Show posts - kure89nai
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - kure89nai

#1
เรื่องที่ควรรู้ ของ แมกนีเซียม (Magnesium) เป็นสารอาหารประเภทเกลือแร่ ชนิดหนึ่ง 
จัดอยู่ในกลุ่มเกลือแร่ที่มีมาก ในร่างกาย และ มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะในโครงสร้างกระดูกมีธาตุ แมกนีเซียม เป็นองค์ประกอบ
และเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์ต่างๆ กล้ามเนื้อ สมองและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่างๆ ส่วนใหญ่เราจะพบแมกนีเซียมในกระดูกถึง 70% ส่วนที่เหลืออีก 30% พบในเนื้อเยื่อ
อ่อนและของเหลวในร่างกาย สำหรับเด็กแรกเกิดมี แมกนีเซียม ต่ำ และเมื่อโตขึ้นจะมี แมกนีเซียม มากขึ้น
แมกนีเซียม เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์โปรตีนต่างๆ ในร่างกาย และเป็นเกลือแร่ที่มีโอกาสขาดได้ง่ายรองจาก แคลเซียม หากร่างกายได้รับไม่เพียงพอจะมีโอกาสเป็น โรคหัวใจ มากขึ้น และมีหน้าที่สำคัญอีกอย่างคือเป็นตัวช่วยในการสะสม
แคลเซียม เข้ากระดูก และลดความรุนแรงของ โรคหัวใจ วายเรื้อรัง
โดยปกติจะไม่ค่อยมีคน ที่จะได้รับ แมกนีเซียม อย่างเพียงพอต่อวันจากอาหารที่รับประทานเข้าไป เนื่องจากอาหารที่ปรุงส่วนใหญ่จะมีแร่ธาตุนี้อยู่น้อย 
แหล่งที่พบแมกนีเซียมในธรรมชาติ
แมกนีเซียมสามารถพบได้ใน  ผักสีเขียวเข้ม,กล้วย,ข้าวกล้อง,ฝรั่ง,อัลมอนด์,ข้าวสาลี,ข้าวบาร์เล่ย์,ข้าวโพด,จมูกข้าวสาลี,เมล็ดธัญพืช เช่น ถั่วลิสง,งาและเมล็ดมะม่วงหิมพานต์
หน้าที่และประโยชน์ของแมกนีเซียม
จะช่วยสังเคราะห์โปรตีนให้ร่างกาย และเป็นโคเอนไซม์ที่สำคัญที่สุดชนิดหนึ่งในร่างกายที่จะทำงานร่วมกับ แคลเซียม อันเป็นประโยชน์ต่อการทำงานในระบบต่างๆ ของร่างกาย และยังช่วยให้การผลิตฮอร์โมนต่างๆ เป็นปกติ มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบกล้ามเนื้อและเซลล์ต่างๆ  หน้าที่และประโยชน์มีดังนี้
1. มีส่วนควบคุมการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
2. ช่วยในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย 
3. จำเป็นสำหรับการเติบโตของกระดูกและฟัน
4. ป้องกันโรคทางหลอดเลือดหัวใจ โดยจะไปลดความดันเลือดลง และป้องกันการเกาะของโคเลสเตอรอลในหลอดเลือดแดง  ช่วยการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ
5. ป้องกันการแข็งตัวของเลือด
6. ป้องกันและรักษาโรคหอบหืด
แมกนีเซียมกับการควบคุมความดันโลหิตและการป้องกันโรคหัวใจ
หากเราลดความดันลง ความเสี่ยงต่ออาการหัวใจกำเริบหรืออาการหัวใจวายก็จะลดลงไปด้วย แมกนีเซียมจะไปช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจคลายตัวลง และแมกนีเซียม ยังทำการป้องกัน แคลเซียม จับตัวอยู่ตามผนังหลอดเลือดจึงป้องกันอาการหลอดเลือดแข็งตัว รักษาความดันโลหิตให้เป็นปกติ
การที่กล้ามเนื้อหดตัวเป็นผลมาจากการมีความเคลียดเข้ามากระตุ้น เมื่อแมกนีเซียม ไม่พอแคลเซียม จะไหลเข้าไปในเซลล์กล้ามเนื้อมากเกินไป จนเป็นเหตุให้การหดตัวของกล้ามเนื้อไม่ปกติ จนเกินอาการสั่น เป็นตะคริว จะทำให้เกิดโรคหัวใจรีบ  หลอดเลือดหัวใจแข็งตัวได้
แมกนีเซียมป้องกันโรคกระดูกพรุน
จะช่วยในการสร้าง วิตามินดี ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้ ในการสร้างเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน 
หน้าที่ของ แมกนีเซียม ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการเป็นตะคริว คือ แมกนีเซียม มีส่วนควบคุมการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อเช่นเดียวกับ แคลเซียม การที่กล้ามเนื้อหดตัวเป็นผลมาจาก แคลเซียม เข้าไปอยู่ภายในเซลล์กล้ามเนื้อ เนื่องจากมีความเครียดเข้ามากระตุ้น และตัวที่จะควบคุมการเคลื่อนไหวของ แคลเซียม นี้ก็คือ แมกนีเซียม เมื่อ แมกนีเซียมไม่พอ แคลเซียม จะไหลเข้าไปในเซลล์กล้ามเนื้อมากเกินไป จนเป็นเหตุให้การหดตัวของกล้ามเนื้อไม่ปกติ เกิดอาการสั่น กล้ามเนื้อจะหดเกร็งอย่างรุนแรง และเป็นตะคริวได้ หากผนังหลอดเลือดเกิดเป็นตะคริว จะทำให้เกิดโรคหัวใจตีบ หลอดเลือดหัวใจแข็งตัว 
ผลของการรับประทาน แมกนีเซียม ไม่เพียงพอ
จะทำให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาท กล้ามเนื้อ ไต หัวใจ และหลอดเลือด อาการผิดปกติเกี่ยวกับการย่อยอาหาร และการทำงานของระบบประสาท การขาด แมกนีเซียม จะมีผลทำให้ภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายต่ำลง ระบบกล้ามเนื้อและระบบการย่อยอาหารจะทำงานผิดปกติ ระบบประสาทจะถูกทำลาย นอกจากนี้การขาด แมกนีเซียม จะทำให้ร่างกายเก็บสะสมพลังงานไว้ไม่ได้ สังเคราะห์ฮอร์โมนเพศไม่ได้ เลือดแข็งตัวช้ารวมไปถึงมีส่วนช่วยในการรักษาการเหนี่ยวนำไฟฟ้าของหัวใจ และเพิ่มอัตราการเสียชีวิตหลังเผชิญกับ โรคหัวใจวาย และสภาวะหัวใจล้มเหลวได้
แมกนีเซียมเหมาะสำหรับใครบ้าง
1.  ผู้มีความเครียดสูง 
2. ผู้ที่มือเท้าชาบ่อยๆ หรือเป็นตะคริวบ่อยๆ 
3. ผู้ที่ทานนม อาหารปรุงแต่ง น้ำอัดลม เหล้า ในปริมาณมาก 
4 . ผู้ป่วยที่ทานยาขับปัสสาวะ 
5. ผู้ที่ต้องการป้องกันตนเองจากความดันโลหิตสูง หลอดเลือดแข็งตัว โรคหัวใจ นิ่วในไต โรคกระดูก 















#2
ประโยชน์ดีๆที่เกี่ยวกับ กรดอะมิโน  (Amino acid) ที่เป็นหน่วยย่อยของโปรตีน 
เพราะว่าโปรตีน ไม่สามารถคงอยู่โดยปราศจากการรวมตัวกันของกรดอะมิโน  
นั่นหมายถึงว่า กรดอะมิโนมีความสำคัญต่อการสร้างโปรตีน  เมื่อมีโปรตีนเข้าไปในร่างกาย โปรตีนนั้นจะถูกย่อยให้เป็นกรดอะมิโน
ก่อนที่จะดูดซึมเข้าไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย  
มาศึกษาประโยชนของกรดอะมิโน ทั้ง  ในร่างกายมนุษย์ และ ในพืช
ประโยชน์ของกรดอะมิโนในร่างกายมนุษย์
     1. กรดอะมิโนเปรียบเสมือนอาหารของเซลล์ ดังนั้นร่างกายจะนำกรดอะมิโนไปสร้างโปรตีนในเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ซึ่งจำเป็น สำหรับกระบวนการเติบโตและการซ่อมแซมร่างกาย
     2. สร้างสารควบคุมการทำงานของร่างกาย ได้แก่ เอ็นไซม์ ฮอร์โมน และภูมิต้านทานโรค
     3. รักษาสิ่งแวดล้อมภายในร่างกายให้อยู่ในสภาพคงที่ ได้แก่ รักษาความเป็นกรดด่างในร่างกาย และช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย
     4. ให้พลังงานและความร้อน โดยเมื่อใดที่ร่างกายได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตและไขมันไม่เพียงพอ ร่างกายจะเผาผลาญโปรตีนแทน
     5. ช่วยในการขนส่งสารต่างๆ ในเลือด เช่น ฮอร์โมน วิตามิน ไขมัน เกลือแร่ ฯลฯ ช่วยให้ร่างกายสามารถนำเอาสารอาหารต่างๆ ไปใช้ งานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดังนั้นจึงควรรับประทานอาหารอย่างพอเหมาะและให้ได้อะมิโนที่จำเป็นอย่างเพียงพอ  เพียงแค่ทานอาหารที่มีโปรตีนประจำทุกมื้อ
ประโยชน์ของกรดอะมิโนในพืช
พืชทุกชนิดนั้นนอกจากจะต้องการ ดิน,แสงแดด,ฝน,และอากาศ  แล้วยังต้องการโปรตีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของเซลล์ของสิ่งมีชีวิต  โปรตีนถูกสร้างขึ้นจากกรดอะมิโนหลายๆตัว ประกอบเข้าด้วยกัน  การที่พืชได้รับกรดอะมิโน
ในปริมาณที่พอเหมาะก็จะนำไปสู่ปริมาณ และคุณภาพของผลผลิตที่มากขึ้น



















#3
เรื่องน่ารู้ที่เกี่ยบกับ แคลเซียม (Calcium) เป็นองค์ประกอบที่มีมากที่สุดในร่างกายซึ่งทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง   
ในวัยผู้สูงอายุ จะถูกย่อยสลาย และสร้างใหม่ทุกๆปีบางท่านชอบคิดว่า แคลเซียม จะมีอยู่เฉพาะในกระดูกเท่านั้นแต่ที่จริงแล้ว  ยังพบว่ามีอยู่อีกส่วนหนึ่งของร่างกาย
คือ อยู่ในเลือดของคนเราด้วย       โดยจับอยู่ในโปรตีนในเลือด สิ่งที่พบแคลเซียมตามธรรมชาติได้ดีที่สุด  คือ อาหารที่เรากินเข้าไปนั้นเอง ได้แก่  นม ทุกชนิด  เต้าหู้  ถัวเหลือง  ถั่วลิสง  เมล็ดทานตะวัน  
บล็อกโคลี  กะหล่ำใบเขียว  ปลาซาดีน เป็นต้นผลเสียของการทานแคลเซียมมากเกินขนาด หากรับประทานมากเกิน 2,500 มิลลิกรัม  จะส่งผลให้เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูงได้  โดยมีอาการท้องผูก
และเพิ่มความเสี่ยงของนิ้วในไตได้ หน้าที่ของแคลเซียม นอกจากจะเป็นส่วนประกอบของกระดูกแล้ว  ยังช่วยในการแข็งตัวของเลือดและการทำงานของกล้ามเนื้อระบบประสาท
ถ้าร่างกายคนเรามีน้อย เมื่ออายุมากขึ้นก็จะส่งผลให้เป็นโรคกระดูกพรุนได้ง่ายขึ้น  โดยเฉพาะผู้หญิงวัยหลังหมดประจำเดือน ระดับฮอร์โมนจะลดลงทำให้ร่างกายดึง
 แคลเซียมจากกระดูกไปใช้มากขึ้น  ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้
แต่ถ้าหากเรามีการบริโภคอย่างเพียงพอก็จะช่วยลดการสูญเสียลงได้  แต่อย่างไรก็ตามการที่จะเติมเข้าไปในร่างกายอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ  ยังจะต้องมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย คือ  ต้องออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ  
และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อต่างกายควบคู่ไปด้วย  และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลให้เกิดภาวะกระดูกพรุน  และ ไม่ควรดื่ม สุรา ชา กาแฟเป็นตัน
สิ่งดีของแคลเซียม ช่วยให้กระดูกและฟัน มีสุขภาพแข็งแรง  ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกเสื่อม  มะเร็งลำไส้  ป้องกันอาการกระดูกหักง่ายในวัยผู้สูงอายุ  และช่วยในเรื่องระบบประสาทด้วย
ถ้ารู้แล้วเราความมาเพิ่ม แคลเซียม ให้กับร่างกายกันได้แล้วเริ่มง่ายๆด้วยการ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 
และออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง