ใบรับผลิตภัณฑ์คุณภาพ
3. ใบรับคลังสินค้าที่มีชื่อเสียง (Warehouse Receipt)
4. ใบประทวนสินค้าดีมีที่นี่

จุดประสงค์ของโครงการของคลังสินค้า (Product)
คลังสินค้าอันเลื่องชื่อมีลักษณะที่หลากหลายและเคล็ดลับการที่แตกต่างกันไป และถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินสิ่งที่ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมออันสันพันธ์กับการเก็บการดูแลรักษาสินค้าคุณภาพดีสำเร็จรูป และวัตถุดิบสำหรับผลิต เพื่อใช้ในวันเวลาสิ่งที่มีค่าที่อย่างเหมาะสม อย่างใดก็ตามแม้คลังสินค้า (Product) จะมีหลากหลายลักษณะที่หลากหลาย แต่จะมี Objectvie หลักที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกที่มีลักษณะที่ไม่แตกต่างกันคลึงกัน ซึ่งพอข้อสรุปได้ตามนี้

1. เพื่อทำหน้าที่ดูแลเอาใจใส่ระดับสินค้าที่มีชื่อเสียงคงคลังให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม (Appropriate)
2. เพื่อส่งเสริมการสร้าง ให้มีวัตถุดิบ (Raw Material) และส่วนที่เป็นพวกเดียวกันไว้ใช้อย่างเพียงพอ
3. เพื่อทำหน้าที่ผสมผสานสินค้าที่มีชื่อเสียง
4. เพื่อทำหน้าที่รวบรวมเกี่ยวกับสินค้าที่ถูกใจก่อนจัดส่ง
5. เพื่อทำหน้าที่คัดแยกหีบห่อ หรือทำหน้าที่เป็นศูนย์กระจายผลิตภัณฑ์

ประโยชน์ของคลังสินค้าอันเลื่องชื่อ
คลังสินค้าที่ถูกใจ เป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดจัดจำหน่าย และการกระจายสินค้า (Product) ซึ่งเกี่ยวพันกับระบบของการผลิต (Manufacturing) และการจัดส่ง ซึ่งปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเบ็ดเสร็จดังกล่าวจัดเป็นต้นทุนเกือบเบ็ดเสร็จของการสร้างสินค้าของดีราคาประหยัดต่อหนึ่งหน่วยเสมอ สรุปจะเห็นได้ว่าหากมีการบริหารจัดการที่ดีมีประสิทธิภาพอันเป็นที่ยอมรับไม่ว่าจะเป็นด้านใดด้านหนึ่ง จะส่งผลต่อการลดต้นทุนทั้งสิ้น อันจะส่งผลไปสู่กำไรจากการทำงานและการสร้างความถูกอกถูกใจตามที่ปรารถนาให้แก่ผู้ใช้สินค้าและบริการเสมอ ด้วยเหตุนั้นจะเห็นได้ว่าประโยชน์และความจำเป็นอย่างยิ่งยวดข

รูปที่เกี่ยวข้องคลังสินค้า การจัดเก็บสินค้าที่มีประสิทธิภาพ by Thaiintermat ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง คอนเวเยอร์ สอบถามข้อมูล 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-6341-3708


คลังสินค้า บริการสร้าง ดูแล ระบบคลังสินค้า โดย Thai Intermat ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง Conveyor โทร 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-4107-1968
อ้างอิงจาก: คลังสินค้า
Keyword: คลังสินค้า
อ้างจาก: คลังสินค้าคลังสินค้า การจัดเก็บสินค้าที่มีประสิทธิภาพ by Thaiintermat ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง คอนเวเยอร์ สอบถามข้อมูล 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-6341-3708
Web Categorty: สายพานลำเลียง คลังสินค้า คอนเวเยอร์ ชั้นวางสินค้า ระบบลำเลียง Racking - Conveyor - Mobile Rack - Roller Conveyor - Belt Conveyor
ประชาสัมพันธ์โดย: ไทยอินเตอร์แมท
Main Page: http://www.thaiintermat.com
ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.thaiintermat.com/company.php
ติดต่อเรา: http://www.thaiintermat.com/contact.php
บล็อก: ไทยอินเตอร์แมท
ชื่อ: THAIINTERMAT CO.,LTD.
หมายเลขโทรศัพท์: 02-7383580-94 Press 12 - 17 Fax : 02-738-3598 - 9
เมล์: marketing@thaiintermat.com
ที่อยู่: 95/2 Moo14 Kingkeaw-Onnuch Rd., Rachataewa, Bangplee, Samutprakarn 10540
ประเภทกิจการ: ออกแบบ ผลิตและติดตั้ง ระบบจัดเก็บสินค้า และ ระบบลำเลียงสินค้า ครบวงจรเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
#46
ประโยชน์ที่สำคัญของลำเลียง ขนส่งสินค้า by บริษัท ไทยอินเตอร์แมท จำกัด ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง Roller Conveyor สอบถามข้อมูล 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-1859-0978 มาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับลำเลียงซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลจากเนื้อหานี้ ทำความรู้จักอย่างถ่องแท้กับระบบสายพานลำเลียง Belt Covenyor

สายพานลำเลียง ประกอบ (Complementary) ด้วยแผ่นของลำเลียงที่มีลักษณะเชื่อมต่อ (Connection) เป็นวง หมุนรอบล้อสายพานหรือพลูเลย์ 2 ตัวหรือมากกว่า 2 ตัว โดยที่พลูเลย์ 1 ตัวหรือทั้ง 2 ตัวเป็นตัวขับเคลื่อน ทำ หน้าที่ขับเคลื่อนให้สายพานและสิ่งของหรือวัสดุบนสายพานเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

การพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นสายพานลำเลียง
จากผลพวงของการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้เกิดความต้องการใช้เครื่องจักรที่สามารถขนถ่ายสินค้าเกรดห้าดาวหรือวัสดุได้ครั้งละจำนวนมาก สายพานลำเลียงจึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อลดช่วงของวันเวลาและใช้อย่างพอเพียง พลังงานที่หลายคนใฝ่ฝันในการขนส่งสิ่งของสิ่งของต่างๆ ซึ่งในระยะเริ่มแรกการพัฒนา (Development) สายพาลำเลียงทำโดยการใช้ฝ้าย (cotton) เสริมแรงในสายพานยาง (ปี ค.ศ. 1858 S.T. Parmalee ได้จดสิทธิบัตร BP 777/1858) และการใช้งานที่ใช้สติปัญญาของสายพานก็จะลำเลียงวัสดุที่มีน้ำหนักของวัตถุเบา เช่น แป้ง เมล็ดพืช ต่อมาจึงได้ทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นสายพานให้มีความกว้างมากขึ้น ความแข็งแรงสูงขึ้น ปรับเปลี่ยนผันไปตามเวลาโครงสร้างที่ถูกต้องตามหลักการและวัสดุที่ใช้เพื่อ เพิ่มความย่อมในการใช้งานของสายพานให้สูงขึ้นเช่น การใช้สายพานลำเลียงลวดสลิงในงานที่ใช้สติปัญญาเหมือง

ชนิด (Type) ของสายพานลำเลียง

1. สายพานลำเลียงแบบ Common (conventional conveyor belt)
2. สายพานลำเลียงลวดสลิง (steel cord conveyor belt)

ส่วนประกอบที่สำคัญอันดับหนึ่งของสายพานลำเลียง

สายพานลำเลียงแบบทั่วไป ประกอบด้วย
1. ยางผิวบนหรือชั้นยางหุ้มด้านที่อยู่ตรงข้ามกับด้านล่าง (top cover) มีหน้าที่รองรับวัสดุ ขนถ่าย และป้องกันความเสียหายของชั้นผ้าใบรับแรง จากการสัมผัสกับวัสดุที่ลำเลียง เช่น แรงกระแทก การเจาะทะลุ น้ำมัน ความร้อนจัด ซึ่งการเลือกใช้ชนิด (Type) ของยางผิวบนขึ้นอยู่กับความ อย่างเหมาะสมของการใช้งานที่สร้างรายได้ดี เช่น ยางอีพีดีเอ็มของสายพานที่ต้องการตามที่ใจปรารถนาทนความร้อนสูงเป็นยิ่งกว่าปกติ ยางไนไทรล์เพื่อสายพานที่ต้อง สัมผัสกับน้ำมัน
2. ชั้นผ้าใบรับแรง (carcass) มีหน้าที่เป็นแกนรับแรงดึงของสายพานทั้งเส้นและช่วยกระจายแรงดึงของสายพานระหว่างการลำเลียงวัสดุ
3. ชั้นยางประสานผ้าใบ (skim rubber) มีหน้าที่ประสานชั้นผ้าใบแต่ละชั้นเข้าด้วยกัน
4. ยางผิวล่างหรือชั้นยางหุ้มข้างล่าง (bottom cover) มีหน้าที่ป้องกันความเสียหายของชั้นผ้าใบรับแรงจากการเสียดสีกับ
ลูกกลิ้ง (idler) และพลูเลย์ (pulley) ซึ่งไม่มีประโยชน์อันใดต้องมีความหนาเท่ากับยางผิวบนเนื่องด้วยเหุตผลไม่ได้รับภาระหนักเหมือนยางผิวบน

สายพานลำเลียงลวดสลิง ผนวกด้วย
ชั้นโครงสร้างที่เป็นมาตรฐานมีลักษณะเหมือนกันกับสายพานลำเลียงแบบธรรมชาติ แต่มีชั้นของเส้นลวดรับแรง(steel cord) ทำหน้าที่เป็นแกนรับแรงดึงของสายพานทั้งเส้นแทนชั้นของผ้าใบรับแรง

โครงสร้างที่เป็นมาตรฐานของสายพานลำเลียง
สายพานลำเลียงโดยทั่วไป (ยกเว้นสายพานแบบน้ำหนักสุทธิเบาและสายพานแบบไม่ใช่ทั่วไป) การกำหนดสัญลักษณ์ของสายพาน ลำเลียงขึ้นกับความ Strong ของสายพาน ซึ่งประกฏให้เห็นในหน่วยกิโลนิ วตันต่อเมตร (kN/m) ของความกว้างของสายพาน เช่น PP 550/3 คือ polyamide warp (เส้นด้ายตามแนวยาว) และ polyamide weft (เส้นด้ายตามแนวขวาง) มี 3 ชั้น และมีความ แข็งแรง (Strong) รวม 500 kN/m EP 800/4 คือ polyester warp และ polyamide weft มี 4 ชั้น และมีความแข็งแรง (Strong) รวม 800 kN/m ST 2250 คือ steel cord belt และมีความแข็งแรงรวม 2,550 kN/m

1. สายพานลำเลียงปริมาณน้ำหนักเบา (light belting)
สายพานลำเลียง Weight เบาเป็นสายพานที่ใช้อุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร ในห้างสรรพสินค้าราคาไม่แพงและซุปเปอร์มาร์เก็ต ในอาคารสนาม (Field) บิน อุตสาหกรรมาธิการบรรจุ กลุ่มอุตสาหกรรมเศษกระดาษ และ การใช้งานที่สร้างรายได้ดีทั่วไป ประกอบด้วยชั้นผ้าใบ 1, 2 หรือ 3 ชั้น (3 ชั้นไม่ค่อยนิยมเกี่ยวกับด้วยเหตุผลที่ว่าแนวโน้มต่อไปข้างหน้าคือการทำแบบชั้นเดียว) เส้นใยที่ใช้ เช่น ฝ้าย เส้นใยผสมระหว่างฝ้ายและเส้นใย สังเคราะห์ ยางผิวบนหรือยางหุ้มด้านบนนิยมเกี่ยวกับใช้เป็นพีวีซีหรือโพลิยูรีเทน โพลิยูรีเทนเหมาะของงานที่ตัวเองชอบที่มีการเสียดสีสูงซึ่งจะไม่เกิดการแตกที่ผิว และไม่จำเป็นต้องใช้พลาสทิไซเซอร์ สายพานลำเลียงชนิดนี้ต้องการอย่างแท้จริงการยืดตัวและการเสียดทานต่ำขณะใช้งานที่หลายคนใฝ่ฝัน มักใช้เส้นด้ายเดี่ยวตามขวาง สีของสายพานลำเลียงจะออกแนวสีพาสเทล พื้นผิวของสายพานอาจจะมีลายขรุขระเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ สารเชื่อมพันธะที่ใช้ เช่น สารที่ยึดมั่นถือมั่นระหว่างโครงสร้างที่เป็นรูปแบบมาตรฐานของพีวีซีและโพลิยูรีเทนที่จะติดกับโครง สร้างของเส้นใย

2. สายพานลำเลียงแบบหลายชั้น (multiply)
เส้นใยรับแรงถูกนำมาถักตามความกว้างและความยาวเพี่อเพิ่มความแข็งแรงให้แก่คอนเวเยอร์ โดยที่ความ Strong ของชั้นเส้นใยเป็นไปตามตารางที่ 2 การเพิ่มความ Strong ทำได้โดย การเพิ่มสถิติของคอร์ด (cord) หรือปริมาณของเส้นใยที่ตีเกลียวอยู่สิ่งที่อยู่ภายในเส้นคอร์ด 1 เส้นยางระหว่างชั้นเส้นใยจะแปรเปลี่ยนไปไปตามความ Strong และหน้าที่การใช้งาน คือ ยิ่งมีชั้นเส้นใย หลายชั้นมากจะยิ่งเพิ่มความต้านทานต่อการกระทบได้สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างยิ่งในโครงสร้างที่ถูกต้องตามหลักการแบบ 2 ชั้น โครงสร้างที่เป็นมาตรฐานที่เป็นฝ้าย 100% จะให้ความแข็งแรง (Strong) 250 kN/m สายพานที่เป็นของผสม ระหว่างฝ้ายและเส้นใยสังเคราะห์จะให้ความแข็งแรงสูงถึง 1,500 kN/m สำหรับสายพานที่มีโครงสร้างที่ถูกต้องเป็นเส้นใยสังเคราะห์ทั้งหมด เช่น PP, EP และ EE (polyester warp and weft) จะให้ ความ Strong สูงถึง 2,500 kN/m ซึ่งโดยส่วนมากนิยมกันเป็นอย่างมากใช้ไนลอนเป็นเส้นด้ายตามขวางและโพลิเอสเทอร์เป็นเส้นด้ายตามยาว

3. สายพานลำเลียงแบบถักทอ (solid woven)
สายพานลำเลียงแบบถักทอชั้นเดียว จะมีเส้นใยตามยาวสอดไขว้กับเส้นใยตามขวาง และยึดเส้นใยทั้งหมดที่คาดคะเนได้ไว้ด้วยกัน เส้นใยที่สนใจใช้ ได้แก้ ฝ้าย ไนลอน และโพลิเอสเทอร์ ซึ่งจะให้ความ Strong 3,000 kN/m และเส้นใยอะรามีด จะให้ความ Strong สูงขึ้นโดยประมาณ 4,000 kN/m และจะใช้ PVC, CR หรือ NBR ในการเคลือบชั้นเส้นใยเพื่อ Property ทนการติดไฟ

4. สายพานลำเลียงลวดสลิง (steel cord)
โครงสร้างที่เป็นรูปแบบมาตรฐานของสายพานแบบนี้ประกอบด้วย คอร์ดหลายคอร์ดวางในแนวระนาบและปิดทับทั้งด้านที่อยู่ตรงข้ามกับด้านล่างและด้านล่างด้วยยางจะเคลือบด้วยสังกะสีและสารเชื่อมติดเพื่อช่วยในการยึดติด (Cleave) ของคอร์ด และยาง

ขั้นตอนผลิต
วิธีผลิตสายพานลำเลียงขึ้นอยู่กับประเภทและโครงสร้างของสายพาน กล่าวคือ
1. สายพานลำเลียงน้ำหนัก (Weight) เบา
2. สายพานลำเลียงแบบหลายชั้น
3. สายพานลำเลียงแบบถักทอ
4. สายพานลำเลียงลวดสลิง

สายพานลำเลียงน้ำหนักมวลรวมเบา
โดยทั่วไปสายพานประเภทนี้ผลิตโดยการพ่นน้ำยางหรือโพลิเมอร์ เช่น พีวีซีหรือโพลิยูรีเทน ให้กระจายตัว (spreading) เคลือบชั้นของสิ่งทอให้ได้ความหนาที่ต้องการอย่างมาก จากนั้นจึงนำไปอบให้ ความร้อนมาก ซึ่งการทำนั้นย่อมจะทำได้หลายๆ ชั้น โดยที่ชั้น สุดท้ายจะเป็นการเคลือบที่ผิว

สายพานลำเลียงแบบหลายชั้น
สิ่งทอที่เป็นฝ้ายและเส้นใยผสมระหว่างฝ้ายกับเส้นใยสังเคราะห์ต้องการอย่างสูงการทำให้แห้งก่อนเข้าสู่ขั้นตอนผลิต จุ่มหรือวางสิ่งทอที่ผ่านการทำให้แห้งแล้วให้กระจายในสารละลายยางเพื่อ ให้เกิดการเชื่อมติดตามต้องการอย่างแรงกล้า แต่โดยทั่วไปสิ่งทอมักจะถูก ทำให้ติดกับยางโดยนำไปผ่านลูกกลิ้งของเครื่องคาเลนเดอร์ ซึ่งอย่างรวดเร็วของลูกกลิ้งจะให้อัตราส่วนความเสียดทาน (friction ratio) เท่ากับ 1.5:1 เพื่อให้ได้สมบัติการติดที่ดีและมีความเหนียวติด (tack) ของฝ้ายน้ำหนักมวลรวมเบา ไม่มีประโยชน์ต้องเคลือบด้วยยาง แต่ฝ้ายที่น้ำหนักรวมของวัตถุมากกว่า 28 ออนซ์ จะต้องมีการเคลือบด้วยยาง และนำไปผ่านเครื่องคาเลนเดอรท์ ที่มีรวดเร็วมากเท่ากับ 1:1 และย่อมสร้างจำนวนชั้นได้ตามต้องการอย่างสูงก่อนที่จะนำไปวัลคาไนซ์ ของสายพานลำเลียงที่ผลิตจากชั้นของสิ่งทอที่เป็นเส้นใย สังเคราะห์ไม่จำเป็นต้องนำสิ่งทอนั้นไปทำให้แห้งก่อน เพราะพันธะที่เชื่อมติดนั้นเป็นพันธะเคมี (Chemical) นำสิ่งทอไปเคลือบด้วยน้ำยางบนเครื่องคาเลนเดอร์ สร้างแต่ละชั้นจนถึงชั้นสุดท้ายคือ การหุ้ม ด้วยยางผิวบนและเตรียมที่จะเข้าอบ ของการวัลคาไนซ์แบบต่อเนื่องไม่หยุดนั้นไม่จำเป็นแต่อย่างใดต้องมี Process สร้างยางของยางแต่ละชั้นและยางผิวบน

สายพานลำเลียงแบบถักทอ
นำสิ่งทอถักหรือชั้นผ้าใบรับแรงมาเคลือบด้วยพีวีซีเจลทั้งด้านบนและข้างล่างให้ได้ความหนาตามต้องการ (Want) หรืออาจจะหุ้มด้วยยางก็ได้

สายพานลำเลียงลวดสลิง
ดึงเส้นลวดให้ตึงตรงกันทุกเส้น ประกบยางที่จะให้ติดกับลวดโดยให้ยางผิวบนไว้ที่ข้างบนและยางผิวล่างไว้ที่ด้านล่างจากนั้นจึงกดให้สายพานแบนได้ขนาด (Size) ตัดขอบที่เกินออก แล้วจึงนำไป วัลคาไนซ์ในแท่นอัดขณะที่ดึงเส้นลวด

การวัลคาไนซ์
การวัลคาไนซ์สายพานยางทำได้ 2 วิธี (Method) หลัก คือ
1. press vulcanization
2. continuous vulcanization
– rotor cure
– contiroll system

สายพานพีวีซี ไม่ต้องวัลคาไนซ์แต่จะให้ความ Hot เพื่อให้หลอมติดกัน สายพานแบบถักทออาจจะต้องให้ความร้อนมาก โดยที่เคลื่อนผ่านอุโมงค์ที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส และต้องรอให้ เย็นก่อนจึงจะม้วนเก็บได้ หรืออาจใช้แท่นอัดกดให้เกิดความร้อนจัดที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส และทำให้เย็นก่อนจะเปิดออกมา และเพื่อปกป้องคุ้มครองการบิดเบี้ยวของปลายสายพานแท่นอัดนั้น ต้องมีส่วนที่หล่อเย็นทั้งด้านในและด้านนอก

สายพานผ้าใบและสายพานลวดสลิงวัลคาไนซ์ด้วยการกดอัดเหมือนกันอย่างกับแกะ (อุณหภูมิ ระยะทางของวันเวลา และความดัน) เป็นปัจจัยต่างๆที่ต้องคบคิด โดยที่สายพานลวดสลิงต้องการอย่างแรงกล้าความดันสูงกว่าและอุณหภูมิ ในการวัลคาไนซ์ที่ใช้โดยทั่วไปคาดหมาย 145-155 องศาเซลเซียส และจะต้องอยู่ข้างในแรงดึงตลอดเวลา (Time) การวัลคาไนซ์ สายพานยางที่ขึ้นรูปด้วยการดอัดจะต้องมีส่วนที่หล่อเย็นเข้าไปใน แท่นอัดเพื่อให้เกิดการคงรูป ช่วงของวันเวลาที่ใช้ในการวัลคาไนซ์ของสายพานแต่ละเส้นขึ้นกับคุณภาพที่หลายคนไว้วางใจของคอมพาวด์ ความหนา และอุณหภูมิที่ใช้ในการวัลคาไนซ์

การวัลคาไนซ์แบบต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอใน rotocure ( Trademark ของ Boston Woven Hose) หรือ AUMA (เครื่องหมายการค้าในการโปรโมทของ Hermann Berstorff Maschinebau) สายพานจะผ่านไปยัง ดรัมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดที่วัดได้ใหญ่ และไปยังดรัมที่มี Size เส้นผ่านศูนย์กลางเล็ก 2 ลูก โดยความร้อนจัดที่ได้มาจากดรัมและเครื่องใช้ให้ความร้อนมากอีกด้านหนึ่ง แถบของสายพานจะถูกดึงผ่านไป เพื่อให้คงรูป โดยใช้ความดันต่ำ เวลาในการวัลคาไนซ์ขึ้นกับอย่างรวดเร็วของสายพานและมุมสัมผัส เส้นผ่านศูนย์กลางของดรัม และอุณหภูมิถ้าอุณหภูมิและเส้นผ่านศูนย์กลางของดรัมคงที่ วันเวลาที่ ใช้ในการวัลคาไนซ์จะแปรผกผันกับอย่างรวดเร็วของสายพาน

การวัลคาไนซ์แบบต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้งที่มีความติดตามการเปลี่ยนแปลงของโลก ได้แก่ ระบบ ContiRoll (เครื่องหมายการค้าในการประกอบกิจการของ Siempelkamp GmbH) โดยลักษณะของแท่นอัดนั้นจะมีการเพิ่มแถบเหล็กแบบต่อเนื่องไปเรื่อยๆทั้งด้าน บนและข้างล่าง ซึ่งจะเคลื่อนที่ไปพร้อมกับสายพานตลอดการกดอัดด้วยแบริ่งที่ไม่มีแรงเสียดทานและการหมุนของลูกกลิ้งขนาดที่ประมาณด้วยสายตาใหญ่ที่ปลายแท่นอัด

การต่อสายพาน (belt splice)
ย่อมทำได้ 3 วิธี เช่น
1. การต่อร้อนมาก (vulcanized splice) เป็นวิธีที่ทำให้รอยต่อของสายพานมีความ Strong มากที่สุดที่เราตั้งใจไว้ และให้ความต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอของรอยต่ออย่างสม่ำเสมอ โดยใช้สินค้าที่มีแรงดันและความร้อนที่สุดเข้า มาช่วย
2. การต่อเย็น จะใช้กาว (adhesive) เป็นตัวหลักในการต่อ
3. การต่อกิ๊บ ใช้ในเคสที่มีความเร่งด่วน (Pressing) ในการใช้งานที่ใช้สติปัญญา เพราะว่าเหตุผลคือแนวทางนี้ใช้ระยะทางของวันเวลาน้อยกว่าการต่อร้อนและต่อเย็น

การเลือก Size ของสายพาน
การเลือกขนาดของสายพานลำเลียงที่มีความเหมาะสม คือ สายพานนั้นจะต้องมีความกว้างมากเพียงพอต่อการขนถ่ายวัสดุในปริมาณที่ต้องการ (Want) ได้ โดยวัสดุจะต้องไม่อยู่ชิดขอบของสายพาน มากเกินไป การเลือกขนาด (Size) ความกว้างของสายพานลำเลียงที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับปัจจัยทั่วไปดังต่อไปนี้
- ประเภทของวัสดุที่ลำเลียงและสมบัติของวัสดุ
- Size ของวัสดุ (lump size)
- อย่างรวดเร็วของสายพาน (belt speed) (m/min, m/s)
- ปริมาณการขนถ่ายลำเลียง (ft3/hr)

เกรดของสายพาน
สายพานลำเลียงแบ่งเกรดตามคุณภาพที่ดีของชั้นผ้าใบและยางที่ใช้หุ้มดังที่ปรากฏนี้
1. แบ่งตามคุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่นของชั้นผ้าใบ ( Table ที่ 6)
- ใช้ชั้นผ้าใบใยฝ้ายประเภทที่ 1
- ใช้ชั้นผ้าใบใยฝ้าย Type ที่ 2
- ใช้ชั้นผ้าใบใยฝ้ายชนิดที่ 3
- ใช้ชั้นผ้าใบใยฝ้ายชนิดที่ 4
- ใช้ชั้นผ้าใบใยสังเคราะห์รูปแบบที่ 1
- ใช้ชั้นผ้าใบใยสังเคราะห์แผนกที่ 2
- ใช้ชั้นผ้าใบใยสังเคราะห์ชนิด (Type) ที่ 3
2. แบ่งตามคุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่นของยางที่ใช้หุ้ม (ตาราง (Table) ที่ 7)
- หุ้มด้วยยางประเภทที่ 1
- หุ้มด้วยยางประเภทที่ 2

สายพานลำเลียงเป็นสายพานที่ใช้ขนส่งวัสดุจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยจะต้องมีตัวขับและพูเลย์ในการทำให้สายพานเคลื่อนที่ การเคลื่อนที่ของสายพานจะเกิดจากแรงเสียดทานระหว่าง สายพานกับพูเลย์ แรงเสียดทานดังกล่าวจะขึ้นอยุ่กับผิวสัมผัส ระหว่างสายพานกับพูเลย์ และแรงดึงให้สายพานตึง จากลักษณะการใช้งานที่มีผลตอบแทนดีสายพานจึงต้องมีสมบัติต่าง ๆ เช่นนี้ คือ

ความทนทานต่อแรงเฉือน (Tear strength)
ระหว่างใช้งานที่ตัวเองชอบ ชั้นยางและผ้าใบแต่ละชั้นจะรับแรงในการขับเคลื่อนสายพานในปริมาณที่แตกต่างกัน เมื่อผ่านพูเลย์ ยางผิวด้านล่างจะเกิดแรงกด ส่วนยางผิวด้านที่อยู่ตรงข้ามกับด้านล่างจะถูกยืดออก และชั้นผ้า ใบแต่ละชั้นก็รับแรงไม่เหมือนกัน ระหว่างชั้นวัสดุแต่ละชั้นของสายพาน จะมีแรงเฉือนเกิดขึ้น แรงเฉือนดังกล่าวจะกระทำกับแต่ละจุดของสายพานมีลักษณะเป็นรอบ อาจทำให้เกิดปัญหาแยกชั้น ของสายพานได้หากแรงยืดของแต่ละชั้นไม่แข็งแรง (Strong) พอ การทดสอบผลิตภัณฑ์สายพานลำเลียงจึงต้องมีการทดสอบ สมบัติความทนทานต่อแรงเฉือนของสายพาน เกี่ยวกับการยึดติดระหว่างผ้า ใบกับยางและระหว่างผ้าใบกับผ้าใบแต่ละชั้น

ความทนทานต่อการสึกหรอ (Abrasion Resistance)
สายพานจะเกิดการเสียดสีตลอดวันเวลาในระหว่างการใช้งาน โดยเฉพาะ (Especially) ที่ผิวยางบน ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับวัสดุที่ต้องการ (Want) จะลำเลียงวัสดุแต่ละ Type เป็นการจะทำให้เกิดการสึกหรอแตกต่างกัน จึง ต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น Every time ใน Manufacturing สายพานลำเลียง

ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม (Environmental Resistance)
การใช้งานที่เหมาะสมกับตัวเองสายพานลำเลียงมีลักษณะท

ภาพตัวอย่างลำเลียง สำหรับเชื่อมต่อกระบวนการต่าง โดย ไทยอินเตอร์แมท ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง ระบบลำเลียง Tel 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-4107-1968


ลำเลียง BELT CONVEYOR SYSTEM โดย Thai Intermat ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง Belt สอบถามข้อมูล 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:09-0197-6305
อ้างอิงจาก: ลำเลียง
คำที่ใกล้เคียง: ลำเลียง
อ้างจาก: ลำเลียงลำเลียง สำหรับเชื่อมต่อกระบวนการต่าง โดย ไทยอินเตอร์แมท ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและติดตั้ง ระบบลำเลียง Tel 02-7383580-94 ต่อ 12 - 17 Hotline:08-4107-1968
หมวดหมู่ของเว็บ: สายพานลำเลียง คลังสินค้า คอนเวเยอร์ ชั้นวางสินค้า ระบบลำเลียง Racking - Conveyor - Mobile Rack - Roller Conveyor - Belt Conveyor
เผยแพร่โดย: ไทยอินเตอร์แมท
หน้าหลัก: http://www.thaiintermat.com
ดูรายละเอียด: http://www.thaiintermat.com/company.php
Contact: http://www.thaiintermat.com/contact.php
เว็บเพจ: ไทยอินเตอร์แมท
ชื่อ: THAIINTERMAT CO.,LTD.
เบอร์โทรติดต่อ: 02-7383580-94 Press 12 - 17 Fax : 02-738-3598 - 9
เมล์: marketing@thaiintermat.com
ที่อยู่: 95/2 Moo14 Kingkeaw-Onnuch Rd., Rachataewa, Bangplee, Samutprakarn 10540
ประเภทธุรกิจ: ออกแบบ ผลิตและติดตั้ง ระบบจัดเก็บสินค้า และ ระบบลำเลียงสินค้า ครบวงจรเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
#47
ข้อคิดเห็นรับทำ SEO จ้างโปรโมทเว็บติดหน้าแรก Google เว็บไซต์ seo4toprank รับโปรโมทเว็บ ติดหน้าแรก Google ด้วยBack Link ธรรมชาติ สอบถามเพิ่มที่ AIS 087-1736064 สวัสดีครับผู้มาเยือนทุกท่านวันนี้ผมจะมานำเสนอเกี่ยวกับรับทำ SEOอ่านได้จากเนื้อหาสาระนี้ สวัสดีผู้ที่เข้ามาอ่านครับผู้ที่ชอบอ่านเนื้อหาเพื่อแสวงหาความรู้ทุกคนที่เข้ามาศึกษาทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้หาความรู้ที่ได้จากการลองผิดลองถูกเกี่ยวกับการทำ SEO จากเว็บของเราและคุณทุกคน Today ตัวกระผมเองขอแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการ Promote Web ให้ติดอันดับต้นๆของ Google หรือที่เรียกกันว่า SEO ซึ่งย่อมาจากคำว่า Search Engine Optimize นั่นเองครับ หลายๆคนสงสัย (Suspect) ว่าเคล็ดลับการทำให้เว็บติดอันดับต้นๆ Google นั้นทำเช่นใด มีความซับซ้อนและยากมากน้อยเพียงใด ตัวกระผมเองขอบอกกับผู้ที่ชอบอ่านหนังสือผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บทุกคนครับว่า การทำ seo นั้นไม่ได้ยากและไม่ได้ง่าย ขึ้นอยู่กับว่า เราและคุณทุกคนให้สิ่งสำคัญของคุณภาพที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด และทำตามกฎระเบียบวินัยและข้อบัญญัติของ Google หรือไม่ สมัยนี้ระบบค้นหาข้อมูลความรู้ของกูเกิ้ลหรือที่เรียกว่า Google Algorithm ได้พัฒนาและปรับปรุงความสามารถต่างๆให้ดีมากขึ้นไปอย่างมาก สรุปก็เพื่อตอบสนอง Need ด้านการค้นหาข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญที่ถูกต้องตามหลักการถูกต้องมากกว่าที่เป็นอยู่ ทาง google ปรารถนาที่จะได้สร้างประสบการณ์ทั้งหมดที่ดีให้กับผู้ใช้ทั่วไปงานที่หลายคนใฝ่ฝัน Search Engine ของตน ซึ่งเราและผู้อ่านทุกคนจะสังเกตสิ่งใกล้ตัวว่า Google Search ย่อม Search และนำเว็บที่มีเนื้อหา (Content) สอดคล้องกับสิ่งที่อยากของ User งานที่มีผลตอบแทนดีมาแสดงผลลัพธ์ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้งานที่หลายคนใฝ่ฝันต้องการเป็นอย่างสูง การที่เราและคุณทุกคนจะทำเว็บให้ติดอันดับ Google.com google นั้น สิ่งแรกที่พวกเราทุกคนควรคำนึงมากที่สุดเท่าที่ทำได้คือ การสร้างบทความคุณภาพที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์อย่างมากต่อ Reader ให้มากที่สุด การสร้างเนื้อหาสาระคุณภาพที่แท้จริง Quality Content อันจะเป็นการกระทำให้เว็บของคุณเป็นที่สนอกสนใจของ Google Thailand ยิ่งถ้าหากพวกคุณเขียน (Write) บทความที่เขียนขึ้นจากหนังสือหลายๆเล่มคุณภาพที่หลายคนไว้วางใจและมีรูปแบบทางวัฒนธรรม Unique Content ที่แตกต่างจากเว็บทั่วไป เว็บของคุณก็ย่อมทำอันดับ (Ranking) ได้ไม่ยากเลยแม้แต่น้อยครับ

การทำ seo ให้เว็บติดอันดับต้นๆ google นั้นสามารถจำแนก (Distinguish) ออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ

1. การปรับ SEO On Page
เป็นการปรับให้เว็บรองรับและอุปการะการรับทำ SEO โดยเน้นที่การปรับแต่งให้ดีขึ้นข้างในของเว็บที่จะทำอันดับต้นๆบน Google ซึ่งการปรับ Search Engine Optimizeออนเพจมีสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ เพราะจะเป็นการบอกให้ Search Engine Understand ว่าเราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บกำลังทำเว็บเกี่ยวกับ What? และเว็บของเราและทีมงานนั้นอยู่ในหมวดใดของคำค้นหาวิธีทำ ไม่เพียงแต่การปรับ On Page จะเป็นการทำให้เว็บค้นหา (Search) รู้จักเว็บของเราและสมาชิกทุกท่านว่าเป็นเว็บเกี่ยวกับอะไรแล้ว ยังเป็น Factor จำเป็นที่ทำให้เว็บติดลำดับ Google เพราะหากเราและสมาชิกทุกท่านเขียนอย่างมีคุณภาพเกี่ยวกับบทความที่อ่านแล้วมีประโยชน์ที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อผู้ที่รักการอ่าน เมื่อมีคนเข้ามาเว็บพวกเราทุกคนและเห็นว่าเป็นเว็บที่มีบทความคุณภาพ (Quality Content) คุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่นก็จะส่งต่อหรือนำไปเผยแพร่ ทำให้เว็บของเราและคุณทุกคนเป็นที่สนใจเป็นอย่างมากของผู้ที่ต้องการอย่างแรงกล้าค้นหาสิ่งที่ไม่รู้ข้อมูลที่มีคุณค่าและสามารถอ้างอิงได้ที่เกี่ยวข้อง (Concerned) กับบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านที่เราและเพื่อนรับวิชาชีพนำเสนอ (Present) ซึ่ง เราและทีมงานย่อมปรับ seo on page ได้เช่นนี้

1.1 Title Tag ไตเติ้ลของเว็บไซต์นั้นมีความสำคัญอันดับต้นๆและเป็นตัวที่จะบอกให้ Search Engine รับรู้ว่าเว็บของเราทุกคนมีบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านเกี่ยวกับอะไรและเน้นเรื่องไหนเป็นพิเศษ โดย Google จะให้ความลำดับตามเลขอารบิก Importance ของ Title จากซ้ายไปขวา หากต้องการอย่างแรงกล้าเน้นคำไหนก็สามารถเขียนถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับคำนั้นอยู่ตอนต้นของเนื้อหาในไตเติ้ลแท็ก เพราะเหตุนั้นไม่ควรกำหนดให้ไตเติ้ลสั้นหรือยาวมากจนเกินไป และไม่ควรใช้คำซ้ำๆ กัน

1.2 Meta Description Tag ในการรับทำ SEO สิ่งที่อันจะทำเว็บค้นหาความหมายรู้จักและเข้าใจพร้อมทั้งสามารถนำไปประยุกต์ต่อได้ว่าเว็บเราทุกคนนั้นมี Content เกี่ยวกับ What? นอกจาก Title แล้ว ยังมีอีกแท็กหนึ่งที่เป็นการบรรยายภาพรวมของเว็บว่ามีบทความคุณภาพเกี่ยวกับอะไร นั่นคือ Meta Description นั่นเองครับ ในการทำให้เว็บรองรับ SEO เราและสมาชิกทุกท่านควรใส่คำอธิบายให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เว็บลงไปในส่วนนี้ ทั้งนี้นั้นจะเป็นการทำให้ Search Engine นำเว็บเราไปจัดลำอันดับ (Ranking) อย่างถูกต้องชัดเจนตามกลุ่มคีย์เวิร์ดที่มีผลตอบรับดีที่รูปแบบเดียวกันกับเนื้อหา (Content) ของเว็บ

1.3 Meta Keywords Tag หากเราและผู้อ่านทุกท่านต้องการตามที่ใจปรารถนาให้ Google Search นำเว็บของเราและเพื่อนรับวิชาชีพไป Appear ในหมวดใด สามารถกำหนดคำค้นที่มีการแข่งขันกันสูงหลักของเว็บได้จากแท็กระเบียบนี้ ซึ่งคุณย่อมเพิ่ม Keyword ได้มากกว่า 1 คำ โดยมี Mark , (คอมม่า) คั่นกลางระหว่างคำหลัก หรือ Keyword ที่ต้องการเป็นอย่างยิ่งทำอันดับหน้าแรก เทคนิคที่มีประสิทธิภาพการเพิ่ม Keyword คือ ไม่ควรใส่มากเกินไป และควรเพิ่มคำที่มีอยู่ในเนื้อหาของเว็บ

1.4 H1 H2 H3... Tag หากค้นต้องการอย่างสูงให้เว็บเป็นที่ Interested ของ Google มากขึ้น สามารถใช้แท็กระเบียบ H1 H2 H3 ในการกำหนดขนาดที่วัดได้ของหัวข้อหลักหรือชื่อเรื่องของบทความที่อ่านแล้วได้รับความรู้ และควรมี Keyword หลักของเว็บรวมอยู่ในชื่อเรื่องด้วย

1.5 Strong Tag การใช้คำสั่งตัวหนา (Strong) ให้กับข้อความที่สื่อความหมายอย่างถูกต้อง หรือ Keywords ที่เราและทีมงานต้องการเป็นอย่างสูงเน้นนั้น มีความสำคัญอย่างแท้จริงต่อการทำอันดับต้นๆของอยู่ไม่น้อยครับ ดังนั้นเราและสมาชิกทุกท่านสามารถใช้คำสั่งการขีดเส้นใต้ ตัวเอียง หรือการเพิ่มสีให้กับตัวอักษรตัวหนังสือในคำหลักของเว็บ เป็นอีกปัจจัยทั่วไปที่มีผลต่อลำดับและทำให้อันดับหน้าแรกของของเว็บดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ควรใช้มากเกินไป ควรทำอย่างถูกต้องตามแนวปฏิบัติและเป็นธรรมชาติ

1.6 Text Link ในหน้าหลักของเว็บที่ต้องการเป็นอย่างสูง Promote Web ให้ติดอันดับหน้าแรก Google นั้น ควรสร้าง Anchor Text Link คีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันกันสูงที่ Want ทำ Ranking เข้าสู่หน้าหลัก ซึ่งในหน้าหลักนั้นหากมีลิงค์ไหนที่มีการเชื่อมต่อไปยังเว็บข้างนอกควรตั้งค่าให้เป็นลิงค์เชื่อมโยงแบบ Nofollow เพื่อไม่ให้สูญเสียค่า Page Rank ไปให้กับเว็บอื่น ส่วนการเกี่ยวโยงลิงค์สิ่งที่อยู่ภายในเว็บควรตั้งค่าเป็นลิงค์แบบ Dofollow ซึ่งโดยปกติแล้วหากเราและผู้อ่านทุกท่านไม่ได้กำหนดค่าอะไรให้กับลิงค์ Search Engine จะเข้าใจว่าเป็น Dofollow Automatic และควรเพิ่มค่า title เพื่ออธิบายให้เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง Link ที่เชื่อมโยง

1.7 Image การสร้างเว็บนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เนื้อหาวิชาการ ข้อความที่แสดงความหมาย เพียงอย่างเดียว การเพิ่มรูปภาพให้กับเว็บไซต์จะช่วยเพิ่มความน่าสนอกสนใจให้กับผู้อ่านทุกท่านเนื้อหา (Content) มากยิ่งกว่า ซึ่ง การเพิ่มรูปภาพให้กับเว็บเพจนั้น ควรใช้คำสั่งการ alt เพื่อชี้แจงให้เสิร์ทเอนจิ้นเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดว่ารูปนั้นเกี่ยวกับอะไรและมีความหมวดหมู่เดียวกันกับเนื้อเรื่องในเว็บยังไง

1.8 Keyword In Content อีกวิธีการหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกและมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเขียนบทความถ่ายทอดประสบการณ์บทความคุณภาพที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่านและให้เว็บค้นหา (Search) เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านของเราและทีมงานทุกคนมีบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านเกี่ยวกับเรื่องไหนเป็นแปลกไปจากสามัญ คือ การใส่ keyword ที่บริเวณตำแหน่งของเนื้อหา (Content) ในส่วนแรก (First Content) ให้ใส่ คำค้นที่นิยมค้นหา ไว้ในหน้าที่รับผิดชอบ 20 - 30 คำแรกโดยน่าจะประมาณ ให้กระจ่าง หรืออาจจะใช้ตัวอักษรลักษณะเอียงหรือขีดเส้นใต้ก็ได้ การใส่ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาที่มีประโยชน์ในส่วนสุดท้ายของบทความที่เขียนขึ้นด้วยการสรุปใจความสำคัญ (The last content) เพื่อเน้นความสำคัญอันดับต้นๆหรือใช้ในการสรุปข้อมูลสำคัญเนื้อหา (Content) อาจจะใช้เป็นลักษณะขีดเส้นใต้ ตัวเอียงหรือหนา (แนะแนวให้ใช้ tag แบบ < b>คำค้นที่มีการค้นหามาก< /b> หรือแบบ < strong>คีย์เวิร์ดที่มีผลตอบรับดี ก็ได้มีค่าเสมอภาค ก็เพราะว่า Search Engine มีการให้คะแนนที่รวบรวมแล้วการจัดอันดับหน้าแรกของมากกว่า 200 Factor ) ก็ได้ครับตามแต่จะสะดวกสบาย

1.9 Keyword In File Name ใช้ขั้นตอนเพิ่ม keyword ในการตั้งชื่อไฟล์เอกสารที่สร้างขึ้นจากการทำงานและโฟลเดอร์ (Folder name, File name) วิธี (Method) นี้ได้ผลเป็นที่ดีมากครับ เพราะเป็น Search Engine จะให้ประมาตรน้ำหนักกับชื่อ File หรือโฟลเดอร์ (Folder) หรือที่เรียกว่า Keyword In File Name ประเด็นที่เขียนให้อ่านรู้เรื่องเกี่ยวกับเว็บเองไม่ได้ใช้ CMS สำเร็จรูปอย่าง Wordpress สามารถที่จะกำหนดค่า .htaccess ในการทำให้เห็นอย่างชัดเจนชื่อไฟล์เอกสารที่สร้างขึ้นจากการทำงาน Language ไทย ตามด้วยคำลงท้ายชื่อ .php หรือ html แล้วแต่จะสะดวก แนะนำ (Recommend) ใช้แบบ .php เพราะ .html มีจุดด้อยในการสร้างการพัฒนาเว็บ ยกตัวอย่างให้ผู้อ่านเห็นภาพอย่างชัดเจนเช่น ไม่ย่อม include ระเบียบจากที่อื่นมาได้ ส่วนเรื่องที่สามารถนำมาเป็นตัวอย่างที่ใช้เว็บสำเร็จรูปก็อาจใช้สิ่งที่ทำขึ้นแสดงความหมายเพื่อจดจำหรือกำหนดรู้ - ในการแยกคำที่มีหลายพยางค์ เป็นต้น

1.9 Keyword In Domain หากท่านย่อมลงทะเบียนใช้งานใช้งานที่มีประโยชน์ชื่อเว็บได้ตรงกับ Keyword เป็นเรื่องที่ดีมาก หากชื่อไม่ว่างแล้วท่านก็ย่อมที่จะใช้แนวทางนี้ได้เพียงแต่อาจเอาคำอื่นมารวมอยู่กับชื่อที่ตรงคีย์เวิร์ดที่นิยมค้นหา เรื่องของ Keyword ในโดเมนนั้นย่อมใช้การได้ทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่ในปัจจุบันทันด่วนจะต้องทำให้คุณภาพที่แท้จริงมากขึ้นกว่าปกติครับ

2.0 Content อัพเดทเนื้อหาสาระ การปรับให้เว็บส่งเสริม SEO ด้วย S E Oออนเพจ นั้น นอกที่เราทุกคนจะปรับให้โครงสร้างมาตรฐานสากลของเว็บถูกหลักตามมาตรฐานของเว็บแล้ว สิ่งต้องคำนึงเป็นอันดับแรกอีกประการหนึ่งก็คือ การหมั่นพยายามเพื่อทำให้เกิดผลสำเร็จอัพเดทข้อมูลข่าวสารบทความคุณภาพของเว็บอย่างเป็นประจำ ต่อเนื่องไปตลอด เพื่อที่จะให้เว็บมีเนื้อหาคุณภาพ (Unique Content) ให้ผู้ที่สนใช เข้ามาอ่านและทำความเข้าใจ และวิจัยหาความรู้ที่ได้จากการลองผิดลองถูก จากเว็บของเราและสมาชิกทุกท่าน อีกทั้งเพื่อบอกให้ Google Bot เข้ามาอัพเดทเนื้อหาสาระ Cache ของเว็บเราทุกคนอย่างต่อเนื่องเรื่อยไป เราและคุณทุกคนควรอัพเดทบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านของเว็บอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อที่จะทำให้เว็บของเราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บเป็นเว็บที่มีข้อมูลเชิงลึกใหม่ สด และเป็นผลดีมากกว่าผลเสียต่อผู้ใช้ทั่วไปงาน (Work) อยู่ตลอดเวลา

2. การปรับ SEO Off Page
เป็นการปรับให้เว็บรองรับและสนับสนุนการรับทำ SEO โดยเน้นที่การปรับปัจจัยด้านต่างๆภายนอกเป็นหลัก กล่าวคือ เป็นการเขียนบทความบทความ (Article) คุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่นที่น่าสนใจ (Interested) และเป็นมิตรกับผู้ที่ชอบอ่านบทความเพื่อแสวงหาความรู้และทำการเชื่อมโยงลิงค์ไปยังเว็บหลัก หรือเรียกว่า การสร้าง Back Link ซึ่งการปรับการประชาสัมพันธ์เว็บออฟเพจที่ถูกต้องตามหลักของเหตุผลนั้น ควรให้ความสำคัญ (Importance) ของคุณภาพที่ทุกคนมั่นใจของบทความ (Article) และความเป็นคุณประโยชน์ต่อผู้ที่ชอบอ่านเนื้อหาเพื่อแสวงหาความรู้เป็นหลักครับ เนื่องจากหากเขียนอย่างละเอียดเกี่ยวกับบทความ (Article) ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากก็จะมีผู้ที่เข้ามาอ่านและทบทวนนำหน้าเว็บดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ ซึ่งเป็นการสร้าง Back Link ที่ถูกต้องตามหลักของเหตุผลและเป็นอย่างเป็นธรรมชาติ การสร้าง Network ส่วนตัวไม่รวมคนอื่นก็เป็นการทำ SEO Off Page อีกแบบหนึ่งเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่บริการ SEO มี Writing บทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านให้มีคุณภาพ (Quality) และมีประโยชน์มากน้อยเพียงใด หากเขียนเนื้อหาคุณภาพที่ดีและเป็นมิตรกับ Reader แน่นอนยืนยันได้ว่าหน้าเว็บเหล่านั้นก็จะขึ้นสู่ Ranking ต้นๆ ของผลการค้นหาข้อมูลใหม่ Google และส่งผลให้เว็บหลักมี Ranking ที่ดีขึ้นอีกด้วยครับ สรุปเนื้อหาสำคัญ คือ การสร้างลิงค์เกี่ยวโยงจากภายนอกเข้าสู่หน้าเว็บหลักที่ต้องการ (Want) ทำอันดับต้นๆนั่นเองครับ

2.1 Link Building การสร้างลิงค์ที่ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนและเป็น Nature นั้น ควรให้สิ่งสำคัญกับคุณภาพที่แท้จริงของ Content เป็นอันแรก หากเนื้อหาหลักไม่ได้คุณภาพสูงและมีการเชื่อมโยง (Link) Anchor Text Link ไปหาเว็บหลักก็ไม่มีประสิทธิภาพ และอาจทำให้อันดับต้นๆของแย่ลงกว่าเดิม การสร้างเนื้อหาสำคัญที่มีคุณค่าและมีรูปแบบทางวัฒนธรรมจะเป็นสิ่งที่ทำให้ลิงค์เหล่านั้นสามารถดัน Ranking เว็บหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สามารถวัดผลได้

2.2 Keyword Diversify การรับทำ SEO ในขณะนี้แตกต่างจากยุคที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง Google เน้นคุณภาพที่หลายคนไว้วางใจมากขึ้น การโปรโมทเว็บ ประกาศเว็บต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดและ Responsible ต่อผู้ค้นหาความหมายข้อมูลที่ถูกต้องผ่านทาง Search Engine มากขึ้น บทความที่อ่านแล้วมีประโยชน์ที่นำไปประกฏให้เห็นต่อ Reader จึงควรเป็นเนื้อหาที่อ่านแล้วมีประโยชน์ที่มีประโยชน์และเป็นที่ต้องการอย่างสูงของผู้ค้นหาแนวทางอย่างแท้จริง การที่มุ่งหวังผลแต่เพียงอันดับที่ดีของอย่างเดียว โดยการใช้ Keyword ซ้ำๆ ในการทำอันดับหน้าแรกนั้นไม่เป็นผลดีต่อการโปรโมทเว็บทำเว็บให้รู้จักแพร่หลายในยุคที่อัลกอลิทึมเน้นคุณภาพ (Quality) หากต้องการเป็นอย่างสูงที่จะทำอันดับบน Google Search คุณควรเปลี่ยนไป Keyword Link ตามความอย่างเหมาะสมของเนื้อหาที่อ่านแล้วได้รับความรู้เพื่อเชื่อมโยงไปหาเว็บหลักอย่าง Relationships กัน การสร้างลิงค์คุณภาพที่หลายคนไว้วางใจจึงควรมีการปรับ Keyword Diversify อย่างเหมาะสมและมีคุณภาพที่ได้รับการยืนยันตลอดจนสามารถเชื่อมโยง (Link) เนื้อหาที่ผู้ค้นหาข้อมูลใหม่ Information ต้องการ (Want) อย่างสร้างให้ดียิ่งขึ้น

2.3 Page Rank ในการรับทำ SEOในยุคนี้ก็ยังไม่ย่อมที่จะปฏิเสธได้ว่าค่า PR ไม่มีความสำคัญ (Importance) อันที่จริงแล้ว Google ใช้ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากมายเกินคาดในการจัดอันดับ (Ranking) และค่า PR เป็นหนึ่งใน Factor หนึ่งที่มีผลต่ออันดับต้นๆของของเว็บไซต์ ในขณะที่เว็บไซต์ปริมาณของ Back Link และคุณภาพที่ได้รับการยืนยันของเนื้อหาที่อ่านแล้วมีประโยชน์อยู่ในระดับเดียวกัน เว็บที่มีค่า Page Rank สูงกว่าจะมีอันดับ (Ranking) ที่เป็นสิ่งที่ดีเลิศกว่า เพราะเหตุนั้นค่าดังกล่าวนี้จะเป็นการกำหนดให้เข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาทั้งหมดว่าเว็บนั้นมีคุณภาพ (Quality) มากน้อยเท่าใด ซึ่งมีค่าตั้งแต่ 0 - 10 การอันจะเป็นการกระทำให้เว็บของเราและสมาชิกทุกท่านมีค่า Page Rank ที่สูงขึ้นนั้น เราและคุณทุกคนสามารถไปเขียนอย่างละเอียดเกี่ยวกับ Unique Content ที่น่า Interested ในเว็บที่มีค่า PR สูงๆ และทำสร้าง Link กลับไปยังเว็บหลัก

2.4 Social Network หนทางการโปรโมทเว็บประกาศเว็บไซต์เพื่อทำ Ranking บน Google อีกปัจจัยทั้งหมดหนึ่งที่มีความสำคัญต่ออันดับ (Ranking) อย่างมาก คือ Link จากเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google Plus, Twitter และ Youtube เป็นส่วนละเลยไม่ได้ในการทำอันดับหน้าแรกของอย่างมาก การแชร์บทความที่เขียนขึ้นด้วยการสรุปใจความสำคัญคุณภาพที่แท้จริงผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คและการสร้างวีดีโอเผยแพร่บน Youtube เป็นอีก Method หนึ่งที่จะช่วยให้อันดับที่ดีของเว็บของคุณดียิ่งขึ้น

2.5 Unique Content ในการโปรโมทเว็บให้คนรู้จักอย่างแพร่หลายติดอันดับ Google นั้น สิ่งละเลยไม่ได้ที่สุด ก็คือ การสร้างบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านคุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่นไม่ซ้ำท่านไหน หรือที่เรียกว่า Unique Content หรือ อาจเรียกอีกอย่างว่า Quality Content โดยที่บทความที่เขียนขึ้นด้วยการสรุปใจความสำคัญคุณภาพ จะต้องเป็นการก่อตั้งขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และมีเนื้อหาหลักที่ครอบคลุม (Comprehensive) ภาษาเขียนให้อ่านเข้าใจง่ายเกี่ยวกับได้ถูกต้องตามทฤษฏีตามหลักไวยกรณ์ และข้อย่อยที่เขียนให้อ่านเข้าใจง่ายเกี่ยวกับเป็นมิตรกับผู้ที่ชอบการอ่าน บทความที่เขียนขึ้นเพื่อผู้อ่านนั้นจะต้องให้สาระประโยชน์แก่ผู้ที่ชอบอ่านบทความออนไลน์ ตลอดจนแจงเนื้อหาที่แสดงอย่างละเอียดเรื่องนั้นๆ ได้อย่างลึกซึ้ง ผู้ที่เข้ามาอ่านอย่างเข้าใจเกี่ยวกับบทความที่ทำให้ผู้อ่านได้รับความรู้ความเข้าใจแล้วได้รับความรู้ที่ดีโดยที่เข้าใจพร้อมทั้งสามารถนำไปประยุกต์ต่อได้รายละเอียด (Detail) ได้ในระดับที่ดี การสร้าง Back Link ด้วยบทความที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านได้รับความรู้ Unique Content จึงเป็นการทำอันดับต้นๆของที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐาน ทำให้เว็บที่ทำ SEO ด้วยวิธี (Method) คุณภาพที่ทุกคนมั่นใจ สามารถติดอันดับได้อย่างนานแสนนาน ยั่งยืน อุ่นใจ

ข้อสรุปการทำ seo ด้วยแนวทางรับทำ SEO ด้วยขั้นตอนที่ถูกต้อง มี 2 แบบ คือการปรับให้เว็บส่งเสริม search engine ด้วยการปรับ seo on page และการปรับให้เว็บรองรับเสิร์ทเอนจิ้นด้วยการปรับ seo off page ซึ่งสิ่ง Significant ที่สุดคือการเน้นคุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่นของเนื้อหาและปฏิบัติตามกฎที่กำหนดให้ทุกคนปฏิบัติตามและ

รูปภาพที่เกี่ยวข้องรับทำ SEO ด้วยทีมงานคุณภาพ บริษัท seo4toprank รับโปรโมทเว็บ ทำอันดับ Google ด้วยBack Link ธรรมชาติ เบอร์โทร 087-1736064

รับทำ SEO การเช่า SEO Hosting ต่างประเทศ บริษัท seo4toprank รับโปรโมทเว็บ ติดอันดับ Google ด้วยการสร้างบทความคุณภาพ Tel 0871736064
อ้างอิงจาก: รับทำ SEO
คำที่เกี่ยวข้อง: รับทำ SEO
อ้างจาก: รับทำ SEOรับทำ SEO ด้วยทีมงานคุณภาพ บริษัท seo4toprank รับโปรโมทเว็บ ทำอันดับ Google ด้วยBack Link ธรรมชาติ เบอร์โทร 087-1736064
หมวดหมู่: SEO
ผู้เผยแพร่: SEO4TopRank
Home Page: http://www.seo4toprank.com
รายละเอียด: http://www.seo4toprank.com/รับทำseo.php
ติดต่อ: http://www.seo4toprank.com/รับทำseoราคาถูก.php
หน้าเว็บที่เกี่ยวข้อง: SEO4TopRank
ชื่อ: สันทรายคอมพิวเตอร์ กรุ๊ป
เบอร์โทร: 087-1736064
อีเมล์: seo4toprank@gmail.com
ที่อยู่: 314/28 หมู่ 2 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50210
เกี่ยวกับเรา: ผู้ให้บริการรับทำ SEO โปรโมทเว็บติดอันดับ Google
#48
ประโยชน์ของการใช้ติดอันดับ Google การสร้าง back link คุณภาพสนับสนุนการทำ seo ผู้ให้บริการ seo4toprank รับโปรโมทเว็บ SEO ราคาถูก ด้วยBack Link คุณภาพ สนใจ โทร AIS 087-173-6064 เรียนรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับติดอันดับ Googleเติมเต็มความรู้ได้จากบทความนี้ สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บของเรา Reader ทุกๆ ท่านที่เข้ามาค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับการทำ SEO จากเว็บของพวกเราทุกๆคน วันนี้ (Today) กระผมขอแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการโปรโมทเว็บประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ให้ติดอันดับที่ดีของ Google หรือที่เรียกกันว่า SEO ซึ่งย่อมาจากคำว่า Search Engine Optimize นั่นเองครับ ผู้อ่านหลายคนสงสัยอยากทราบคำตอบว่าวิธีการการทำให้เว็บติดอันดับที่ดีของ Google นั้นทำอย่างไร มีความซับซ้อนและยากมากน้อยเพียงใด ผมขอบอกกับนักอ่านผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บทุกคนครับว่า การทำ seo นั้นไม่ได้ยากและไม่ได้ง่ายแบบสบายมือเลย ขึ้นอยู่กับว่า เราและสมาชิกทุกท่านให้ความสำคัญอย่างแท้จริงของ Quality มากน้อยเพียงใด และทำตามกฎข้อบังคับและนโยบายที่กำหนดไว้ให้ทุกคนปฏิบัติตามของ Google หรือไม่ ปัจจุบันยุคสมัยนี้ระบบค้นหาความหมายของ Google Searchหรือที่เรียกว่า Google Algorithm ได้พัฒนาสร้างสรรค์ให้ดีขึ้นมากกว่าเดิมไปอย่างมาก ทั้งนี้และทั้งนั้นก็เพื่อตอบสนองสิ่งที่ต้องการสิ่งที่อยากด้านการค้นหา (Search) ข้อมูลที่มีประโยชน์ที่ถูกต้องชัดเจนไม่พลาดเป้ามากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ทาง google ความปราถนาสร้าง Experience ที่ดีให้กับผู้ใช้งานที่สร้างรายได้ดี Search Engine ของตน ซึ่งเราและผู้อ่านทุกคนจะสังเกตสิ่งใกล้ตัวว่า Google Search สามารถค้นหาและนำเว็บที่มีบทความที่เป็นประโยชน์ลักษณะเดียวกันกับความปรารถนาของ User งานมาแสดงผล (Display) ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้งานทั่วไปงาน Want การที่เราทุกคนจะทำเว็บให้ติดอันดับต้นๆ Google google นั้น สิ่งแรกที่เราและทีมงานควรคำนึงมากที่สุดจริงๆคือ การสร้างเนื้อหาสาระที่มีคุณค่าและเป็นผลดีมากกว่าผลเสียต่อผู้อ่านให้มากที่สุดอย่างแท้จริง การสร้างเนื้อหาวิชาการคุณภาพ Quality Content เป็นสิ่งที่จะทำให้เว็บของคุณเป็นที่สนอกสนใจของกูเกิ้ล ยิ่งถ้าหากพวกท่านเขียนถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับบทความที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านได้รับความรู้คุณภาพ (Quality) และมีรูปแบบทางเอกลักษณ์ Unique Content ที่แตกต่างจากเว็บทั่วไป เว็บของคุณก็ย่อมทำอันดับได้ไม่ยากเย็นอะไรครับ

การทำ seo ให้เว็บติดอันดับหน้าแรก google นั้นย่อมจำแนก (Distinguish) ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ

1. การปรับ SEO On Page
เป็นการปรับให้เว็บรองรับและส่งเสริมการติดอันดับ Google โดยเน้นที่การปรับแต่ง (Customization) ข้างในของเว็บที่จะทำ Rating บน Google ซึ่งการปรับการโปรโมทเว็บวิธีหนึ่งออนเพจมีความสำคัญ (Importance) เพราะจะเป็นการบอกให้ Search Engine เข้าใจว่าเราและผู้อ่านทุกคนกำลังทำเว็บเกี่ยวกับ What? และเว็บของพวกเราทุกคนนั้นอยู่ในหมวดใดของคำค้นหา ไม่เพียงแต่การปรับ On Page จะเป็นการทำให้เว็บค้นหาข้อมูลความรู้รู้จักเว็บของเราและคุณทุกคนว่าเป็นเว็บเกี่ยวกับอะไรแล้ว ยังเป็นองค์ประกอบต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกที่ทำให้เว็บติด Rating Google เพราะหากเราทุกคนเขียน (Write) บทความที่อ่านแล้วมีประโยชน์ที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจอ่านเนื้อหา เมื่อมีคนเข้ามาเว็บเราและเจ้าหน้าที่ทุกคนและเห็นว่าเป็นเว็บที่มีบทความคุณภาพ Quality ก็จะส่งต่อหรือนำไปเผยแพร่ ทำให้เว็บของพวกเราทุกๆคนเป็นที่มีความสนใจมากขึ้นของผู้ที่ ต้องการ (Want) ค้นหาคำตอบข้อมูลและงานที่เกี่ยวข้องกับบทความที่อ่านแล้วมีประโยชน์ที่เราและทีมงานนำเสนอ ซึ่ง เราและทีมงานทุกคนสามารถปรับ seo on page ได้ดังที่ปรากฏนี้

1.1 Title Tag ไตเติ้ลของเว็บไซต์นั้นมีความสำคัญและเป็นตัวที่จะบอกให้ Search Engine รับรู้ว่าเว็บของพวกเราทุกคนมีบทความที่อ่านแล้วได้รับความรู้เกี่ยวกับอะไรและเน้นเรื่องไหนเป็น Special โดย Google จะให้ความระดับชั้นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆของ Title จากซ้ายไปขวา หาก ต้องการเน้นคำไหนก็สามารถเขียนให้อ่านรู้เรื่องเกี่ยวกับคำนั้นอยู่ตอนต้นของประโยคในไตเติ้ลแท็ก สรุปคือไม่ควรกำหนดให้ไตเติ้ลสั้นหรือยาวมากจนเกินไป และไม่ควรใช้คำซ้ำๆ กัน

1.2 Meta Description Tag ในการติดอันดับ Google สิ่งที่เป็นสิ่งที่จะทำให้เว็บค้นหาแนวทางรู้จักและเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเว็บเราและผู้อ่านทุกท่านนั้นมีบทความที่อ่านแล้วมีประโยชน์เกี่ยวกับอะไร นอกจาก Title แล้ว ยังมีอีกแท็กหนึ่งที่เป็นการทำให้กระจ่างภาพรวมของเว็บว่ามีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับ What? นั่นคือ Meta Description นั่นเองครับ ในการทำให้เว็บรองรับ SEO เราควรใส่คำทำให้กระจ่างเว็บลงไปในส่วนนี้ ทั้งนี้นั้นจะเป็นการทำให้ Search Engine นำเว็บพวกเราทุกๆคนไปจัดลำลำดับอย่างถูกต้องตามหลักการตามกลุ่มคำค้นที่มีผลตอบรับดีที่หมวดหมู่เดียวกันกับเนื้อหาสำคัญของเว็บ

1.3 Meta Keywords Tag หากเราและเพื่อนร่วมงาน ความปราถนาให้ Google Search นำเว็บของเราและทีมงานทุกคนไปแสดงตัวในหมวดใด สามารถกำหนดคีย์เวิร์ดที่มีผลตอบรับดีหลักของเว็บได้จากแท็กคำสั่งนี้ ซึ่งคุณสามารถเพิ่ม Keyword ได้มากกว่า 1 คำ โดยมีสิ่งที่ทำขึ้นแสดงความหมาย , (คอมม่า) คั่นกลางระหว่างคำหลัก หรือคำค้นตลาดที่ ปรารถนาที่จะได้ทำอันดับ เทคนิคที่ดีการเพิ่ม Keyword คือ ไม่ควรใส่มากเกินไป และควรเพิ่มคำที่มีอยู่ในบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านของเว็บ

1.4 H1 H2 H3... Tag หากค้น ต้องการอย่างแรงกล้าให้เว็บเป็นที่สนใจของ Google มากขึ้น สามารถใช้แท็กคำสั่ง H1 H2 H3 ในการกำหนดขนาด (Size) ของกระทู้หรือชื่อเรื่องของเนื้อหา และควรมี Keyword หลักของเว็บรวมอยู่ในชื่อเรื่องด้วย

1.5 Strong Tag การใช้คำสั่งการตัวหนา (Strong) ให้กับ Message หรือ Keywords ที่เราและคุณทุกคน ต้องการเป็นเป็นอย่างสูงเน้นนั้น มีความสำคัญ (Importance) ต่อการทำลำดับอยู่ไม่น้อยครับ ทั้งนี้และทั้งนั้นเราและทีมงานย่อมใช้นโยบายขีดเส้นใต้ ตัวเอียง หรือการเพิ่มสีให้กับตัวตัวหนังสือในคำหลักของเว็บ เป็นอีก Factor ที่มีผลต่ออันดับและทำให้ลำดับของเว็บดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ควรใช้มากเกินไป ควรทำอย่างถูกต้อง (Correct) และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติทั่วไป

1.6 Text Link ในหน้าหลักของเว็บที่ ต้องการตามที่ใจปรารถนาโปรโมทเว็บแนะนำเว็บให้คนรู้จักให้ติดอันดับ Google นั้น ควรสร้าง Anchor Text Link คำค้นที่ ปรารถนาทำอันดับที่ดีของเข้าสู่หน้าหลัก ซึ่งในหน้าหลักนั้นหากมีลิงค์ไหนที่มีการเชื่อมต่อไปยังเว็บข้างนอกควรตั้งค่าให้เป็นลิงค์เชื่อมต่อแบบ Nofollow เพื่อไม่ให้สูญเสียค่า ค่าที่กูเกิ้ลใช้กำหนดระดับคุณภาพของเว็บ ไปให้กับเว็บอื่น ส่วนการเกี่ยวโยงลิงค์สิ่งที่อยู่ภายในเว็บควรตั้งค่าเป็นลิงค์แบบ Dofollow ซึ่งโดยปกติแล้วหากเราและสมาชิกทุกท่านไม่ได้กำหนดค่า What?ให้กับลิงค์ Search Engine จะเข้าใจพร้อมทั้งสามารถนำไปประยุกต์ต่อได้ว่าเป็น Dofollow อัตโนมัติ (Automatic) และควรเพิ่มค่า title เพื่อ Explain Link ที่เชื่อมต่อ

1.7 Image การสร้างเว็บนั้นไม่ได้มีเพียงแค่บทความที่เป็นประโยชน์ ข้อความที่แสดงความหมาย เพียงอย่างเดียว การเพิ่มรูปภาพให้กับเว็บไซต์จะช่วยเพิ่มความน่า Interested ให้กับผู้อ่านทุกท่านเนื้อหาที่อ่านแล้วได้รับความรู้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่ง การเพิ่มรูปภาพให้กับเว็บเพจนั้น ควรใช้คำสั่ง alt เพื่อชี้แจงให้เสิร์ทเอนจิ้นเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ารูปภาพนั้นเกี่ยวกับอะไรและมีความลักษณะเดียวกันกับ Article ในเว็บเช่นใด

1.8 Keyword In Content อีกเคล็ดลับหนึ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับแรกและจำเป็นอย่างแท้จริงอย่างยิ่งในการเขียนบทความที่มีสาระบทความคุณภาพที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่านและให้เว็บค้นหาข้อมูลความรู้เข้าใจจากเรื่องราวต่างๆว่าบทความคุณภาพ (Quality Content) ของพวกเราทุกคนมีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับเรื่องไหนเป็นแปลกไปจากสามัญ คือ การใส่ keyword ที่บริเวณตำแหน่งของบทความที่เป็นประโยชน์ในส่วนแรก (First Content) ให้ใส่ คีย์เวิร์ดที่มีผลตอบรับดี ไว้ในตำแหน่งสายงาน 20 - 30 คำแรกโดยโดยประมาณ ให้ชัดเจนอย่างมาก หรืออาจจะใช้ตัวอักษรลักษณะเอียงหรือขีดเส้นใต้ก็ได้ การใส่ keyword ที่บริเวณ บทความคุณภาพในส่วนสุดท้ายของบทความ (The last content) เพื่อเน้นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆหรือใช้ในการสรุปเนื้อหาเนื้อหา (Content) อาจจะใช้เป็นลักษณะขีดเส้นใต้ ตัวเอียงหรือหนา (แนะนำให้ใช้ tag แบบ < b>คีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันกันสูง< /b> หรือแบบ < strong>คีย์เวิร์ดตลาด ก็ได้มีค่าสมมูล เนื่องด้วย Search Engine มีการให้คะแนน (Score) การจัดอันดับหน้าแรกของมากกว่า 200 ปัจจัย (Factor) ) ก็ได้ครับตามแต่จะไม่ยาก

1.9 Keyword In File Name ใช้ Method เพิ่ม keyword ในการตั้งชื่อไฟล์เอกสารสำคัญและโฟลเดอร์ (Folder name, File name) กลยุทธ์นี้ได้ผลเป็นที่ดีมากครับ เพราะเป็น Search Engine จะให้น้ำหนักมวลรวมกับชื่อไฟล์เอกสารหรือโฟล์เดอร์สำหรับจัดเก็บเอกสาร หรือที่เรียกว่า Keyword In File Name เคสที่สามารถยกเป็นตัวอย่างที่เขียนอย่างมีคุณภาพเกี่ยวกับเว็บเองไม่ได้ใช้ CMS สำเร็จรูปอย่าง Wordpress ย่อมที่จะกำหนดค่า .htaccess ในการแสดงชื่อไฟล์เอกสารการทำงาน Language ไทย ตามด้วยนามสกุล .php หรือ html แล้วแต่จะไม่ยาก แนะนำสิ่งดีๆใช้แบบ .php เพราะ .html มีจุดด้อยในการพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นเว็บ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพอย่างชัดเจนเช่น ไม่สามารถ include ระเบียบจากที่อื่นมาได้ ส่วนเรื่องที่สามารถนำมาเป็นตัวอย่างที่ใช้เว็บสำเร็จรูปก็อาจใช้เครื่องหมาย - ในการแยกคำที่มีหลายพยางค์ เป็นต้น

1.9 Keyword In Domain หากท่านสามารถลงทะเบียนใช้งานใช้งาน (Work) Domain Name ได้ตรงกับ Keyword เป็นเรื่องที่ดีมาก หากชื่อไม่ว่างแล้วท่านก็ย่อมที่จะใช้ขั้นตอนนี้ได้เพียงแต่อาจเอาคำอื่นมารวมอยู่กับชื่อที่ตรงคีย์เวิร์ด (Keyword) เรื่องของคำค้นที่มีการค้นหามากในโดเมนนั้นสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่ในปัจจุบันนี้จะต้องทำให้ Quality มากยิ่งขึ้นครับ

2.0 Content อัพเดท การปรับให้เว็บสนับสนุน SEO ด้วยการทำอันดับเว็บบนกูเกิ้ลเสิร์ทเอนจิ้นออนเพจ นั้น นอกที่เราและผู้อ่านทุกท่านจะปรับให้โครงสร้างของเว็บถูกหลักตามมาตรฐานของเว็บแล้ว สิ่งสำคัญมากที่สุดอีกประการหนึ่งก็คือ การหมั่นพยายามเพื่อทำให้เกิดผลสำเร็จอัพเดทบทความบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านของเว็บอย่างเป็นประจำ ต่อเนื่อง เพื่อที่จะให้เว็บมีบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่าน ให้ผู้ที่สนใช เข้ามาอ่านอย่างจริงจังเกี่ยวกับ และ Study หาความรู้และความเข้าใจ จากเว็บของเราและทีมงานทุกคน อีกทั้งเพื่อบอกให้ Google Bot เข้ามา Update Cache ของเว็บเราอย่างต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง เราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บควรอัพเดท (Update) เนื้อหาที่มีประโยชน์ของเว็บอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อที่เป็นการจะทำให้เว็บของเราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บเป็นเว็บที่มีข้อมูลที่เขียนจากการสรุปจากหนังสือใหม่ สด และ Helpful ต่อผู้ใช้ทั่วไป Work อยู่เสมอ

2. การปรับ SEO Off Page
เป็นการปรับให้เว็บรองรับและช่วยเหลือการติดอันดับ Google โดยเน้นที่การปรับปัจจัยภายนอกเป็นหลัก กล่าวคือ เป็นการเขียนบทความเน้นคุณภาพบทความ (Article) คุณภาพที่ทุกคนมั่นใจที่น่าเป็นที่สนใจและเป็นมิตรกับผู้ที่สนใจอ่านบทความและทำการ Link ลิงค์ไปยังเว็บหลัก หรือเรียกว่า การสร้าง Back Link ซึ่งการปรับการทำให้เว็บติดหน้าแรกออฟเพจที่ถูกต้องตามแนวปฏิบัตินั้น ควรให้ความสำคัญ (Importance) ของคุณภาพที่ดีของ Article และความ Helpful ต่อผู้ที่ชอบอ่านบทความเพื่อแสวงหาความรู้เป็นหลักครับ เนื่องด้วยเหุตผลหากเขียนให้อ่านเข้าใจง่ายเกี่ยวกับบทความคุณภาพที่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อ่านที่น่าสนใจก็จะมีผู้ที่เข้ามาอ่านและทำความเข้าใจนำหน้าเว็บดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ ซึ่งเป็นการสร้าง Back Link ที่ถูกต้องตามหลักการและเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติทั่วไป การสร้าง Network ส่วนตัวก็เป็นการทำ SEO Off Page อีกแบบหนึ่งเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่Promote Web มีการเขียนบทความถ่ายทอดประสบการณ์บทความที่อ่านแล้วมีประโยชน์ให้มีคุณภาพหลายคนไว้วางใจและมีประโยชน์มากน้อยเพียงใด หาก Write เนื้อหาคุณภาพที่ดีและเป็นมิตรกับผู้ที่ชอบการอ่านแน่นอนรับประกันได้ว่าหน้าเว็บเหล่านั้นก็จะขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของผลการค้นหาข้อมูลใหม่ Google และส่งผลให้เว็บหลักมีอันดับที่ดีขึ้นอีกด้วยครับ สรุป (Summary) คือ การสร้างลิงค์เชื่อมโยงจากภายนอกเข้าสู่หน้าเว็บหลักที่ ความต้องการทำอันดับต้นๆนั่นเองครับ

2.1 Link Building การสร้างลิงค์ที่ถูกต้องและเป็นธรรมชาติที่สุดนั้น ควรให้สิ่งสำคัญอันดับต้นๆกับคุณภาพที่ทุกคนมั่นใจของบทความที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์เป็นอันแรก หากเนื้อหาวิชาการไม่ได้ Quality และมีการเชื่อมโยง Anchor Text Link ไปหาเว็บหลักก็ไม่มี Efficiency และอาจทำให้อันดับหน้าแรกแย่ลงกว่าเดิม การสร้างเนื้อหาวิชาการที่มีคุณค่าและมีความโดดเด่นจะช่วยทำให้ลิงค์เหล่านั้นสามารถดันอันดับหน้าแรกของเว็บหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.2 Keyword Diversify การติดอันดับ Google ณ ตอนนี้แตกต่างจากยุคที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง Google เน้นคุณภาพที่ทุกคนมั่นใจมากขึ้น การโปรโมทเว็บโฆษณาออนไลน์ต้องให้ความสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้และรับผิดชอบต่อเนื่องต่อผู้ค้นหา (Search) ข้อมูลที่จำเป็นและมีประโยชน์ผ่านทาง Search Engine มากขึ้น เนื้อหาสำคัญที่นำไปปรากฏอย่างชัดแจ้งต่อผู้ที่ชอบอ่านหนังสือจึงควรเป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์ที่มีประโยชน์และเป็นที่ ความต้องการของผู้ค้นหาข้อมูลความรู้อย่างแท้จริง การที่มุ่งหวังผลแต่เพียงอันดับหน้าแรกอย่างเดียว โดยการใช้ Keyword ซ้ำๆ ในการทำอันดับหน้าแรกของนั้นไม่เป็นเป็นประโยชน์เป็นคุณต่อการโปรโมทเว็บเพื่อทำอันดับในยุคที่อัลกอลิทึมเน้นคุณภาพที่ดี หาก ความปราถนาที่จะทำอันดับที่ดีของบน Google Search คุณควรเปลี่ยน Keyword Link ตามความ Appropriate ของ Content เพื่อ Link ไปหาเว็บหลักอย่างสัมพันธ์ซึ่งกันและกันกัน การสร้างลิงค์คุณภาพที่แท้จริงจึงควรมีการปรับ Keyword Diversify อย่างอย่างเหมาะสมและมีคุณภาพที่ได้รับการยืนยันตลอดจนสามารถ Link เนื้อหาที่มีสาระที่ผู้ค้นหาคำตอบข้อมูลข่าวสาร ต้องการอย่างแท้จริงอย่าง Creative

2.3 Page Rank ในการติดอันดับ Googleในยุคนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าค่า PR ไม่มีความสำคัญ อันที่จริงแล้ว Google ใช้ปัจจัยที่มีผลกระทบมากมายก่ายกองในการจัดอันดับต้นๆและค่า PR เป็นหนึ่งใน Factor หนึ่งที่มีผลต่ออันดับต้นๆของเว็บไซต์ ในขณะที่เว็บไซต์ปริมาณของ Back Link และคุณภาพที่ทุกคนมั่นใจของเนื้อหา (Content) อยู่ในระดับเดียวกัน เว็บที่มีค่า Page Rank สูงกว่าจะมีอันดับที่ดีของที่สำคัญกว่า ทั้งนี้นั้นค่าดังกล่าวนี้จะเป็นการกำหนดให้เข้าใจว่าเว็บนั้นมีคุณภาพหลายคนไว้วางใจมากน้อยเท่าใด ซึ่งมีค่าตั้งแต่ 0 - 10 การอันจะทำเว็บของเราและสมาชิกทุกท่านมีค่า ค่าที่กูเกิ้ลใช้กำหนดระดับคุณภาพของเว็บ ที่สูงขึ้นนั้น เราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บย่อมไปเขียนถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับบทความที่น่าสนใจในเว็บที่มีค่า PR สูงๆ และทำสร้าง Link กลับไปยังเว็บหลัก

2.4 Social Network แนวทาง (Approach) การ Promote Web เพื่อทำ Rating บน Google อีกปัจจัยที่เกี่ยวข้องหนึ่งที่มีความสำคัญอันดับต้นๆต่อลำดับอย่างมาก คือ Link จากเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google Plus, Twitter และ Youtube เป็นส่วน Significant ในการทำลำดับอย่างมาก การแชร์บทความ (Content) คุณภาพที่แท้จริงผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คและการสร้างวีดีโอเผยแพร่บน Youtube เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่จะช่วยให้อันดับหน้าแรกเว็บของคุณดียิ่งขึ้น

2.5 Unique Content ในการโปรโมทเว็บติดอันดับ Google นั้น สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือ การสร้างบทความที่เขียนขึ้นจากหนังสือหลายๆเล่มคุณภาพสูงไม่ซ้ำคนไหนที่มีความอยากรู้อยากเห็น หรือที่เรียกว่า Unique Content หรือ อาจเรียกอีกอย่างว่า Quality Content โดยที่เนื้อหาคุณภาพหลายคนไว้วางใจ จะต้องเป็นการสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมดทั้งมวล และมีเนื้อหาวิชาการที่ครอบคลุม ภาษา (Language) เขียนให้อ่านรู้เรื่องเกี่ยวกับได้ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนตามหลักไวยกรณ์ และประโยคที่เขียนเป็นมิตรกับผู้ที่สนใจอ่านเนื้อหา เนื้อเรื่องนั้นจะต้องให้สาระประโยชน์แก่ผู้ที่ชอบอ่านบทความเพื่อแสวงหาความรู้ ตลอดจนอธิบาย (Explain) เนื้อหาที่แสดงอย่างละเอียดเรื่องนั้นๆ ได้อย่างลึกซึ้ง ผู้ที่เข้ามาอ่านหลายๆรอบให้เข้าใจเกี่ยวกับบทความแล้วได้รับความรู้ที่เป็นผลมาจากการศึกษาค้นคว้าโดยที่เข้าใจพร้อมทั้งสามารถนำไปประยุกต์ต่อได้ข้อมูลและรายละเอียดต่างๆได้ในระดับที่ดี การสร้าง Back Link ด้วยบทความคุณภาพ Unique Content จึงเป็นการทำอันดับ (Rating) ที่มี Efficiency ทำให้เว็บที่ทำ SEO ด้วย Method คุณภาพที่ได้รับการยืนยัน สามารถติด Rating ได้อย่างยาวนานมากจริงๆ อยู่ได้นานๆ แคล้วคลาดจากอันตราย

สรุป (Summary) การทำ seo ด้วยวิธีติดหน้าแรก Google ด้วยBack Link คุณภาพ มี 2 แบบ คือการปรับให้เว็บสนับสนุน search engine ด้วยการปรับ seo on page และการปรับให้เว็บรองรับเสิร์ทเอนจิ้นด้วยการปรับ seo off page ซึ่งสิ่งสำคัญเป็นอันดับแรกที่สุดคือการเน้นคุณภาพที่แท้จริงของเนื้อหาสาระและปฏิบัติตามกฎ (Rule) และโนโยบายที่ร่างขึ้นให้ทุกคนทำตามของ google เพราะเหตุนั้นสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆของการโปรโมทเว็บทำการตลาดออนไลน์ให้ติดอ

รูปติดอันดับ Google วิธีเพิ่มค่า PR อย่างถูกต้อง เว็บ seo4toprank รับโปรโมทเว็บ ทำอันดับ Google ด้วยการสร้างบทความคุณภาพ สายด่วน One 2 Call 087-1736064

ติดอันดับ Google ติดลายเซ็นต์สนับสนุน seo เว็บไซต์ seo4toprank รับโปรโมทเว็บ ติดอันดับ Google ด้วยเนื้อหาคุณภาพ ปรึกษาได้ที่ 087-173-6064
อ้างอิงจาก: ติดอันดับ Google
Keyword: ติดอันดับ Google
อ้างจาก: ติดอันดับ Googleติดอันดับ Google วิธีเพิ่มค่า PR อย่างถูกต้อง เว็บ seo4toprank รับโปรโมทเว็บ ทำอันดับ Google ด้วยการสร้างบทความคุณภาพ สายด่วน One 2 Call 087-1736064
หมวดหมู่ของเว็บ: SEO
โพสโดย: SEO4TopRank
Main Page: http://www.seo4toprank.com/ติดอันดับgoogle.php
ดูข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.seo4toprank.com/seo_package.php
ติดต่อเรา: http://www.seo4toprank.com/seo_contact.php
บล็อก: SEO4TopRank
ชื่อ: สันทรายคอมพิวเตอร์ กรุ๊ป
หมายเลขโทรศัพท์: 087-1736064
เมล์: seo4toprank@gmail.com
ที่อยู่: 314/28 หมู่ 2 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50210
ประเภทกิจการ: ผู้ให้บริการรับทำ SEO โปรโมทเว็บติดอันดับ Google
#49
ศึกษาด้วยตนเองทำ SEO โดยweb www.seo4toprank.com รับโพสต์บทความเข้าสู่เว็บบอร์ด บริษัท seo4toprank รับโปรโมทเว็บ ติดอันดับ Google ด้วยวิธีที่ถูกต้อง สอบถามข้อมูล 0871736064 อัพเดทความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทำ SEOอ่านรายละเอียดดังกล่าวได้จากบทความนี้ครับ  สวัสดีที่มาเยี่ยมเราครับทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านอย่างขยันขันแข็งเกี่ยวกับบทความคุณภาพเกี่ยวกับการทำการโปรโมทผ่านระบบออนไลน์ผ่านทาง Search Engine หรือที่เรียกว่า SEO ซึ่งเป็นคำที่ย่อมาจากคำว่า Search Engine Optimize เป็นการปรับให้เว็บสนับสนุนและรองรับการทำงานที่มีประโยชน์ของเสิร์ทเอนจิ้นนั่นเองครับ การทำให้เว็บสนับสนุนเสิร์ทเอนจิ้นนั้นมีอยู่หลายกลยุทธ์และหลายขั้นตอน (Step) อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้สร้างและออกแบบ (Design) เว็บว่ามีเทคนิคเฉพาะตัวและวิธีและขั้นตอนการอย่างไร ทั้งนี้และทั้งนั้นเครื่องมือในการทำงานที่ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานในการปรับให้เว็บส่งเสริม google search ก็คือ Google Webmaster Tools เป็นเครื่องมือในการทำงานที่ช่วยให้นักพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้นเว็บไซต์สามารถทำให้กูเกิ้ลเสิร์ซรู้จักและเข้าใจและสามารถเขียนสรุปโครงสร้างของเว็บได้ง่าย (Easy) และรวดเร็ว อีกทั้งเจ้าของเว็บย่อมเข้าการจัดการเว็บของตนเองเพื่อให้ทำ Work สอดคล้องกับเสิร์ทเอนจิ้น และการใช้เครื่องมือในการทำงาน Type นี้ก็ซึ่งจะทำเว็บ Index ง่ายและสะดวกขึ้น คำว่า ถูกจัดเก็บไว้ในระบบค้นหาของกูเกิ้ล หมายความถึง การที่ google search นำเว็บของเราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไปปรากฏอย่างชัดแจ้งในผลการค้นหาวิธีทำ Search Engine Result Pages (SERPs) อย่างไรก็ตามการที่ซึ่งจะทำให้เว็บ Index ง่ายแบบสบายมือเลยนั้นเว็บนั้นๆต้องเขียนบทความที่เขียนขึ้นด้วยการสรุปใจความสำคัญคุณภาพที่แท้จริง (Unique Content) ที่ไม่ซ้ำกับเว็บอื่นด้วย นอกจากนี้แล้วเครื่องมือที่ใช้ทุ่นแรงที่ช่วยให้นัก Develope เว็บหรือเจ้าของย่อมทราบเนื้อหาส่วนที่สำคัญของเว็บทั้งหมดที่คำนวณได้ก็คือ Google Analytics เป็นส่วนที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปงานที่ตัวเองชอบทราบว่าเว็บมีจำนวนผู้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ง Traffic มาจากไหน และมีปริมาณการเข้า-ออกหน้าไหนมากที่สุดเท่าที่ทำได้ และยังย่อมบอกได้อีกว่าหน้าไหนที่มีผลตอบรับที่ดี เพื่อนักการกระตุ้นยอดใช้สินค้าและบริการออนไลน์ (Online) หรือพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพของผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ ต้องการ (Want) ทราบรายละเอียดของคีย์เวิร์ดแต่ละคำว่า คำไหนที่มีคนค้าหามากที่สุดอย่างแท้จริงและกำลังได้รับความนิยมเกี่ยวกับ ก็สามารถใช้งานที่มีผลตอบแทนดี Google Keyword Tool และ Google Trend ได้ครับ สิ่งสำคัญมากที่สุดที่ส่วนตัวผมอยากให้คำแนะนำผู้ที่เป็นที่สนใจและกำลัง ปรารถนาที่จะได้ทำ SEO ก็คือ การทำให้บรรลุเป้าที่วาวไว้ทำตามกฎที่มีความศักดิ์สิทธิ์และกฎที่ออกมาและบังคับใช้ของเว็บค้นหากูเกิ้ลอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเข้าใจและสามารถเขียนสรุปจุดประสงค์ที่ระบุไว้ของเสิร์ทเอนจิ้นที่ ต้องการเป็นอย่างยิ่งบทความคุณภาพที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่านที่มีคุณภาพที่ทุกคนมั่นใจและเป็นประโยชน์เป็นคุณต่อผู้ค้นหาแนวทางข้อมูลสารสนเทคนั่นเองครับ และทาง google ได้มุ่งมั่นระบบค้นหาแนวทางของตัวเองอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องอย่างไม่ขาดตอน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างระบบคำสั่งเงื่อนไขสลับซับซ้อน (Algorithm) อย่าง - Google Panda ที่มีหน้าที่ตรวจเช็คอย่างเข้มข้นความถูกต้องตามขั้นตอนของเนื้อหาวิชาการของเว็บทั่วโลก รวมทั้่งการวิเคราะห์ (Analyze) ว่าบทความคุณภาพมีคุณภาพหลายคนไว้วางใจมากหรือน้อย Size ไหน ตลอดจนตรวจเช็คความมีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกันของ Content เว็บหลักและเนื้อหาที่อ่านแล้วได้รับความรู้จากลิงค์ภายนอก - Google Penguin ที่มีหน้าที่ตรวจสอบอย่างเคร่งครัดความถูกต้องตามหลักของเหตุผลของ Links ที่ Link กันว่ามีความเป็น Nature มากน้อยเพียงใด และมีการเพิ่มขึ้นหรือถดถอยผิดปกติหรือไม่ จากเนื้อหาที่มีสาระข้างต้นอันจะทำให้ทุกคนพอเข้าใจพร้อมทั้งสามารถนำไปประยุกต์ต่อได้เกี่ยวกับ google search ขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ แล้วหากถามว่าเราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บควรที่จะทำ SEO ด้วยตนเอง หรือไปจ้างบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือทำ SEO เป็นผู้โปรโมทเว็บผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งส่วนตัวกระผมแนะนำ (Recommend) ครับว่าหากท่านมีงบประมาณแต่ไม่มีวันเวลาอันมีค่าการเลือกใช้บริการ SEO จากบริษัท หน่วยงาน และองค์กรที่มีความสารถและประสบการณ์ที่มีอยู่นั้นเป็นสิ่งที่จะทำให้เว็บท่านติดอันดับหน้าแรกของกูเกิ้ลได้ครับ ซึ่งปริมาณค่าบริการที่มีคุณภาพรับทำ SEO ของแต่ละแห่งนั้นไม่ตรงกันรวมไปถึงระยะเวลา (Time) ในการทำอันดับที่ดีของก็จะแตกต่างกัน สรุปคือเนื่องด้วยเหุตผลแต่ละบริษัทที่ปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลหรือผู้รับทำ SEO นั้นมีเทคนิคพิเศษและกลยุทธ์การที่ไม่เหมือนกันจนแยกไม่ออกครับ แต่จุดประสงค์ของการดำเนินงานหลักก็คือการทำให้เว็บช่วยเหลือเสิร์ทเอนจิ้นให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ หรือที่เรียกว่า Search Engine Optimize เพื่อท่านใดที่มี Time และมีเงินแต่ไม่อยากจ้างมนุษย์คนไหนทำอันดับหน้าแรกของให้ก็ย่อมค้นคว้าหาข้อมูลคุณภาพที่มีประโยชน์ต่างๆและลงมือปฏิบัติด้วยตัวเองได้ครับ จงจำให้ขึ้นใจครับว่าหากท่าน ต้องการตามที่ใจปรารถนาโปรโมทเว็บเพื่อทำอันดับให้ติดอันดับที่ดีของ Google สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกสิ่งที่เป็นอันดับแรก คือ การที่เราทุกคนเขียน (Write) บทความที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์คุณภาพทั้งในส่วนของ On Page และ Off Page ครับ

การทำ SEOให้เว็บติดอันดับหน้าแรกของ google นั้นสามารถจำแนกตามหมวดหมู่ที่กำหนดออกเป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ

1. การบริการที่มีคุณภาพ SEO ให้ติดอันดับต้นๆของด้วยเทคนิค (Technique) "SEO On Page" เป็นการการเน้นการปรับแต่งให้ดีกว่าเดิมข้างในเว็บเป็นหลัก ซึ่ง ส่วนตัวกระผมต้องบอกกับท่านผู้ที่รักการอ่านทุกๆ ท่านก่อนครับว่า ทีมงานของเราและเจ้าหน้าที่ทุกคนได้ให้ความสำคัญอย่างแท้จริงเรื่องของการปรับ On Page เป็นอย่างมากครับ ด้วยเหตุผลที่ว่าการปรับให้เว็บช่วยเหลือ Search Engine ที่ดีก็คือการทำให้เสิร์ทเอนจิ้นตระหนักดีว่าเราและคุณทุกคนกำลังทำเว็บเกี่ยวกับ What? สื่อถึงอะไร และ ต้องการอย่างแท้จริงให้เว็บ Search นำเว็บเราและผู้อ่านทุกท่านไปจัดอยู่ในหมวดหมู่ที่กำหนดคำค้นหาข้อมูลใหม่ (Keyword) ในกลุ่มใด ซึ่งที่ส่วนตัวกระผมพูดมาทั้งหมดเบ็ดเสร็จอยู่ในการปรับแต่งในส่วนของออนเพจทั้งสิ้นครับ เริ่มต้นแต่การปรับในส่วนของ Title Tag, Meta Description Tag, Meta Keyword Tag ซึ่งมีความคัญมากครับ เพราะการกำหนดในส่วนนี้นั้นจะทำ Search Engine เข้าใจเป็นอย่างดีว่าเว็บของเราและเจ้าหน้าที่ทุกคนอยู่ในกลุ่มคีย์เวิร์ด (Keyword) ไหน ในหน้าเว็บนั้นควรแทรกภาพพร้อมทั้งใช้คำสั่ง alt เพื่ออธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งรูปว่ามีความหมายอย่างไร เว็บที่ดีควรมีการเพิ่มไฟล์เอกสารที่เกี่ยวกับงาน Video เข้าไปเพื่อเป็นการนำเสนอ (Present) Content ที่หลากหลายให้กับคนที่เข้ามาอ่านหลายๆรอบให้เข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาที่มีสาระ อีกทั้งควรนำเอาระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ดมาติดสิ่งที่อยู่ข้างในเว็บไซต์ด้วยเพื่อทำให้ค้นย่อมแชร์หรือแนะนำสิ่งที่ดีเว็บเราและทีมงานต่อได้ หรือไม่ก็ใช้เป็นส่วนที่ติดต่อแผนกให้บริการกับลูกค้า และจริงแท้แน่นอนครับว่า Social Network ลำดับต้นๆที่ได้รับความสนอกสนใจเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google+, Twitter, Youtube ฯลฯ เป็นต้น ในการนำระบบชุมชนออนไลน์มาติดไว้ภายในเว็บไซต์ของเราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บนอกจากที่จะย่อมติดต่อฝ่ายขายสื่อสารเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกันกันได้ง่ายยิ่งกว่าอะไรแล้ว ยังสร้างสิ่งที่ทำให้เชื่อถือย่างแท้จริงอีกด้วย ที่ละเลยไม่ได้มันทำให้อันดับที่ดีของดีขึ้นอย่างชัดเจนกระจ่างแจ้ง และสิ่งที่ละเลยไปไม่ได้ก็คือ การเพิ่ม Tag คำสั่ง H1, H2, H3, Storng, Under Line และ Font Color เข้าไปในเนื้อหาคุณภาพ พร้อมทั้งมีการกำหนดขนาดฟอนท์อย่างอย่างเหมาะสม (Font Size) และจัดองค์ประกอบทั้งหมดของเว็บและตำแหน่งงานของเว็บ (Web Layout) ให้ช่วยเหลือผู้ที่เข้ามาอ่าน (Read) ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นหลัก และบทความคุณภาพและดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นำมาโพสหรือเขียนให้อ่านรู้เรื่องเกี่ยวกับไว้ในเว็บไซต์จะต้องเป็น Content คุณภาพจริงๆ ไม่ได้คัดลอกจากต้นฉบับมาจากเว็บอื่น อีกทั้งเนื้อหาต้องมีประโยชน์ต่อผู้ที่รักการอ่านไม่มากก็น้อยครับ การทำอันดับหน้าแรกบน Google ในยุคสมัยณ ขณะนี้ต้องทำเพื่อคนดูครับ ไม่ใช่ทำเพื่อ Google Bot ดูหรืออ่านและท่องจำ มีบริษัทที่รับ Promote Web และนักทำ SEO โดยส่วนมากไม่ได้เห็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆของบทความที่เป็นประโยชน์มากนักและบ่อยครั้งที่มีการคัดลอกจากต้นฉบับมากจากเว็บอื่นแล้วมา Spin บทความ (Content) (ซึ่งไมแนะนำสิ่งที่ดีให้สลับตำแหน่งเนื้อหาบทความที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์ เนื้อหาสำคัญที่มีคุณภาพที่แท้จริงต้องเขียนให้อ่านเข้าใจง่ายเกี่ยวกับด้วยตนเอง) และในหน้าที่เป็น Landing Page หรือหน้าหลักที่จะทำอันดับหน้าแรกบน Search Engine นั้น ควรมี Link ที่เป็น คำค้นที่มีการแข่งขันกันสูงเวร์ด ในหน้านั้นๆ ด้วยครับ และข้างในบทความที่อ่านแล้วมีประโยชน์จะต้องมีคำค้นที่มีการแข่งขันกันสูงอยู่ในเนื้อหาคุณภาพนั้นไม่มากเกินไปและไม่น้อยจนเกินไปครับ เพียงเท่านั้นก็สามารถปรับให้เว็บส่งเสริม Search Engine Optimize ได้ในช่วงหนึ่งแล้วครับ ต่อไปเราและผู้อ่านทุกท่านจะ Study ในหัวข้อหลักที่สองซึ่งจะเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนเว็บให้ส่งเสริม SEO จากส่วนประกอบภายนอกหรืออาจเรียกว่า External Factor ครับ สรุปรวบยอดในส่วนของการทำ SEO On Page นั้น เว็บมาสเตอร์หรือเจ้าของเว็บควรเขียนอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านคุณภาพไม่ซ้ำบุคคลใดที่มีความอยากรู้อยากเห็น โดยมีจุดประสงค์ของโครงงานเพื่อให้ผู้ที่ชอบอ่านเนื้อหาเพื่อแสวงหาความรู้ได้รับประโยชน์จากการ Read Content ดังกล่าว และสิ่งที่อยู่ภายในบทความ (Content) จะต้องมีคีย์เวิร์ดอย่างอย่างเหมาะสม ตลอดจนปรับเปลี่ยนโครงสร้างที่เป็นรูปแบบมาตรฐานของเว็บให้อ่านและทบทวนง่ายมากมาย มีการเน้นคำในส่วนที่ ปรารถนาที่จะได้ให้ผู้ที่ชอบอ่านเนื้อหาเพื่อแสวงหาความรู้ข้อสังเกตุและเข้าใจและสามารถเผยแพร่ความรู้ให้ผู้ที่สนใจความหมายของประโยคบอกเล่า และเว็บควรมีการ Update อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพราะเหตุนั้นเพื่อให้เว็บมีความเคลื่อนไหวซึ่งเป็นที่สนใจเป็นอย่างมากของ google bot อีกทั้งยังทำให้ปริมาณการ index ของเราและคุณทุกคนเพิ่มขึ้น เพราะ Google ปรารถนาที่จะได้เว็บที่มีข้อมูลที่มีการอัพเดทล่าสุดใหม่และมีประโยชน์อีกทั้งชอบเว็บที่มีโครงสร้าง (Structure) ที่ใหญ่มีเนื้อหาที่อ่านแล้วมีประโยชน์ที่หลายอย่างต่างๆ กันและมีคุณภาพที่ได้รับการยืนยัน

2. การโปรโมทเว็บประชาสัมพันธ์เว็บด้วยกระบวนการติดอันดับกูเกิ้ล ให้ติดลำดับด้วยเทคนิคเฉพาะ "SEO Off Page" เป็นแนวทางการทำอันดับหน้าแรกบน google search โดยมุ้งเน้นในการปรับให้ส่งเสริม search engine จากปัจจัยทั่วไปภายนอกเป็นหลัก ซึ่งได้แก่ การเขียนข้อความ Unique Content คุณภาพที่ทุกคนมั่นใจ Quality Content หรือจะเรียกว่า Unique Content ก็ได้ แล้วสร้างลิงค์เชื่อมโยงมายังเว็บหลัก โดยให้ทำเป็น Keyword Link กลับมายังเว็บที่ ต้องการดันอันดับ ที่มักได้ยินบรรดานักทำ SEO พูดกันว่า "Anchor Text Link" ซึ่งเราทุกคนเรียกหลักการเขียนบทความที่เขียนขึ้นเพื่อผู้อ่านและสร้างลิงค์ไปหาเว็บหลัก (Money Site) ว่า "การสร้าง Back Link" ซึ่งแบ็คลิงค์จะช่วยประสานให้อันดับที่ดีของเว็บดีขึ้นครับ แต่อย่างใดก็ตามเราต้องให้สิ่งที่สำคัญเรื่องของการเขียนเนื้อหาที่เป็นมิตรกับผู้อ่านเนื้อเรื่องที่ดีและมีประโยชน์อย่างแท้จริงครับ หากสร้างแบ็คลิงค์ด้วยบทความที่เขียนขึ้นด้วยการสรุปใจความสำคัญซ้ำๆ กัน ไม่ได้ส่งผลให้อันดับหน้าแรกดีขึ้น ถ้ามีก็น้อยมากครับ การสำเนาและโพสเนื้อเรื่องซ้ำๆ นั้นไม่เป็นเป็นผลดีมากกว่าผลเสียต่อการทำ SEO ครับ แทนที่เป็นการจะทำให้อันดับของเว็บมี Ranking ที่ดีขึ้นแต่กลับมีอันดับ (Rating) ร่วงไปอีก การเขียนเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านบทความที่เขียนขึ้นจากหนังสือหลายๆเล่มที่มีคุณภาพที่ได้รับการยืนยันกลับมายังเว็บหลักนั้นจะส่งเป็นประโยชน์เป็นคุณต่ออันดับที่ดีของและยังเป็นการเพิ่มค่า ค่าที่กูเกิ้ลใช้กำหนดระดับคุณภาพของเว็บ (ค่าที่ google ใช้กำหนดคุณภาพที่ทุกคนมั่นใจของเว็บว่าอยู่ในระดับใด ซึ่งมีตั้งแต่ค่า 0 - 10) ของเว็บอีกด้วยครับ ซึ่งในการสร้าง back link ที่ดีและมีทำให้ดีกว่าเดิมมากนั้นควรสร้างหรือเขียนให้อ่านเข้าใจง่ายเกี่ยวกับเนื้อหากับเว็บที่มีค่า page rank สูงๆ ซึ่งจะช่วยได้มากในการทำ Rating ครับ ยกตัวอย่างเช่นเช่น การไปเขียนอย่างมีคุณภาพเกี่ยวกับบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านที่มีสาระและเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงจากเว็บดังๆ อย่าง sanook.com, dealfish.co.th, blogger.com, wordpress.com ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งมีเว็บไซต์ที่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ฟรี เว็บบอร์ดฟรี จำนวนมากที่มีคุณภาพที่ดีและมีค่า Authority Ranking ที่สูงและเว็บที่มีคนเข้าไปใช้บริการที่ได้มาตรฐานมากๆ นั้น ซึ่งเป็นการจะทำให้ google bot ชอบมาเก็บข้อมูลที่เขียนจากการสรุปจากหนังสือ crawling ซ้ำแล้วซ่ำเล่า ทำให้บทความ (Article) ที่เราและทีมงานทุกคนเขียนอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับนั้นมีการ Index ที่รวดเร็ว (Fast) ครับ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการทำ on page ก็คือ การนำระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ดมาใช้ในการสร้าง bl ไม่ว่าจะเป็น Google Plus, Facebook, Twitter, Youtube ซึ่งจะช่วยจัดการให้อันดับที่ดีของดีขึ้นและยังทำให้อันดับหน้าแรกเว็บนิ่งและติดอันดับหน้าแรกนาน อย่างใดก็ตามการโปรโมทเว็บให้ติด Top 10 ของ Google google นั้นสำคัญเป็นอันดับต้นๆทั้งในส่วนของ On Page และ Off Page ครับ ต้องทำควบคู่กันไปครับ ผู้ที่รับโปรโมทเว็บประกาศเว็บไซต์ให้ติดอันดับที่ดีของต้นๆของผลการค้นหาแนวทางของเสิร์ทเอนจิ้น หลายรายบ้างก็บอกว่าการทำ On Page Significant กว่า ปรับแต่งให้ดีขึ้นออนเพจอย่างเดียวก็ย่อมทำอันดับที่ดีของได้ บ้างก็บอกว่าออนเพจไม่สำคัญ (Significant) เท่ากับออฟเพจ สร้างแบ็คลงค์มากๆ ยังไงก็ติดอันดับหน้าแรกของได้ไม่ยาก ด้วยประสบการณ์ทั้งหมดของผู้เขียนบทความอยากจะแนะแนวให้กับผู้ที่ชอบการอ่านทุกท่านในที่นี้ว่า การทำ SEO นั้นไม่ได้เน้นหนักไปทางใดทางหนึ่งครับ หากแต่ต้องทำควบคู่กันไปอย่างสมดูลโดยที่ยึดหลักเน้นคุณภาพไว้ก่อนตามที่กูเกิ้ลเสิร์ซ ต้องการอย่างแรงกล้า ถ้ามัวแต่ปรับออนเพจอย่างเดียวไม่สร้างออฟเพจอย่างนี้ลำดับก็ขึ้นยาก หรือถ้ามัวแต่สร้างออฟเพจในขณะที่ออนเพจไม่ได้คุณภาพเว็บก็ไม่สามารถที่จะอยู่อันดับที่ดีของต้นๆ ของผลการค้นหา (Search) ได้ครับ และขอเน้นย้ำให้กับผู้อ่านทุกท่านผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บทุกคนว่าอดทนและพยายามเขียนให้อ่านรู้เรื่องเกี่ยวกับบทความคุณภาพที่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อ่านที่เป็นมิตรกับนักอ่านให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้เท่าที่จะทำได้ครับ

ทำความเข้าใจอย่างละเอียดกับ Google Panda
บริษัทที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย Google ได้ทำให้ดียิ่งขึ้นระบบค้นหาข้อมูลใหม่ Search Engien ของตนเองมาโดยตลอด และไม่คอยอยุดนิ่งอยู่กับที่ และ Google Panda ก็เป็น Algorithm อีกตัวหนึ่ง ที่ทางกูเกิ้ลเสิร์ซได้ทำให้ดียิ่งขึ้นขึ้น เพื่อที่จะตรวจสอบคุณภาพที่แท้จริงของเนื้อหาที่มีประโยชน์ของแต่ละเว็บ โดยมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบอย่างจริงจังความถูกต้องของบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่าน ว่าเว็บไหนมีคุณภาพที่แท้จริงและมีเนื้อหาวิชาการที่ต้องกับสิ่งที่ปรารถนาของผู้ค้นหาคำตอบมากที่สุดจริงๆ และยังตรวจเช็คอย่างเข้มข้นเว็บเนื้อหาที่มีสาระขยะ หรือ Spam Content หากตรวจพบก็จะถูกทำโทษโดยการ ลดอันดับต้นๆผลการค้นหา (Search) ลดปริมาณการถูกจัดเก็บไว้ในสารบัญค้นหา และหากพบว่าเว็บหรือเว็บเพจดังกล่าว ผิดกฎอย่างร้ายแรงก็จะถูกแบน เพราะเป็นเช่นนั้นหากเว็บใด Write บทความคุณภาพที่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อ่านคุณภาพแล้วก็จะส่งผลให้อันดับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ การทำ SEO ดันอันดับหน้าแรกเว็บคุณภาพ (Quality) ก็จะทำได้ง่ายกว่าวิธีอื่นเป็นอย่างมากกว่าเว็บที่ไม่มี Quality

ทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้กับ Google Penguin 2.1
มาทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับอัลกอริทึมที่อัพเดท (Update) ของ google ซึ่งในที่นี้ผู้เขียนจะพูดถึง google penguin 2.1 ที่ปล่อยออกมาเมื่อไม่นานมานี้ สิ่งที่เปลี่ยนไปสำหรับการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร penguin 2.1 คือ เว็บที่มีคุณภาพ (Quality) ในวิสัยทัศน์ของ Google Inc.จะขึ้นมาแทนที่เว็บที่ไม่มีคุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่นและเน้นการทำ SEO มากจนเกินไป หรือที่เรียกว่า "Over SEO" เป็นการใช้คำที่เป็นคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหามากซ้ำกันมากเกินไป อีกทั้งแล้วเว็บไหนก็ตามที่มีการสร้างลิงค์อย่างผิดเคล็ดลับและมีการเพิ่มปริมาณของลิงค์มากกว่าปกติในวันเวลาสิ่งที่มีค่าที่รวดเร็ว (Fast) ก็จะทำโทษจากกูเกิ้ลเสิร์ซ อีกทั้งแล้วการพยายามจนทำให้เป้าหมายบรรลุทำ SEO ที่ผิดกฎที่ถูกคนต้องทำตาม ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อ Link เพื่อ ต้องการอย่างแท้จริงเพิ่มค่า ค่าที่กูเกิ้ลใช้กำหนดระดับคุณภาพของเว็บ หรือการใช้ลิงค์แบบ anchor text ติดที่ตำแหน่งพิกัด footer ล้วนเป็นวิถีทางที่ไม่ถูกต้องตามหลักการ เพราะกูเกิ้ลเสิร์ซ ความต้องการให้เว็บของตัวของคุณเองมี Quality มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม Search ข้อมูลที่เขียนจากประสบการณ์ได้ตรงกับสิ่งที่ปรารถนาของผู้ใช้ที่เป็นสมาชิก Work มากที่สุดจริงๆ การสร้าง Unique Content คุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่นและทำอย่างถูกต้องตามขั้นตอนจึงเป็น Method ที่ Best ในการทำอันดับหน้าแรกบน search engine ยุคนี้ ซึ่งอาจสรุปให้เข้าใจง่ายได้ว่าชุดคำสั่งที่ซับซ้อนตัวใหม่ล่าสุดนี้ออกมา เพื่อกำจัด Spam Link ที่ด้อยคุณภาพทั้งหลาย กำจัดลิงค์ที่สร้างจาก Network ที่ไม่มีคุณภาพที่แท้จริงไม่เป็นประโยชน์ (Helpful) ต่อผู้ที่ชอบอ่านหนังสือ นอกจากนั้นแล้วยังกำจัดลิงค์ผิดสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติทั่วไปในสาย Google การทำอันดับที่ดีของในยุคสมัยปัจจุบันนี้ควรกระจายคีย์เวิร์ดตลาดให้มีความหลากหลาย สร้างเนื้อหาวิชาการคุณภาพที่ทุกคนมั่นใจอย่างลึกซึ้งและมีบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านที่เชื่อมโยงกับบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านประเภทเดียวกันเพื่อทำให้ search engine Understand ว่าเราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บกำลังเขียนถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับ Unique Content เกี่ยวกับ What? ตัวอย่างที่คุณสร้างเว็บที่มีคุณภาพและเน้นเขียนบทความที่เขียนขึ้นด้วยการสรุปใจความสำคัญที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่าน แต่กลับมีอันดับที่ถดถอยหรือหายไปจากหน้าแรกที่แสดงรายการของผลการค้นหาวิธีทำ ก็ไม่น่าจะแปลกหัวใจหรือตกใจแต่อย่างใดครับ ทั้งนี้เพราะเป็นประจำทุกครั้งที่มีการปรับเปลี่ยนคำสั่งประมวลผลใหม่จะมีผลกระทบ (Impact) ต่อลำดับอยู่แล้ว ยิ่งหากเว็บเหล่านั้นทำ SEO อยู่ด้วยนั้นจะได้รับผลกระทบ (Impact) อย่างจริงแท้แน่นอน กรรมวิธีการทำให้เว็บกลับมาคือให้ทำให้บรรลุเป้าที่วาวไว้โฟกัสไปที่คุณภาพสูงของเว็บเป็นอันดับแรกของ

ภาพที่เกี่ยวข้องทำ SEO กับpage www.seo4toprank.com ติด Google หน้าแรก เว็บไซต์ seo4toprank รับโปรโมทเว็บ SEO ราคาถูก ด้วยวิธีการทำ SEO คุณภาพ สอบถามเพิ่มที่ 087-173-6064

ทำ SEO กับเว็บ www.seo4toprank.com วิธีการทำ SEO ที่ถูกต้อง ผู้ให้บริการ seo4toprank รับโปรโมทเว็บ SEO ราคาถูก ด้วยการกระจายคีย์เวิร์ด ปรึกษาได้ที่ 087-173-6064
อ้างอิงจาก: ทำ SEO
คำที่ตรงกับกระทู้: ทำ SEO
อ้างจาก: ทำ SEOทำ SEO กับpage www.seo4toprank.com ติด Google หน้าแรก เว็บไซต์ seo4toprank รับโปรโมทเว็บ SEO ราคาถูก ด้วยวิธีการทำ SEO คุณภาพ สอบถามเพิ่มที่ 087-173-6064
กลุ่มของเว็บ: Internet Marketing
ผู้ที่ประกาศ: SEO4TopRank
หน้าแรกของเว็บไซต์: http://www.seo4toprank.com
หน้าสินค้าและบริการ: http://www.seo4toprank.com/ทำseo.php
หน้าติดต่อสอบถาม: http://www.seo4toprank.com/ทำseoราคาถูก.php
Site: SEO4TopRank
Name: สันทรายคอมพิวเตอร์ กรุ๊ป
Phone Number: 087-1736064
Email-Address: seo4toprank@gmail.com
Address: 314/28 หมู่ 2 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50210
About Us: ผู้ให้บริการรับทำ SEO โปรโมทเว็บติดอันดับ Google
#50
จำหน่ายบริการ SEO บริการสร้างออกแบบเว็บ เว็บไซต์ seo4toprank รับโปรโมทเว็บ ติดอันดับ Google ด้วยขั้นตอนที่ถูกต้อง ปรึกษาได้ที่ AIS 087-173-6064 ผมมีเรื่องที่น่าสนใจที่จะมานำเสนอให้กับทุกท่านเป็นเรื่องของบริการ SEOศึกษาเรียนรู้ได้จากบทความนี้ครับ สวัสดีครับทุกท่านผู้ที่ชอบอ่านเนื้อหาเพื่อแสวงหาความรู้ทุกคนที่เข้ามาเรียนรู้หาความรู้ที่ได้จากการศึกษาเรียนรู้อย่างจริงจังเกี่ยวกับการทำ SEO จากเว็บของเราและผู้อ่านทุกคน วันนี้ (Today) ผู้เขียนขอแนะนำเกี่ยวกับการโปรโมทเว็บทำเว็บให้มีคนรู้จักให้ติดอันดับต้นๆของ Google หรือที่เรียกกันว่า SEO ซึ่งย่อมาจากคำว่า Search Engine Optimize นั่นเองครับ หลายบุคคลสงสัยไม่เข้าใจว่ากระบวนการการทำให้เว็บติดอันดับ Google นั้นทำเช่นใด มีความซับซ้อนและยากมากน้อยเพียงใด ส่วนตัวข้าพเจ้าขอบอกกับผู้ที่ชอบการอ่านทุกท่านในที่นี้ครับว่า การทำ seo นั้นไม่ได้ยากและไม่ได้ง่ายแบบสบายมือเลย ขึ้นอยู่กับว่า เราและทีมงานให้ความสำคัญอันดับต้นๆของคุณภาพที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด และทำตามกฎข้อบังคับและนโยบายที่กำหนดไว้ให้ทุกคนปฏิบัติตามของ Google หรือไม่ ปัจจุบันนี้ระบบ Search ของ Google Searchหรือที่เรียกว่า Google Algorithm ได้พัฒนาและปรับปรุงความสามารถต่างๆให้ดีมากขึ้นไปอย่างมาก สรุปคือก็เพื่อตอบสนองอารมณ์ความต้องการอย่างมากด้านการค้นหาความหมายข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่ถูกต้องชัดเจนแน่นอนมากยิ่งยวด ทาง google ต้องการ (Want) สร้างประสบการณ์ที่เคยพบเจอที่ดีให้กับผู้ใช้ที่เป็นสมาชิกงานที่ใช้ความรู้ Search Engine ของตน ซึ่งเราและเพื่อนรับวิชาชีพจะสิ่งที่สามารถสังเกตุว่า Google Search สามารถค้นหาคำตอบและนำเว็บที่มีบทความที่เป็นประโยชน์ Accord กับ Need ของ User งานที่มีผลตอบแทนคุ้มค่ามาแสดงผล (Display) ตรงกับสิ่งที่ User งานที่มีผลตอบแทนคุ้มค่า ต้องการเป็นเป็นอย่างสูง การที่เราจะทำเว็บให้ติดหน้าแรกของกูเกิ้ล google นั้น สิ่งแรกที่เราและคุณทุกคนควรคำนึงมากที่สุดที่เราตั้งใจไว้คือ การสร้าง Content ที่มีคุณค่าและ Helpful ต่อผู้อ่านทุกคนให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ การสร้างบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านคุณภาพสูง Quality Content ซึ่งจะทำให้เว็บของคุณเป็นที่ Interested ของ Google Thailand ยิ่งถ้าหากพวกคุณเขียนให้ผู้อ่านเข้าใจเกี่ยวกับบทความที่ทำให้ผู้อ่านได้รับความรู้ความเข้าใจคุณภาพหลายคนไว้วางใจและมีรูปแบบทางวัฒนธรรม Unique Content ที่แตกต่างจากเว็บทั่วไป เว็บของคุณก็ย่อมทำ Rating ได้ไม่ยากครับ

การทำ seo ให้เว็บติดอันดับ google นั้นสามารถแบ่งตามหมวดหมู่ออกเป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ

1. การปรับ SEO On Page
เป็นการปรับให้เว็บรองรับและส่งเสริมการบริการ SEO โดยเน้นที่การปรับแต่งสิ่งที่อยู่ข้างในของเว็บที่จะทำลำดับบน Google ซึ่งการปรับการทำให้เว็บติดอันดับออนเพจมีความสำคัญอย่างแท้จริง เพราะจะเป็นการบอกให้ Search Engine ตระหนักดีว่าเราและเพื่อนร่วมงานกำลังทำเว็บเกี่ยวกับอะไร และเว็บของเราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บนั้นอยู่ในหมวดใดของคำค้นหา ไม่เพียงแต่การปรับ On Page จะเป็นการทำให้เว็บค้นหาข้อมูลใหม่รู้จักเว็บของพวกเราทุกคนว่าเป็นเว็บเกี่ยวกับอะไรแล้ว ยังเป็นปัจจัยทั้งหมดสำคัญที่ทำให้เว็บติดอันดับหน้าแรกของ Google เพราะหากเรา Write บทความที่อ่านแล้วได้รับความรู้ที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่าน เมื่อมีคนเข้ามาเว็บเราและสมาชิกทุกท่านและเห็นว่าเป็นเว็บที่มีเนื้อหาคุณภาพคุณภาพที่แท้จริงก็จะส่งต่อหรือนำไปเผยแพร่ ทำให้เว็บของเราและผู้อ่านทุกท่านเป็นที่ให้ความสนใจของผู้ที่ ปรารถนาค้นหาแนวทาง Information ที่สันพันธ์กับเนื้อหาที่อ่านแล้วมีประโยชน์ที่เราและทีมงานภูมิใจนำเสนอ ซึ่ง เราและเจ้าหน้าที่ทุกคนย่อมปรับ seo on page ได้ดังเช่นนี้

1.1 Title Tag ไตเติ้ลของเว็บไซต์นั้นมีความสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้และเป็นตัวที่จะบอกให้ Search Engine รับรู้ว่าเว็บของเราและทีมงานทุกคนมี Content เกี่ยวกับ What?และเน้นเรื่องไหนเป็นยิ่งกว่าปกติ โดย Google จะให้ความลำดับสิ่งที่สำคัญของ Title จากซ้ายไปขวา หาก ความต้องการเน้นคำไหนก็ย่อมเขียนให้อ่านเข้าใจง่ายเกี่ยวกับคำนั้นอยู่ตอนต้นของข้อความในไตเติ้ลแท็ก ดังนั้นไม่ควรกำหนดให้ไตเติ้ลสั้นหรือยาวมากจนเกินไป และไม่ควรใช้คำซ้ำๆ กัน

1.2 Meta Description Tag ในการบริการ SEO สิ่งที่อันจะทำให้เว็บค้นหาคำตอบรู้จักและเข้าใจพร้อมทั้งสามารถนำไปประยุกต์ต่อได้ว่าเว็บเรานั้นมีเนื้อหาที่เป็นมิตรกับผู้อ่านเกี่ยวกับ What? นอกจาก Title แล้ว ยังมีอีกแท็กหนึ่งที่เป็นการแจงภาพรวมของเว็บว่ามีบทความคุณภาพเกี่ยวกับ What? นั่นคือ Meta Description นั่นเองครับ ในการทำให้เว็บรองรับ SEO เราควรใส่คำแจงเว็บลงไปในส่วนนี้ ดังนั้นจะเป็นการทำให้ Search Engine นำเว็บเราและผู้อ่านทุกคนไปจัดลำ Rating อย่าง Correct ตามกลุ่มคีย์เวิร์ด (Keyword) ที่กลุ่มเดียวกันกับเนื้อหาที่มีสาระของเว็บ

1.3 Meta Keywords Tag หากเราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บ ต้องการตามที่ใจปรารถนาให้ Google Search นำเว็บของพวกเราทุกๆคนไปทำให้เห็นในหมวดใด ย่อมกำหนดคำค้นที่มีการแข่งขันกันสูงหลักของเว็บได้จากแท็กคำสั่งนี้ ซึ่งคุณสามารถเพิ่ม Keyword ได้มากกว่า 1 คำ โดยมีสิ่งที่ทำขึ้นแสดงความหมายเพื่อจดจำหรือกำหนดรู้ , (คอมม่า) คั่นกลางระหว่างคำหลัก หรือคีย์เวิร์ด (Keyword) ที่ ต้องการอย่างแรงกล้าทำ Rating เทคนิคที่สามารถวัดผลได้การเพิ่ม Keyword คือ ไม่ควรใส่มากเกินไป และควรเพิ่มคำที่มีอยู่ในบทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านของเว็บ

1.4 H1 H2 H3... Tag หากค้น ต้องการเป็นอย่างยิ่งให้เว็บเป็นที่สนใจของ Google มากขึ้น สามารถใช้แท็กนโยบาย H1 H2 H3 ในการกำหนดขนาดที่วัดได้ของหัวข้อหลักหรือชื่อเรื่องของเนื้อหาที่อ่านแล้วมีประโยชน์ และควรมี Keyword หลักของเว็บรวมอยู่ในชื่อเรื่องด้วย

1.5 Strong Tag การใช้คำสั่งตัวหนา (Strong) ให้กับข้อความที่สื่อความหมาย หรือ Keywords ที่เราและคุณทุกคน ต้องการ (Want) เน้นนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการทำอันดับ (Rating) อยู่ไม่น้อยครับ สรุปพวกเราทุกๆคนสามารถใช้คำสั่งขีดเส้นใต้ ตัวเอียง หรือการเพิ่มสีให้กับตัวอักษรตัวหนังสือในคำหลักของเว็บ เป็นอีก Factor ที่มีผลต่ออันดับต้นๆและทำให้อันดับหน้าแรกของของเว็บดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ควรใช้มากเกินไป ควรทำอย่างอย่างถูกต้องและเป็น Nature

1.6 Text Link ในหน้าหลักของเว็บที่ ต้องการเป็นเป็นอย่างสูงโปรโมทเว็บประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ให้ติด Rating Google นั้น ควรสร้าง Anchor Text Link คีย์เวิร์ดที่นิยมค้นหาที่ ความปราถนาทำลำดับเข้าสู่หน้าหลัก ซึ่งในหน้าหลักนั้นหากมีลิงค์ไหนที่มีการเกี่ยวโยงไปยังเว็บข้างนอกควรตั้งค่าให้เป็นลิงค์เกี่ยวโยงแบบ Nofollow เพื่อไม่ให้สูญเสียค่า ค่าที่กูเกิ้ลใช้กำหนดระดับคุณภาพของเว็บ ไปให้กับเว็บอื่น ส่วนการเกี่ยวโยงลิงค์ข้างในเว็บควรตั้งค่าเป็นลิงค์แบบ Dofollow ซึ่งโดยปกติแล้วหากเราและผู้อ่านทุกคนไม่ได้กำหนดค่า What?ให้กับลิงค์ Search Engine จะเข้าใจอย่างแท้จริงว่าเป็น Dofollow อัตโนมัติ และควรเพิ่มค่า title เพื่อแจกแจง Link ที่ Link

1.7 Image การสร้างเว็บนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เนื้อหาวิชาการ ข้อความ เพียงอย่างเดียว การเพิ่มภาพให้กับเว็บไซต์จะช่วยเพิ่มความน่าเป็นที่สนใจให้กับผู้ที่ชอบอ่านเนื้อหาเพื่อแสวงหาความรู้บทความที่เป็นมิตรกับผู้อ่านมากยิ่งกว่า ซึ่ง การเพิ่มรูปให้กับเว็บเพจนั้น ควรใช้นโยบาย alt เพื่อทำให้กระจ่างให้เสิร์ทเอนจิ้น Understand ว่ารูปนั้นเกี่ยวกับอะไรและมีความเรื่องเดียวกันกับเนื้อหาในเว็บอย่างไร

1.8 Keyword In Content อีกวิธีหนึ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆและมีความสำคัญอย่างยิ่งใน Writing Quality Content และให้เว็บค้นหา (Search) เข้าใจพร้อมทั้งสามารถนำไปประยุกต์ต่อได้ว่าบทความของเราและเพื่อนร่วมงานมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเรื่องไหนเป็นพิเศษ (Special) คือ การใส่ keyword ที่บริเวณ Position ของเนื้อหาวิชาการในส่วนแรก (First Content) ให้ใส่ คีย์เวิร์ดที่นิยมค้นหา ไว้ในหน้าที่รับผิดชอบ 20 - 30 คำแรกโดยราวๆ ให้ชัดเจน หรืออาจจะใช้ตัวตัวหนังสือลักษณะเอียงหรือขีดเส้นใต้ก็ได้ การใส่ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาหลักในส่วนสุดท้ายของเนื้อหา (The last content) เพื่อเน้น Importance หรือใช้ในการสรุปเรื่องราวเนื้อหา (Content) อาจจะใช้เป็นลักษณะขีดเส้นใต้ ตัวเอียงหรือหนา (ให้คำปรึกษาให้ใช้ tag แบบ < b>คำค้นที่นิยมค้นหา< /b> หรือแบบ < strong>คำค้น ก็ได้มีค่าตรงกัน เนื่องด้วยเหุตผล Search Engine มีการให้สกอร์ที่รวบรวมแล้วการจัดอันดับที่ดีของมากกว่า 200 ปัจจัยต่างๆ) ก็ได้ครับตามแต่จะสะดวก

1.9 Keyword In File Name ใช้วิธีเพิ่ม keyword ในการตั้งชื่อไฟล์เอกสารที่ใช้ประกอบการทำงานและโฟลเดอร์ (Folder name, File name) Method นี้ได้ผลเป็นที่ดีมากครับ เพราะเป็น Search Engine จะให้น้ำหนักสุทธิกับชื่อไฟล์หรือ Folder หรือที่เรียกว่า Keyword In File Name กรณีที่สามารถยกเป็นตัวอย่างที่เขียนอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเว็บเองไม่ได้ใช้ CMS สำเร็จรูปอย่าง Wordpress ย่อมที่จะกำหนดค่า .htaccess ในการทำให้เห็นชื่อไฟล์เอกสารการทำงาน Language ไทย ตามด้วยนามสกุลที่ปรากฏในทะเบียนบ้าน .php หรือ html แล้วแต่จะง่ายดาย แนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ใช้แบบ .php เพราะ .html มีจุดด้อยในการนำเอามาพัฒนาเว็บ ตัวอย่างเช่น ไม่สามารถ include ระเบียบจากที่อื่นมาได้ ส่วนกรณีที่ใช้เว็บสำเร็จรูปก็อาจใช้สิ่งที่ทำขึ้นแสดงความหมาย - ในการแยกคำที่มีหลายพยางค์ เป็นต้น

1.9 Keyword In Domain หากท่านสามารถสมัครเป็นสมาชิกใช้งานที่มีผลตอบแทนดีชื่อเว็บภาษาไทยได้ตรงกับ Keyword เป็นเรื่องที่ดีมาก หากชื่อไม่ว่างแล้วท่านก็สามารถที่จะใช้กระบวนการนี้ได้เพียงแต่อาจเอาคำอื่นมารวมอยู่กับชื่อที่ตรงคีย์เวิร์ดที่มีผลตอบรับดี เรื่องของคำค้นในโดเมนนั้นย่อมใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่ในทุกวันนี้จะต้องทำให้คุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ครับ

2.0 Content อัพเดทบทความ การปรับให้เว็บสนับสนุน SEO ด้วยการทำให้เว็บติดหน้าแรกออนเพจ นั้น นอกที่เราและผู้อ่านทุกคนจะปรับให้โครงสร้าง (Structure) ของเว็บถูกหลักตามมาตรฐานของเว็บแล้ว สิ่งสำคัญเป็นอันดับต้นๆอีกประการหนึ่งก็คือ การหมั่น Attempt อัพเดท (Update) บทความที่อ่านแล้วมีประโยชน์ของเว็บอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องอย่างไม่ขาดตอน เพื่อที่จะให้เว็บมีเนื้อเรื่อง ให้ผู้ที่สนใช เข้ามาอ่านและท่องจำ และศึกษา (Study) หาความรู้ที่มีคุณค่า จากเว็บของเราและคุณทุกคน อีกทั้งเพื่อบอกให้ Google Bot เข้ามาอัพเดทบทความ Cache ของเว็บเราและทีมงานอย่างต่อเนื่องอย่างไม่มีการหยุด เราและผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บควรอัพเดทเนื้อหาสำคัญของเว็บอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อที่ซึ่งเป็นการจะทำให้เว็บของเราและผู้อ่านทุกท่านเป็นเว็บที่มีข้อมูลที่เขียนจากการสรุปจากหนังสือใหม่ สด และเป็นประโยชน์ (Helpful) ต่อ User Work อยู่เสมอ

2. การปรับ SEO Off Page
เป็นการปรับให้เว็บรองรับและอุปการะการบริการ SEO โดยเน้นที่การปรับปัจจัยทั้งหมดภายนอกเป็นหลัก กล่าวคือ เป็นการเขียนเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน Content คุณภาพที่ดีที่น่ามีความสนใจมากขึ้นและเป็นมิตรกับผู้ที่รักการอ่านและทำการเชื่อมโยงลิงค์ไปยังเว็บหลัก หรือเรียกว่า การสร้าง Back Link ซึ่งการปรับการประชาสัมพันธ์เว็บออฟเพจที่ถูกต้องตามทฤษฏีนั้น ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดของ Quality ของบทความคุณภาพและความ Helpful ต่อนักอ่านเป็นหลักครับ เพราะว่าเหตุผลที่แท้จริงคือหากเขียนอย่างมีคุณภาพเกี่ยวกับเนื้อหาคุณภาพ (Unique Content) ที่น่าสนใจก็จะมีผู้ที่เข้ามาอ่านและท่องจำนำหน้าเว็บดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ ซึ่งเป็นการสร้าง Back Link ที่ถูกต้องตามหลักการและเป็นอย่างเป็นธรรมชาติ การสร้าง Network ส่วนตัวไม่เกี่ยวกับใครก็เป็นการทำ SEO Off Page อีกแบบหนึ่งเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่บริการ มีการเขียนเนื้อหาให้มีคุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่นและมีประโยชน์มากน้อยเพียงใด หากเขียนให้อ่านเข้าใจง่ายเกี่ยวกับบทความคุณภาพที่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อ่านที่ดีและเป็นมิตรกับผู้ที่รักการอ่านจริงแท้แน่นอนว่าหน้าเว็บเหล่านั้นก็จะขึ้นสู่ Rating ต้นๆ ของผลการค้นหาแนวทาง Google และส่งผลให้เว็บหลักมีอันดับหน้าแรกที่ดีขึ้นอีกด้วยครับ สรุปรวบยอด คือ การสร้างลิงค์เชื่อมต่อจากภายนอกเข้าสู่หน้าเว็บหลักที่ ความต้องการทำอันดับหน้าแรกของนั่นเองครับ

2.1 Link Building การสร้างลิงค์ที่ถูกต้องและเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินั้น ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดกับคุณภาพของเนื้อหาเป็นอันแรก หากเนื้อหาที่เป็นมิตรกับผู้อ่านไม่ได้คุณภาพที่ทุกคนเชื่อมั่นและมีการเกี่ยวโยง Anchor Text Link ไปหาเว็บหลักก็ไม่มีทำให้ดีกว่าเดิมมาก และอาจทำให้อันดับ (Rating) แย่ลงกว่าเดิม การสร้างเนื้อหาหลักที่มีคุณค่าและมีเอกลักษณ์ (Identity) จะช่วยดำเนินการให้ลิงค์เหล่านั้นสามารถดันอันดับที่ดีของเว็บหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

2.2 Keyword Diversify การบริการ SEO ยุคสมัยปัจจุบันแตกต่างจากยุคที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง Google เน้นคุณภาพ (Quality) มากขึ้น การโปรโมทเว็บสื่อออนไลน์ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดและรับผิดชอบโดยหน้าที่ต่อผู้ค้นหาข้อมูลใหม่ข้อมูลเชิงลึกผ่านทาง Search Engine มากขึ้น เนื้อหา (Content) ที่นำไปปรากฏอย่างชันเจนต่อ Reader จึงควรเป็นบทความที่อ่านแล้วได้รับความรู้ที่มีประโยชน์และเป็นที่ ต้องการของผู้ค้นหาคำตอบอย่างแท้จริง การที่มุ่งหวังผลแต่เพียงอันดับที่ดีของอย่างเดียว โดยการใช้ Keyword ซ้ำๆ ในการทำลำดับนั้นไม่เป็นเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อการโปรโมทเว็บ ประกาศเว็บในยุคที่อัลกอลิทึมเน้นคุณภาพ (Quality) หาก ปรารถนาที่จะได้ที่จะทำอันดับบน Google Search คุณควรเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเก่า Keyword Link ตามความอย่างเหมาะสมของเนื้อหาเพื่อเชื่อมโยง (Link) ไปหาเว็บหลักอย่างมีความเกี่ยวข้องกันกัน การสร้างลิงค์คุณภาพที่ดีจึงควรมีการปรับ Keyword Diversify อย่างเหมาะสมและมีคุณภาพ (Quality) ตลอดจนย่อมเชื่อมโยง (Link) เนื้อหาหลักที่ผู้ค้นหาข้อมูล ต้องการ (Want) อย่างสร้างให้ดียิ่งขึ้น

2.3 ค่าที่กูเกิ้ลใช้กำหนดระดับคุณภาพของเว็บ ในการบริการ SEOในยุคนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าค่า PR ไม่มีความสำคัญอันดับต้นๆ อันที่จริงแล้ว Google ใช้ปัจจัยด้านต่างๆมากมายอย่างแท้จริงในการจัดอันดับต้นๆและค่า PR เป็นหนึ่งในปัจจัยด้านต่างๆหนึ่งที่มีผลต่ออันดับหน้าแรกของของเว็บไซต์ ในขณะที่เว็บไซต์ปริมาณของ Back Link และคุณภาพ (Quality) ของเนื้อหาที่มีประโยชน์อยู่ในระดับเดียวกัน เว็บที่มีค่า Page Rank สูงกว่าจะมีอันดับที่ดีของที่สำคัญกว่า เพราะเหตุนี้ค่าดังกล่าวนี้จะเป็นการบ่งบอกให้เข้าใจจากเรื่องราวต่างๆว่าเว็บนั้นมีคุณภาพ (Quality) มากน้อยเท่าใด ซึ่งมีค่าตั้งแต่ 0 - 10 การเป็นสิ่งจะทำเว็บของเราและผู้อ่านทุกคนมีค่า Page Rank ที่สูงขึ้นนั้น เราและเพื่อนรับวิชาชีพสามารถไปเขียนให้ผู้อ่านเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาคุณภาพ (Unique Content) ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในเว็บที่มีค่า PR สูงๆ และทำสร้าง Link กลับไปยังเว็บหลัก

2.4 Social Network การดำเนินการการโปรโมทเว็บให้คนรู้จักอย่างแพร่หลายเพื่อทำลำดับบน Google อีกส่วนประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่ออันดับหน้าแรกของอย่างมาก คือ Link จากเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google Plus, Twitter และ Youtube เป็นส่วนสำคัญมากที่สุดในการทำอันดับต้นๆของอย่างมาก การแชร์บทความคุณภาพที่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อ่านคุณภาพผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คและการสร้างวีดีโอเผยแพร่บน Youtube เป็นอีก Method หนึ่งที่จะช่วยให้อันดับหน้าแรกเว็บของคุณดียิ่งขึ้น

2.5 Unique Content ในการโปรโมทเว็บเพื่อทำอันดับติดอันดับหน้าแรกของ Google นั้น สิ่งมีคุณค่าที่สุด ก็คือ การสร้างบทความ (Content) คุณภาพที่ได้รับการยืนยันไม่ซ้ำท่านไหนที่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือที่เรียกว่า Unique Content หรือ อาจเรียกอีกอย่างว่า Quality Content โดยที่บทความที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านคุณภาพหลายคนไว้วางใจ จะต้องเป็นการก่อตั้งขึ้นมาใหม่ทั้งหมดที่คาดคะเนได้ และมี Content ที่ครอบคลุมทั้งหมด ภาษาเขียนได้อย่างถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ และประโยคคำถามที่เขียนอย่างมีคุณภาพเกี่ยวกับเป็นมิตรกับผู้อ่านทุกคน บทความที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านได้รับความรู้นั้นจะต้องให้สาระประโยชน์แก่ผู้ที่ชอบอ่านบทความเพื่อแสวงหาความรู้ ตลอดจนอธิบายรายละเอียดเรื่องนั้นๆ ได้อย่างลึกซึ้ง ผู้ที่เข้ามาอ่านอย่างขยันขันแข็งเกี่ยวกับ Article แล้วได้รับความรู้ที่มีคุณประโยชน์โดยที่เข้าใจรายละเอียดได้ในระดับที่ดี การสร้าง Back Link ด้วยบทความที่เขียนขึ้นจากหนังสือหลายๆเล่ม Unique Content จึงเป็นการทำอันดับ (Rating) ที่มีประสิทธิภาพที่สามารถวัดผลได้ ทำให้เว็บที่ทำ SEO ด้วยแนวทางคุณภาพที่ได้รับการยืนยัน สามารถติด Rating ได้อย่างยาวนานมาก ยั่งยืน ทำให้มีความสุข

สรุปเนื้อหาการทำ seo ด้วยวิธีการบริการ SEO ด้วยระบบ Social Network มี 2 แบบ คือการปรับให้เว็บช่วยเหลือ search engine ด้วยการปรับ seo on page และการปรับให้เว็บรองรับเสิร์ทเอนจิ้นด้วยการปรับ seo off page ซึ่งสิ่งสำคัญเป็นอันดับต้นๆที่สุดคือการเน้น Quali

ภาพที่เกี่ยวข้องบริการ SEO วิธีใช้สมัครใช้งาน Outlook บริษัท seo4toprank รับโปรโมทเว็บ SEO ราคาถูก ด้วยแนวทางคุณภาพ Tel. AIS 087-1736064

บริการ SEO วิธีสมัครใช้งาน google adwords ผู้ให้บริการ seo4toprank รับโปรโมทเว็บ ติดหน้าแรก Google ด้วยวิธีการทำ SEO คุณภาพ สอบถามเพิ่มที่ 087-1736064
อ้างอิงจาก: บริการ SEO
คำที่ตรงกับกระทู้: บริการ SEO
อ้างจาก: บริการ SEOบริการ SEO วิธีใช้สมัครใช้งาน Outlook บริษัท seo4toprank รับโปรโมทเว็บ SEO ราคาถูก ด้วยแนวทางคุณภาพ Tel. AIS 087-1736064
กลุ่มของเว็บ: Internet Marketing
นำเสนอโดย: SEO4TopRank
หน้าแรกของเว็บไซต์: http://www.seo4toprank.com/บริการseo.php
หน้าสินค้า: http://www.seo4toprank.com/บริการทำseo.php
หน้าติดต่อ: http://www.seo4toprank.com/บริการseoราคาถูก.php
Site: SEO4TopRank
Name: สันทรายคอมพิวเตอร์ กรุ๊ป
Phone: 087-1736064
Email-Address: seo4toprank@gmail.com
Address: 314/28 หมู่ 2 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50210
Enterprise: ผู้ให้บริการรับทำ SEO โปรโมทเว็บติดอันดับ Google